[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร – ตอนที่ 153

 วันนี้ผมไปที่โบสถ์เช้ากว่าปกติ

 หลังจากฟังคำเตือนยาวเหยียดจากบาทหลวง ผมก็ได้คำอนุญาตสำหรับพาอดอล์ฟออกไปด้วยกัน

 ผมก็เข้าใจอยู่หรอกว่าอยากให้มันดูเคร่งครัด แต่มีขั้นตอนเยอะแยะแบบนี้นี่น่ารำคาญจริง ๆ

 ไม่แปลกใจเลย มีแต่พวกโง่ที่เอาแต่คิดหาการสนับสนุนจากที่อื่นแล้วก็หาทางควบคุมพวกชนชั้นสูงเท่านั้นล่ะ

 

 พวกภาคีอัศวินใหญ่โตอะไรนั่นก็แค่ชื่อสวยหรู อันที่จริงก็มีแต่พวกชนชั้นสูงคอยเลียกันเอง เอาแต่ผลาญทรัพยากรไปอย่างสูญเปล่า

 อดอล์ฟที่ไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็กลายเป็นนักโทษไป และคงเป็นแบบนั้นต่อไปอีกนาน

 ถ้าเกิดวิกฤตขึ้นมาจริง ๆ จะมีคนพร้อมรับมืออยู่กี่คนก็ไม่รู้

 

 รู้สึกน่าหงุดหงิดที่ประเทศนี้ยังอยู่ได้เพราะผมต้องเสี่ยงชีวิตไปนู่นนี่ ยิ่งการที่มีคนคอยกินของเหลืออย่างกับไฮยีน่ายิ่งแล้วใหญ่

 มีแต่พวกปลิง

 ประเทศนี้มันขยะชัด ๆ

 เคยคิดอยากให้มีมอนสเตอร์บุกฝ่ากำแพงเข้ามาในเมืองนี้กี่รอบแล้วนะ?

 มันต้องสนุกแน่ ๆ

 ผมนึกภาพที่มีแม่นั่งร้องไห้เพราะลูกถูกฆ่าตาย โดยที่ทหารวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนออกเลย

 พอพังได้สักครึ่งนึงค่อยออกไปช่วยก็คงไม่แย่

 ป่านนั้นเมืองคงถล่มไปเยอะแล้วล่ะมั้ง

 

 แต่แผนนี้คงใช้การไม่ได้เพราะว่าเรื่องมันอาจจะสาวมาถึงตัวผมได้ แถมไม่มีปีศาจมาเป็นเบี้ยให้อีกต่างหาก

 ถ้าปล่อยให้มีปีศาจไปทำให้ทางโบสถ์เสียหน้า ตัวผมเองก็คงลำบากขึ้นด้วยเหมือนกัน

 

 แต่…..ไม่คิดเลยว่าต้องออกมาเช้าขนาดนี้

 เงื่อนไขในการพาอดลอ์ฟออกไปปราบมังกรแห่งโรคภัยคือต้องออกจากฮาเรเนก่อนตะวันขึ้น และต้องหาผ้ามาปิดให้มิด

 ทางโบสถ์ได้ประกาศเรื่องนี้ออกสู่สาธารณะชนแล้ว แต่เหมือนการตอบรับจะไม่เป็นไปในทางที่ดีนัก

 ปกติแล้วเวลาจะออกไปไหนมาไหนต้องออกไปแสดงตัวให้ประชาชนเห็นก่อน แต่ครั้งนี้เราจะไปโดยที่เลี่ยงปัญหาให้ได้มากที่สุด

 

 แน่นอนว่าต้องมีคนหลายคนที่ไม่พอใจกับการปล่อยอดอล์ฟให้เป็นอิสระ

 ที่เป็นแบบนี้เพราะผมแอบไปปล่อยข่าวลือเรื่องอดอล์ฟไว้ก่อนแล้วไงล่ะ

 นึกภาพคุณบาทหลวงนั่งปวดหัวกับรายงานแล้วสะใจเป็นบ้า

 

 ผมมีคนไร้บ้านที่ติดหนี้บุญคุณอยู่อย่างโพกี้ช่วยกระจายข่าวลือให้ เท่านี้ก็สาวมาไม่ถึงผมแล้ว

 เขาไม่มีทั้งเงินตราหรือตำแหน่ง แต่เก่งด้านหลอกคนโง่

 ถ้ามีคนคิดจะทรยศก็แค่ฆ่าทิ้งซะก็จบเรื่อง ยังไงก็ไม่มีใครมาสนใจอยู่ดี

 

 พอพาตัวอดอล์ฟออกมาจากคุก เราสองคนก็ปิดบังตัวตนไว้แล้วเดินออกจากเมือง

 

 「….โทษทีนะอิลเชีย ครั้งนี้ ได้ยินมาว่าบีบบังคับข้ากันแบบไร้เหตุผลทีเดียว」

 

 พอได้ยินอดอล์ฟพูดจริงจังแบบนี้แล้ว ทำเอาแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว

 ก็รู้อยู่หรอกว่าเป็นไอ้โง่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะโง่ได้ขนาดนี้

 

 「ไม่หรอกครับ ถ้าอยากจะขอบคุณ เอาไว้ขอบคุณตอนที่หาคนร้ายตัวจริงที่ฆ่าคู่หมั้นกับน้องชายคุณได้ก่อนเถอะครับ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยกันมากจะดีกว่า ถึงตอนเช้าคนจะยังไม่มากแต่ก็ควรระวังไว้ก่อน….」

 

 ผมแสร้งทำเป็นมองดูสภาพรอบ ๆ เพื่อไม่ให้อดอล์ฟเห็นหน้าผมตอนหัวเราะ

 

 พอเดินมาถึงเขตที่อยู่อาศัย จำนวนคนก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 อดอล์ฟเองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน จึงหยุดเท้าแล้วพูดขึ้น

 

 「ไปทางอื่นไม่ดีกว่าเรอะ?」

 

 「….ตอนนี้จะทางไหนก็คงไม่ต่างกัน ข้อมูลจากทางโบสถ์คงรั่วไหลออกมาแล้วล่ะครับ ต้องมีคนจงใจปล่อยมันออกมาแน่」

 

 ผมเอามือปิดหน้าไว้ด้วยท่าทีหน่ายใจ

 

 แน่นอนว่าคนที่ปล่อยก็ผมเองนั่นแหละ ทั้งเส้นทาง เวลา และวันที่

 ถึงทำแบบนี้จะไม่ดีต่ออดอล์ฟกับทางโบสถ์ แต่ที่ผมทำไปก็เพราะต้องการประกาศจุดยืนของผมให้ชัดเจน

 

 ไม่นานนักก็มีเด็กหนุ่มสามคนวิ่งมาชี้ใส่อดอล์ฟ แล้วก็ตะโกนขึ้น

 

 「อยู่นั่นไง เจ้าฆาตกรอดอล์ฟ!」

 「จะหลอกท่านผู้กล้าแล้วหนีไปไม่ได้หรอก!」

 

 หลังสิ้นเสียงตะโกน ชาวบ้านก็เริ่มมามุงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 น่าจะมารอผมกับอดลอ์ฟอยู่แล้ว

 คนที่ยังไม่ตื่นก็ถูกปลูกแล้วออกมามุงด้วยเช่นกัน

 พอรู้สึกตัวอีกทีอดอล์ฟก็โดนคนอื่น ๆ ล้อมไว้หมดแล้ว

 

 「รีบ ๆ โดนประหารไปซะ!」

 

 มีบางคนเขวี้ยงหินมา

 อดอล์ฟหันไปมองก้อนหิน แต่ก็ไม่มีท่าทีจะหลบ

 คิดว่าทำแบบนั้นแล้วคนจะเลิกมุงรึไงกัน?

 เอาเถอะ แค่นี้ก็พอแล้วดีกว่า ก่อนที่จะคุมไม่อยู่

 

 ผมก้าวออกไปข้างหน้า แล้วยกปลอกดาบมาปัดก้อนหินออก

 

 「…เหมือนว่าข่าวลือจะแพร่หนักแล้วสิ ผมจะพยายามจัดการให้เท่าที่ทำได้แล้วกันครับ」

 

 ผมพูดกับอดอล์ฟเบา ๆ แล้วหันหน้าไปหาฝูงชน

 

 「ที่ผมเลือกหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟมาก็เพราะเขาเป็นคนมีฝีมือเหมาะสมกับปัญหาครั้งนี้ ถึงเขาจะเป็นอดีตหัวหน้าอัศวินไปแล้ว แม้จะไม่นานแต่เขาก็เป็นอาจารย์ของผมด้วยเช่นกัน อาจจะมีเหตุผลส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่บ้าง แต่ผมไม่ได้ถูกชักจูงโดยใครทั้งนั้น  

 และผมก็เชื่อด้วยว่าหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟนั้นบริสุทธิ์ รางวัลที่เขาจะได้จากการปราบปรามครั้งนี้ก็มีแค่การสืบสวนคดีใหม่อีกครั้งเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นอย่างแน่นอน ขอยืนยันด้วยนามของผมในฐานะผู้กล้า

 ถ้ามีปัญหาอะไรกับการปล่อยตัวหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟในครั้งนี้ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเอง เพราะฉะนั้น…ขอให้เราผ่านไปด้วยเถอะครับ」

 

 ผมก้มหัวให้เล็กน้อย

 รอบข้างเงียบลงในทันที แล้วคนที่ขวางทางอยู่ก็ค่อย ๆ เดินออกไปทีละคนสองคน

 

 「รีบไปก่อนจะโดนล้อมอีกรอบจะดีกว่านะครับ」

 

 ผมพูดขึ้นเบา ๆ แล้วพาอดอล์ฟที่ยังสับสนกับสถานการณ์อยู่ออกมา

 

 「…..ขอโทษด้วยจริง ๆ นะ!」

 

 พอพ้นส่วนที่มีคนเยอะมาได้ อดอล์ฟก็กัดปากตัวเองจนเลือดซิบ

 ผมมุ่งหน้าไปต่อโดยที่นึกสมเพชอดอล์ฟอยู่ในใจ

 

 เอาล่ะ ประกาศจุดยืนไปเรียบร้อย

 ถึงผมจะบอกปฏิเสธไป คนอื่นก็คงมองว่า『ผมโดนอดอล์ฟหลอก』อยู่ดี

 

 แล้วก็ที่บอกว่าจะรับผิดชอบอะไรนั่น ผมไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้นอยู่แล้วล่ะ

 ยังไงผมก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศนี้ ทางโบสถ์ต้องออกมารับหน้าให้อยู่แล้ว แถมไม่มีใครคิดจะให้ผมไปรับผิดชอบหรอก

 ในเมื่อโบสถ์เป็นฝ่ายอนุญาตมา ถ้ามันเกิดปัญหา ฝ่ายที่จะถูกกดดันก็คือทางโบสถ์เอง

 ที่สำคัญกฏหมายของฮาเรเนว่าไว้ว่าถ้ามีนักโทษหลบหนี คนที่จะมารับผิดแทนก็คือญาติและครอบครัวของนักโทษ

 

 ถึงอาจจะมีคนเอาไปพูดเสีย ๆ หาย ๆ ยังไงมันก็ไม่มีผลเท่าไหร่หรอก

 เพราะอัตลักษณ์ในฐานะผู้กล้าของผมคือคนอ่อนต่อโลกและผู้ที่คอยมองโลกในแง่ดียังไงล่ะ

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร
Status: Ongoing
เปรี๊ยะ ข้างหน้าชั้นตอนนี้มีรอยร้าวอยู่ โลกที่เคยมีแต่ความมืดก็มีแสงส่องเข้ามา ชั้นแลตามองออกไปดูรอยร้าวที่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หืม นี่มันป่าเหรอ? เหมือนว่าจะอยู่บนยอดต้นไม้ซะด้วย พอชั้นลองยืนขึ้น ก็ได้ยินเสียงอะไรแตกอยู่ใต้เท้า เอ ชั้นเหยียบอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แบบว่า เหมือนมันกำลังแตกอยู่เลยอะ ทันทีที่คิดอย่างนั้น ก็มีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายเกมก็ปรากฏขึ้นในหัว —————————————————————

Comment

Options

not work with dark mode
Reset