[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ – ตอนที่ 298 ความรู้สึกไม่ได้มีไว้เพื่อทดสอบ / ตอนที่ 299 ฉันบอกกับครอบครัวฉันแล้ว

ตอนที่ 298 ความรู้สึกไม่ได้มีไว้เพื่อทดสอบ

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น ชุยหังก็ไม่ได้นอนตื่นสายจริงๆ หลังจากจัดเก็บเรียบร้อยแล้วก็ส่งข้อความไปให้ชย่าอวี่ชิวบอกเขาว่าตนกำลังเตรียมตัวจะไปแล้ว

 

 

ระหว่างทางที่นั่งรถไปมหาวิทยาลัยเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปให้หลูจื้อเพื่อบอกเขาว่าตนจะกลับไปดูมหาวิทยาลัยเสียหน่อย

 

 

แม้ว่าหลูจื้อจะยังไม่ได้ตอบกลับอะไร เขาก็ไม่มีทางรู้สึกว่าตัวเองถูกละเลยแล้ว

 

 

เพราะเขารู้ว่าหลูจื้อกำลังทำอะไร ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนภายในใจจะต้องมีตนอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน

 

 

ชย่าอวี่ชิวคงน่าจะยังไม่ตื่นส่งเพียงแค่สติ๊กเกอร์โอเคมาให้เขาอันเดียว

 

 

เมื่อมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่างรถ ชุยหังก็นึกถึงตอนที่ตนมาที่นี่ครั้งแรกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยังมีตอนที่หลูจื้อพาตนกลับมาเมื่อครั้งที่แล้วด้วย สองครั้งที่ผ่านตรงนี้กับอารมณ์ที่แตกต่างกัน

 

 

ครั้งนี้อารมณ์ความรู้สึกของเขายิ่งแตกต่างมากขึ้นไปอีก ไม่ใช่ความหวาดกลัวอย่างตอนไปมหาวิทยาลัยครั้งแรก ไม่ใช่ความรู้สึกทุกอย่างยังเหมือนเดิมแต่คนกลับไม่ใช่อย่างครั้งก่อนที่หลูจื้อพาตนกลับมา แต่เป็นความรู้สึกทอดถอนใจด้วยความหดหู่

 

 

ถนนสายนี้กลายเป็นจุดที่ขาดหายไปไม่ได้ในความทรงจำของเขาไปแล้ว

 

 

นี่เป็นสถานที่ที่เส้นทางชีวิตของเขากับหลูจื้อมาบรรจบกัน และต่อไปในอนาคตก็จะติดหนึบอยู่ด้วยกันไปตลอด

 

 

เมื่อถึงมหาวิทยาลัย ชุยหังลงรถบริเวณใกล้ประตูสาม

 

 

เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยอีกแล้ว เมื่อก่อนหลูจื้อก็มารอตนอยู่ที่นี่ จากนั้นตนก็ขึ้นไปพูดคุยกับเขาบนรถสักพักหรือไม่ก็ถูกเขาพาตัวออกไปเลย

 

 

ตอนนี้หลูจื้อยังไม่รู้เลยว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ ส่วนตัวเองก็เป็นเพราะเรื่องพักการเรียนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนเรื่องราวมากมายต่างก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

 

 

แน่นอนว่าชุยหังไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้เป็นการกลับมาพร้อมเกียรติยศอะไร เพราะเดิมทีนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองพูดเองแล้วจะจบ

 

 

‘มหาวิทยาลัยเก่า’ คำๆ นี้ ไม่ใช่คนที่เดินมาครึ่งทางแล้วต้องพักการเรียนเพียงเพราะเรื่องอื้อฉาวแบบเขาจะสามารถเรียกออกมาได้สุ่มสี่สุ่มห้า

 

 

เชื่อว่ามหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคก็คงไม่ยอมรับนักศึกษาอย่างเขาว่าเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยหรอก

 

 

ยังคงมีผู้คนเข้าๆ ออกๆ จำนวนมากแต่ชุยหังไม่ได้เดินต่อไปข้างหน้า

 

 

ที่น่าแปลกใจก็คือเขาเห็นเพื่อนรูมเมทห้าคนของเขาเดินพูดคุยหัวเราะกันออกมาทางหน้าประตู

 

 

เขาจงใจไปหลบซ่อนตัว ไม่ได้ออกไปเจอหน้าพวกเขา มิฉะนั้นทั้งสองฝ่ายคงต่างจะลำบากใจเล็กน้อย

 

 

คนที่อยู่กับพวกเขายังมีพวกโจวเฉวียนที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามด้วย

 

 

ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ตนไม่อยู่นี้พวกเขาจะใช้ชีวิตผ่านไปได้ไม่เลวเลยทีเดียวแถมยังไปคลุกคลีกับกลุ่มกลางแล้วด้วย

 

 

เรื่องที่ตนเป็นกังวลก่อนหน้านี้ก็คงจะเกินความจำเป็นไปจริงๆ

 

 

ถ้าตนเข้าไปตอนนี้เชื่อว่าพวกเขาคงจะแสดงความสุภาพหรืออะไรอย่างอื่นเชิญชวนให้เขาไปด้วยกันแน่นอน

 

 

จากนั้นตนก็จะต้องใช้เหตุผลที่ว่ามีนัดกับคนอื่นแล้วมาปฏิเสธ

 

 

ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะไม่มีความหมายจริงๆ แล้ว

 

 

เพื่อนมักเจอกันในเหตุการณ์บางอย่าง ต่อให้ปากจะพูดดีแค่ไหนแล้วมันยังไง?

 

 

ถ้าแค่ให้เล่นด้วยปาก ใครก็ทำได้

 

 

เมื่อมีเรื่องราวเกิดขึ้นจริง ใครที่สามารถอยู่เคียงข้างคุณได้ ไม่แยกจากไม่ทอดทิ้งคนนั้นถึงเป็นเพื่อนแท้

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกไม่ได้มีไว้เพื่อทดสอบหยั่งเชิง

 

 

หากอยากใช้เรื่องอะไรมาทดสอบความรู้สึก อันดับแรกต้องดูก่อนว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นเป็นของจริงหรือเปล่า

 

 

ดังนั้นอย่าได้เสียเวลานั้นให้สูญเปล่า ปล่อยทุกอย่างให้เป็นเรื่องของเวลาเถอะ

 

 

ถ้าเป็นเพื่อนจริงก็ย่อมอยู่ต่อเป็นธรรมดา

 

 

หลังจากที่พวกเขาจากไป อันที่จริงภายในใจของชุยหังไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกผิดหวัง

 

 

ต่อไปถ้าเจอหน้ากันอีกครั้ง บางทีพวกเขาอาจจะมีอึดอัดใจกันบ้าง

 

 

อีกอย่างตอนที่เกิดเรื่องของตนขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ เขาสามารถมองเห็นถึงสายตาที่ห่างเหินของเหล่าเอ้อร์กับเหล่าซานที่มีต่อเขา

 

 

อันที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ ถึงแม้ตนจะชอบผู้ชายแต่ไม่ใช่ว่าเห็นผู้ชายแล้วตนต้องกระโดดเข้าใส่ทุกคน

 

 

จุดนี้มันก็เหมือนกับหลักเหตุผลของการเลือกกิน เขาเข้าใจ

 

 

เขาถอนหายใจออกมาแล้วก็ส่งข้อความไปให้ชย่าอวี่ชิวแล้วถามเขาว่าถึงที่ไหนแล้ว ชย่าอวี่ชิวบอกเขาว่าจะถึงเดี๋ยวนี้แล้ว

 

 

จากนั้นเขามองไปทางประตูทางออกอีกครั้ง ในที่สุดก็มองเห็นชย่าอวี่ชิวที่แทบจะอ้วนกลมเป็นลูกบอลแล้ว

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 299 ฉันบอกกับครอบครัวฉันแล้ว

 

 

“ทางนี้” ชุยหังโบกไม้โบกมือให้เขา

 

 

ชย่าอวี่ชิวเห็นชุยหังที่จงใจแต่งตัวให้ตัวเองดูเรียบง่าย พลางวิ่งเหยาะๆ เข้ามา

 

 

“เป็นไงบ้าง ไม่เจอฉันมาสองปี คิดถึงฉันแล้วใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวผลักเขาเบาๆ

 

 

ชุยหังผงะไปแล้วถามว่า: “สองปีอะไร”

 

 

“แยกกันเมื่อปีก่อน ก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลยไม่ใช่หรอ”

 

 

“นี่ก็เรียกสองปี? วิธีการนับเลขนี้ของนายช่างน่าทึ่งจริงๆ เลยนะ” ชุยหังกล่าว

 

 

“ช่างมันเถอะ เป็นไงบ้างนายกับคนนั้น?” ชย่าอวี่ชิวเอ่ยถาม

 

 

“ก็ใช้ได้มั้ง เอาเป็นว่าดีกับฉันมากทีเดียว”

 

 

“งั้นก็โอเค มิฉะนั้นนายก็คงไม่กลับมาตั้งไกลขนาดนี้หรอก แต่ฉันรู้สึกว่านายคงจะไม่ได้กลับบ้าน บางทีอาจจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้วก็ถูกเขาจับนายกลับมาใช่ไหม?” ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

ชุยหังคิดไม่ถึงเลยว่าเขาแค่พูดไปอย่างนั้นแต่กลับพูดถูกต้องแล้ว

 

 

ดังนั้นเขาก็ไม่ได้แก้ตัวอะไร

 

 

“เรื่องบนเวยป๋อนั่น เขารู้แล้วใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวถามขึ้นอีกประโยค

 

 

ชุยหังพยักหน้าพลางพูดว่า: “ก็เป็นเพราะตอนที่มีเรื่องบนเวยป๋อนั่น เขาถึงได้ลางานไปหาฉันแล้วฉันก็ตามกลับมาด้วย”

 

 

“ดูเหมือนจะเป็นหนุ่มแมนคนหนึ่งสินะ นายก็ใช้เวลากับเขาให้ดีๆ เถอะ จริงสิไปเจอพ่อแม่หรือยัง” ชย่าอวี่ชิวยังคงท่าทางเป็นคนที่ไม่คิดอะไรมากอย่างเดิม

 

 

ชุยหังส่ายหัวไปมาแล้วพูดว่า: “นายคิดมากไปแล้ว ถึงกับเจอพ่อแม่ด้วย นายไม่พอใจที่ฉันอายุยืนใช่ไหม”

 

 

“ทำไมล่ะ ที่บ้านพวกเขายังไม่รู้หรอ” ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

“ไม่รู้น่ะสิ ทำไม นายกล้าบอกกับคนที่บ้านไปตรงๆ หรอ” ชุยหังถึงกับผงะไป

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “ตอนช่วงตรุษจีน ฉันไปล้อเล่นกับคนที่บ้าน ฉันบอกกับแม่ว่าถ้าฉันหาลูกสะใภ้ผู้ชายมาให้แต่สามารถใช้ชีวิตแต่ละวันได้อย่างดีแบบนั้นโอเคหรือเปล่า”

 

 

ชุยหังไม่มีวิธีที่จะอธิบายถึงความตกตะลึงของตัวเองได้เลย  ผู้ชายแมนๆ อย่างเขาทำไมถึงเอาแต่จะเข้ามาในแวดวงนี้อย่างไม่แยแสอะไรเลยแบบนี้

 

 

“สมองของนายโดนเผาจนพังไปแล้วใช่ไหม”

 

 

“เปล่าหนิ ตอนนั้นก็แค่อยากถามดู จากนั้นนายลองเดาดูว่าแม่ฉันพูดว่ายังไง” ชย่าอวี่ชิวกลับไม่มีท่าทีเหมือนว่าล้อเล่นเลยสักนิด

 

 

ชุยหังครุ่นคิดอยู่นานแต่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ตนก็ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้

 

 

นอกจากนี้ได้ยินมาว่าชย่าอวี่ชิวก็นับว่าอยู่ในชนบทเช่นกัน

 

 

ความคิดของคนในชนบทจำพวกสืบทอดเชื้อสายบรรพบุรุษก็คงจะมีผลกระทบมากเหมือนกันมั้ง

 

 

“คงด่านายแล้วใช่ไหม แล้วก็สงสัยว่าอันที่จริงแล้วนายเป็นผู้หญิงใช่ไหม” ชุยหังตอบกลับแบบติดตลก

 

 

“ไปไกลๆ เลย แม่ฉันบอกว่าเรื่องนี้พวกเขาไม่สนใจ ในเมื่อฉันไม่เสียใจภายหลังก็พอแล้ว ยังไงซะต่อให้ฉันหาผู้หญิงมาแต่ถ้าในอนาคตไม่อยากมีลูกจะเป็นDINK [1] (คู่สามีภรรยาที่ไม่อยากมีลูก) พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้”

 

 

“แม่นายรู้จักDINK (คู่สามีภรรยาที่ไม่อยากมีลูก) ด้วย?” ชุยหังผงะไป

 

 

“นั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว นายคิดว่าหญิงชราเหล่านั้นในชนบทอะไรก็ไม่เข้าใจหรอ”

 

 

“ถือว่านายแน่มาก นายถามเรื่องนี้มันเกินจำเป็นไปมากจริงๆ” ชุยหังกล่าว

 

 

ชย่าอวี่ชิวมองท่าทางของชุยหังจากนั้นพูดขึ้นว่า: “อืม อาจจะใช่มั้ง ไปเถอะไปหาอะไรกินก่อนสักหน่อย นายยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม”

 

 

“อืม ไปกินเกี๊ยวตงเป่ยสักหน่อยเถอะ ไม่ได้กินมาสักระยะแล้ว” ชุยหังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ยังคงคิดถึงร้านเกี๊ยวตงเป่ยที่ถนนตั่วลั่วร้านนั้น

 

 

“ที่นั่นมีคนไม่น้อยเลยนะ อาจจะบังเอิญเจอคนที่นายรู้จัก นายโอเคใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวดูเหมือนจะเป็นกังวลเล็กน้อย

 

 

ชุยหังครุ่นคิดแล้วพูดว่า: “ไม่เป็นไรหรอก ที่ฉันควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว พวกเขาอยากจะคิดยังไงก็ให้พวกเขาคิดอย่างนั้นไปเถอะ”

 

 

“โอเค ไปเถอะ ยังไงวันนี้ก็เป็นวันเสาร์คนน่าจะไม่เยอะ พวกเขาคงจะออกไปกินข้าวข้างนอกกันหมดแล้ว” ชย่าอวี่ชิวคิด ชุยหังก็คิดว่ามีเหตุผล

 

 

แต่ว่าทันทีที่พวกเขาไปถึงหน้าร้านเกี๊ยวตงเป่ยร้านนั้นก็ได้เจอกับคนรู้จักเข้าจริงๆ

 

 

 

 

——

 

 

[1]  DINK  ‘ 丁克 ’ เป็นการเขียนทับศัพท์ภาษาอังกฤษของคำว่า DINK = D (ouble) I (ncome) N (o) K (ids) ใช้เรียกคู่สามีภรรยาที่ไม่อยากมีลูก

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

Status: Ongoing
ชุยหัง เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะเทคนิคการเดินเรือรอนแรมจากบ้านมาเรียนต่างเมืองเป็นครั้งแรก ทว่าเกือบถูกดักปล้นกลางทาง เคราะห์ดีที่มีคนผ่านทางมา แต่เขาคนนั้นกลับเมินเฉยไม่ยอมช่วยเสียอย่างนั้น ชุยหังจึงด่าพ่อล่อแม่ไปชุดใหญ่ กระนั้นโชคชะตาก็เล่นตลกให้ชุยหังได้พานพบกับ หลูจื้อ ชายที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยคราวก่อนอีกครั้งในฐานะครูฝึกทหารกับนักศึกษา จากเกลียดแรกพบจึงกลับกลายเป็นความใกล้ชิด ก่อตัวเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในใจของทั้งสองโดยไม่รู้ตัว แต่ความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งคือนายทหารอนาคตไกลที่มีแฟนสาวผู้เพียบพร้อมข้างกายอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว ผิดหวังจากความรักครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก ความรักที่ไม่ควรเกิดขึ้นท่ามกลางหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกผู้ชายนี้จะเก็บเป็นความลับต่อไปได้อีกนานแค่ไหน…  แสดงเพิ่มเติม

Comment

Options

not work with dark mode
Reset