[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ – ตอนที่ 164 ฉันทั้งเรียบร้อยทั้งสำรวม / ตอนที่ 165 ไม่ไว้หน้า

ตอนที่ 164 ฉันทั้งเรียบร้อยทั้งสำรวม  

 

 

ชุยหังพูดขึ้น “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจ อีกอย่างก่อนหน้านี้นายก็ไม่เคยพูดถึง นายเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นานไม่ใช่เหรอ เพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งประจำการใหม่อีก ฉันนึกว่านายต้องวนรอบกองไฟซะอีก”  

 

 

“ฉันวนรอบอะไรล่ะ ฉันอยากวนรอบตัวนายมากกว่า” หลูจื้อพูดไป  

 

 

“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ใช่วัตถุไวไฟ ฉันเป็นชนวนระเบิด” ชุยหังเอ่ยบ้าง  

 

 

“ใช่เหรอ ไหนลองระเบิดให้ดูหน่อยสิ” หลูจื้อเอ่ยต่อ  

 

 

“ไม่ได้ ระเบิดขึ้นมา สภาพน่าอนาถจนทนดูไม่ได้กันพอดี จะระเบิดส่งๆ ไม่ได้หรอก” ชุยหังพูดไป  

 

 

หลูจื้อเงียบงันไม่พูดจาสักพัก ก่อนจะเอ่ยว่า “ถึงแม้ช่วงนี้ฉันจะยุ่ง แต่ว่านายคงจะมีเวลาอยู่ใช่ไหม”  

 

 

“อีกไม่กี่วันฉันก็จะซ้อมเต้นเสร็จ หลังจากนั้นก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” ชุยหังเอ่ยถาม  

 

 

หลูจื้อเอ่ยต่อ “ไม่อะไรหรอก ถ้าฉันไม่เข้าไปหา นายก็จะมาไม่ได้ใช่ไหม”  

 

 

“ฉันเข้าไปไม่ได้ ฉันเข้าไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าหากว่าเข้าใกล้สถานที่สำคัญของพวกนายแล้วถูกยิงทิ้งขึ้นมาจะทำยังไง” ชุยหังบอกไป  

 

 

“ใครจะกล้าทำอะไรนาย นายไม่ต้องเป็นตัวแทนคนอื่นจัดการเขาเหรอ” หลูจื้อล้อเล่น  

 

 

ชุยหังคิดไม่ถึงว่ายังจำมุขนี้ได้อยู่อีก  

 

 

เขาว่า “นายนี่ใจแคบจริงๆ เรื่องตั้งนานขนาดนั้นยังจำได้อีก”  

 

 

หลูจื้อว่า “ต้องจำได้อยู่แล้ว ถ้าตอนนั้นไม่ได้พูดกับฉันขนาดนั้น ฉันก็จำนายไม่ได้จริงๆ หรอก”  

 

 

“งั้นฉันก็ควรจะขอบคุณตัวฉันเองแล้วที่ด่าออกไปแล้วได้สามีกลับมา” ชุยหังเอ่ย  

 

 

“เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ” หลูจื้อเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม  

 

 

เมื่อครู่นี้ชุยหังพลั้งปากพูดออกไป แต่จะให้เขามาตั้งใจเรียก เขาเรียกไม่ค่อยจะออกเท่าไหร่จริงๆ  

 

 

“พอแล้ว เดี๋ยวมีคนได้ยิน…” ชุยหังเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ  

 

 

“นายไปหาที่ที่ไม่มีคนไม่ได้เหรอ” หลูจื้อเอ่ย  

 

 

ชุยหังว่า “ฉันจะลงจากชั้นสี่ไปเพียงเพื่อรับโทรศัพท์ไม่ได้หรอกนะ”  

 

 

“นี่นายเถียงฉันอยู่ใช่ไหม” หลูจื้อเอ่ยถาม  

 

 

ชุยหังรีบพูดทันที “ไม่ใช่แน่นอน ประชาชนตาดำๆ ไม่กล้า”  

 

 

“นายไม่กล้าเหรอ นายไม่อยากต่างหาก ถ้านายอยาก ฟ้าก็ทำให้นายทะลุอุโมงค์ได้อยู่ดี”  

 

 

“การบรรยายของนายนี่เกินไปโคตรๆ เลย…ฉันออกจะเป็นคนเรียบร้อย…” ชุยหังเอ่ย  

 

 

หลูจื้อว่า “นายเรียบร้อย? นี่นายกำลังล้อฉันเล่นใช่หรือเปล่า”  

 

 

“จะล้อนายเล่นได้ยังไง แต่เดิมฉันเรียบร้อยมากนะ”  

 

 

“นายช่างมันเถอะ สองคำนี้ไม่เหมาะจะใช้กับนาย” หลูจื้อเอ่ย  

 

 

ชุยหังเอ่ยต่อ “ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่จริงๆ ควรจะใช้คำว่าสำรวมจะเหมาะสมกว่า”  

 

 

“นายนั่งเทียนเขียนเองอยู่ตรงนั้นใช่ไหม พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองเลย นายสำรวม นายสำรวมแต่จูบฉันได้” หลูจื้อว่า  

 

 

เพียงชั่วพริบตาเดียวชุยหังไปต่อไม่ถูกแล้ว ดูท่าว่าเรื่องที่ตัวเองเคยทำ เคยพูดเอาไว้ เขาจะยังจำได้ทั้งหมด  

 

 

“ความจำของนายมาใช้จำแต่เรื่องพวกนี้ใช่หรือเปล่า…” ชุยหังพูดไป  

 

 

หลูจื้อยิ้มหัวเราะพลางเอ่ยว่า “ก็แค่จำไปเรื่อยเปื่อย นี่เป็นเรื่องที่ฉันไม่เคยพบเจอมาก่อนทั้งนั้น ครั้งแรกในชีวิตก็ต้องจำได้อยู่แล้ว”  

 

 

ชุยหังเอ่ยต่อ “งั้นฉันควรจะรู้สึกเป็นเกียรติใช่หรือเปล่า”  

 

 

“อืม นั่นเป็นเกียรติมากทีเดียว” หลูจื้อพูดขึ้น  

 

 

“แต่ว่าเป็นเกียรติแล้ว ยังควรจะขอบคุณนายที่ให้โอกาสฉันเปลี่ยนแนวนายด้วยไหม” ชุยหังเอ่ยถาม  

 

 

“เปลี่ยนแนวหมายความว่าไง” หลูจือเอ่ยถาม  

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก ยังไงซะนายได้ยินก็โอเคแล้ว”  

 

 

“ไม่ได้ ถ้านายไม่บอกฉัน ฉันก็จะไปถามคนอื่นแล้ว” หลูจื้อเอ่ย  

 

 

ชุยหังสะดุ้งตกใจ รีบพูดขึ้นทันที “นายโง่หรือเปล่า เรื่องแบบนี้ถ้านายไปถามคนอื่น ได้ถูกคนเขาหัวเราะเยาะตายพอดี”  

 

 

“เป็นอย่างที่คิดไม่ใช่เรื่องดีอะไร รีบพูดมาสิ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น” หลูจื้อพูดต่อ  

 

 

ชุยหังครุ่นคิด แอบฟังดูว่าระเบียงทางเดินคงจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร หลังจากนั้นใช้มือกุมมือถือ เอ่ยเสียงเบาๆ “ก็คือเปลี่ยนแนวคนที่แต่เดิมไม่ชอบผู้ชาย แต่ตอนนี้ชอบผู้ชายแล้ว…”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 165 ไม่ไว้หน้า  

 

 

“ฉันไม่ชอบผู้ชาย ฉันชอบแค่นายคนเดียว” หลูจื้อเอ่ยบอก  

 

 

ชุยหังไม่ได้พูดอะไร มัวแต่ซึ้งอยู่  

 

 

ที่จริงแล้วผู้ชายแท้ๆ น่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด ถ้าถูกเปลี่ยนให้เป็นเกย์ก็ไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคน แต่ชอบแค่เฉพาะคนคนนั้น  

 

 

“ทำไมล่ะ ไม่พูดหน่อยเหรอ” หลูจื้อเอ่ยถาม  

 

 

ชุยหังเอ่ยตอบ “เมื่อกี้มัวแต่เช็ดน้ำตาอยู่”  

 

 

“เช็ดน้ำตาอะไร” หลูจื้อเอ่ยถาม  

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก นายทำฉันซึ้งจนร้องไห้” ชุยหังเอ่ยตอบ  

 

 

หลูจื้อยิ้มแล้วเอ่ยถาม “ทำไมซึ้งง่ายแบบนี้ล่ะ”  

 

 

“ฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันเป็นคนสำรวม ต้องซึ้งง่ายอยู่แล้ว” ชุยหังพูดไป  

 

 

“โอเค ถ้างั้นฉันจะแกล้งเป็นเชื่อก็แล้วกัน เอาล่ะ ฉันมีธุระ ไม่คุยกับนายแล้ว วันนี้นายก็นอนเร็วหน่อย”  

 

 

“อืม นายก็นอนเร็วบ้างนะ” ชุยหังพูดไป  

 

 

ทุกครั้งที่หลูจื้อโทรมา ชุยหังจะเสียดายที่ต้องจบบทสนทนาด้วย  

 

 

เขาไม่เคยโทรหาหลูจื้อก่อน เพราะไม่รู้ว่าหลูจื้อจะว่างตอนไหน  

 

 

ทุกครั้งที่หลูจื้อโทรหาเขา เขาจึงรักษาโอกาสนี้ไว้  

 

 

ดังนั้นเขาจึงชินแล้ว หากหลูจื้อโทรมา เขาจึงไม่เป็นฝ่ายวางสายก่อน  

 

 

สิทธินี้เขายกให้หลูจื้อ  

 

 

วันที่สองของการฝึกซ้อม คู่เต้นรำของชุยหังคนที่เป็นดาวคณะคนนั้นมาสายอีกแล้ว  

 

 

ครั้งนี้ชุยหังจะไม่เป็นเหมือนคนบื้อที่กอดอากาศฝึกซ้อมอีกแล้ว  

 

 

หัวหน้าฝ่ายหญิงเดินมาหยุดตรงหน้าเขา แล้วเอ่ยถามอย่างไม่มีทางเลือก “คู่เต้นนายไม่มาอีกแล้วเหรอ”  

 

 

” อืม ผมชินแล้วล่ะ” ชุยหังเอ่ยตอบ  

 

 

“ไม่ต้องไปรู้จักเขาหรอก เขาเป็นดาวคณะ อีกทั้งยังเคยเรียนเต้นรำมาก่อน เหมือนว่าคณะพวกเขายังให้ความสำคัญกับเขาเป็นพิเศษด้วยนะ”  

 

 

“คณะพวกเขาให้ความสำคัญ ถ้างั้นก็ให้คณะของเขาหาคู่เต้นรำไปสิ มาหาที่คณะขนส่งของพวกเราทำไมล่ะ” ชุยหังพูดไป  

 

 

หัวหน้าฝ่ายเอ่ยบอก “ที่สำคัญคือคณะพวกเรามีผู้หญิงไม่เยอะไม่ใช่หรอ ถึงแม้จะมีฝ่ายหญิง แต่นายลองดูว่าทั้งหมดมีผู้หญิงเเค่ไม่กี่คนเอง เทียบกันแล้วมีไม่ถึงสองห้องเลย”  

 

 

“ไม่เป็นไร เขาไม่รีบ ผมก็ไม่รีบเหมือนกัน ผมหน้าหนา ถ้าถึงเวลาแล้วเต้นไม่ดี ผมก็ไม่อายหรอก” ชุยหังเอ่ยตอบ  

 

 

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันนั้น ก็เห็นหัวหน้าฝ่ายหญิงมองมาทางด้านหลังของชุยหังครู่หนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวเดินกลับไป ชุยหังกำลังกลุ้มใจอยู่ เขาหันหัวกลับไปมองครู่หนึ่ง จึงเห็นว่าคู่เต้นดาวคณะของเขาคนนั้นมาถึงแล้ว  

 

 

คนแบบนี้ ชุยหังขี้เกียจที่จะทักทายเขา จึงทำเป็นมองไม่เห็น เมื่อคู่เต้นเดินมาถึงข้างๆ เขาจึงพูดกับหัวหน้าฝ่ายหญิง “รุ่นพี่ครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวกลับมาครับ”  

 

 

ดาวคณะคนนั้นถูกทิ้งไว้ตรงนั้น จึงรู้สึกประหม่านิดหน่อย ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอถูกคนอื่นทำแบบนี้ใส่  

 

 

ก่อนหน้านี้น่าจะชินกับการถูกผู้อื่นล้อมรอบ จู่ๆ เกิดเรื่องเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงต้องปรับตัว  

 

 

เธอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าสุดน้อยใจ  

 

 

“ทำไมล่ะ ทำไมถึงยืนอยู่ตรงนั้น” หัวหน้าฝ่ายหญิงคณะโลจิสติกส์เอ่ยถาม  

 

 

ดาวคณะพูดด้วยสีหน้าน้อยใจ “คู่เต้นของฉันไปห้องน้ำค่ะ”  

 

 

“จริงๆ เลย เพิ่งจะซ้อมแต่ไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งคนไว้ตรงนี้ จงใจหรือเปล่านะ” หัวหน้าเป็นเดือดเป็นร้อนแทน  

 

 

ดาวคณะยิ่งรู้สึกน้อยใจ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร  

 

 

หัวหน้าฝ่ายหญิงคณะขนส่งยืนมองอยู่ด้านข้าง แต่ไม่ได้พูดอะไร  

 

 

โลกนี้ก็เป็นแบบนี้ เด็กร้องไห้มักจะมีลูกอมให้เสมอ  

 

 

ไม่นานชุยหังก็กลับมา หัวหน้าโลจิสติก์คนนั้นเอ่ยแฝงความนัย “มีโอกาสแค่ครั้งนี้นะ รักษาโอกาสไว้ดีๆ ล่ะ โดยเฉพาะการเป็นคู่เต้นกับดาวคณะของพวกเรา ทำไมนายถึงเรื่องเยอะแบบนี้ล่ะ”  

 

 

ยังไม่ต้องรอให้หัวหน้าคณะขนส่งเป็นฝ่ายช่วยพูด ชุยหังก็พูดขึ้น “พวกคุณยังมาสายแต่กลับก่อนทุกวันได้ แล้วผมจะไปเข้าห้องน้ำบ้างไม่ได้เหรอ เดี๋ยวผมต้องฉี่รดมือเธอเหรอถึงจะถือว่าเป็นการรักษาโอกาส”  

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ชุยหัง เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะเทคนิคการเดินเรือรอนแรมจากบ้านมาเรียนต่างเมืองเป็นครั้งแรก ทว่าเกือบถูกดักปล้นกลางทาง เคราะห์ดีที่มีคนผ่านทางมา แต่เขาคนนั้นกลับเมินเฉยไม่ยอมช่วยเสียอย่างนั้น ชุยหังจึงด่าพ่อล่อแม่ไปชุดใหญ่ กระนั้นโชคชะตาก็เล่นตลกให้ชุยหังได้พานพบกับ หลูจื้อ ชายที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยคราวก่อนอีกครั้งในฐานะครูฝึกทหารกับนักศึกษา จากเกลียดแรกพบจึงกลับกลายเป็นความใกล้ชิด ก่อตัวเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในใจของทั้งสองโดยไม่รู้ตัว แต่ความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งคือนายทหารอนาคตไกลที่มีแฟนสาวผู้เพียบพร้อมข้างกายอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว ผิดหวังจากความรักครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก ความรักที่ไม่ควรเกิดขึ้นท่ามกลางหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกผู้ชายนี้จะเก็บเป็นความลับต่อไปได้อีกนานแค่ไหน…  แสดงเพิ่มเติม

Comment

Options

not work with dark mode
Reset