(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 46: อาบน้ำและเดินทาง

 

“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน พยายามได้ดีมาก”

 

“ข ขอบพระคุณค่ะ!”

 

เฮเลนากล่าวชมฟรองซัวส์ ที่แม้จะหอบหายใจแฮ่กแฮ่กแต่ก็ยังฝืนยืนอยู่ได้ ไม่ได้ล้มคว่ำไปเหมือนครั้งแรก

การกล่าวคำชมอย่างเหมาะสมเพื่อให้มีการพัฒนาก็สำคัญเหมือนกัน อย่างน้อยที่สุดความพยายามของฟรองซัวส์ที่ฝึกออกหมัดตรงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงเกือบเที่ยงเช่นนี้ก็ควรได้รับคำชม

สำหรับบุตรีขุนนางที่แทบไม่มีแรงกายเลย การออกกำลังแค่นี้ก็คงเหนื่อยมากแล้ว

 

“งั้นทานอาหารกลางวันก่อนแล้วกัน ทานเสร็จแล้วไปเจอกันที่ห้องของฟรองซัวส์ได้เลยใช่ไหม?”

 

“ค ค่ะ! แบบนั้นก็ได้ค่ะ!”

 

“ข้าเองก็อยากอาบน้ำก่อนด้วย อาจไปสายสักหน่อยนะ”

 

“ม ไม่เป็นไรค่ะ! ข้าเองก็จะอาบน้ำเหมือนกันค่ะ!”

 

“เข้าใจละ งั้นก็ไว้เจอกันนะ”

 

เฮเลนากล่าวกับฟรองซัวส์ก่อนจะกลับไปที่ห้อง

แม้จะไม่รู้ว่าในงานเลี้ยงน้ำชาควรจะคุยกันเรื่องอะไรดี แต่ยังไงนี่ก็เป็นแค่การสนทนากับฟรองซัวส์และสหาย เธอคงไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก เทียบกับงานเลี้ยงน้ำชาของ “สนมฟ้าดารา” มาริเอลแล้ว น่าจะร่วมวงได้อย่างสบายใจกว่าเยอะ

เฮเลนานั่งลงที่โซฟาและดื่มชาที่อเลกเซียชงให้ก่อนเป็นอันดับแรก

เพราะเธอเน้นฝึกสอนฟรองซัวส์อยู่ ตัวเธอเองเลยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด

 

“ท่านเฮเลนา เช่นนั้นแล้วข้าจะไปนำอาหารกลางวันมานะคะ”

 

“……ไม่”

 

“คะ?”

 

“โทษทีนะ อเลกเซีย แต่ช่วยมากดหน่อย”

 

การที่ไม่มีความเหนื่อยล้าเลยสักนิดแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกขัด ๆ แทน

อย่างน้อยหากไม่ได้เรียกเหงื่อเสียหน่อยก็คงทานอาหารกลางวันอันเย็นชืดได้ไม่อร่อยแน่

ดังนั้นเฮเลนาจึงนอนลงบนพื้นห้อง แล้วก็ออกแรงยกขาขึ้นมา

อยู่ในท่าที่ทรงตัวด้วยบ่าคล้ายกับกำลังยืนกลับหัว

 

“……”

 

“เป็นอะไรไป อเลกเซีย รีบมากดสิ”

 

“…………ค่ะ”

 

อเลกเซียอ้อมไปยืนทางด้านเดียวกับศีรษะของเฮเลนา แล้วออกแรงดันขาที่ยกขึ้นมาของเฮเลนาอย่างสุดแรง

ในขณะเดียวกัน เฮเลนาก็สัมผัสได้ว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องกำลังได้รับภาระอย่างหนักหน่วง แต่เธอก็ทนต่อภาระนั้นโดยไม่ยอมให้ก้นแตะพื้นโดยเด็ดขาด ใช้เพียงแรงจากกล้ามเนื้อหน้าท้องยกขาขึ้นไป

ดราก้อนแฟล็ก คือชื่อของท่าฝึกฝนนี้ มันเป็นท่าที่สร้างภาระอันหนักหน่วงเหนือธรรมดาให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง ดังนั้นจึงสามารถใช้เพื่อฝึกฝนจนเฮเลนาพึงพอใจได้ในระยะเวลาสั้น ๆ

 

อเลกเซียส่งสายตาเย็นชาราวกับตายไปแล้ว ดันขาของเฮเลนาที่ยกกลับขึ้นมาเหมือนเครื่องจักรที่ทำงานซ้ำ ๆ

ฝ่ายเฮเลนาก็ออกแรงที่กล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างมุ่งมั่นพลางรู้สึกดีไปกับความเจ็บปวดทรมานนั้น โดยไม่ได้รู้ตัวถึงท่าทีของอเลกเซียเลย

เมื่อจำนวนพ้นห้าสิบครั้งไปได้เล็กน้อย เฮเลนาก็เอาก้นแตะพื้นในที่สุด

 

“เฮ้อ”

 

“ยากลำบากหน่อยนะคะท่านเฮเลนา ข้าไปเอาอาหารกลางวันได้หรือยังคะ”

 

“อา ได้สิ นับว่าเป็นการฝึกก่อนอาหารกลางวันที่กำลังพอดีเลย”

 

เฮเลนาใช้มือปาดเหงื่อกำลังดีผุดขึ้นบนหน้าผากอย่างลวก ๆ ก่อนจะลุกขึ้น

สัมผัสเหนื่อยล้าที่กำลังเหมาะยังหลงเหลืออยู่ในกล้ามเนื้อหน้าท้อง นำไปสู่ความรู้สึกภาคภูมิใจว่าวันนี้ได้ฝึกฝนไปอย่างเหลือเฟือแล้ว ดังนั้นเฮเลนาจึงนั่งลงบนโซฟาอย่างพอใจ

ไม่นานนักอเลกเซียก็กลับมาพร้อมอาหารกลางวันอันเย็นชืด ซึ่งเธอก็ได้ทานจนหมด

 

“ท่านเฮเลนา จะอาบน้ำไหมคะ”

 

“……นั่นสินะ”

 

เธอเข้าวังหลังมาได้สิบวันแล้ว

แม้จะเริ่มชินกับหลาย ๆ เรื่องแล้ว แต่ก็มีการอาบน้ำนี่แหละที่ยังไม่ชินซะที

เพราะเป็นอเลกเซียที่รู้จักกันอยู่บ้างก็เลยพอทนได้ หากเป็นนางกำลัลคนอื่นล่ะก็เธอคงเขินตายแน่

 

แม้กระนั้น ผู้ที่เป็นคนนำน้ำร้อนมาก็คืออเลกเซีย และเธอก็ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ในเรื่องการอาบน้ำเลย

ดังนั้นวันนี้เฮเลนาก็ได้แต่ยอมปล่อยให้อเลกเซียจัดการเหมือนเดิม

 

เฮเลนาถอดเสื้อผ้าออกและเข้าไปยังที่อาบน้ำ

อเลกเซียถือน้ำร้อนตามเข้ามาเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา จากนั้นก็เริ่มล้างเนื้อล้างตัวให้กับเฮเลนา แม้จะปล่อยให้อเลกเซียทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วเธอก็ยังไม่ชินอยู่ดี

 

“มีร่างกายที่งดงามเหมือนเดิมเลยนะคะ”

 

“ชมไปก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ”

 

“น่าเสียดาย แต่ก็เป็นร่างกายที่ต้องเติมคำต่อท้ายจากงดงามไปว่า ‘เหมือนรูปสลัก’ ด้วยค่ะ”

 

“……นั่นกำลังชมอยู่ใช่ไหม?”

 

“แน่นอนสิคะ อย่างกล้ามบนหลังนี่ มันขึ้นมากี่ลูกกันคะเนี่ย ส่วนกล้ามเนื้อหน้าท้องก็แยกเป็นหกลูกอย่างหมดจดเลย ไขมันส่วนเกินก็มีแค่บริเวณหน้าอกที่เดียวเลยไม่ใช่หรือไงคะ?”

 

“ก็ฝึกฝนอยู่เสมอนี่นา……แต่ถ้าแขนบางลงกว่านี้หน่อยก็คงดีนะ”

 

“มันไม่มีทางบางลงได้ในวันเดียวคืนเดียวหรอกมั้งคะ เวลาที่ฝ่าบาทเสด็จมาเยือนท่านก็สวมคาร์ดิแกนคลุมไว้เป็นอย่างไรคะ?”

 

“ฮืม……”

 

ฟาร์มาสได้บอกว่าแขนของเฮเลนาอ้วนหนา

ดังนั้นก็ควรซ่อนท่อนแขนอันน่าเกลียดนี้ไว้ดีกว่า หากคิดแบบนั้นแล้วข้อเสนอของอเลกเซียก็ฟังดูไม่เลว

ว่าแต่ว่าเธอมีคาร์ดิแกนอยู่หรือเปล่านะ เฮเลนานึกย้อนถึงสัมภาระของตัวเองเล็กน้อย

 

‘ซ่า’ น้ำอุ่น ๆ ถูกราดลงบนร่างของเฮเลนา

ดูเหมือนจะขัดถูร่างกายเสร็จซะที ความจริงแล้วจะมีการสระผมด้วย แต่หากสระแล้วกว่ามันจะแห้งก็ต้องเสียเวลา ดังนั้นคราวนี้จึงหยุดไว้แค่ชำระล้างร่างกายที่เหงื่อออกกำลังดีเท่านั้น

การสระผมนั้นไว้ทำหลังจากอาหารเย็นดีกว่า

 

“ต้องการแต่งกายอย่างไรคะ ท่านเฮเลนา”

 

“เจ้าเลือกเลย อะไรก็ได้ขอแค่มันไม่หรูหราเกินไปน่ะ”

 

“รับทราบค่ะ”

 

ชุดที่อเลกเซียนำมาให้คือชุดเดรสสีฟ้า

สีไม่ฉูดฉาดเกินไป เป็นหนึ่งในชุดที่เฮเลนาชอบ แม้หลังมันจะเปิดทำให้รู้สึกเย็นผิวเล็กน้อย แต่การที่โดยรวมแล้วมันดูจืดชืดและสวมใส่ได้ง่าย ก็เข้ากับรสนิยมของเฮเลนาที่ชอบอะไรที่มันใช้งานได้จริงพอดี

เธอสอดแขนสวมใส่มัน แล้วเท่านี้ก็เป็นอันจบ

 

“งั้นก็ไปกันเลยแล้วกัน”

 

“จะไปแล้วหรือคะ?”

 

“เจ้าภาพงานเลี้ยงน้ำชาคือฟรองซัวส์ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีเพื่อไม่ให้ถูกดูแคลนเหมือนตอนคุณหนูมาริเอลหรอก”

 

“อ่า……ก็จริงนะคะ เช่นนั้นข้าจะบอกทางให้ค่ะ”

 

พวกเธอออกจากห้อง ไปสู่โถงทางเดิน

แน่นอนว่าเฮเลนาต้องเดินนำหน้าและอเลกเดินเซียตามหลัง

ทันใดนั้น ก็มีใบหน้าที่คุ้นเคยเดินสวนมาทางด้านหน้าพอดี

 

มาริเอล รีเวียร์นั่นเอง

 

“อ้าว……สวัสดีค่ะ ท่านพิ……พระสนมฟ้าสุริยา”

 

“สวัสดี พระสนมฟ้าดารา”

 

‘ท่านพิ?’ แม้จะรู้สึกตงิดใจเบา ๆ แต่ไม่ถามมากดีกว่า

คราวนี้มาริเอลไม่ได้พาลิ่วล้อมาด้วย มีแค่สาวใช้ติดตามมาคนหนึ่งเท่านั้น และสาวใช้คนดังกล่าวก็กำลังถือม้วนกระดาษจำนวนค่อนข้างมากอยู่

ส่วนมาริเอลก็กำลังยิ้มเบิกบาน เหมือนกับกำลังอารมณ์ดีอยู่มากเลยทีเดียว

 

“ดูอารมณ์ดีจังนะคะ พระสนมฟ้าดารา”

 

“ใช่ค่ะ ได้ของดีมาก ๆ มาน่ะค่ะ”

 

“ดีจังเลยนะ ใบชาใหม่หรือคะ?”

 

“เปล่า ไม่ใช่ค่ะ……แต่ถ้าพูดถึงใบชาแล้ว ดิฉันเพิ่งได้รับใบชาหายากจากคอลกันดามาเมื่อวันก่อนค่ะ จริงสิ คราวหน้าพระสนมฟ้าสุริยาก็มาร่วมงานเลี้ยงน้ำชาด้วยกันเป็นอย่างไรคะ? เอาเป็นวันที่พระสนมฟ้าสุริยาสะดวกก็ได้ค่ะ”

 

“หืม”

 

คำเชิญไปงานเลี้ยงน้ำชาอย่างไม่คาดคิดทำให้เฮเลนาหน้าเบ้ไปเล็กน้อย วันก่อนอุตส่าห์ข่มขู่ไปตั้งขนาดนั้นแท้ ๆ

แม้จะอดสงสัยไม่ได้ว่าเธออาจวางแผนอะไรอยู่ แต่อย่างเฮเลนาก็ไม่มีทางรู้ได้อยู่ดีว่าแผนการที่ว่ามันคืออะไร

งั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรมากก็แล้วกัน สมองอันน่าเสียดายวันนี้ก็ไม่ทำงานเหมือนเคย

 

“เอาเถอะ ได้สิคะ ในเมื่ออุตส่าห์เชิญก็จะไปค่ะ”

 

“แหม! งั้นจะเตรียมการไว้ในเร็ว ๆ นี้นะคะ!”

 

“อ อ่า จะตั้งตารอค่ะ”

 

“เช่นนั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ เพราะเดี๋ยวจะต้องไปอ่านส่วนของครึ่งปีแน่ะ”

 

“ส่วนของครึ่งปี?”

 

“เปล่าค่ะไม่มีอะไร เอาล่ะ ไว้จัดงานเลี้ยงน้ำชาคราวหน้าดิฉันจะส่งคำเชิญไปนะคะ”

 

“ได้ค่ะ รับทราบแล้ว”

 

‘ควับ’ มาริเอลคำนับเบา ๆ หนึ่งทีก่อนจะเดินตัดผ่านด้านข้างไป

กิริยาท่าทางนั้นลื่นไหล มองไม่เห็นถึงความหวาดกลัวที่มีต่อเฮเลนาเลย แม้จะชวนให้รู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันนะ แต่มัวคิดไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

จากนั้นเฮเลนาก็เดินไปพร้อมกับอเลกเซีย มุ่งไปยังห้องของฟรองซัวส์ทั้งแบบนั้น

การที่ห้องของเธอมันอยู่ไม่ไกลจากห้องของเฮเลนา คงเป็นเพราะฟรองซัวส์เองก็เป็นหนึ่งใน ‘เก้าสนมเอก’ ตำแหน่ง ‘ผู้มีความสามารถ’ กระมัง

 

เฮเลนาเคาะประตู

 

“ค่า ค่า— เข้ามาได้เลย—”

 

เสียงที่ไม่ใช่ฟรองซัวส์ดังออกมาจากด้านใน

เฮเลนาส่งสายตาให้อเลกเซีย แต่เธอก็พยักหน้ากลับมา ดูเหมือนที่นี่จะเป็นห้องของฟรองซัวส์ไม่ผิดแน่

เธอทำใจแล้วก็เปิดประตูเข้าไป

 

“ค่า ใครหรือคะ—……กึ๋ย!? พระสนมฟ้าสุริยา!?”

 

 

บุตรีขุนนางคนเดียวที่อยู่ในห้องนั้น

 

ได้ตะโกนออกมาเช่นนั้นอย่างตกใจสุดขีด

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset