[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ – ตอนที่ 284 ตอกกลับแบบสบายอารมณ์ / ตอนที่ 285 ฉันกำลังด่าคนอยู่

ตอนที่ 284 ตอกกลับแบบสบายอารมณ์

 

 

ชุยหังกำลังตอบกลับข้อความส่วนตัวเหล่านั้นอยู่ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนตอบกลับมาหาเขา

 

 

[นายยังจะกล้าออนไลน์อีก ฉันนึกว่านายตายแล้วซะอีก คนอย่างนายยังกล้ามีชีวิตอยู่อีกช่างกล้าหาญจริงๆ]

 

 

ชุยหังตอกกลับไปในทันที: [คนคุณธรรมสูงส่งอย่างเธอยังมีชีวิตอยู่เลย ถือสิทธิ์อะไรฉันต้องตาย? ตอนนี้เธอคงไม่รู้ด้วยซ้ำมั้งว่าพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นใคร เธอลืมวันที่รองเท้าขาดแขวนหน้าประตู [1] แล้ว?]

 

 

หลังจากตอบกลับเสร็จชุยหังรู้สึกว่าถ้าเอาแต่พูดอยู่แบบนี้มันไม่มีความหมายอะไรจึงเปิดฟังก์ชั่นให้แสดงความคิดเห็นอีกครั้ง

 

 

ไม่ว่าจะเป็นใครเขาก็ไม่มีหวั่น

 

 

อย่างไรเสียคนพวกนี้ก็หน้าด้านหน้าทนอยู่แล้วก็แค่รอดูว่าใครจะด่าใครให้ล้มกันไปข้างได้ก่อน

 

 

ในเมื่อทุกคนต่างก็พุ่งเป้าหมายไปที่ข้อความที่หลิวเฮ่อทิ้งไว้ก่อนหน้านั้นมาด่าตน งั้นตนก็ต้องตอบสนองเรื่องนี้กลับไปดีๆ สักหน่อย

 

 

เรื่องจริงมันชัดเจนมาก เขาไม่จำเป็นต้องกลับไปหวนรำลึกถึงอดีตให้มากเกินไป ภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นเขายังจำติดตา

 

 

เมื่อตั้งสติทำใจเย็นได้เขาก็เริ่มลงมือพิมพ์อักษรบนแป้นพิมพ์ของโทรศัพท์

 

 

แต่เพราะความโกรธ ทุกครั้งที่เขากดลงบนหน้าจอโทรศัพท์มันเหมือนเขาจะทุบหน้าจอแตกยังไงอย่างนั้น

 

 

[ที่ฉันไม่ตอบกลับอะไรมาตลอดก็เพราะรู้สึกว่าการตอบโต้ต่อสู้กับกองขี้หมามันเสียเกียรติของตัวเอง แต่ตอนนี้เห็นมีคนตาบอดหูหนวกเยอะมากขนาดนี้พากันเอะอะโวยวายตามไปด้วย สมองดูกระตือรือร้นมากยิ่งกว่าการใส่ใจเรื่องสุขภาพร่างกายของพ่อแม่ตัวเองแบบนี้ ถ้าไม่โต้กลับสักหน่อยเดาว่าต่อให้พ่อแม่ของคนพวกนี้ตายไปแล้ว พวกเขาคงยังรู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องมีเกียรติยศศักดิ์ศรีให้พ่อแม่ของตัวเองด้วยซ้ำ หลิวเฮ่อ ตัวนายเองเป็นแค่ตัวอะไร ตัวนายเองไม่รู้หรอ คิดว่าเปิดใช้ชื่อสำรองเข้ามาแล้วฉันจะไม่รู้ว่าเป็นนาย?]

 

 

[พวกเราอยู่ต่างที่กันมาตลอดและโอกาสในการติดต่อกันก็ไม่มากขนาดนั้น ครั้งแรกก็แค่รู้จักกันในห้องแชทเท่านั้นยังจะบอกว่านายให้เงินฉันใช้ไปตั้งเท่าไหร่ ไร้ยางอายไปหน่อยไหม ถ้าฉันเอาเงินของนายมาใช้จริงยังจำเป็นต้องใช้ระบบGreen Channelsเข้ามหา’ ลัย? บนตัวฉันมีของแบรนด์เนมสักชิ้นไหม ปกติฉันใช้จ่ายเงินยังไงเพื่อนร่วมชั้นของฉันสามารถเป็นพยานได้หมด คนทำอะไรสวรรค์เฝ้าดูอยู่ อย่าเอาอ่างใส่อุจจาระมามัดใส่ตัวคนอื่นแบบนี้ นายหักหลังก็หักหลังแล้วยังจะมากล่าวหาว่าฉันทรยศหักหลังอีก นายทำไมไม่บอกว่าฉันฆ่าพวกนายยกครัวแล้วหลบหนีความผิดแล้วไปเลยล่ะ?]

 

 

[ถ้านายไม่กล้ายอมรับ เราสองคนเผชิญหน้ากันตรงๆ ไปเลย ฉันจะเอาบันทึกการแชทในวีแชทเทออกมาทั้งหมด ว่านายเถียงข้างๆ คูๆ ว่าเด็กผู้ชายที่นอนกับนายคนนั้นเป็นแค่ลูกชายเพื่อนร่วมงานที่บริษัทว่ายังไง แล้วก็ขอโทษฉันว่ายังไง จากนั้นก็จะบอกว่านายหักหลังฉันแค่เพราะว่าฉันไม่ยอมให้นายแตะต้อง แค่เรื่องนี้ยังไม่กล้ายอมรับยังจะกล้าเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เปิดใช้ชื่อสำรองหลบซ่อนอยู่หลังสายเคเบิลเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมาใส่ร้ายป้ายสีฉันอีก ต่อไปนายอย่าได้ยืนปัสสาวะอีกเด็ดขาดเลยนะ น่าขยะแขยงจริงๆ]

 

 

[แล้วยังมีพวกที่ตามกระแสอีก ฉันไม่สนว่าพวกนายจะรู้จักหรือไม่รู้จักฉัน พวกนายคิดว่าตัวเองยืนอยู่บนจุดสูงสุดของศีลธรรม แล้วยังรู้สึกว่าตัวเองเก่งและชอบธรรมอีกมันเป็นเพราะว่าตั้งแต่ยังเด็กพ่อแม่ของพวกนายไม่เคยสั่งสอนเลยใช่ไหม เรื่องที่ไม่รู้ไม่เห็นเองก็สามารถสรุปผลสุ่มสี่สุ่มห้าได้? ขอแค่เป็นคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกนายก็สามารถทำร้ายยังไงก็ได้?]

 

 

[ฉันไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษของพวกนายหรือว่าขุดเอาศพบรรพบุรุษของพวกนายออกมาลงแส้? ปิดไม่ให้แสดงความคิดเห็นแล้วยังจะส่งข้อความส่วนตัวมาด่าฉันอีก มาเลย วันนี้ฉันยอมที่จะไม่นอนหลับแล้วจะเถียงกับพวกนายนี่แหละ มาดูกันสิว่าใครจะด่าเก่งกว่าใคร หลบอยู่หลังอินเตอร์เน็ตที่ฉันมองไม่เห็นหน้าตาพวกนายก็สามารถพ่นด่าฉันได้ตามอำเภอใจ ก็ได้ แค่ด่าคนใครทำไม่เป็นบ้าง คิดว่าฉันแสดงอำนาจบ้างไม่ได้?]

 

 

[ในที่นี้ ฉันขออวยพรให้พวกที่ด่าคนสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างจริงใจ คนที่ต้องการใช้โลกไซเบอร์ทำร้ายฉันด้วยความรุนแรงให้ออกจากบ้านถูกรถชนตายทั้งครอบครัว ถ้าชนแล้วไม่ตายก็ไม่สามารถใช้ชีวิตดูแลตัวเองได้ ถ้าไม่ได้จริงๆ พวกนายก็มุดกลับเข้าท้องแม่แล้วไปคลอดออกมาใหม่ อย่าออกมาทำขายขี้หน้าอีก กลับไปสู่สภาพเดิมจากนั้นแพ้ให้เซลล์สืบพันธุ์อื่นขาดอากาศหายใจตายไปเลย]

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 285 ฉันกำลังด่าคนอยู่

 

 

ชุยหังไม่ได้ดุด่าคนอย่างมีความสุขแบบนี้มานานแล้ว ในช่วงนี้เก็บกดอารมณ์เอาไว้มากเกินไปแล้ว

 

 

อันที่จริงคนพวกนี้ก็รนหาที่โดนด่าเอง ถ้าหากไม่ตอบโต้เอาแต่หลีกเลี่ยงต่อไปล่ะก็มันจะทำให้คนรู้สึกว่าเขาเป็นวัวสันหลังหวะทำผิดแล้วคอยระแวงกลัวผู้อื่นจะรู้

 

 

แน่นอนว่าถึงแม้ตนจะตอบโต้กลับไปแบบนี้แล้วก็ตาม แต่ก็จะยังมีคนโง่บางคนที่ยังคงยืนยันในมุมมองความคิดของตัวเองรู้สึกว่าตนทำไมถึงไม่โต้ตอบเร็วกว่านี้ ทำไมถึงมาตอบโต้กลับเอาเวลานี้

 

 

ตนไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับคนแบบนี้ ไม่ว่ายังไงในสมองของพวกเขาคงจะไม่ได้มีของดีอะไรแน่นอน ปากเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาและศีลธรรม ไม่แน่ว่าในสมองอาจจะเป็นพวกชายชู้หญิงโฉดก็ได้

 

 

ในโลกใบนี้แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ขาดแคลนพวกคนหน้าซื่อใจคด

 

 

ต่อหน้าผู้คนทำเป็นเสแสร้งว่าตัวเองเป็นคนๆ หนึ่ง ลับหลังก็คิดแต่ว่าจะใช้มีดแทงคนอื่นยังไง

 

 

ถ้าตนยังเอาแต่ตามใจพวกเขาแบบเสมอ คนพวกนี้คงจะรู้สึกว่าในโลกใบนี้มีแต่คนน่ารังแกทั้งนั้น

 

 

จากนั้นไม่นานความเคลื่อนไหวที่เขาเพิ่งเผยแพร่ไปก็มีคนเข้ามาดูจำนวนมาก และยังมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนไม่น้อยเลย

 

 

ถึงแม้ว่าจะยังมีด่ากระทบอยู่บ้างแต่ก็เบาลงกว่าก่อนหน้านี้มาก

 

 

ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นผู้คนที่เขามามุงดูและยังแสดงความคิดเห็นด้วยว่า: [พี่ชายทักษะการนี้คนนี้มันช่าง666 [2] จริงๆ เลย]

 

 

[คนพวกนี้สมควรโดนด่า ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างก็กดแป้นพิมพ์พิมพ์ด่าคนอื่น พูดอย่างกับประสบพบเจอมากับตัวเองยังไงอย่างงั้น พี่ชายครับสนับสนุนนายอย่างไม่มีเงื่อนไข]

 

 

[อย่าไปสนใจคนพวกนี้ บนอินเตอร์เน็ตแต่ไหนแต่ไรไม่เคยขาดแคลนพวกที่ที่บ้านไม่สั่งสอนพวกนี้]

 

 

เมื่อได้ดูความคิดเห็นเหล่านี้อารมณ์ของชุยหังก็ดีขึ้นมานิดหน่อย

 

 

แน่นอนว่าพวกที่พุ่งเป้าพวกนั้นก็ยังคงด่าตนอยู่ด้านล่างด้วยเหมือนกัน เขาไม่มีทางลูบหน้าประจมูกแน่

 

 

ตอนนี้เขามีอารมณ์พอดีจึงย่อมต่อสู้จนถึงที่สุดอยู่แล้ว

 

 

พวกพยศต่อต้านอย่างดื้อรั้นพวกนั้น ชุยหังย่อมไปปล่อยไปแม้แต่คนเดียว ในเมื่อทุกคนต่างก็เป็นคนแปลกหน้า ด่าก็ด่าแล้ว ตราบใดที่พวกเขาไม่รู้จักยอมแพ้ชุยหังก็ไม่มีวันถอยอย่างเด็ดขาด

 

 

ตลอดเวลาทั้งช่วงเช้าชุยหังต่างก็ใช้ไปในการตอบกลับคนที่ด่าเขาพวกนั้น

 

 

เมื่อถึงตอนเที่ยงหลูจื้อโทรวีดีโอคอลมาหาเขาใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

 

 

แต่พอเห็นหลูจื้อเปลี่ยนไปสวมชุดเครื่องแบบทหารอีกครั้งแล้วมันดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากจริงๆ

 

 

ชุยหังรู้สึกเหมือนเก็บสมบัติล้ำค่าได้  ผู้ชายคนนี้ถูกตนจับมาไว้ในมือได้ยังไงนะ

 

 

“นายทำอะไรน่ะ กินข้าวหรือยัง” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังพูดว่า: “กินแล้ว นายเอาอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะไม่ใช่หรอ เมื่อกี้กำลังด่าคนอยู่เลย”

 

 

“ด่าคน? ด่ามาทั้งเช้า? นายดูสิว่าตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้วที่ฉันถามคือข้าวเที่ยง” สีหน้าของหลูจื้อแปลกไปเล็กน้อย

 

 

ตอนนี้ชุยหังถึงตกใจมาก  ทั้งช่วงเช้าผ่านไปแบบนี้หรอ?

 

 

ตลอดทั้งช่วงเช้าเขาไม่ได้ทำอะไรเลยเอาแต่ด่าคนตลอด?

 

 

“นายกำลังด่าใคร” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังบอกตามความจริง: “คนพวกนั้นในเวยป๋อไง ถ้าไม่แสดงให้พวกเขาดูสักหน่อยคงคิดว่าฉันรังแกง่าย ทุกวันเอาแต่ด่าฉันอยู่ในนั้น ขนาดฉันปิดคอมเมนต์แล้วยังส่งข้อความส่วนตัวมาด่าฉันอีก”

 

 

“งั้นนายชนะไหม” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ชัยชนะแบบท่วมท้นเลย ฉันเป็นใคร จะให้พ่ายแพ้ให้พวกคนไร้เหตุผลพวกนั้นหรอ งั้นต่อไปฉันจะอยู่ยังไง”

 

 

“ดูเหมือนว่าที่ด่าฉันก่อนหน้านี้นับว่าปากนายเมตตามากแล้วสินะ” หลูจื้อพูดล้อเล่น

 

 

ชุยหังพูดว่า: “นั่นไม่นับว่าด่านายจริงๆ นะ ฉันก็แค่ปากไวใจเร็วไปหน่อยก็เท่านั้น”

 

 

“ไม่ต้องอธิบายแล้ว พูดมาสิว่าตกหลุมรักฉันตั้งแต่แรกเห็นใช่ไหม” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังถามในทางกลับกันไปว่า: “พวกเราอย่าหลงตัวเองกันให้มากขนาดนี้ได้ไหม”

 

 

“ฉันหลงตัวเอง?”

 

 

“ไม่ใช่หรอ ไม่ทำอะไรก็เอาแต่ถามคำถามประเภทนี้ ฉันจนละอายใจที่จะทำร้ายความนับถือตัวเองของนายแล้ว”

 

 

“แย่ละ ทำร้ายเข้าแล้วจริงๆ ด้วย ตอนแรกคิดว่าถ้าคืนนี้สามารถกลับไปได้ก็จะพยายามกลับไป ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนบางคนไม่ต้องรับฉันกลับแล้วสิ” หลูจื้อกล่าว

 

 

ชุยหังผงะไปแล้วรีบถามว่า: “นายพึ่งจะกลับไปเช้าวันนี้เองไม่ใช่หรอ วันนี้กลับมาได้?”

 

 

“ทำไม ฉันคิดถึงนาย เป็นห่วงนายกลับไปดูนายหน่อยไม่ได้เลย?”

 

 

 

 

——

 

 

[1]  รองเท้าขาดแขวนหน้าประตู  ในที่นี้เป็นคำด่าความหมายคือว่าคนว่ามีความคิดเหมือนกับรองเท้าขาดๆ หรือเป็นรองเท้าขาดที่ไม่มีใครต้องการ

 

 

[2]  666  มาจากภาษาจีนคำว่า ‘ 溜溜溜 ’ หมายถึงลื่นไหล ซึ่งเดิมที ‘666’ เป็นเพียงเลขธรรมดาทั่วไป ในปัจจุบันความหมายที่ใช้บ่อยที่สุดคือการบรรยายใครบางคนที่เก่งมาก ยอดเยี่ยมมากจนทำให้คนชื่นชมนับถือ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

Status: Ongoing
ชุยหัง เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะเทคนิคการเดินเรือรอนแรมจากบ้านมาเรียนต่างเมืองเป็นครั้งแรก ทว่าเกือบถูกดักปล้นกลางทาง เคราะห์ดีที่มีคนผ่านทางมา แต่เขาคนนั้นกลับเมินเฉยไม่ยอมช่วยเสียอย่างนั้น ชุยหังจึงด่าพ่อล่อแม่ไปชุดใหญ่ กระนั้นโชคชะตาก็เล่นตลกให้ชุยหังได้พานพบกับ หลูจื้อ ชายที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยคราวก่อนอีกครั้งในฐานะครูฝึกทหารกับนักศึกษา จากเกลียดแรกพบจึงกลับกลายเป็นความใกล้ชิด ก่อตัวเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในใจของทั้งสองโดยไม่รู้ตัว แต่ความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งคือนายทหารอนาคตไกลที่มีแฟนสาวผู้เพียบพร้อมข้างกายอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว ผิดหวังจากความรักครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก ความรักที่ไม่ควรเกิดขึ้นท่ามกลางหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกผู้ชายนี้จะเก็บเป็นความลับต่อไปได้อีกนานแค่ไหน…  แสดงเพิ่มเติม

Comment

Options

not work with dark mode
Reset