(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 50: ศิษย์คนใหม่กับการฝึกฝน

 

“ถ้าให้บอกตามตรง ดิฉันก็ได้ยินมาจากนางกำนัลค่ะว่าพระสนมฟ้าสุริยากำลังฝึกฝนวิชาป้องกันตัวให้กับท่านฟรองซัวส์อยู่ พอลองถามโดยละเอียดก็ได้ยินว่าจะฝึกฝนอบรบทุกท่านในกองกำลังอัศวินหมาป่าเงินด้วย ดิฉันเองก็รู้สึกว่าหลังจากเข้าวังหลังมาออกกำลังกายไม่ค่อยพอเหมือนกัน ดังนั้นจึงอยากให้โอกาสนี้เพื่อขยับร่างกายหน่อยน่ะค่ะ”

 

“อืม”

 

หลังจากตกใจที่มาริเอลมาอยู่ที่นี่แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้วลองถามหาคำอธิบายดู ก็มีถ้อยคำที่กล่าวออกมาอย่างลื่นไหลแบบนั้นตอบกลับมา

ถ้อยคำของมาริเอลที่กำลังหัวเราะ ‘อุฮุฮุ’ เฮเลนาก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องโกหก อันที่จริง แม้การที่มาริเอลมาอยู่ที่นี่มันจะไร้เหตุผลสุด ๆ แต่หากมาริเอลจะมาเข้าร่วมการฝึกฝนมันก็ไม่ได้มีข้อเสียอะไร ในทางกลับกัน การมีพรรคพวกที่ทุ่มเทฝึกฝนร่วมไปฟรองซัวส์และคลาริสซา น่าจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันอย่างตั้งใจได้

ดังนั้น เธอจึงไม่มีข้อโต้แย้งอะไรเป็นพิเศษกับการที่มาริเอลจะมาเข้าร่วม

 

“หากเป็นเช่นนั้นข้าก็ไม่ถือสาค่ะ พระสนมฟ้าดารา”

 

“ขอบพระคุณค่ะ พระสนมฟ้าสุริยา”

 

“งั้นก็……อะแฮ่ม ขอเรียกว่าคุณหนูมาริเอลก็แล้วกันนะ เมื่อมาอยู่ที่นี่ก็คงนับว่าเป็นศิษย์ของข้าได้กระมัง ดังนั้นแม้ทั้งสองคนที่อยู่ข้าง ๆ จะมีฐานะจุดยืนที่ต่ำกว่าคุณหนูมาริเอล แต่ในเมื่อทั้งหมดคือศิษย์ของข้า ก็จะขอปฏิบัติต่อทุกคนอย่างทัดเทียมกันทั้งหมด”

 

“รับทราบแล้วค่ะ สำหรับดิฉันเอง พวกเธอก็เป็นผู้มีความมุ่งหมายเดียวกัน ฐานะจุดยืนย่อมไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ค่ะ”

 

“เช่นนั้นก็ดีมาก เจ้าจะเรียกข้าว่าเฮเลนาก็ได้นะ”

 

ในเมื่อเป็นศิษย์ของตนแล้ว จะให้เรียกด้วยฐานะ “สนมฟ้าสุริยา” ตามปกติก็มีแต่ลำบากใจ ดังนั้นเธอจึงบอกไปแบบนั้น

ทว่ามาริเอลกลับกล่าวขึ้นด้วยแก้มขึ้นสีราวกับมีไข้

 

“งั้น……เอ่อ ขอเรียกว่า ท่านพี่หญิง จะได้ไหมคะ……?”

 

“……ท่านพี่หญิง รึ?”

 

“ค ค่ะ เอ่อ……ดิฉันไม่มีพี่สาวน้องสาวเลย จึงคิดว่า ‘ถ้ามีพี่สาวก็คงจะรู้สึกแบบนี้หรือเปล่านะ’ น่ะค่ะ”

 

“ฮืม”

 

ก็จริงที่เฮเลนามีน้องสาวอยู่สองคน แต่อัลเบราก็เรียกเธอว่า “ท่านพี่” ส่วนลิลิธก็เรียกว่า “พี่สาว” ดังนั้นเลยไม่ชินกับการถูกเรียกว่า ท่านพี่หญิง สักเท่าไหร่

ทว่าก็ไม่ถึงกับไม่เข้าใจความรู้สึกหรอกนะ อีกอย่าง ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ก็มีอัศวินหญิงในกองกำลังอัศวินหมาป่าเงินหลายคนที่ชอบเรียกเฮเลนาว่าท่านพี่หญิงอยู่แล้ว มาปฏิเสธเอาป่านนี้ก็ดูจะสายเกินไปหน่อย

 

“ถ้าแค่นั้นข้าก็ไม่ถือสานะ”

 

“ขอบพระคุณค่ะ! ท่านพี่หญิง!”

 

ไม่รู้ทำไมคำพูดขอบคุณมันฟังดูร้อนแรงจัง

การได้เรียกเฮเลนาว่าท่านพี่หญิงมันทำให้มาริเอลซาบซึ้งใจถึงขนาดนั้นเลยรึ ไม่รู้เหมือนกันว่ามาที่นี่ด้วยเป้าหมายอะไรกันแน่

ทว่า ในเมื่อมายืนเคียงกับฟรองซัวส์และคลาริสซาเช่นนี้ มาริเอลเองก็ถือเป็นศิษย์เช่นเดียวกัน

 

“เอาล่ะ เริ่มจากคุณหนูคลาริสซา คุณหนูมาริเอล”

 

“ค ค่ะ”

 

“ค่ะ ท่านพี่หญิง!”

 

“จะขอตรวจสอบอย่างง่าย ๆ ก่อนว่าสามารถเคลื่อนไหวได้แค่ไหน ทั้งสองคน ช่วยเอามือแตะพื้นแล้วลองวิดพื้นดูซิ”

 

ต้องตรวจสอบก่อนว่าสองคนนี้มีความสามารถทางกีฬาขนาดไหน เหมือนที่เคยให้ฟรองซัวส์ทำ หากมีใครที่แตกต่างจากคนอื่นมาก ๆ ก็คงต้องเปลี่ยนเมนูการฝึก

ทว่า—

 

“ฟุฮี้……”

 

“ขุ……!”

 

คลาริสซาไม่สามารถวิดพื้นได้แม้แต่ครั้งเดียวแล้วก็ล้มแหมะลงไปบนพื้นทั้งแบบนั้น

ส่วนมาริเอล แม้จะสามารถยกตัวขึ้นมาได้ครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถทำต่อได้และล้มไปเหมือนกัน

ดูเหมือนบุตรีขุนนางจะไร้เรี่ยวแรงกันเกินไปจริง ๆ มาริเอลที่ทำได้แค่หนึ่งครั้งก็นับว่าน่าชื่นชมแล้ว

 

“พอแล้ว ทั้งสองคนลุกขึ้นมาซะ”

 

“ค ค่ะ”

 

“ค่ะ ท่านพี่หญิง!”

 

“ต่อไปก็ซิตอัป ให้ทั้งสองคนนอนหงายแล้วพยายามยกร่างกายส่วนบนขึ้นมา ฟรองซัวส์ เจ้าช่วยไปกดขาของคลาริสซาเอาไว้ที”

 

“ค่ะ!”

 

เมื่อทั้งสองคนนอนหงายแล้ว เฮเลนาก็เข้าไปกดขาของมาริเอล ส่วนฟรองซัวส์ก็กดขาของคลาริสซา

จากนั้นก็แค่ต้องยกตัวขึ้นมาทั้งแบบนั้นด้วยแรงจากกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างเดียวล่ะนะ

 

“ฮุกี้—!!”

 

“คลาริสซา! พยายามเข้า!”

 

“ฮึ้นนนนน!!”

 

“ไม่เป็นไร! ไหวสิ! คลาริสซา!”

 

“ฮึดดดดดดดด!!”

 

“สู้เขา! สู้เขา! ทำได้! ทำได้! ทำได้แน่นอน! สู้เขา! ยังไหวอยู่! ยังไหว! ใจทำได้เราทำได้! สู้เขา! สู้เขา! นั่นแหละ! อย่ยอมแพ้นะ! สู้เขา! มองโลกในแง่ดีเข้าไว้! คิดบวกเข้าไว้! สู้เขา! สู้เขา!”

 

“หนวกหูน่าฟรอง!”

 

คลาริสซาผู้ไม่สามารถยกตัวขึ้นมาได้แม้แต่ครั้งเดียวได้ตะโกนเช่นนั้นใส่ฟรองซัวส์ผู้ให้กำลังใจอย่างร้อนแรง เหมือนเห็นภาพทัพซ้อนกับใครบางคน แต่คงคิดไปเองล่ะมั้ง

จากผลลัพธ์แล้วก็มองได้ว่าความสามารถทางกายของคลาริสซาแทบไม่ต่างจากฟรองซัวส์เลย หมายความว่าทั้งสองคนน่าจะสามารถเป็นคู่แข่งที่ร่วมฝึกฝนเรียนรู้ไปด้วยกันได้

หากมีสองคนที่อยู่ในระดับเดียวกันและยิ่งเป็นสหายกันด้วย มันจะช่วยเพิ่มความรู้สึกแข่งขัน ดังนั้นก็จะสามารถพัฒนาได้รวดเร็วนั่นเอง

และพอมาถึงคราวของมาริเอลที่เฮเลนากำลังกดขาอยู่

 

“……คุณหนูมาริเอล?”

 

“ค ค่ะ!”

 

“เอ่อ ข้ากำลังกดขาให้อยู่น่ะ เลยอยากจะให้ช่วยยกตัวขึ้นมาซะที”

 

“ข ขออภัยค่ะ!”

 

“อ่า ไม่เป็นไรหรอก เอ้า แสดงพลังกล้ามเนื้อหน้าท้องให้ดูทีซิ”

 

“อึ ก ก ก!”

 

ผลสุดท้าย มาริเอลก็สามารถซิตอัปได้สองครั้ง

เทียบกับฟรองซัวส์และคลาริสซาแล้ว ดูเหมือนมาริเอลจะมีความสามารถทางกายสูงกว่าเล็กน้อย ถึงกระนั้นมันก็เป็นความแตกต่างเล็กน้อยขนาดที่แม้จะถือว่าเท่ากันทั้งหมดในเบื้องต้นก็ไม่มีปัญหา

เมื่อมาริเอลวิดพื้นจบแล้ว เฮเลนาก็เห็นว่าเธอกำลังก็ลูบข้อเท้าที่เฮเลนากดไว้อยู่เมื่อกี้ เฮเลนาคิดว่าตัวเองไม่ได้กดแรงอะไรขนาดนั้น แต่มันทำให้มาริเอลเจ็บหรือไงนะ

 

“ฮืม……ก่อนอื่นก็ ฟรองซัวส์”

 

“ค่ะ!”

 

“ฝึกออกหมัดตรงเหมือนกับเมื่อวานนะ ทำด้านซ้ายด้านขวาสลับกันไปมา”

 

“ค่ะ!”

 

“ทั้งสองคนก็เริ่มจากฝึกออกหมัดตรงเหมือนฟรองซัวส์ด้วย อันดับแรกดูข้าก่อน”

 

เฮเลนาไปยืนตรงหน้าของมาริเอลกับคลาริสซา โดยอยู่ในท่ายืนตรง

จากนั้นก็ขยับตัวเป็นกึ่งหันข้างและง้างหมัดไว้ตรงเอว จากนั้นก็บิดเอวแทงหมัดออกไปด้านหน้าอย่างสุดแรง ความเร็วมากพอจะเกิดเสียง ‘ฟิ้ว’ จากแรงกดอากาศ หมัดตรงของเฮเลนาทิ่มแทงไปในความว่างเปล่า

เมื่อจบก็กลับมายืนตรง จากนั้นก็กึ่งหันข้างในด้านตรงข้าม และออกหมัดตรงด้วยมืออีกข้าง

เมื่อแสดงให้ดูถึงตรงนั้น เธอก็ได้หันกลับมามองทั้งสองคน

 

“เอาล่ะ ทำแบบนี้ซ้ำไปมา ซ้ายขวาสลับกันนะ แล้วก็แทรกการยืนตรงไว้ระหว่างการออกหมัดแต่ละครั้งเสมอ”

 

“ค ค่ะ”

 

“ค่ะ ท่านพี่หญิง!”

 

“เอ้า ลองทำดู หากท่ายืนมีปัญหาข้าจะช่วยชี้แนะปรับปรุงให้”

 

ฟรองซัวส์ คลาริสซา มาริเอล ยืนเรียงกันและเริ่มฝึกออกหมัดตรง

ฟรองซัวส์เคยทำมาเกือบทั้งวันแล้วเมื่อวาน ดังนั้นจึงสามารถออกหมัดได้อย่างมีสมดุลโดยรวม ในทางกลับกันคลาริสซานั้นยังเสียสมดุลร่างกายได้ง่าย บ่อยครั้งที่ปล่อยหมัดออกมาแล้วเสียหลักจนเกือบล้ม

ในด้านของมาริเอล เธอทำได้ค่อนข้างดี สามารถรักษาท่าทางให้เป็นระเบียบได้ตลอด แต่ในทางกลับกันก็พยายามรักษาท่าทางมากเกินไปจนดูเหมือนไม่ได้ค่อยใส่แรงเท่าไหร่

 

เฮเลนาคอยชี้แนะแก้ไขปัญหาของพวกเธอไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็มีการสัมผัสร่างกายไปด้วยในขณะที่สั่งสอน

 

“คุณหนูมาริเอล ตอนที่แทงหมัดออกมาต้องให้มันตรงแบบนี้นะ แล้วก็บิดเอวให้ดีด้วย ส่วนรักแร้ก็บีบเอาไว้ให้แน่น……”

 

“……อั๊งฮ์”

 

“……เป็นอะไรไป?”

 

“ป เปล่าค่ะ! ไม่มีอะไรทั้งนั้นค่ะ ท่านพี่หญิง!”

 

เฮเลนาเอียงศีรษะให้กับพฤติกรรมอันน่าฉงนของมาริเอล ทว่าโดยรวมแล้วการฝึกก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นดี

เทียบกับตอนเริ่มต้นแล้วมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเยอะ วันนี้ให้ฝึกแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็น่าจะดี แต่คลาริสซานั้นเริ่มจะหอบจนไหล่โยกแล้ว น่าจะต้องแทรกช่วงพักเหนื่อยเข้าไปสักหน่อยดีกว่า

ระหว่างที่คิดเช่นนั้นอยู่—ทันใดนั้นเอง

 

“พระสนมฟ้าสุริยาคะ!”

 

มีร่างของบุคคลหนึ่งที่กล่าวเสียงดังและเข้ามาในสวนระหว่างอาคารอย่างกะทันหัน

เธอคือผู้จัดการดูแลวังหลัง หัวหน้านางกำลังอิซาเบลนั่นเอง อิซาเบลที่ปกติแล้วเยือกเย็นอยู่เสมอ คราวนี้กลับหน้าเปลี่ยนสีพลางวิ่งเข้ามาหาเฮเลนา นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เฮเลนาเห็นอิซาเบลวิ่งเลยก็ได้

 

“……มีอะไรรึ อิซาเบล”

 

“มีธุระด่วนจี๋เลยค่ะ! โปรดกลับไปที่ห้องด้วยค่ะ!”

 

“มันอะไรกันน่ะ ตอนนี้ข้ากำลังฝึกอบรบ……”

 

“มีแขกมาหาค่ะ! ได้โปรดรีบด้วยค่ะ!”

 

เฮเลนาอดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวดเมื่อเห็นอิซาเบลร้อนรน คนที่ทำให้อิซาเบลร้อนรนขนาดนี้ได้เนี่ยต้องเป็นใครกันนะ

‘ให้ตายสิ’ เฮเลนารู้สึกเอือมเล็กน้อย ก่อนหันไปมองโถงทางเดินซึ่งติดกับสวนระหว่างอาคารอย่างไม่ตั้งใจ

 

ที่ตรงนั้น มีสตรีผู้หนึ่งกำลังมองมาที่เธออย่างสงสัยใคร่รู้

สตรีดังกล่าวแม้จะอยู่ในชุดเดรสที่สวยงามแต่ก็ไม่ได้ดูหรูหราฟู่ฟ่าจนเกินไป ผมสีดำเงางามถูกปล่อยไปทางด้านหลัง ให้ความรู้สึกว่าเป็นคนที่สงบเยือกเย็น ดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าเฮเลนาเล็กน้อย และความสูงศักดิ์มันแผ่ล้นออกมาขนาดที่อยู่ห่างไกลยังรู้สึกได้

ซึ่งร่างนั้น ก็เป็นร่างที่เฮเลนาเคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน

 

“อ๊ะ……!”

 

นั่นคือ สตรีผู้น่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศนี้

ภรรยาของดีลผู้เป็นจักรพรรดิองค์ก่อน และมารดาของฟาร์มาสผู้เป็นจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน

 

พระพันปี—ลูเครเซีย ไฮน์ริช อัลแบร์ตินา กันเกรฟ

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset