[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร – ตอนที่ 145

 「….ก็ สำหรับตัวที่มีสัญชาติสัตว์ป่าแล้ว การตอบสนองยังถือว่าช้าอยู่ล่ะนะ」

 

 ผมสะบัดเพื่อสลัดเลือดที่ติดอยู่ที่ดาบออก ก่อนจะเสียบกลับเข้าไปในฝัก

 ถอนหายใจแล้วนั่งลงบนก้อนหินใกล้ ๆ

 

 ผมหันไปมองศพของมอนสเตอร์ที่ผมเพิ่งจะฆ่าทิ้งไป…..กัลแพนเธอร์

 เจ้านี่มีสกิล [สัญชาตญาณสัตว์ป่า] ไม่ผิดแน่

 

 ผมอยากลองดาบใหม่ที่ได้มาไม่นาน ดาบที่มีชื่อว่าเจ้าหญิงกระหายเลือด……แต่ท่าทางมอนสเตอร์ระดับต่ำคงจะไม่มีค่าพอให้ทดลองใช้

 จะยืดการต่อสู้ให้นานกว่านี้ก็ได้ แต่นั่งดูมอนสเตอร์ทรมานมันน่าเบื่อจะตาย

 

 ให้ตายสิ ทำไมตัวผมต้องมานั่งรออยู่กลางทะเลทรายกันนะ?

 ไม่สิ ผมสมัครใจมาเองต่างหาก

 

 ข่าวลือที่ว่ามีมังกรแห่งโรคภัยปรากฏตัวขึ้นใกล้ ๆ ก็คงเป็นเรื่องงมงายทั้งเพ

 อย่างก็คงเป็นแค่มังกรดำระดับ C ไม่ก็กิ้งก่าตัวโตแค่นั้นเอง

 แต่ประเด็นอยู่ที่อดีตหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟต่างหาก ผมต้องหาทางดึงตัวเขาออกมาให้ได้

 

 ตอนผมไปขอบาทหลวง กลับไม่อนุญาตเพราะไม่ปล่อยตัวนักโทษจากแค่ลมปากของพ่อค้าหน้าโง่คนนึง

 เมื่อก่อนจะยอมง่ายกว่านี้แท้ ๆ ชักเริ่มน่ารำคาญแล้วสิ

 คิดว่าที่อยู่สบายแบบนี้ได้เป็นเพราะใครกัน?

 

 จากนั้นผมเลยส่งทีมสำรวจไปตรวจสอบว่ามีมังกรแห่งโรคภัยอยู่จริง ๆ หรือเปล่า ถ้ามีผมจะได้ขอให้ปล่อยตัวอดอล์ฟชั่วคราวเพื่อให้ไปปราบมังกรกับผม……แต่ดูท่าทางแล้วทีมสำรวจก็คงจะกลับมาพร้อมหัวกิ้งก่าแทน

 ที่บาทหลวงยอมรับปากก็คงเพราะรู้ว่ามีแต่เรื่องไร้สาระ

 

 เพราะงั้น จากตรงนี้เลยต้องเป็นหน้าที่ของผม

 ถ้ามังกรแห่งโรคภัยไม่มีอยู่จริง ๆ ผมก็แค่ปลอมขึ้นมาสักตัวก็พอแล้ว ง่ายจะตาย

 ต่อให้เป็นบาทหลวงโง่ ๆ นั่นก็คงคาดไม่ถึงหรอก

 

 ไม่นานนัก ผมก็เห็นคนจำนวนหนี่งค่อย ๆ โผล่มา

 ทีมสำรวจกลับมาแล้วสินะ

 ห้า หก เจ็ด…?

 ทีมนี้ควรจะแปดคนนี่ หายไปไหนคนนึงกัน?

 แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อะไรกลับมา สมกับเป็นทีมมือใหม่ อีกคนที่หายไปโดนแซนด์เซนติพีดไล่ไปแล้วรึไง?

 

 …….อ้าว หัวหน้าหายไปไหนกัน?

 คนที่หายไปคือฮาเกนเองเหรอ?

 

 ทั้ง ๆ ที่พวกนี้ควรจะกลับมาด้วยความดีใจ ทำไมแต่ละคนถึงทำหน้าหวาดกลัวกันอย่างนั้น?

 ดู ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรตามมา ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรให้ต้องรีบกันขนาดนั้น

 แปลว่าต้องไปเจออะไรบางอย่างมางั้นสิ?

 

 ถ้าไปเจอกับมังกรแห่งโรคภัยมาจริง ๆ การที่กลับมาตั้งเจ็ดคนคงเป็นไปไม่ได้แน่

 บางคนบาดเจ็บ แต่ไม่มีคนไหนมีบาดแผลร้ายแรง

 พอเห็นว่าไม่มีมังกร ขากลับก็คงไม่อยากไปสำรวจมือเปล่าก็เลยโจมตีมอนสเตอร์ระหว่างทางด้วยรึไงกัน

 

 「นี่ เกิดอะไรขึ้น? ฮาเกนไปไหน?」

 

 ผมส่งเสียงเรียกออกไป

 ทีมสำรวจคนนึง พอเห็นผมก็ลงจากหลังม้าแล้วมองมาทางชั้น

 

 「ทะ ท่านอิลเชีย! มาทำอะไรตรงนี้กันครับ?」

 

 「ผมกังวลกับเรื่องนี้น่ะสิ ฮาเกนคิดว่าเรื่องที่พ่อค้าคนนั้นพูดไม่เป็นความจริงอยู่แล้วแล้วต่อให้มีจริงก็บอกว่าจะจัดการให้ ผมเลยนึกว่าจะไม่เป็นอะไรซะอีก」

 

 「ปะ เป็นเรื่องจริงนะครับ! อันตรายมากด้วย! มีมังกรแห่งโรคภัยอยู่จริง ๆ ครับ!」

 

 สองคนที่อยู่ข้างหลังตะโดนขึ้น

 

 「คุณฮาเกน โดนกินไปแล้ว」

 「ถะ ถึงผมจะโดนปัดลงจากหลังม้า แต่ยังโชคดีที่หาจังหวะหนีออกมาได้….」

 

 ตกใจเลย

 มีมังกรแห่งโรคภัยอยู่จริง ๆ งั้นเหรอ?

 ขนาดผมเองยังเคยเห็นแค่ภาพจากในหนังสือเท่านั้นเอง

 

 แล้วก็…..ฮาเกนโดนกินไปด้วย

 หมอนั่นเป็นไอ้โง่ เป็นคนมีความมั่นใจ ชอบบุกเข้าไปอย่างบ้าบิ่น แต่ก็เป็นไอ้โง่

 นึกว่าจะพอสู้กับมังกรแห่งโรคภัยได้ซะอีก

 

 「อืม……….คนรอดมาเยอะเกินไปนะ」

 

 สำหรับตัวตนอย่างมังกรแห่งโรคภัยแล้ว ตายแค่คนเดียวมันน้อยเกินไป

 บางทีมันอาจจะเลเวลน้อยอยู่ก็ได้

 ทางโบสถ์คงไม่เชื่อว่าเป็นมังกรแห่งโรคภัยจริง ๆ

 อาจจะไม่พอให้ปล่อยตัวอดอล์ฟด้วยซ้ำ

 คงต้องสุมไฟเพิ่มแล้วสินะ

 

 「จะ จริง ๆ นะครับ! เป็นมังกรแห่งโรคภัยไม่ผิดแน่ มันจัดการฮาเกนได้ไม่ต่างอะไรกับบิดข้อมือทารก….」

 

 จัดการกับคนหัวโล้นเหมือนบิดข้อมือทารกน่ะ มอนสเตอร์ระดับต่ำกว่านั้นก็ทำได้

 จริง ๆ เลย เจ้าพวกที่ดูสเตตัสไม่ได้นี่มันน่าหัวเราะจริง ๆ

 เข้าไปสู้โดยที่ไม่รู้พลังของศัตรู หรือกระทั่งพลังของตัวเอง

 ช่างน่าสมเพช

 สำหรับผม เจ้าพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับก้อนกรวด

 

 「ไม่ใช่หรอก ที่บอกว่ารอดเยอะเกินไปน่ะ  ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น」

 

 「เอ๋?」

 

 「คนเจ็ดคนถูกฆ่า อีกคนรอดมาได้แบบปางตาย….มาเจอผมที่มาดูเหตุการณ์เพราะกังวล แล้วรายงานก่อนจะตายไป แบบนั้นต่างหากที่ผมอยากจะเห็น ถ้าแค่หัวหน้าหายไปคนนึงแล้วที่เหลือมีแต่รอยข่วนคงโดนหัวเราะตายเลย」

 

 「ขะ ขอโทษนะครับท่านอิลเชีย ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงอะไร….」

 

 ก่อนที่ทหารจะพูดจบ ผมก็ชักดาบออกมาแล้วฟันไปตรงหน้าอกของเขา

 ทรายคนนั้นลงไปนอนกับพื้นในทันที

 นึกว่าฟันไปเบา ๆ เพราะจะลองผลของดาบแล้วซะอีก

 หมอนี่อ่อนแอเกินไปแล้ว

 ถ้ามีมอนสเตอร์ฝ่าเข้ามาในฮาเรเนได้ ฮาเรเนคงล่มสลายกันพอดี

 แล้วแบบนี้จะมีทหารไว้ทำไมกัน?

 

 ดาบต้องสาปดูดเลือดของทหารที่ผมพึ่งจะฟันไปเข้ามา

 เหมือนว่ามันจะช่วยฟื้นฟู HP ของผมได้ แต่ในเมื่อผมยังไร้บาดแผล มันก็คงไม่มีผลอะไร

 อยากจะทดสอบพลังของดาบนี้อีกสักหน่อยจัง

 

[ได้รับค่าประสบการณ์ 76 แต้ม]

 

 เฮ้อ ไปล่ามดซะยังจะดีกว่า

 แถมฆ่าคนยิ่งทำให้เพิ่มเลเวลฉายายากอีก ไม่อยากเท่าไหร่

 

 「ทะ ท่านอิลเชีย?」

 「เกิด…เกิดอะไรขึ้น?」「ทำไมถึง….」

 

 เหลือหกคน….ต่อให้หนีไปก็คงตามทันอยู่ดีล่ะมั้ง

 คงไม่ต้องเรียกเพกาซัสหรอก

 

 「ก็ถึงบอกไงว่ารอดเยอะเกินไป สมองช้าจริง ๆ เลยนะ」

 

 ผมหัวเราะขึ้นก่อนจะใช้ดาบฟันอากาศ แล้วห้าคนที่เหลือก็กรีดร้องขึ้นก่อนจะหนีไปจากกำแพงเมืองด้วยสีหน้าหวาดกลัว

 

 「อะ อสูร!」

 

 ใครสักคนตะโกนขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้องของคนอื่น ๆ

 ใจร้ายจังนะ ผมต่างหากที่เป็นคนฆ่าอสูร

 

 ไว้จบเรื่องนี้แล้ว คงต้องรีบไปอธิบายกับบาทหลวงแล้วขอให้ปล่อยตัวอดอล์ฟมาก็แล้วกัน

 จะปล่อยให้อดอล์ฟโดนประหารเพราะฆ่าคู่หมั้นตัวเองน่ะไม่ได้หรอก ผมไม่คิดจะรอถึงตอนนั้นหรอกนะ

 

 「….[ควิก]」

 

 พอร่ายเวทเสร็จ ผมก็ควงดาบในมือหนึ่งรอบ

 ได้เวลาไล่ตามแล้วสิ

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร
Status: Ongoing
เปรี๊ยะ ข้างหน้าชั้นตอนนี้มีรอยร้าวอยู่ โลกที่เคยมีแต่ความมืดก็มีแสงส่องเข้ามา ชั้นแลตามองออกไปดูรอยร้าวที่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หืม นี่มันป่าเหรอ? เหมือนว่าจะอยู่บนยอดต้นไม้ซะด้วย พอชั้นลองยืนขึ้น ก็ได้ยินเสียงอะไรแตกอยู่ใต้เท้า เอ ชั้นเหยียบอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แบบว่า เหมือนมันกำลังแตกอยู่เลยอะ ทันทีที่คิดอย่างนั้น ก็มีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายเกมก็ปรากฏขึ้นในหัว —————————————————————

Comment

Options

not work with dark mode
Reset