[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร – ตอนที่ 162

 มังกรแห่งโรคภัย ก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่

 ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อนก็เลยคิดว่าเป็นระดับ A……แต่สุดท้ายก็แค่ระดับ B- ธรรมดา

 

 บางที ระดับของพวกอสูรก็อาจจะมีคลาดเคลื่อนจากที่เห็นไปบ้าง เพราะงั้นวลาที่ผมเจอตัวหายากก็จะต้องคอยระวังแล้วตรวจสอบสเตตัสให้แน่ก่อน….

 

 ระดับอสูรถูกบันทึกไว้โดนผู้กล้าคนก่อน แต่เรื่องนั้นมันก็เกินห้าร้อยปีมาแล้ว

 ถ้าจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

 ผมไม่คิดว่าผู้กล้าคนก่อนจะบันทึกไว้ได้ครบทุกตัวหรอก แถมโดนจัดคร่าว ๆ จากการตัดสินใจของผู้กล้าคนก่อนด้วย

 

 ผมไม่รู้ว่าเป็นระดับ B ขั้นต่ำหรือขั้นสูง คิดไว้ว่าต้องเป็นขั้นสูงแน่……ไม่คิดเลยว่าจะเป็นขั้นต่ำ

 ถ้าเป็นอย่างนี้แซนด์เซนทิพีดยังอันตรายกว่า

 

 จะว่าไป เจ้านี่ [เสียงจากพระเจ้า] ด้วย

 ช่างเถอะ ดูไม่เหมือนราชาปีศาจอยู่แล้ว

 เรื่องแบบนั้นก็เป็นได้แค่เรื่องเล่าเท่านั้นล่ะนะ

 

 ที่สำคัญกว่านั้น ทำไมมังกรกระจอกแบบนี้ถึงมีชื่อเหมือนผมกันล่ะ

 ถ้ามันมีชื่อ ก็เป็นไปได้ว่าจะมีเจ้าของ

 ทาสที่อยู่ตรงนั้นเป็นคนตั้งชื่อให้งั้นเหรอ?

 ไม่หรอกมั้ง คนแบบนั้นคุมมังกรไม่ได้หรอก

 ถ้าบอกว่าเจ้าของสั่งให้มันพาตัวทาสไปด้วยยังฟังดูเป็นไปได้มากกว่า

 

 ถ้ามีเจ้าของอยู่แถว ๆ นี้ ก็คงต้องไปจัดการด้วย…..ไม่สิ ยังไงผมก็จะไปจากฮาเรเนอยู่แล้วนี่นา ไม่ต้องสนใจก็ได้

 ปล่อยให้มันไปโจมตีฮาเรเนก็ฟังดูเข้าท่าดีเหมือนกัน

 เพราะยังไงก็ไม่มีใครเอาผิดผมได้อยู่แล้ว

 

 「ท่าทางผมคงจะไม่ได้ใช้ดาบนี้แล้วล่ะนะ」

 

 พอว่าจบ ผมก็เก็บดาบศักดิ์สิทธิ์เข้าฝัฟไป

 

 ให้อดอล์ฟเป็นคนจัดการแล้วกัน

 ผมเองช่วยลด HP มันไปเยอะแล้ว แถมติดอัมพาตด้วย

 เอาใจอดอล์ฟสักหน่อยแล้วบังคับให้แยกชิ้นส่วนมันออกมาให้ เสร็จแล้วค่อยฆ่าทิ้ง

 ใช้ประโยชน์ได้ก็ต้องใช้ให้หมดจนหมดสุดท้าย

 

 「เอาล่ะคุณอดอล์ฟ ลงมือจัดการมันเลยครับ ถ้าคุณกลับไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรสักอย่างคงกู้ชื่อคืนมาไม่ได้หรอกนะ」

 

 อดอล์ฟมองไปที่มังกรที่นอนอยู่บนพื้น แล้วมองกลับมาหาผม

 

 「แต่เจ้ามังกรนี่ไม่คิดจะสู้นะ ถ้ามันอยากฆ่าข้าจริง ๆ ข้าคงตายไปแล้ว แถมยังมีมนุษย์สัตว์อยู่ตรงนั้น….」

 

 เฮ้อ ให้ตายสิ น่ารำคาญเป็นบ้า

 คิดว่าตัวเองพูดอะไรอยู่กัน?

 

 ฆ่าทิ้งตอนนี้เลยดีกว่ามั้ยเนี่ย?

 ขี้เกียจใช้คำว่าคุณกับมันแล้ว

 ยังไงอดอล์ฟก็ไม่ได้กลับฮาเรเนอยู่แล้ว จะสงสัยตอนนี้ก็ช่าง

 

 「ตัวผมเองจะฆ่าก็ได้ แต่ก็ยังไม่ทำเหมือนกันนะ?」

 

 เพราะสิ่งที่ผมเพิ่งคิดไปในหัว คำพูดถึงผ่อนคลายลงเล็งน้อย

 เฮ้อ ช่างมันเถอะ

 

 「ไม่ คือว่า…」

 

 「เข้าใจแล้วครับ จริง ๆ คือผมผิดที่คิดว่าคุณฆ่ามันได้สินะครับ เนอะ คุณอดีตหัวหน้าอัศวิน」

 

 อา พูดไปจนได้

 อุตส่าห์พยายามไม่พูดออกไปแท้ ๆ

 

 พออดอล์ฟได้ยินคำว่า ‘อดีตหัวหน้าอัศวิน’ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

 เห็นแล้วอยากหัวเราะชะมัด

 

 ก่อนหน้านี้เพิ่งโดนอดอล์ฟบอกให้เลิกเรียกแบบนั้นมา

 โดนใช้คำแบบนั้นแล้วไม่สบายใจล่ะมั้ง

 

 ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกจ้องอยู่จึงหันไปมองมังกรที่อยู่ข้างหลัง

 อะไรของมัน ดูสเตตัสของผมอยู่งั้นเหรอ?

 

 ถึงจะไม่รู้ว่ามีได้ยังไง แต่เจ้านั่นมี [ตรวจสอบสเตตัส] เหมือนกันแน่ ๆ

 ถ้ามันตรวจสอบได้ มันก็คงต้องทำอยู่แล้วล่ะนะ

 รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่

 ผมไม่อยากให้มันคิดวิธีตอบโต้จากการดูสกิลผมได้ แถมไม่อยากให้เห็นฉายาด้วย

 

 「แหม แหม น่ารำคาญซะจริง ถ้าคุณอดีตหัวหน้าอัศวินไม่ยอมลงมือ ผมจะจัดการเองก็ได้」

 

 พอผมมองไปที่มังกรตัวนั้น มันก็ตัวสั่นเบา ๆ

 มองมาหาผมด้วยความหวาดกลัว ไม่คิดเลยว่าสัตว์ประหลาดจะมองผมเป็นสัตว์ประหลาด

 

 『มองอะไรอยู่ ข้างบน』

 

 ทันทีที่ผมเริ่มก้าวเข้าไปหา ก็พลันมีความคิดลอยเข้ามาในหัว

 [โทรจิต] สินะ?

 เจ้ามังกรแห่งโรคภัยนั่นมีสกิลนี้ด้วยเหรอ?

 ตอนตรวจสอบสเตตัสคงมองข้ามไปล่ะมั้ง

 อะไรก็ช่าง เล่นด้วยสักหน่อยก็ได้

 

 「หา?」

 

 ผมเงยหน้ามองขึ้นฟ้าไป

 พร้อมกกันนั้นเองก็มีสัตว์อสูรสีชมพูตัวหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากพื้นใต้เท้า

 

 「เปฟุ!」

 

 โมโมะบอลแรบบิท

 [โทรจิต] เป็นของเจ้านี่สินะ

 ปกติบอลแรบบิทน่าจะเป็นมอนสเตอร์รักสงบนี่นา แถมมันไม่น่าจะโดดเข้าหาอันตรายแบบนี้ด้วย

 แล้วทำไมมันถึงออกมากันล่ะ?

 จะว่าไป พอมานึกดูดี ๆ แล้ว เหมือนว่าเมื่อกี้มันจะอยู่ข้าง ๆ มังกรแห่งโรคภัยด้วย เป็นเพื่อนของมังกรนั่นงั้นเรอะ?

 

 บอลไฟจำนวนหนึ่งลอยวนรอบบอลแรบบิทก่อนจะพุ่งมาหาผม

 แต่ยังไงก็เป็นแค่ระดับ D อยู่ดี

 ผมก้าวถอยหลังไปแล้วใช้มือเปล่าปัดทิ้ง

 

 「กะ….กรรรรรรร!」

 

 พอผมเอื้อมมาไปจับดาบ มังกรแห่งโรคภัยก็คำรามออกมา

 อะไรกัน สรุปว่าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ เหรอเนี่ย?

 

 มังกรที่ควรจะเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ กลับเป็นมิตรกับมอนสเตอร์ตัวอื่น แถมยังช่วยทาสมาอีก

 ที่สำคัญเลยคือมันมีฉายา [วีรบุรุษตัวน้อย] กับ [จิตเกื้อกูล] แล้วยังมีชื่อเหมือนผู้กล้าอย่างผมด้วย

 

 ชักจะสนใจเจ้ามังกรตัวนี้แล้วสิ

 ก่อนอื่นก็ลองฆ่าบอลแรบบิทแล้วดูปฏิกิริยาของมันหน่อยดีกว่า

 ยังไงมังกรนั่นก็ไม่น่าจะขยับได้อยู่แล้ว

 

 ผมแสยะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

 ขณะที่กำลังจะชักดาบออกไปฟาดโมโมะบอลแรบบิทก็ยั้งมือไว้ก่อน

 กะอีแค่มอนสเตอร์ระดับ D ใช้แค่มือเปล่าก็พอแล้ว

 

 แต่พอผมเดินเข้าไปหา โมโมะบอลแรบบิทก็อ้าปากออกกว้าง

 

 「เปฮิ้ว!」

 

 แล้วหนามจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากปากของมัน

 นี่มัน….หนามต้นแคคทอส?

 ดูเหมือนว่ามันจะเอาหนามเก็บไว้ในตัวเพื่อใช้โจมตี

 ทริกน่ารำคาญ

 

 ผมยกปลอกดาบขึ้นมาแล้วปัดหนามที่พุ่งเข้ามาออกไป

 

 「เป…เปฟุ!」

 

 ก่อนที่ผมจะจับหูของมันไว้

 พอสบสายตากัน ผมก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

 ร่างกายของโมโมะบอลแรบบิทสั่นออกมา

 

 「กรรรรร!」

 

 มังกรแห่งโรคภัยคำรามออกมาพร้อมคลานมาข้างหน้า

 มันพยายามจะขยับทั้ง ๆ ที่ยังติดอัมพาตอยู่

 

 เยี่ยมไปเลย

 ต้องแบบนี้สิ ไม่งั้นคงน่าเบื่อตาย

 

 ผมปล่อยมือจากโมโมะบอลแรบบิทแล้วเตะมันออกไป

 แต่ตอนที่เตะนั้นไม่ได้เตะออกไปแรง เพราะมีมือของอีกคนจับไหล่ไว้จากข้างหลัง

 

 「เบฟุ!」

 

 มันเอาหูรองตัวเองไว้ก่อนลงพื้น แล้วก็ลุกขึ้นมาทันที

 ผมเดาะลิ้นเบา ๆ แล้วหันหน้ากลับไปข้างหลัง

 

 「เอ่อ ช่วยอย่ามาขวางแข้งขวางขาผมนะครับ คุณอดีตหัวหน้าอัศวิน」

 

 ข้างหลังผมคืออดอล์ฟที่มีสีหน้าสับสน

 

 น่ารำคาญจริง ๆ

 ตอนนี้หน้าที่ของอดอล์ฟหมดไปแล้ว แถมสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คงไม่เกิดขึ้นด้วย

 ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะรีบๆฆ่ามังกรทิ้งแล้วค่อย ๆ ทรมานอดอล์ฟช้า ๆ

 เปลี่ยนมาเป็นรีบฆ่าอดอล์ฟแล้วมาเล่นกับเจ้ามังกรนี่ดีกว่ามั้ยนะ?

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร
Status: Ongoing
เปรี๊ยะ ข้างหน้าชั้นตอนนี้มีรอยร้าวอยู่ โลกที่เคยมีแต่ความมืดก็มีแสงส่องเข้ามา ชั้นแลตามองออกไปดูรอยร้าวที่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หืม นี่มันป่าเหรอ? เหมือนว่าจะอยู่บนยอดต้นไม้ซะด้วย พอชั้นลองยืนขึ้น ก็ได้ยินเสียงอะไรแตกอยู่ใต้เท้า เอ ชั้นเหยียบอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แบบว่า เหมือนมันกำลังแตกอยู่เลยอะ ทันทีที่คิดอย่างนั้น ก็มีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายเกมก็ปรากฏขึ้นในหัว —————————————————————

Comment

Options

not work with dark mode
Reset