นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 60

 

“อึก….ที่นี่คือ…..?”

 

ผมรู้สึกเวียนหัวไปหมด ผมขยี้ตาและค่อยๆลืมตา

ร่างกายของผมรู้สึกหนักเอามากๆ

 

จากที่ดูที่ที่ผมนอนอยู่แล้ว ฟูกที่ผมนอนอยู่นี่มันดีกว่าฟูกทั่วไปมาก

เป็นผ้าปูที่นอนสีขาวบริสุทธิ์ไม่มีแม้แต่รอยสกปรก แถมผ้าห่มก็ยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย

 

แต่ตรงข้ามกับความรู้สึกที่นุ่มนิ่มของผ้าปูที่นอนเลย ผมรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง

ดูเหมือนว่าจะนอนมากเกินไปหน่อย นี่ผมหลับไปนานแค่ไหนกัน….?

 

“ก่อนหน้านี้…..ใช่แล้ว! คุณซิลเวียมาที่บ้านของผม….แล้วจากนั้นก็ สาวหูแมวกับสาวหูกระต่าย!”

 

ในที่สุดผมก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่ผมจะหมดสติ ผมจึงลุกออกจากฟูก

สิ่งที่ผมเห็นคือห้องนอนที่ดูไม่คุ้นตา ตรงกลางห้องมีฟูกปูอยู่บนพื้น

เหมือนว่าผมจะนอนอยู่ตรงนั้นมาตลอด

 

แต่ทั้งที่ไม่มีเตียงแท้ๆผมกลับไม่รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวเลย

ผมยังรู้สึกเมื่อยเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะนอนมากไป

 

อาจจะเป็นเพราะพรมแปลกๆที่ปูไปทั่วพื้นนี่รึเปล่าที่ทำให้ผมไม่เจ็บ?

ว่าแต่….ไอ้นี่มันคือพรมแน่เหรอ? มันเป็นสีเขียวๆมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์

ดูเหมือนว่ามันจะถูกถักทอมาจากพืชที่คล้ายๆฟางแห้ง

 

มันมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมวางเรียงกันหลายอันบนพื้น

พอผมลองใช้นิ้วจิ้มดูก็รู้สึกถึงความยืดหยุ่นเล็กน้อย

 

จะว่าไป ก่อนหน้านี้ผมก็เคยเรียนที่กิลด์มาก่อน

ถ้าจำไม่ผิด อมนุษย์ที่อยู่ประเทศตะวันออกที่อยู่อีกฟากของทะเลจะมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์

 

“ถ้าจำไม่ผิด เขาจะมีชุดที่เรียกว่ากิโมโนแล้วก็อาศัยอยู่ในบ้านที่มีพรมหญ้าทอ….งั้นสินะ?”

 

ผมเคยเห็นชุดกิโมโนมาก่อนแล้ว นั่นก็คือชุดของคุณซึกิคาเงะจากโรเซนครูเซอร์

ผมค่อยๆมองไปรอบห้องเพื่อรวบรวมเบาะแส

 

แต่ที่ห้องนี้ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ที่มุมห้องเป็นตู้เสื้อผ้า

มีชุดที่เหมือนกับชุดไว้เปลี่ยนและถังไม้เล็กๆที่มีน้ำอยู่เต็ม

 

ห้องนี้มีประตูเดียวอยู่ทางหลังห้อง แต่ประตูก็ถูกล็อคไว้ตามคาด

ผมพยายามลองทุบดูแต่มันก็ไม่ขยับเขยื้อน

 

“บ้าเอ๊ย ไม่ได้งั้นเหรอ”

 

ห้องนี้มีหน้าต่างที่โปร่งแสง กับเพดานที่สูงจนเอื้อมไม่ถึง

แสงที่ส่องมาถึงนี่ เวลาตอนนี้น่าจะประมาณช่วงก่อนเที่ยงรึเปล่านะ?

พอสติผมเริ่มกลับมาปกติ ผมก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ

 

คุณซิลเวียจะเป็นอะไรรึเปล่านะ?

เธอจะถูกขังเหมือนกับผมมั้ยนะ? หวังว่าจะปลอดภัยดีนะ….

ผมกระสับกระส่าย เดินไปเดินมารอบห้อง

 

แต่ถึงจะทำงั้นไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ผมจึงยอมแพ้แล้วนั่งลงบนฟูกที่ผมนอนมาจนถึงเมื่อกี้

 

จู่ๆประตูก็เปิดออก ผมจึงสะดุ้งเล็กน้อย

มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในห้องแล้วก็ปิดล็อคประตูอย่างรวดเร็ว

 

“โอ๊ะ ตื่นแล้วงั้นสินะเมี้ยว? พอดีได้ยินเสียงดังก็เลยมาดูน่ะเมี้ยว”

 

คนที่เข้ามาในห้องคือสาวหูแมว

เธอสวมเสื้อสีดำที่พอดีกับร่างกายของเธอเหมือนเดิม ผมจึงเห็นหน้าอกของเธอกระเพื่อมไปมาทุกครั้งที่เดินชัดเจน

 

ถ้าจำไม่ผิด….เธอชื่อซึสึสินะ

สาวหูแมวซึสึถือถาดอยู่ในมือ 

ในถาดนั้นเป็นอาหารที่เป็นรูปสามเหลี่ยมวางลงบนจาน และก็มีน้ำดื่ม

ซึสึนั่งลงหน้าผมแล้ววางถาดอาหารลงบนพื้น จากนั้นเธอก็ยื่นอาหารและน้ำดื่มให้ผม

 

“คิดว่าน่าจะหิว เค้าก็เลยเอาอาหารมาให้น่ะเมี้ยว”

 

“ขอบคุณ…..”

 

ถึงผมจะขอบคุณแต่เอาจริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากจะกินอาหารที่มือสังหารเสนอให้ซักเท่าไหร่เลยนะ

แต่ท้องของผมร้องจ๊อกๆ ตรงกันข้ามกับความคิดของผมเลย

ในตอนที่ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเอาไงดี ซึสึก็ยกมือปิดปากและหัวเราะออกมา

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ไม่มีพิษหรอกเมี้ยว ถ้าคิดจะฆ่าล่ะก็คงไม่รอให้นายตื่นมาแบบนี้หรอกนะ เพราะงั้นหายห่วง”

 

“……”

 

หลังจากที่คิดซักพัก ผมก็ได้ตัดสินใจยื่นมือไปหยิบอาหารตรงหน้า

ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูดนั่นแหละนะ ตอนนี้กินข้าวก่อนดีกว่า

 

ผมคิดว่าอาหารรูปสามเหลี่ยมนี่น่าจะคล้ายกับอาหารพกพาของพวกนักผจญภัย

แต่มันไม่ใช่เลย ตรงข้ามกับรูปลักษณ์ของมันเลย มันนุ่มมาก  

พอผมลองกัดดูก็เจอกับเม็ดข้าวสีขาวข้างในและก็เหมือนจะมีบางอย่างเหมือนกับปลาแห้ง

มันเค็มๆหวานๆ อร่อยมากเลยล่ะ

 

“นี่ นี่ เป็นไงบ้างเมี้ยว? ข้าวปั้นที่ทำเองเลยนะเมี้ยว อร่อยมั้ยเมี้ยว?”

 

“อืม….ก็ อร่อยดี”

 

“เมี้ยว!”

 

ผมเห็นเขี้ยวทั้งสองซี่ของเธอจากรอยยิ้มนั่น

 

“อ๊ะ รับชาด้วยมั้ยเมี้ยว?”

 

ขณะที่ผมกำลังกินข้าวปั้นอยู่ ซึสึก็เทชาให้ผม

ชาสีเขียวซีดมีรสขมหวาน รู้สึกอร่อยแบบล้ำลึก

 

ถ้ามันไม่ใช่สถานการณ์แบบนี้ล่ะก็ ผมคงจะยินดีรับอาหารทำมือจากสาวสวยอยู่แล้วล่ะ

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่สถานการณ์ที่จะพูดอะไรแบบนั้น

หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็นั่งตัวตรงและหันไปทางซึสึที่กำลังนั่งจ้องหน้าผมอยู่

 

“เอ่อ….ก่อนอื่นก็ ขอบคุณสำหรับอาหาร”

 

“ด้วยความยินดีเมี้ยว”

 

“มีเรื่องอยากถามน่ะ ที่นี่คือกิลด์แห่งความมืดเหรอ? ไม่ใช่เมืองคาสซานดร้าสินะ?”

 

“ที่นี่คือหนึ่งในสาขาของกิลด์แห่งความมืดน่ะ ถึงจะบอกไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ใช่เมืองคาสซานดร้าแน่นอน เพราะงั้น ถึงจะร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครมาช่วยหรอกนะเมี้ยว”

 

อย่างที่คิดเลย ดูเหมือนว่าผมจะถูกส่งออกมาจากนอกเมืองคาสซานดร้าในขณะที่หลับอยู่

 

“งั้น พวกเธอคิดจะทำอะไรกับฉันและคุณซิลเวียกันแน่? พาพวกเราออกมาจากเมืองคาสซศานดร้าแบบนี้…..แต่ก็ไม่ได้จะฆ่าพวกเราสินะ”

 

“ก็นะ ก็คงแบบนั้นแหละเมี้ยว”

 

“พวกเธอน่ะ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่? มีอะไรที่อยากได้จากผมกับคุณซิลเวียอยู่งั้นเหรอ?”

 

ซึสึยิ้มให้กับคำถามของผม

 

“เมี้ยวฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีทางที่เราจะตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาแบบนั้นหรอกนะเมี้ยว!”

 

“แต่ตอนที่คุยกับคุณซิลเวียที่บ้านของผมตอนนั้นนี่พูดเยอะเชียวนะ”

 

“อึก…!”

 

พอซึสึได้ยินคำพูดของผมเธอก็ใช้ปลายนิ้วของเธอถูแก้มเบาๆ

หลังจากนั้นผมก็หรี่ตาลง เหมือนกับแสงที่ทิ่มแทงเธอทะลุออกจากตา

 

“นายน่ะ….ชื่อเรียวสินะเมี้ยว?”

 

“อา”

 

“เรียว นายน่ะค่อนข้างเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งเลยสินะเมี้ยว? ต้องถูกพลัดพลาดจากคนรักแล้วยังถูกขังไว้ตามลำพังแบบนี้อีก….ถ้าเป็นผู้ชายปกติคนทนไม่ไหวและร้องไห้ไปแล้วล่ะเมี้ยว”

 

ซึสึเก็บอาหารที่วางอยู่ข้างหน้าผมและเธอก็หันกลับมามองที่ผม

 

“แต่ว่านะ นายน่ะควรจะคิดอะไรก่อนพูดดีกว่านะเมี้ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่ไม่มีผู้หญิงคอยปกแบบนี้น่ะเมี้ยว”

 

ทันใดนั้นเองเธอก็ผลักผมลงไปบนฟูก

เดิมทีก็มีฟูกอยู่ข้างหลังผมอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกเจ็บอะไร  

จากนั้นเธอก็นั่งอยู่บนหว่างขาของผม เธอจับไหล่ของผมไว้แน่นจนขยับตัวไม่ได้เลย

 

“ทุกคนที่อยู่ที่นี่น่ะ คือพวกผู้หญิงน่าเกลียดแบบพวกเรายังไงล่ะเมี้ยว ถ้านายยังเอาแต่พูดอะไรบ้าๆแบบนั้นอยู่ล่ะก็…..จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ด้วยนะเมี้ยว?”

 

ใบหน้าสวยๆของซึสึเริ่มเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ดวงตาสีทองและสีน้ำเงินของเธอจ้องมาที่ผมอย่างดุดัน

จากนั้นก็มีบางสิ่งที่อ่อนนุ่มสัมผัสโดนต้นขาของผม

พอผมลองมองไปดูก็เจอกับหางแมวสีดำของเธอที่ค่อยๆลูบขาของผม

 

“เอาเถอะ…ถ้าเกิดว่านายอยากเป็นทาสเซ็กส์ที่ถูกผู้หญิงข่มขืนดุ้นตลอดเวลาล่ะก็มันก็อีกเรื่องล่ะนะเมี้ยว♡ ฮ่าฮ่า♡”

 

อะไรล่ะนั่น ดูน่าสนุกจัง!

แถมยังผู้หญิงน่าเกลียดทั้งหมด 

นั่นก็แปลว่าถ้ามองจากมุมมองของผมก็จะเป็นผู้หญิงน่ารักๆทั้งหมดเลยใช่มั้ย?

จะว่าไปแล้วสาวแมวซึสึคนนี้ก็น่ารักจริงๆนั่นแหละ! แถมมีหูแมวด้วย!

 

….อะ! ไม่ได้ ไม่ได้

ผมต้องทำตามความปราถนาของตัวเองสิ ผมก็โอเคกับการเป็นทาสเซ็กส์แท่งเนื้อน่ะ

แต่ว่าคุณซิลเวียก็ถูกจับมาเหมือนกันนี่นา ก่อนอื่นต้องยืนยันความปลอดภัยของคุณซิลเวียก่อน

 

“ถ้างั้น….อย่างน้อยก็ช่วยบอกได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณซิลเวีย เธอปลอดภัยดีรึเปล่า?”

 

“หื้ม….เป็นห่วงซิลเวียถึงขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเมี้ยว?”

 

ผมพยายามเปลี่ยนความคิดและพยายามถามกับซึสึ

ดูเหมือนเธอจะชอบความคิดแบบนั้นนะ แล้วเธอก็ยิ้มให้ผม

 

“แหม เป็นห่วงคนรักด้วยเหรอ ก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเลยสินะเมี้ยว แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะนะ นายนี่ไม่มีรสนิยมในการเลือกผู้หญิงเป็นคนรักเอาซะเลยนะเมี้ยว ถึงจะเป็นผู้หญิงน่าเกลียดเหมือนกัน แต่นั่นน่ะดาร์กเอลฟ์เลยนะ ผู้หญิงแบบนั้นมีอะไรดีล่ะเมี้ยว?”

 

เอ๋ อีกแล้วเรอะ

ตอนที่พวกเธอเข้ามาที่บ้านผมก็พูดเหมือนกันสินะ ว่าผมกับคุณซิลเวียเป็นคนรักกันอะไรนั่น

 

ทำไมเข้าใจผิดแบบนั้นกันนะ?

หรือนั่นคือสาเหตุที่ลักพาตัวผมกับคุณซิลเวียมาที่นี่กันนะ?

 

“นี่ ตอบมาสิเมี้ยว ผู้หญิงแบบนั้นมันมีดีอะไรล่ะเมี้ยว? หรือนายจะหลงใหลในเงินทองและความมั่งคั่งของผู้หญิงคนนั้นล่ะเมี้ยว?”

 

“ไม่ล่ะ….เดิมทีแล้วผมกับคุณซิลเวียไม่ใช่คนรักกันซักหน่อยนะ”

 

“หื้ม? ผู้หญิงคนนั้นสำคัญมากจนต้องพูดโกหกแบบนี้เลยงั้นเหรอเมี้ยว? หรือกำลังจะพยายามปกป้องเธอโดยบอกว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอกันล่ะเมี้ยว?”

 

ผมลองทดสอบบอกเธอไปว่าผมกับคุณซิลเวียไม่ใช่คนรักกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธในพริบตา

 

“เอาเถอะ….ถึงนายจะโกหกแค่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวกันหรอกเมี้ยว ยังไงเดี๋ยวนายก็จะได้เจอกับซิลเวียในไม่ช้าอยู่ดี หวังว่าจะได้เห็นผู้หญิงคนนั้นปลอดภัยด้วยตาของตัวเองนะเมี้ยว”

 

“จะได้เจอกับคุณซิลเวียงั้นเหรอ!?”

 

โล่งอกไปที

ถ้าบอกว่าจะได้เจอกัน อย่างน้อยก็แปลว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ล่ะ….!

สาวหูแมวมองลงมาที่ผมที่กำลังโล่งอก

เธอทำตาแคบลงแปลกๆจนเหมือนจันทร์เสี้ยวมองลงมาที่ผม

 

“เอาเถอะ….มันอาจจะดีกว่าก็ได้นะถ้านายไม่ได้เจอกันน่ะเมี้ยว….♡”

 

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset