นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 69

 

อยากรีบกลับบ้านไปนอนแล้วอะ….! นี่คือสิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจ

แต่พอเห็นสายตาอันเร่าร้อนของเมย์ฟาที่จ้องมาหาผม

ผมก็รู้เลยว่ายังไงก็คงจะเป็นไปไม่ได้สินะ

 

ผมหยิบถ้วยชาที่อยู่ข้างๆมา แล้วก็นั่งจิบน้ำชาอุ่นๆให้ใจร่มๆ

น่าจะเป็นชาชั้นดีเลยนะ แต่ด้วยความประหม่าเลยไม่รู้รสชาติหรือกลิ่นเลยซักนิด

 

“ผมไม่ใช่ผู้สืบทอดของควอนดร้าซักหน่อย เพียงแค่เพราะผมมีแหวนทองวงนี้เองเนี่ยนะ คิดง่ายกันเกินไปหน่อยรึเปล่า?”

 

ผมพูดแบบนั้นออก แต่เมย์ฟาก็ส่ายหัวให้กับคำพูดของผมทันที

 

“ไม่ค่ะ ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอนค่ะ! แหวนที่สวมอยู่ที่นิ้วของท่านเรียวนั่น เป็นแหวนของท่านควอนดร้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ ซึ่งแหวนนั้นเป็นต้องเป็นแหวนที่ได้สืบทอดต่อกันมาในบันทึกของท่านควอนดร้าแน่ค่ะ”

 

“บันทึกที่พูดถึงเนี่ย?”

 

“แน่นอนว่าแหวนที่ทรงพลังแบบนั้น เราคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะที่จะมีไอเทมที่ทรงพลังขนาดทำให้ติดสถานะผิดปกติได้โดยไม่เกี่ยวกับการต้านทานอะไรแบบนั้นถึง 2 ชิ้นน่ะค่ะ”

 

อึก มามุขนี้งั้นเหรอ

การใช้หนามจากแหวนใส่เมย์ฟาเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่เลย

 

“หื้ม….แล้วเรียวได้แหวนวงนั้นมายังไงล่ะ?”

 

ในขณะที่ผมกำลังพูดไม่ออก คุณซิลเวียก็ถามคำถามนี้กับผม

แต่ผมจะตอบเธอยังไงดีหว่า

 

ตามจริงผมได้มาจากภูติที่ชื่อโอริออนดีล 

แต่เมื่อกี้ตามที่เมย์ฟาบอก เหมือนควอนดร้าจะพูดไว้ว่ามันเป็นของขวัญจากภูติ

ถ้าผมตอบไปตามความจริง พวกเธอก็คงจะบอกว่ามันเหมือนกับท่านควอนดร้าเลยค่ะ แน่ๆ

 

“แหวนวงนี้น่ะ….พ่อของผมให้มาในตอนที่ผมยังเด็กน่ะ”

 

หลังจากที่ผมลังเลอยู่นาน สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเล่าไปว่าพ่อที่ตายไปแล้วให้มา

 

“ท่านพ่อของท่านเรียว….! ถ้างั้นก็แปลว่าแหวนนี้ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของท่านเรียวอย่างงั้นเหรอคะ!?”

 

เมย์ฟาโน้มตัวมาข้างหน้าด้วยท่าทางตื่นเต้น

ซึสึที่อยู่ข้างเมย์ฟาก็พูดออกมาเบาๆว่า 

‘เมี้ยว….เมย์ฟาจัง เป็นครั้งแรกเลยที่เค้าได้เห็นเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้’

 

“ไม่หรอก นั่นก็เพราะว่า…….พ่อแม่ของผมเสียชีวิตด้วยโรคระบาดตั้งแต่ตอนที่ผมอายุได้ 6 ขวบเพราะงั้นตอนที่ได้แหวนวงนี้มา ผมก็ไม่เคยได้ถามพ่อหรอกว่าได้แหวนวงนี้มาจากไหนน่ะ….”

 

“ปะ เป็นอย่างงั้นเองเหรอคะ…..”

 

เยี่ยม! ดูเหมือนของดูต่างหน้าของพ่อผู้ล่วงลับจะไปได้สวย

ถ้าตั้งเรื่องไว้แบบนี้ก็จะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปที่ผมจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแหวนเลย

ผมชูกำปั้นอยู่ในใจ

แต่เมย์ฟาที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลับก้มหน้าลงด้วยหน้าเศร้า

 

“ขออภัยด้วยค่ะท่านเรียว….ที่ฉันถามอะไรไปไม่คิด”

 

“เห๊ะ? อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก”

 

“ถ้าท่านเรียวไม่พอใจล่ะก็ เชิญลงโทษหมาตัวเมียผู้โง่เขลาตัวนี้ตามที่ท่านต้องการเลยค่ะ ไม่ว่าจะอะไรก็เชิญลงโทษได้เลยค่ะ! ถ้าบอกให้ไปคว้านท้องก็จะคว้านท้องเดี๋ยวนี้ทันทีเลยค่ะ….!”

