นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 57

 

ภายในห้องยังคงเต็มไปด้วยบรรยากาศแสนหวาน  

ผมจึงเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ

 

นอกจากอากาศที่แสนบริสุทธิ์แล้ว ผมยังได้กลิ่นดินที่ลอยเข้ามาในห้องนิดๆ

พอมองออกไปนอกหน้าต่างผมก็เห็นดาวส่องอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิด

 

“หื้ม…..ตั้งแต่ที่นายเกิดมา นายก็มีค่านิยมเรื่องความงามที่ตรงกันข้ามกับคนอื่นๆงั้นสินะ?”

 

“อา ใช่แล้วล่ะ ก็เคยไปพบแพทย์มาแล้วแหละนะ แต่ก็ไม่รู้สาเหตุเลยน่ะ แต่มันก็ไม่ได้รบกวนชีวิตประจำวันของผมอะไรขนาดนั้น ดังนั้นผมจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจากคนรอบตัวน่ะ”

 

“อย่างงั้นเหรอ งั้นก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ล่ะนะ ที่เห็นหน้าผู้หญิงแบบเราแล้วยังสามารถแข็งได้แบบนั้น”

 

หลังจากตอนนั้น ผมกับคุณซิลเวียก็ได้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน

เสร็จแล้วพวกเราก็มานั่งคุยกันที่โต๊ะห้องนั่งเล่นและคุยกันพร้อมกินอาหารค่ำและดื่มสาเกด้วยกัน

 

ในตอนที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่ ก็ได้คุณซิลเวียทำความสะอาดโต๊ะที่เปื้อนเหงื่อและน้ำอื่นๆจากร่างกายไปหมดให้

….รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยนะเนี่ย ที่ได้เจอด้านที่คาดไม่ถึงของคุณซิลเวียแบบนี้

 

“แล้วพ่อแม่ของนายล่ะ? พวกเขามีค่านิยมเหมือนกับนายแบบนี้รึเปล่า?”

 

“ไม่ล่ะ พวกท่านเสียไปนานแล้วด้วยโรคระบาดตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็กน่ะ เพราะงั้นผมถึงไม่สามารถรู้ได้ล่ะนะ”

 

“งั้นเหรอ ขอโทษด้วยนะ เผลอพูดอะไรไม่ดีไปซะแล้วสิ”

 

“แค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก”

 

ในขณะที่ผมกำลังนั่งกินเนื้อรมควัน ผักโขมและซุปที่คุณซิลเวียทำให้ รวมกับขนมปังที่เธอซื้อมา

ผมก็ได้พูดถึงเรื่องค่านิยมของผมให้เธอฟัง

 

ถ้าเหตุการณ์มันมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมเลยคิดว่าตัดสินใจเล่าให้คุณซิลเวียฟังไปเลยน่าจะดีกว่า

ตอนที่ผมไปเดทกับคุณคาร์ล่าก่อนหน้านี้ ถึงเราจะได้คุยกันนิดหน่อยก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดให้เธอฟัง

ก็นะ ถึงจะบอกว่าอธิบาย แต่ก็เป็นคำอธิบายที่ปกปิดความจริงที่ว่าผมมาจากโลกคู่ขนานนั่นแหละ

 

แถมในบ้านของผมยังไม่ค่อยมีเครื่องใช้เยอะเหมือนกับโลกก่อน เพราะงั้้นพวกหน้าตาภาชนะต่างๆบนโต๊ะ

จึงไม่ค่อยจะเหมือนกันเท่าไหร่

อย่างน้อยก็ต้องซื้อถ้วยสำหรับรับแขกไว้ ไม่งั้นก็คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่ล่ะนะ…..

 

“ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้นะ….คือ….พ่อแม่ของนายเสียตั้งแต่ตอนนายอายุเท่าไหร่น่ะ?”

 

“ตอน 6 ขวบน่ะ”

 

“6 ขวบ!? คงจะต้องเจ็บปวดมากแน่ๆเลย…..”

 

คุณซิลเวียหรี่ตาสีแดงอมม่วงของเธอลงแล้วมองมาที่ผมอย่างเจ็บปวด

 

“อายุ 6 ขวบเนี่ย….เป็นทารกที่ยังไม่หย่านมเลยด้วยซ้ำ การสูญเสียพ่อแม่ในช่วงนั้นคงเป็นเรื่องที่ลำบากมากแน่ๆ….”

 

“ช่วยอย่าเอาบรรทัดฐานของเอลฟ์มาใช้ได้มั้ย?”

 

นะ นั่นก็เป็นเพราะว่าเอลฟ์เป็นเผ่าที่มีอายุยืนยาวยังไงล่ะ!

มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากก็จริง แต่ผมหย่านมแม่แล้วนะ!?

จากมุมมองของดาร์กเอลฟ์อย่างคุณซิลเวีย ก็คงจะมองว่าเด็กอายุ 6 ขวบก็คือเด็กน้อยนั่นแหละนะ….

 

มาคิดดูแล้ว…..คุณซิลเวียอายุเท่าไหร่กันนะ?

เธอเรียกคุณไอริสที่อายุ 110 ปีว่าแม่หนู เพราะงั้นอย่างน้อยเธอก็น่าจะอายุมากกว่า 110 ปีแน่ๆ….

 

“จะว่าไปแล้ว ปีนี้คุณซิลเวียอายุเท่า–……”

 

ผมกำลังจะพูดแบบนั้นออกมา แต่อยู่ๆผมก็สัมผัสได้ถึงหิมะเย็นยะเยือกพัดมาตรงหน้าผม

แต่แน่นอน มันไม่น่าจะมีทางเกิดขึ้นในบ้านได้หรอก ทั้งหมดมันเป็นแค่จินตนาการ

ยังไงก็เถอะจิตสังหารของคุณซิลเวียที่ปล่อยออกมาเมื่อกี้นี้น่ากลัวเป็นบ้า

 

“–เรียว โทษทีนะแต่ว่าฉันได้ยินไม่ชัดน่ะ ช่วยพูดอีกทีได้รึเปล่า?”

 

คุณซิลเวียยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเธอเปี่ยมไปด้วยความรักดั่งพระแม่แห่งแผ่นดิน

ทั้งยังงั้นกลับมีจิตสังหารลอยออกมาด้วย

ผมจึงกลืนน้ำลายแล้วตอบกลับเธอไปด้วยรอยยิ้ม

 

“–เปล่า ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ คุณซิลเวียหูแว่วไปเองรึเปล่า?”

 

“หื้ม…งั้นเหรอ? เอาเถอะ ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร”

 

หลังจากนั้นจิตสังหารของเธอก็หายไปในทันที ผมจึงผ่อนไหล่ลงด้วยความสบายใจ

ยะ อย่างที่คิดเลย ถึงจะเป็นดาร์กเอลฟ์ก็เถอะ แต่ยังไงการถามเรื่องอายุกับผู้หญิงก็เป็นสิ่ง

ที่ไม่ควรทำสินะ…..

 

“ชะ ใช่แล้ว ได้เวลาต้องไปล้างจานแล้วสิ”

 

“ถ้างั้นฉันก็ด้วย”

 

“อ๊ะ ไม่ต้องหรอก ไม่ต้อง คุณซิลเวียก็ทำอาหารให้กินแล้วด้วยสิ เพราะงั้นคุณซิลเวียนั่งลงเถอะ”

 

ผมต้องการเว้นระยะห่างจากคุณซิลเวีย ผมเลยไม่อยากให้เธอมากับผม

ผมหยิบจานเปล่ามาจากโต๊ะและใส่ลงไปในอ่างล้างจาน  

 

ในขณะที่ผมกำลังเทน้ำลงในอ่าน ลมเย็นๆก็พัดมาโดนแก้มของผม

พอผมหันหน้าไปในทิศทางที่ลมพัดมาก็เห็นว่าหน้าต่างเปิดไว้กว้างมาก

 

“เอ๋ ไม่ได้เปิดไว้กว้างขนาดนั้นนะ……แต่มีลมงั้นเหรอ?”

 

ผมปิดน้ำแล้วรีบมุ่งไปตรงหน้าต่าง

ระหว่างที่ผมยื่นมือไปปิดหน้าต่างผมก็ได้ยินเสียงร้องที่น่ารักอยู่ที่เท้าของผม

 

“เอ๊ะ….อุหวา! นี่นายเข้ามาจากทางหน้าต่างงั้นเหรอ?”

 

“เหมียววว”

 

เป็นแมวขนสีดำสนิทที่ส่งเสียงร้องอยู่ใกล้ๆกับเท้าของผม

ขนมันวาวดวงตาสีทองกลมโต และมีตาอีกข้างเป็นสีน้ำเงินไพลิน(แซฟไฟร์)

 

“อะ ฮ่าๆ เข้ากับคนจังเลยนะนายเนี่ย”

 

“เมี้ยวว”

 

“จะกินอะไรหน่อยมั้ย? แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเหลือหรอกนะ”

 

แมวดำที่เข้ามาทางหน้าต่างดูเป็นมิตรอย่างน่าประหลาด แถมยังเดินเข้ามาอ้อนผม

แม้ผมจะเข้าไปจับตัวมัน มันก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด และยังปล่อยให้ผมเล่นตัวมันอย่างง่ายอีกด้วย

และมันก็เอาหน้ามาถูกับหน้าอกของผมยังกับพวกนิสัยเสียเลย

 

ถ้าเป็นแมวจรจัดคงจะไม่น่าคุ้นเคยกับคนถึงขนาดนี้

แต่ก็อาจจะเป็นแมวจรจัดจริงๆก็ได้ พรุ่งนี้ลองไปที่กิลด์แล้วติดประกาศดูดีกว่า

 

“มีอะไรเหรอ เรียว?”

 

“มีแมวเข้ามาในบ้านน่ะ น่าจะเป็นแมวบ้านนะ เพราะมันดูคุ้นเคยกับคน….”

 

คุณซิลเวียก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาผม ผมจึงอุ้มแมวไปให้คุณซิลเวียดู

ในพริบตานั้น คุณซิลเวียก็เหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เธอจึงตะโกนออกมา

 

“เรียว ถอยออกไปซะ! นั่นไม่ใช่แมวธรรมดา ฉันสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์”

 

“เอ๊ะ?”

 

แต่ว่ามันก็สายไปแล้ว

แมวดำตัวนั้นกระโดดออกมาจากอ้อมแขนของผมแล้วหมุนตัวกลางอากาศ

พอมันตกลงมาถึงพื้น ก็กลายร่างเป็นเด็กสาว

 

ผมสีดำนุ่มสลวยที่ตัดมาอย่างดี หูแมวสีดำที่อยู่บนหัว

ร่างกายเธอผอมเพรียว ชุดของเธอเผยให้หน้าท้องและหน้าอก

ส่วนแขนขาและหว่างขาของเธอก็สวมชุดที่ดูพอดีกับร่างกาย

 

เด็กสาวหญิงหูแมวคนนั้นพุ่งเข้าหาซิลเวียอย่างรวดเร็ว

 

“ชิ….!”

 

คุณซิลเวียเดาะลิ้น ดาบของเธอวางไว้ที่ตรงกำแพงมัน มันอยู่ไกลจากที่เราอยู่ในตอนนี้นิดหน่อย

แต่ว่าคุณซิลเวียก็ได้คว้าเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ แล้วเหวี่ยงมันใส่สาวหูแมวที่พุ่งเข้าใส่เธอ

 

“เหมียว!?”

 

สาวหูแมวคนนั้นรีบพลิกตัวหลบเก้าอี้ในวินาทีสุดท้าย เก้าอี้นั้นฟาดเข้ากับพื้นอย่างแรงจนหัก

ในระหว่างนั้นเองคุณซิลเวียก็ได้รีบไปที่มุมห้องแล้วรีบหยิบดาบที่พิงไว้ที่กำแพง

ในขณะเดียวกันนั้นเอง สาวหูแมวคนนั้นก็มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน

 

แม้จะอยู่ในบ้านหลังเล็กแบบนี้แต่เธอกลับเคลื่อนไหวผ่านเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้เร็วมากๆ สมกับที่เป็นแมวเลย

ในตอนนั้นเอง สาวหูแมวก็ได้ถือมีดสั้นไว้ที่มือทั้งสองข้าง แล้วขว้างมีดสั้นนั้นด้วยความเร็วสูง  

 

ในจังหวะที่มีดสั้นของสาวหูแมวคนนั้นลอยมาจากทั้งทางซ้ายและขวา

คุณซิลเวียก็ไม่ได้วอกแวกเลยแม้แต่น้อย เธอแกว่งดาบสองครั้งด้วยท่าทีที่ดูสงบนิ่ง

 

เกิดเสียงดังกระทบกันสองครั้งขึ้นในห้อง

ในตอนนั้นเองก็มีบางอย่างตกลงไปที่พื้น

มันคือมีดสั้นที่สาวหูแมวขว้างไปก่อนหน้านี้นั่นเอง

 

สาวหูแมวคนนั้นเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจกับมีดสั้นที่ตกลงพื้นไป

 

“อะ อะไรกันเนี้ยว!? ปัดคุไนได้ง่ายๆเลย….!?”

 

“แหม มองออกด้วยอย่างงั้นเหรอ?”

 

สาวหูแมวคนนั้นรีบขว้างคุไนเล่มใหม่ไปอีกรอบ

แต่คุณซิลเวียเร็วกว่า คุณซิลเวียจึงฝ่าเข้าไปถึงตัวสาวหูแมวคนนั้น

 

หลังจากนั้นคุณซิลเวียก็ยิ้มอย่างโหดร้าย  

แล้วเธอก็กระแทกด้ามดาบเรเปียร์เข้าที่ท้องของสาวหูแมวคนนั้น

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset