[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ – ตอนที่ 310 ฉันนอนไม่หลับถ้าไม่มีนาย / ตอนที่ 311 การฝึกอบรม

ตอนที่ 310 ฉันนอนไม่หลับถ้าไม่มีนาย

ครั้งนี้หลูจื้อเดินมากับชุยหังตั้งแต่ต้นทางจนสุดทางของซอยฮู่ปู้เซี่ยง

ความจริงไม่สำคัญว่ากินอะไร แต่สิ่งที่สำคัญคือความรู้สึกที่ได้อยู่เคียงข้างกันในตอนนี้

แม้ว่าอาหารจะอร่อย แต่ถ้าไม่มีหลูจื้ออยู่ใกล้ๆ ชุยหังคงไม่รู้สึกพึงพอใจแบบนี้

อย่างไรก็ตามการที่เขาตามติดตัวเอง แม้ว่าตัวเองจะเห็นอะไรก็อยากกินไปเสียหมด แต่ก็ยังรู้สึกว่าหลูจื้ออร่อยถูกปากที่สุด

พวกเขาเดินไปรอบๆ ซอยฮู่ปู้เซี่ยงตลอดทั้งช่วงบ่ายเหมือนกับเด็กสองคนที่ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน

เมื่อกลับมาจากซอยเทศบาลฮู่ปู้เซี่ยงชุยหังก็รู้สึกว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องกินอาหารตอนเย็นอีกแล้ว

แต่เขาไม่อยากให้หลูจื้อรู้สึกหิว เขาจึงทำกับข้าวทั่วๆ ไปไว้สักสองสามอย่าง

“ฉันได้ยินมาว่าคนตงเป่ยชอบกินน้ำจิ้มต้นหอมแล้วทำไมนายไม่กินล่ะ หรือว่ากลัวมีกลิ่นปากแล้วฉันจะรังเกียจเหรอ” หลูจื้อเอ่ยถามในระหว่างมื้อเย็น

ชุยหังเอ่ยตอบ “ไม่ใช่หรอก ต้นหอมของที่นี่รสชาติไม่เหมือนของตงเป่ย ถึงแม้ว่าต้นหอมของที่นั่นจะมีรสเผ็ด แต่ก็ยังมีรสหวานด้วย ต้นหอมของที่นี่เทียบไม่ได้กับของทางตงเป่ยเลย”

“งั้นลืมมันไปเถอะว่าต้นหอมของนายมีรสหวานได้ด้วย” หลูจื้อเอ่ยบอก

ชุยหังรู้ว่าเขาไม่เชื่ออย่างแน่นอนจึงเอ่ยบอก “ถ้าฉันมีโอกาสพานายไปตงเป่ย จะให้นายลองชิมดูแล้วนายก็จะรู้เอง”

“ได้สิ พอดีว่าฉันป็นลูกเขยของคนตงเป่ยก็จะไปเที่ยวตงเป่ยบ้างแล้วกัน” หลูจื้อพูดด้วยรอยยิ้ม

ตอนกลางคืนหลูจื้อต้องให้ชุยหังไปอาบน้ำด้วยอย่างแน่นอน โดยบอกว่าเขาถูหลังเองไม่ถึง

หลังจากที่ชุยหังเข้ามากลับไม่ง่ายเลยที่จะถูหลังอย่างนั้น

หลังจากที่ถูกกินอีกครั้งในห้องน้ำ ขาของชุยหังก็อ่อนแรงลงเล็กน้อย

ชุยหังมองไปที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหลูจื้อที่นอนอยู่บนเตียง เขาจึงกระโดดขึ้นเตียงไปกัดริมฝีปากของเขาทันที

“พรุ่งนี้ตอนเช้าฉันต้องกลับกองทัพแล้วนะ มีอะไรอยากจะบอกฉันไหม” หลูจื้อเอ่ยถาม

การจากลากันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมาก แต่ก็ต้องเผชิญกับมันอยู่ดี

ชุยหังครุ่นคิดอยู่สักพักจึงเอ่ยบอก “ฉันอยากฟังนายร้องเพลงให้ฉันฟัง…”

“อะไรนะ ร้องเพลงเหรอ” หลูจื้อเอามือของเขามาวางบนหน้าผากของชุยหัง

“ฉันไม่ได้มีไข้สักหน่อย ก็แค่อยากได้ยินนายร้องเพลง” ชุยหังเอ่ยบอก

“เพลงอะไรล่ะ” หลูจื้อรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“เพลงดอกไม้สีเขียวในกองทัพ”

หลูจื้อเอ่ยถาม “ทำไมจู่ๆ ถึงอยากฟังเพลงนี้ขึ้นมาล่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็แค่อยากฟังขึ้นมา”

“ได้ ฉันจะร้องให้นายฟัง”

‘ใบไม้ปลิวไสวในลมหนาว กองทัพดอกไม้สีเขียว เหล่าสหายร่วมรบอันเป็นที่รักไม่ต้องคิดถึงบ้าน ไม่ต้องคิดถึงแม่…’

เมื่อชุยหังตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เขาก็ไม่เห็นหลูจื้อแล้ว

ครั้งนี้เขาน่าจะรีบออกไปซื้ออาหารเช้ามาไว้ให้ชุยหัง

ชุยหังขยี้ตาไปมาแล้วจึงส่งข้อความไปหาหลูจื้อ [ถึงหรือยัง]

[อืม ถึงแล้ว นายตื่นแล้วเหรอ]

[อืม ไม่มีนายอยู่ข้างๆ ก็เลยนอนไม่หลับ] หลูจื้อตอบกลับ

[ปากเล็กๆ นี้หวานจริงๆ เมื่อก่อนเป็นคนร้ายกาจ ตอนนี้เปลี่ยนไปได้ยังไงกัน]

ชุยหังหัวเราะ จากนั้นจึงตอบกลับ [ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเป็นใคร แล้วก็เรื่องอะไรนะ]

[เด็กดี งั้นคราวหลังก็ต้องดีกับฉันมากๆ แบบนี้นะ ฉันไปทำธุระก่อน ถ้านายไม่นอนแล้วก็ลุกขึ้นมากินอาหารเช้าเถอะ]

[อืม รู้แล้ว]

ชุยหังกอดหมอนที่หลูจื้อใช้เมื่อคืนอยู่บนเตียงและไม่อยากขยับไปไหนอีกแล้ว

แม้ว่าจะไม่อยากนอนแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรดี

หลังจากที่นอนอยู่บนเตียงจนถึงเที่ยง เขาจึงลุกขึ้นมาทำความสะอาดบ้านและไปกินข้าว

ไม่คาดคิดว่าบริษัทที่เขาเคยไปสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ได้โทรมาหาเขาในช่วงบ่ายบอกให้เขาไปอบรมในวันมะรืนได้เลย

หลังจากนั้นบริษัทก็ส่งข้อความมาให้เขาเพื่อเป็นใบยืนยันผ่านทางกับพนักงานหน้าประตู

เมื่อนึกถึงว่าตัวเองต้องไปทำงานแล้ว ชุยหังก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนที่ 311 การฝึกอบรม

ชุยหังบอกข่าวนี้กับหลูจื้อ แต่หลูจื้อกลับตอบข้อความกลับมาในช่วงตอนเย็น

แม้ว่าเส้นทางสายอาชีพจะไม่สามารถบอกอะไรเขาได้ เพียงแค่ให้ชุยหังตั้งใจฝึกอบรมให้ดี ส่วนเรื่องอื่นนั้นยังไม่ต้องนึกถึง มีคำพูดหนึ่งกล่าวไว้ว่า ถ้าคุณทำงานอย่างหนักแล้วก็ไม่ต้องทำมันอีก

ชุยหังไม่อยากถอดใจเมื่อต้องพบกับความลำบาก ดังนั้นเขาจึงตั้งใจทำมันให้ดี

ตอนเย็นเขาจัดเตรียมของของตัวเองไว้และดูว่าเขาจะใส่ชุดอะไรในวันรุ่งขึ้น

ไม่ต้องใส่ชุดเป็นทางการมากเกินไป เพราะตัวเองแค่ไปฝึกอบรมไม่ได้ไปทำงานอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่สามารถใส่ชุดสบายมากเกินไป เพราะเป็นสถานที่ทำงาน

ความวุ่นวายนี้เป็นปัญหาเดิมๆ ของชุยหังไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีปัญหาในการเลือกอะไรแบบนี้ แต่ความจริงนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ แต่บางครั้งเขากลับใช้เวลาคิดนานเกินไป

หลูจื้อไม่ได้กลับเข้ามาในตอนเย็น แต่ชุยหังก็ค่อยๆ ชินไปแล้ว

ในอนาคตจะต้องมีวันแบบนี้อีกหลายครั้ง

เพราะสุดท้ายแล้วหลูจื้อต้องมีภารกิจของตัวเองที่ต้องทำ เพียงแค่เขามีตัวเองอยู่ในใจและไม่ตั้งใจละเลยตัวเองก็พอแล้ว

เมื่อถึงวันพุธชุยหังก็ตื่นแต่เช้าอีกครั้ง หลังจากนั้นก็แต่งตัวและตรงไปที่บริษัทเหมือนกับครั้งที่แล้ว

หลังจากที่ผ่านคนเฝ้าประตูเข้ามาด้านใน เขาได้บอกกับชุยหังว่าครูฝึกอบรมอยู่ในห้องประชุม

หลังจากที่เขาเข้าไปในห้องประชุม เขาพบว่ามีคนอยู่มากมายในห้องนั้น

ห้องประชุมขนาดใหญ่ทั้งห้องเต็มไปด้วยคนมากมายในแต่ละแถว

แน่นอนว่ามีบางคนได้รับการแนะนำจากคนรู้จักและบางคนก็มาที่นี่ด้วยกัน ดังนั้นทุกคนจึงคุยกันอย่างคึกคักเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

แต่ชุยหังไม่รู้จักใครแม้แต่คนเดียว เขาจึงทำเพียงนั่งอยู่ในมุมของตัวเองและฟังสิ่งที่คนอื่นพูดคุยกัน

ทุกคนนั้นไม่แตกต่างกับเขา ไม่มีใครใส่ชุดยิ่งใหญ่อลังการมาแบบนั้น มีเพียงแต่ใส่ชุดที่เหมาะสมมาก็เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มมาแต่ก็ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่มากเกินไป

ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมในครั้งนี้มีมากกว่าหนึ่งร้อยคน นอกจากนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไปทำในส่วนของเบื้องหลังการถ่ายทำ คนส่วนใหญ่จะมีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการขาย

ตอนนี้ในบริษัทแบ่งออกเป็นหลายตลาด ซึ่งหนึ่งในนั้นตลาดเฮยหลงเจียงเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากมีตลาดกวางตุ้งอยู่ที่นั่น ผู้คนที่นั่นจึงให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ

สำหรับตลาดอื่นๆ เหมือนกับว่าที่จีเซียงเหอจะเป็นตลาดที่มีอำนาจใหม่และมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตลาดในยูนนาน กุ้ยโจว และเสฉวนเพิ่งเริ่มก่อตั้งและอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา

ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาแบ่งออกเป็นหลายประเภท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบตลาดไหนต้องดูคะแนนของพวกเขาหลังจากที่จบการฝึกอบรบแล้ว

ในที่สุดก็มีคนปรากฏตัวดึงดูดสายตาผู้คนอยู่บนเวที จากนั้นก็จับไมโครโฟนพูดกับทุกคนว่า “ขอให้ทุกคนทำให้ดี ก่อนอื่นขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่การปฐมนิเทศการฝึกอบรมของบริษัทเรา การฝึกอบรมในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นสมาชิกในบริษัทของเราแล้ว หลังจากนี้อีกสามวันจะมีการประเมินและแบ่งคนเข้าไปในแต่ละตลาด พวกคุณถึงจะได้รับค่าตอบแทนจากการฝึกอบรม จากนั้นก็จะเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในตลาดที่ได้รับมอบหมาย”

ดูเหมือนว่าบริษัทนี้จะมีความเป็นมืออาชีพเป็นอย่างมากและการสื่อสารระหว่างแผนกต่างๆ ก็ค่อนข้างดีมากเช่นเดียวกัน

“สามวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้พื้นฐานบางอย่างของบริษัท เนื่องจากพวกเราอยู่ในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและผลิตภัณฑ์ยาจีน เนื้อหาส่วนใหญ่จึงเป็นพื้นฐานของการแพทย์แผนจีนและรวมถึงอวัยวะภายในตันทั้งห้าและห้าสีห้าเสียงของร่างกายมนุษย์ รวมทั้งหยินและหยางในร่างกายด้วย”

บุคคลนั้นน่าจะเป็นครูฝึกอบรมของพวกเขา ความประทับใจของชุยหังที่มีต่อเขาคือความสุภาพเรียบร้อย แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในหนึ่งเดือนวิทยากรอย่างพวกเขาจะสามารถทำเงินได้มากมายเท่าไหร่

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

Status: Ongoing
ชุยหัง เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะเทคนิคการเดินเรือรอนแรมจากบ้านมาเรียนต่างเมืองเป็นครั้งแรก ทว่าเกือบถูกดักปล้นกลางทาง เคราะห์ดีที่มีคนผ่านทางมา แต่เขาคนนั้นกลับเมินเฉยไม่ยอมช่วยเสียอย่างนั้น ชุยหังจึงด่าพ่อล่อแม่ไปชุดใหญ่ กระนั้นโชคชะตาก็เล่นตลกให้ชุยหังได้พานพบกับ หลูจื้อ ชายที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยคราวก่อนอีกครั้งในฐานะครูฝึกทหารกับนักศึกษา จากเกลียดแรกพบจึงกลับกลายเป็นความใกล้ชิด ก่อตัวเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในใจของทั้งสองโดยไม่รู้ตัว แต่ความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งคือนายทหารอนาคตไกลที่มีแฟนสาวผู้เพียบพร้อมข้างกายอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว ผิดหวังจากความรักครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก ความรักที่ไม่ควรเกิดขึ้นท่ามกลางหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกผู้ชายนี้จะเก็บเป็นความลับต่อไปได้อีกนานแค่ไหน…  แสดงเพิ่มเติม

Comment

Options

not work with dark mode
Reset