 

“คว้านท้อง!? ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกนะ”

 

“หากท่านไม่สบายใจที่จะลงโทษด้วยตัวเองล่ะก็ ท่านสามารถสั่งให้คนอื่นมาทำแทนก็ได้ค่ะ ท่านจะสั่งซึสึที่นั่งอยู่ตรงนี้ ให้เธอลงโทษเราจนกว่าท่านจะสบายใจก็ได้ค่ะ”

 

“เมี้ยว!?”

 

“ไม่ล่ะ ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง! มันไม่ได้หนักหนาอะไรกับผมถึงขนาดนั้นหรอก!  ทางนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่รึไง?”

 

ผมรีบหยุดเมย์ฟาที่กำลังจะเอามีดออกมา

แล้วเมย์ฟาก็ทำสีหน้ามีความสุข

 

“อา ท่านเรียว….มีเมตตากับคนโง่เขลาอย่างเราถึงขนาดนี้…..!”

 

เมย์ฟาเปลี่ยนจากหน้าเศร้ากลายเป็นหน้าตาที่ดูหลงใหล

ละ ลำบากใจแฮะ

ทัศนคติในตอนที่ได้เจอกับผมครั้งแรกตอนนั้นยังรู้สึกสบายใจกว่าตอนนี้เลย….

 

โชคดีที่คุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างๆผม กระแอมออกมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

ผมเบือนหน้าหนีเมย์ฟาไปหาคุณซิลเวีย

 

“ถ้าอยากจะยืนยันว่าเรียวมีสายเลือดของควอนดร้าจริงหรือไม่ล่ะก็ ไปเมืองคาสซานดร้าและลองดูที่ทะเบียนบ้านเลยจะไม่ดีกว่าเหรอ? ว่าไปแล้ว ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับวงศ์ตระกูลของควอนดร้าอยู่ในกิลด์แห่งความมืดนี้เลยรึไง?”

 

“อึก…นะ นั่นมัน…..”

 

พอได้ยินคำถามของคุณซิลเวีย ดวงตาของเมย์ฟาก็ล่อกแล่กไปมา

 

“มีเหตุผลอะไรอยู่งั้นเหรอ?”

 

“คือว่า…..ท่านควอนดร้าเขามีเซ็กส์กับผู้หญิงหลายคนมาก ไม่ใช่แค่กับผู้หญิงที่อยู่ในกิลด์แห่งความมืดนี้เท่านั้น….เขานอนกับผู้หญิงมาเป็นพันคนแล้วล่ะ….”

 

“นะ หนึ่งพัน!?”

 

ผมกับคุณซิลเวียประหลาดใจ

 

“เอาจริงๆก็พอจะสามารถดูบันทึกผู้สืบสายเลือดของท่านควอนดร้าได้อยู่หรอกค่ะ….แต่ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา บันทึกส่วนใหญ่มันก็ได้หายสาปสูญไปแล้วในระหว่างการต่อสู้กับกิลด์นักผจญภัยและฝ่ายอื่นๆที่โจมตีพวกเราน่ะค่ะ”

 

“อืม….อย่างงี้นี่เอง”

 

“แต่เราก็ได้พยายามส่งทีมค้นหาไปยังที่ต่างๆเพื่อที่จะตามหาข้อมูลเกี่ยวกับคนที่มีเชื้อสายของท่านควอนดร้ากับแหวนทองคำอยู่เรื่อยๆค่ะ แต่ทำมาจนถึงก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้ข้อมูลเกี่ยวกับแหวนเลยซักนิดค่ะ เราเคยคิดว่าแหวนนั้นหายไปพร้อมกับท่านควอนดร้าแล้วจริงๆ….จนมาถึงวันนี้ค่ะ!”

 

เมย์ฟาจ้องมองมาทางผมอย่างหลงใหลอีกครั้ง

 

“และวันนี้ ท่านเรียวก็ได้มาปรากฎตัวต่อหน้าพวกเราพร้อมกับแหวนทองคำนั่นค่ะ!”

 

แต่ผมถูกพวกคุณลักพาตัวมานะครับ?

 

“แหวนที่นอกจากท่านควอนดร้าแล้วไม่มีใครสวมมันได้ กับท่านเรียวที่สามารถใช้มันได้อย่างอิสระ แถมยังเหมือนกับคำพูดทิ้งท้ายที่ท่านควอนดร้าทิ้งไว้นั่นอีก จะเป็นใครไม่ได้นอกจากท่านเรียวค่ะ! ถึงแม้ว่าจะหาบันทึกเกี่ยวกับสายเลือดไม่ได้ก็จริง แต่การที่ครอบครองแหวนนั้นได้ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วล่ะค่ะ ว่าท่านเรียวคือผู้สืบทอดของท่านควอนดร้า!”

 

“…….”

 

….โอ…..โอริออนดีลลลลลลล!

กะแล้วเชียวภูติตนนั้นไม่ใช่อะไรที่ดีเลยซักนิด

บ้าเอ๊ย ไม่คิดเลยว่าจะได้แหวนเจ้าปัญหาถึงขนาดนี้มา…!

 

แต่ก็นะ ผมก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าควอนดร้าที่เป็นผู้ก่อตั้งกิลด์แห่งความมืด

จะเป็นผู้ที่มาจากโลกคู่ขนานเหมือนผม

แถมเขายังดูเป็นผู้ชายที่นิสัยดีอย่างน่าประหลาดด้วย

 

ควอนดร้าได้คาดไว้แล้วว่าถ้าเขาเสียชีวิตไป โอริออนดีลจะต้องมอบแหวนนี้ให้กับคนอื่น

เขากังวลว่าจะต้องมีคนอื่นที่ตกเป็นเหยื่อของภูติตนนั้นเหมือนกันกับเขาแน่นอน

เขาจึงส่งมอบเจตจำนงที่จะช่วยเหลือนั้นไว้ให้กับลูกน้องของเขา

 

…..อืม ขอบคุณสำหรับความรู้สึกของคุณมากๆเลยนะครับ ไม่งั้นผมคงจะโคตรลำบากเลยครับ!

แต่เอาจริงๆนะ อย่างน้อยก็ช่วยเหลือคำพูดนั้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษณไว้ให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อยได้มั้ย!?

อย่างแบบ [ใครมีแหวนนั้น ก็ช่วยเหลือเขาด้วยล่ะ! อ๊ะ แต่ว่าฉันไม่น่ามีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดกับเขาหรอกนะ

แต่ถึงอย่างงั้นก็ฝากด้วยล่ะ★] อย่างน้ยถ้าเขียนไว้ชัดเจนประมาณนี้ก็คงจะยุ่งยากน้อยกว่านี้หน่อย

 

เวรเอ๊ย…..เอาไงดีฟะ?

ถ้าผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับควอนดร้าขึ้นมาจริงๆผมจะถูกส่งไปชั้นใต้ดินอีกครั้งมั้ยเนี่ย?

ผมอยากจะเลี่ยงเรื่องนี้ 

แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องให้เรื่องมันเป็นไปว่าผมเป็นผู้สืบทอดของควอนดร้า

 

ผมที่กำลังสงสัยว่าจะผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปยังไงดี  

จึงได้หันหน้าไปหาคุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อขอความช่วยเหลือ

คุณซิลเวียที่เห็นสายตาของผมจึงพยักหน้าอย่างจริงจังและเริ่มพูดขึ้นมาเบาๆ

 

“เรียว….จริงๆแล้วนายก็คงเข้าใจสินะ?”

 

“เห๊ะ?”

 

คะ คุณซิลเวียครับ? นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันแน่?

 

“นายกับควอนดร้าน่ะมีสิ่งที่เหมือนกัน สิ่งนั้นแหละที่น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีที่สุดแล้วว่านายมีสายเลือดของควอนดร้าอยู่….”

 

เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!?

แม้แต่คุณซิลเวียก็ด้วย? พูดอะไรออกมากันเนี่ย!?

 

“ซะ ซิลเวียจัง หมายความว่ายังไงน่ะ!?”

 

“อืม….ในตอนที่คุยกันก่อนหน้านี้ เธอบอกว่าความรู้สึกในด้านความงามของควอนดร้ามันตรงข้ามกับคนอื่นถูกมั้ย? ถ้าจะให้พูดให้เห็นภาพล่ะก็ เรียวน่ะบอกว่าเอลฟ์อย่างฉันน่ะสวยมากเลยยังไงล่ะ”

 

“จะ จริงเหรอ!? กะแล้วเชียว ว่าท่านเรียวน่ะ….!”

 

“อา แล้วก็ค่านิยมแปลกๆแบบนี้ของเรียวก็ดูเหมือนจะมีมาตั้งแต่กำเนิดด้วย ตอนแรกก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ตอนนี้ฉันก็เข้าใจได้แล้วล่ะ”

 

พอพูดแบบนั้นแล้วคุณซิลเวียก็จ้องมาทางผม

 

“เรียว บางทีแล้วค่านิยมแบบนั้นของนายมันอาจจะเป็นกรรมพันธ์ก็ได้ การที่นายได้แหวนวงนั้นมาก็ด้วย บางทีแล้วพ่อของนายอาจจะเป็น สายเลือดของควอนดร้าก็ได้”

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset