นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 38

 

“โอ้! ที่นี่น่ะเหรอหอสมุดแห่งชาติ….!”

 

หอสมุดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 500 ปี

ว่ากันมาเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดและมีหนังสือมากที่สุดในประเทศนี้เลยทีเดียว

ในปัจจุบันมีหนังสือถึง 8 ล้านเล่ม และจะมีจำนวนหนังสือมากขึ้นเป็นพันๆเล่มในทุกปี

 

แม้แต่ตัวอาคารก็งดงามเช่นกัน 

หลังคาสีเขียวเข้มผนังทาด้วยสีขาว

แล้วdHตกแต่งด้วยทองแดงอย่างกับคฤหาสน์ขุนนางแน่ะ

 

พอผมเข้ามาข้างใน ผมก็ได้แสดงบัตรประจำตัวให้ที่แผนกต้อนรับดู

 เสร็จแล้วก็จ่ายเงินค่าธรรมเนียม

จากนั้นก็ได้รับคำแนะนำในเข้าใช้หอสมุด

 

“ท่านนักผจญภัยแรงค์ S หนึ่งท่านกับท่านพนักงานกิลด์หนึ่งท่านสินะคะ รับทราบแล้วค่ะ ถ้าเช่นนั้น ท่านทั้งสองโปรดชำระค่าธรรมเนียมค่าเข้าเป็นเหรียญเงินสามเหรียญกับเงินมัดจำสามเหรียญทอง เผื่อกรณีที่ทำหนังสือหาย ขโมยหรือทำหนังสือชำรุดนะคะ แล้วก็ แจ้งมาให้ทราบ หากว่าท่านทำให้หนังสือชำรุดเสียหาย ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่จะมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นค่ะ โปรดอ่านข้อตกลงในเอกสารและลงนามที่ตรงนี้ด้วยนะคะ”

 

ถึงจะรู้ว่าเหรียญทองที่ผมจ่ายไปจะได้คืนหลังออก แต่เอาจริงๆผมก็รู้สึกกังวลอยู่ดีนั่นแหละ

ครั้งนี้คุณลิซล็อตเต้ก็พยายามจะจ่ายให้ผม แต่ครั้งนี้ผมขอจ่ายเอง

 

หอสมุดใหญ่เป็นสถานที่ที่ผมใฝ่ฝันอยากมาโดยตลอด  

ถ้าผมไม่ได้จ่ายเงินเองล่ะก็ผมคงไม่สามารถสนุกไปกับการเข้าหอสมุดนี่ได้หรอก

 

“ถ้างั้น เรียวคุง….หลังจากนี้ที่จะไปดื่มชาให้พี่สาวจัดการเองนะ โอเคมั้ย….?”

 

“อย่าคิดมากขนาดนั้นสิครับ อีกอย่าง…..ถึงจะมีนักท่องเที่ยวแบบผมมาที่หอสมุดนี้ก็เถอะ แต่หอสมุดนี้เงียบสงบจริงๆนะครับ”

 

หอสมุดมีบันไดเวียนอยู่ตรงกลาง สามารถไปชั้นต่อไปจากตรงนั้นได้

มีแชนเดอเรีย(โคมระย้า)ห้อยลงมาจากเพดาน  

แถมยังมีผู้ใช้งานหอสมุดที่เข้ามานั่งอ่านหนังสือกันอย่างตั้งใจ

 

“ที่นี่น่ะไม่ได้มีแค่คนที่มาอ่านหนังสือเฉยๆหรอกนะ คนที่มาเพื่อมาเรียนก็มีนะ…..ถ้าส่งเสียงดังมากเกินไป อาจถูกพนักงานในหอสมุดตักเตือนเอาได้ เพราะงั้นระวังด้วยนะ”

 

“เข้าใจแล้วครับ”

 

“เรียวคุงมีหนังสือที่อยากอ่านหรือเปล่า?”

 

“อืม….ไหนๆก็ได้มาแล้วทั้งที ก่อนอื่นผมเลยอยากขอไปดูให้ทั่วก่อนจะได้รึเปล่าครับ?”

 

“งั้น อีกครึ่งชั่วโมงค่อยมาเจอกันที่นี่ดีมั้ย…..? พอดีว่าฉันก็มีหนังสือที่อยากอ่านอยู่เหมือนกันน่ะ”

 

“เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นแล้วเจอกันนะครับ”

 

ผมก็แยกทางกับคุณลิซล็อตเต้ แล้วผมก็ได้เดินไปดูรอบๆหอสมุด

ไม่เคยถูกห้อมล้อมไปด้วยหนังสือที่มากมายขนาดนี้มาก่อนเลย

ตื่นเต๊น ตื่นเต้นมากเลยล่ะ

 

ที่กิลด์นักผจญภัยในเมืองคาสซานดร้าก็มีชั้นหนังสือที่มีหนังสืออยู่เต็มชั้นอยู่หรอก

แต่ที่นี่ไม่เหมือนกัน เพราะที่นี่น่ะจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ชั้นหนังสือเต็มไปหมดเลยยังไงล่ะ

 

“แต่จะว่าไป หนังสือที่นี่ก็เยอะสุดยอดจริงๆนั่นแหละนะ”

 

หน้าต่างโค้งสีขาวที่เปิดรับแสงแดดอ่อนๆ เห็นละอองฝุ่นเล็กน้อยที่ลอยอยู่ในอากาศ

ในขณะที่ผมกำลังเดินดูประเภทหนังสืออยู่บนชั้นหนังสือ ผมก็เดินหาหนังสือที่ผมต้องการอ่าน

 

ในตอนที่ผมเดินไปมาอยู่ผมก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมาทางผมเขม็งเป็นระยะๆ

พอผมหันหน้าไปทางสายตา ก็มักจะเห็นผู้หญิงที่ก้มหน้าหลบสายตาด้วยความตกใจ

 

แต่ก็มีผู้หญิงบางคนที่ขยิบตาส่งมาให้ผมอย่างมั่นใจ

แต่ว่าน่าเศร้านะ เพราะผมไม่มีความตื่นเต้นกับผู้หญิงที่หน้าตาดูอย่างกับหมูป่าแบบนั้นเลย

 

“อย่างน้อยๆก็ขอเป็นเหมือนแมวหรือไม่ก็หมาก็ยังดีนะ……”

 

ผมพยายามหลีกเลี่ยงสายตาเหล่านั้นระหว่างเดินผ่านชั้นหนังสือ

ช่างโชคดี ที่ชั้นวางหนังสือที่ผมสนใจนั่นก็คือประเภทประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่มีคนอยู่เลยซักคนเดียว

 

ผมยืนลังเลอยู่หน้าชั้นหนังสือซักพัก แล้วจากนั้นผมก็ตัดสินใจค่อยๆดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมา

หนังสือเล่มนั้นคือ หนังสือประวัติศาสตร์โลก -การต่อสู้และการล่มสลาย- เล่ม 3

 

ดูเหมือนว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือที่สรุปประวัติศาสตร์ประเทศต่างๆในทวีปนี้ไว้คร่าวๆ

ตัวหนังสือค่อนข้างจะหนาและหนักมาก

 

“เอาล่ะ….”

 

สิ่งที่ผมอยากจะรู้นั่นก็คือเหตุการณ์ที่โอริออนดีลเคยก่อไว้ในโลกนั้น เกิดขึ้นทางโลกฝั่งนี้เหมือนกันหรือไม่นั่นเอง

หรือถ้าพูดง่ายๆก็คือ ผมอยากรู้ว่าเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดหายนะฮาเร็มทำลายประเทศที่เป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณคนนั้นของเธอนั่นมันเกิดขึ้นที่นี่ด้วยรึเปล่านั่นเอง

 

ถึงจะน่าเสียดายแต่ผมก็รู้ว่ายังไงความสัมพันธ์ของผมกับโอริออนดีลก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปแบบนี้

ไหนๆก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้างั้นก็ต้องรวบรวมความรู้เกี่ยวกับภูติตนนั้นไว้ให้มากที่สุดก่อนที่จะได้เจอกันในครั้งต่อไป

 

ภูติตนนั้น–ตัวตนของโอริออนดีลคืออะไรกันแน่นะ?

ทำไมถึงมีพลังมหาศาลขนาดนั้น?

เรื่องราวในอดีตของผู้มีพระคุณคนเก่าของเธอเป็นยังไง?

ทำไมภูติพลังมหาศาลแบบเธอถึงไม่สามารถทำลายผนึกของเขาคนนั้นได้?

 

“…..ถ้าจำไม่ผิด….ก็คือเมื่อ 300 ปีก่อนสินะ”

 

เพื่อที่จะรีบคลายข้อสงสัย ผมจึงรีบพลิกหน้าหนังสือหาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับผู้มีพระคุณคนนั้นเมื่อ 300 ปีก่อน

แต่ว่า….

 

“ไม่ไหวแฮะ….หาไม่เจอเลย แสดงว่าโลกทางนี้ไม่ได้มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอย่างงั้นเหรอ?

หรือมันอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายๆกัน แต่สำหรับที่นี่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่รึเปล่านะ?”

 

ผลลัพธ์ไม่เป็นไปดั่งที่ผมต้องการเท่าไหร่

ผมเปิดดูหนังสือประวัติศาตร์เล่มอื่นไปเรื่อยๆ แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม

 

ถ้างั้น ก็ลองไปที่ประเภทหนังสือที่เกี่ยวกับมอนสเตอร์ก็แล้วกัน

ตรงนี้มีนักผจญภัยอยู่รอบๆเต็มไปหมด รวมถึงคุณลิซล็อตเต้ด้วย

ผมกำลังจะส่งเสียงเรียกเธอ แต่ผมเห็นเธอกำลังทำหน้าซีเรียสอยู่ ผมเลยไม่ได้เรียกเธอ

 

ผมเห็นคุณลิซล็อตเต้แบบนั้น ผมจึงเอาเธอเป็นแบบอย่างบ้าง 

และผมก็หยิบหนังสือออกมาอ่านอย่างจริงจัง

แต่ก็น่าเสียดายที่ผลลัพท์ที่ได้นั้นก็ยังคงไร้ประโยชน์เหมือนเดิม

 

“….ภูตินั้นค่อนข้างอ่อนโยนและเป็นมิตร แต่ว่าก็ต้องระวังตัวให้ดี เพราะถ้าหากบุกรุกเข้าไปในถิ่นของพวกเธอโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

แล้วพลังเวทย์ก็ไม่ค่อยแข็งแกร่งแล้วต้องสู้กับพวกเธอขึ้นมา ต้องหืดขึ้นคอแน่นอน”

 

วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่สามารถเรียนรู้ได้ทั่วไปตามปกติอยู่แล้ว

 

“เอาเถอะ ผมก็ไม่คิดว่าจะมีภูติอยู่เยอะซะด้วยสิ….อย่างที่คิดก็คงมีแต่โอริออนดีลที่เป็นตัวตนพิเศษสินะ”

 

ผมยัดหนังสือกลับเข้าที่เดิม และไหล่ตกเพราะรู้สึกไม่ได้อะไรเลย

ในตอนที่ผมกำลังยัดหนังสือกลับเข้าไปนั่นเอง

ผมก็เห็นประกายแสงที่ส่องกระทบกับแหวนสีทองของผม

 

อาจจะเป็นเพราะแสงจากแชนเดอเลียส่องมาโดนเฉยๆก็ได้

แต่มันกลับดูไม่ใช่แบบนั้น เหมือนมันกำลังดึงดูดกับอะไรบางอย่าง

อ๊ะ ใช่แล้ว!

 

ผมหันกลับไปยังมุมหนังสือประวัติศาสตร์

ผมกลับมาตรงที่ชั้นหนังสือที่มีหนังสือประวัติศาสตร์เรียงกันเป็นแถว

 

ผมหยิบหนังสือประวัติศาสตร์ขึ้นมาหนึ่งเล่ม

ที่สันปกเล่มนั้นเขียนไว้ว่า บันทึกเรื่องราวของควอนดร้า เคเซารอส

 

“โอริออนดีลมีแหวนวงนี้ งั้นบางที ถ้าหาข้อมูลเกี่ยวกับดวอนดร้า ก็อาจจะเจออะไรที่เกี่ยวข้องกับโอริออนดีลก็ได้รึเปล่า?”

 

กิลด์มาสเตอร์คนแรกของกิลด์แห่งความมืด ควอนดร้า เคเซารอส

สิ่งที่โด่งดังมีเพียงชื่อของเขา เรื่องราวนอกจากนั้นที่เกี่ยวข้องยังเป็นปริศนา

เอาจริงๆแล้วยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่อนั่นเป็นชื่อจริงๆของเขารึเปล่าเลยด้วย

 

เนื่องจากควอนดร้า เคเซารอสไม่เคยปรากฎตัวโจ่งแจ้ง เลยไม่รู้เลยว่าเข้าเป็นคนแบบไหน 

แล้วทำไมเขาถึงต้องสร้างกิลด์แห่งความมืดขึ้นมา

 

รู้แค่ว่าในตอนนั้นพวกลูกน้องที่ถูกจับทุกคนเรียกกิลด์มาสเตอร์ของตัวเองว่า ‘ควอนดร้า เคเซารอส’

เลยมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับเขาแค่เรื่องชื่อนี้เท่านั้นที่ได้รับการเปิดเผยสู่สาธารณะ

พอผมเปิดไปที่หน้านึง สิ่งที่ผมเจอก็คือสำเนารูปหน้าเสมือนของควอนดร้าเคเซารอส

 

ดูเหมือนจะมีผู้ติดตามที่อยู่ในกิลด์แห่งความมืดคนอื่นอยู่ด้วย

แต่ว่า ส่วนใบหน้าของเขาในกระดาษกับถูกฉีกออกไปเล็กน้อย

ผมจึงไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่มองจากรูปที่เหลืออยู่จะเห็นมือยื่นออกมา

ดูคล้ายๆกับมนุษย์ผู้ชาย…..

….แล้วก็เห็นแหวนทองที่วาดได้เหมือนจริงมากๆ

 

“……”

 

….ไม่หรอกมั้ง!

ดูแค่นี้คงยังฟันธงอะไรไม่ได้หรอกนะ! อืม!

ในขณะที่เปิดดูหน้าถัดไป ผมก็พยายามปลอบใจตัวเองที่เกือบจะหน้ามืดจนล้มลง

 

แต่ว่า นอกจากหน้าแรกนั้นแล้วก็ไม่ค่อยจะมีอะไรอีกเท่าไหร่

เพราะในเนื้อหาแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นแค่คำพูดที่เหล่าสาวกของควอนดร้าพูดยกย่องเขาก็แค่นั้น

มีคำอธิบายบางอย่างที่เกี่ยวกับควอนดร้าอยู่หรอกแต่มันก็เป็นแค่เรื่องเพ้อเจ้อ

 

“หืม…..? นี่มัน…..”

 

ผมอ่านจนใกล้จะจบเรื่อยๆ ในขณะที่ผมกำลังจะยอมแพ้ ผมก็ไปสะดุดตาประโยคนึงเข้า

 

“–อย่าไปขอพรกับภูติเด็ดขาด”

 

ผมอ่านข้อความนั้นอย่างต่อเนื่องด้วยความตั้งใจ

 

“อย่าขอพรอะไรจากภูติเด็ดขาด ถ้านายขออะไรออกมา แปลว่านายกำลังจะทำลายชีวิตของตัวเองด้วยความปราถนาของตัวนายเองนั่นแหละ”

 

แต่ว่า ประโยคมันก็จบลงแค่นั้น

ผมพลิกหนังสืออ่านตั้งแต่หน้าแรกอีกครั้ง

แต่ผมก็เห็นแค่คำยกย่องควอนดร้าเหมือนเดิม

 

“….ขอน้อมรับสลักคำแนะนำนั้นลงในจิตใจเลย”

 

ในท้ายที่สุดแล้วผมก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเกี่ยวกับโอริออนดีลเลย  

แต่ว่าก็ได้อะไรดีๆกลับมาอยู่ล่ะ

 

อืม ดีจังที่ได้มาที่นี่ในวันนี้

สงสัยต้องขอบคุณ คุณลิซล็อตเต้ซักหน่อยแล้วล่ะ

 

“เอาล่ะ คงต้องรีบกลับไปเจอเธอแล้วล่ะ….หือ?”

 

ทันใดนั้นเองผมก็ได้เห็นหนังสือปกสีแดงเล่มหนึ่งยื่นออกมาจากชั้นหนังสือที่ผมกำลังจะเดินผ่านไป

ผมหยุดตรงนั้นแล้วลองหยิบหนังสือเล่มนั้นมาเปิดดู

 

ผมเสียวสันหลังวาบเลย หนังสือเล่มนี้มันเป็นที่นิยมอย่างงั้นเหรอ

สิ่งแรกที่สะดุดตาของผมคือ ชายหัวล้านที่อายุประมาณ 30 ปลายๆ

 

“!?”

 

ดูเหมือนกับภาพคอลเล็กชั่น แต่เป็นการบรรยายที่ประณีตมากๆ (อารมณ์คล้ายๆกับหนังสือรูปโป๊หญิงในญี่ปุ่น)

ลุงหัวล้านเรียงรายจ้องมาที่ผมในท่าโลดโผน โคตรน่ากลัว

 

ผมคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ผมเลยพลิกหน้าถัดไป

ผมเห็นชายอายุ 40 ผมดำ สวมเสื้อเชิ้ตที่ทำหน้าน้ำตาคลอเบ้า และทำสีหน้าหวาดกลัว

 

“!?!?”

 

ไอ้นี่มันคัมภีร์อัญเชิญอสูรรึเปล่าฟะเนี่ย!?

ไม่สิ…..ถ้าต้องมีปีศาจอัญเชิญหน้าตาแบบนี้ออกมาล่ะก็ผมคงขอผ่านล่ะนะ

 

“อ๊ะ…เรียวคุง อยู่ที่นี่เองเหรอ”

 

ในขณะที่ผมกำลังตกตะลึง คุณลิซล็อตเต้ก็เดินมาหาผมจากอีกฝั่ง

เธอมาหาผมในช่วงเวลาที่แย่เอามากๆ

(จังหวะโคตรนรก)

 

คุณลิซล็อตเต้หน้าแดงเมื่อมองเห็นหนังสือที่ผมถืออยู่

แล้วเธอก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา

 

“โธ่ เรียวคุงนี่ล่ะก็ มาอ่านหนังสือลามกแต่หัววันแบบนี้ไม่ได้นะ…..♡”

 

“หนังสือลามก!? ไอ้นี่อะนะ!?”

 

“เด็กผู้ชายก็สนใจหนังสือลามกเหมือนกันสินะ….หรือจริงๆแล้วเป็นเพราะเรียวคุงลามกเป็นพิเศษอยู่แล้วกันนะ? ฮุฮุ”

 

“ไม่ล่ะ ผมไม่สนใจหนังสือลามกแบบนี้หรอกครับ ที่ผมแปลกใจกว่าคือคนชอบหนังสือนี่ต่างหากล่ะครับ”

 

“ฮุฮุ ไม่ต้องอายถึงขนาดนั้นก็ได้นะ….♡?”

 

ผมพยายามอธิบายให้คุณลิซล็อตเต้ฟังหลายครั้งแล้ว แต่ความเข้าใจผิดของคุณลิซล็อตเต้ก็ไม่หายไปซักที

อย่างงี้นี่เอง…..แม้แต่เนื้อในของหนังสือลามกของโลกนี้ก็กลับกันด้วยสินะ

หนังสือลามกเล่มแรกตั้งแต่ที่ผมได้เห็นตั้งแต่ที่มาโลกนี้

ที่อาจเป็นสิ่งที่ผมเสียใจที่สุดตั้งแต่ทีได้มาโลกนี้เลยก็ได้…..

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset