[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร – ตอนที่ 173

 ชั้นเร่งสปีดขึ้นจากที่เสียไปเพราะหักโค้งกลับคืนมา

 

 「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」

 

 ระหว่างที่ไต่ขึ้นเนินกลับไป เสียงร้องของตะขาบยักษ์ก็เข้าใกล้ขึ้น

 

 พริบตาต่อมา ส่วนหัวของตะขาบยักษ์ก็ปรากฏตรงหน้า

 พอมันเห็นชั้นที่ก่อนหน้านี้เอาแต่หนีอยู่ตลอดกลับวิ่งสวนกลับมาหาก็สับสนจนหยุดนิ่งไปชั่วครู่

 

 ตอนนี้ล่ะ โอกาสโจมตี

 ชั้นเอาหางฟาดพื้นที่ยอดเนินเพื่อเป็นแรงส่งให้ตัวเองลอยขึ้นไปพร้อมกับยกเลิก [กลิ้ง] ไปด้วย

 กางปีกทั้งสองออกและกระโดดขึ้นไป

 

 ส่วนสูงของสายตาในตอนนี้เท่ากับเจ้าตะขาบยักษ์

 มองใกล้ ๆ แบบนี้แล้วมันน่ากลัวจริง ๆ

 ไม่เอาน่า อย่าเพิ่งมากลัวเอาตอนนี้สิ!

 

 「กรรรรรรรรร!」

 「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」

 

 ชั้นลองยิง [คาไมทาจิ] ไปตรงตาของมัน

 คิดว่าน่าจะพอทำอะไรได้บ้าง แต่เหมือนว่าจะไม่ระแคะระคายสักนิด

 อย่างน้อย ๆ แค่ลดการมองเห็นของมันได้สักนิดนึงก็ยังดี

 

 ชั้นบินเลียบไปตามข้างหัวของตะขาบยักษ์

 

 จริงๆก็อยากจะบินไกลกว่านี้ แต่ถ้าไกลไปก็จะโดนบีมเล็งเป้าเอาได้

 แถมถ้าคิดจะใช้แผนต่อไปของชั้น เลี่ยงได้ก็เลี่ยงจะดีกว่า

 

 ตะขาบยักษ์อ้าปากออกแล้วใช้เขี้ยวทั้งสองของมันพุ่งเข้ามากัดชั้น

 แหงะ น่ากลัวเฟ้ย

 

 เป็นสกิล [เขี้ยวอัมพาต] รึเปล่านะ?

 พอมาลองคิดดู สกิลนี้น่าจะเป็นสกิลที่รับมือง่ายที่สุดแล้ว

 เทียบกับสกิลลมหายใจ สกิลนี้แทบไม่มีระยะโจมตีเลยสักนิด

 แต่พลังทำลายนั้นน่ากลัวไม่ผิดแน่ ถ้าโดนเข้าสักทีคงนอนยาวแน่นอน

 

 ดูเหมือนว่ามันอยากจะใช้ท่าที่รุนแรงปิดเกมเลย มากกว่าท่าที่โดนง่ายแต่พลังทำลายต่ำ

 คงจะแค้นกันน่าดูเลยล่ะสิ

 แต่ก็ดี จะได้ยั่วง่ายขึ้น

 

 ตะขาบยักษ์เลื่อนตามองตามตัวชั้น แล้วก็หันหัวตามมา

 เร็วอย่างที่คิด ถ้าเป็นปกติคงหลบไม่พ้นแน่

 

 ตั้งสติไว้ ถ้าพลาดก็คือจบ

 เราจำลองภาพในหัวมาหลายรอบแล้ว

 คราวนี้จะไปถึงหางมันยังไงดีนะ?

 

 เขี้ยวกำลังเข้ามาหา

 ชั้นใช้ปีกรั้งเขี้ยวมันไว้ ก่อนจะใช้หางฟาดลงไประหว่างปีกทั้งสองก่อนจะดีดตัวเองไปข้างหน้า

 

 「กรรรร…….」

 

 ความเจ็บปวดแล่นไปทั้วทั้งปีกอย่างรวดเร็ว แต่อย่างน้อยก็หลุดจากเขี้ยวของมันมาได้

 ตอนนี้ไม่ต้องบินขึ้นสูง แต่บินตรงไปที่หางอย่างเดียวก็พอ

 

 อดทนไว้ ถ้าร่วงลงไปก็คือจบเหมือนกัน

 จะให้มันเห็นว่าชั้นกำลังอ่อนแรงไม่ได้เด็ดขาด

 

 ชั้นหันไปมองข้างหลัง มองตะขาบยักษ์ที่กำลังหันหัวกลับมา

 ตรงจุดนี้ในแผนคือต้องให้มันยิง [ลำแสงความร้อน] ออกมา แต่การยั่วส้นตึกของชั้นไม่สัมฤทธิ์ผล

 อันที่จริงตอนที่บินผ่านมาเมื่อกี้ ชั้นควรจะแหย่มันอีกสักหน่อย แต่ที่ทำได้แค่นั้นก็สุดกำลังแล้ว

 

 บีมตะขาบของมันเองก็ใช้ MP ไม่น้อยเหมือนกัน

 แปลว่ามันจะยิงไม่ยิงก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของมันงั้นเหรอ?

 บ้าจริง ก็รู้อยู่หรอกว่าตอนนี้คือแย่แล้ว แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ

 แต่ถึงยังไงมันก็มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น…..

 

 ลำดับมั่วหมดแล้ว

 เดิมทีโอกาสชนะก็บางราวเส้นด้าย

 คงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องหนีแล้วสินะ

 

 ถ้าอย่างน้อยชั้นมีสกิลที่ยั่วโมโหมันได้ อย่างน้อยสถานการณ์ก็น่าจะดีกว่านี้แล้วแท้ ๆ …แต่ยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดี

 เปลือกของมันหนาผิดปกติเกินไป

 แค่ไปจิ้ม ๆ เบา ๆ คงไม่มีผลหรอก

 ขนาดใช้ [คาไมทาจิ] อัดหน้าไปมันยังไม่ตอบสนองอะไรเลย

 

 ไม่สิ….อะไรสักอย่าง ชั้นรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างที่ชั้นยังไม่ได้ลอง

 ก่อนอื่น ชั้นทำดาเมจไม่ได้ งั้นถ้าไม่ใช่สกิลสร้างความเสียหายล่ะ?

 

 หนึ่งสกิลที่ชั้นไม่ได้ใช้ [ผิวปาก]

 ชั้นรู้วิธีใช้ได้โดยสัญชาตญาณ แค่อ้าปากแค่เล็กน้อยใส่พลังเวทลงไป แล้วก็พ่นออกมาเบาๆ ง่าย ๆ ก็ผิวปากนั่นล่ะ

 สกิลที่ไม่เคยคิดว่าจะมีประโยชน์ ถ้าอยู่ในป่ามันอาจจะล่อมอนสเตอร์เข้ามาหาได้ ก็เลยไม่ได้ใช้

 

 งั้นมันก็น่าจะใช้ล่อตะขาบยักษ์ได้เหมือนกัน

 เจ้านี่เป็นความหวังสุดท้ายที่จะยั่วให้มันใช้ [ลำแสงความร้อน] แล้ว

 

 ชั้นหันไปจ้องหน้ากับตะขาบยักษ์ และใช้งานสกิล [ผิวปาก]

 

 ปิ๊ว~ปิ๊

 

 เป็นเสียงงี่เง่าแต่ก็ฟังดูดีไม่น้อย

 หวังว่ามันคงไม่ล่อมอนสเตอร์ประหลาดไม่หรอกนะ

 เอาเถอะ คงไม่มีอะไรประหลาดไปกว่าตะขาบยักษ์ตรงหน้าแล้วล่ะ…..

 

 「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」

 

 ตะขาบยักษ์เงยหน้าขึ้นแล้วเริ่มรวบรวมแสงสีแดงเข้าในปาก

 สำเร็จ! งับเบ็ดแล้ว!

 

 โอ้ーโอ้ー โกรธซะแล้ว โกรธซะแล้ว

 ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่

 ถ้าโจมตีพลาดไปแล้วอีกฝั่งหันมาผิวปากใส่ เป็นใครใครก็โมโห

 ชั้นเองถ้าเกรย์วูล์ฟมันทำใส่คงวิ่งไล่ยันปลายเหวนู่นแหง

 

 ชั้นเพิ่มระดับบินให้สูงขึ้นอีกนิด พร้อมกับชะลอความเร็วลง

 แล้วก็ไปอยู่ตรงแถว ๆ เหนือปลายหางมันเล็กน้อย

 

 พอมันล็อคเป้าชั้นด้วยสายตาเสร็จ ก็ขยับเขี้ยวทั้งสองไปมาด้วยความตื่นเต้น

 เข้ามาสิ

 

 ความเร็วของบีมมันนั้นสูงมาก

 ถ้าจะหลบโดยดูทิศทางของบีมเอาไม่ทันการแน่

 ต้องหลบให้เหนือยิ่งกว่าการเล็งของมันด้วยซ้ำ

 

 ระยะใกล้แบบนี้ ชั้นสามารถคาดเดาจากสายมันได้ไม่ยาก

 คราวนี้ต่างจากตอนที่วิ่งหนี เพราะคราวนี้ชั้นตั้งสมาธิกับการหลบบีมอย่างเดียวได้

 แต่ถึงจะตั้งใจหลบยังไง ลิมิตก็น่าจะอยู่ที่ห้าวินาทีอยู่ดี

 

 「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」

 

 ทันใดนั้น ชั้นก็สะบัดหางกลางอากาศเพื่อปรับศูนย์และใช้ปีกเอียงตัวไปด้านซ้ายเพื่อหนีจากระยะมองเห็นของมัน

 แล้วบีมตะขาบก็พุ่งผ่านไปด้านขวาพร้อม ๆ กัน

 

 รู้สึกถึงความร้อนสูงไปรอบทั้งตัว

 ขนาดไม่โดนยังระดับนี้ อาวุธชีวภาพชัด ๆ

 

 ชั้นบินหักไปด้านขวาโดยที่มีบีมตะขาบไล่จี้หลังมา

 

 เทียบกับระยะปกติแล้วแบบนี้หลบง่ายกว่ากันเยอะ

 แต่หลบได้เท่านี้คงถึงขีดจำกัดแล้วล่ะ

 

 「กรรร!」

 

 ชั้นสูดหายใจเข้า แล้วพ่น [ลมหายใจแห่งโรคภัย] ออกมาปกคลุมร่างไว้

 เท่านี้เจ้าตะขาบยักษ์ก็มองไม่เห็น แต่ของแบบนี้อีกเดี๋ยวก็คงหาย

 

 ชั้นรีบลงไปที่พื้นตรงใกล้ ๆ กับลำตัวของมัน

 ใช้กรงเล็บทั้งสองข้างจับตัวมันไว้ รวมกับใช้เขี้ยวที่มีกัดมันแน่น

 แล้วชั้นก็ใส่แรงลงไปที่ขาเพื่อกระโดดขึ้นฟ้า พร้อมใช้หางฟาดพื้นเป็นแรงช่วยอีก

 

 「กรรรรร!」

 

 ชั้นกางปีกออกแล้วยิง [คาไมทาจิ] ลงพื้นไปด้วย

 ส่วนหลังของเจ้าตะขาบยักษ์ถูกยกลอยขึ้นอย่างรุนแรง

 

 ถึงชั้นจะอยู่ในหมอกบังตา แต่ก็ยังมองเห็นบีมตะขาบได้อย่างชัดเจน

 เป็นเหมือนกับก้อนแสง

 

 ชั้นยกร่างของตะขาบยักษ์ไปตรงเส้นทางที่บีมของมันจะวิ่งผ่าน

 

 ต่อให้เป็นเจ้าตะขาบยักษ์ แต่ถ้าโดนบีมตะขาบเข้าไปก็คงทนไม่ไหวเหมือนกันนั่นล่ะ

 ไอ้เปลือกที่แสนจะภูมิใจนั่นก็คงจะทลายลงไปด้วย

 ที่เหลือก็แค่โจมตีตรงจุดที่มันไม่มีเกราะบังก็พอแล้ว

 

 ในที่สุดก็จะทำดาเมจเข้าได้สักที

 รู้สึกได้ยืนอยู่ระดับเดียวกับแกสักที จากนี้ไปก็คงจะเป็นศึกอันแสนดุเดือดแล้วล่ะนะ

 

 เสียง “ฉัวะ” ดังขึ้น

 เหมือนว่าบีมจะเข้าเป้าหมายเรียบร้อย

 

 「กิจิเจี่ยยยยยยยาาาาาา!!」

 

 ตะขาบยักษ์สะบัดร่างกายขนาดยักษ์ไปมาพร้อมกับร้องออกมาเสียงดัง

 ชั้นโดนมันเหวี่ยงไปมาจนเขี้ยวที่กัดอยู่เกือบจะหลุดออก

 แย่ล่ะสิ เขี้ยวมันติด ดึงไม่ออก

 เจ้าตะขาบยักษ์มันอาละวาดอยู่ ขืนเป็นแบบนี้ต่อคอหลุดแหง

 

 เนื่องจากยังมีควันล้อมรอบตัวอยู่ ชั้นเลยไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 บีมตะขาบทำดาเมจใส่ตัวเจ้านั่นไปเท่าไหร่กันนะ?

 

 ก่อนที่หางของตะขาบยักษ์จะฟาดลงพื้น ชั้นก็สามารถดึงเขี้ยวออกมาจากเปลืองของมันได้

 ออกแรงถีบหางของมันเพื่อดีดตัวลงพื้น ใช้หางรองแล้วเปลี่ยนเป็นท่า [กลิ้ง] เพื่อลดแรงกระแทกพร้อมกับหนีหางตะขาบยักษ์ไปด้วย

 ตะขาบยักษ์หล่นกระแทกพื้นอยู่ข้างหลังชั้น

 

 「กิจิ เจี่ยยยยยยย!」

 

 ตะขาบยักษ์ส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง

 ครั้งนี้เสียงดังกว่าครั้งก่อนมาก

 หืม ทำไมเสียงมันอยู่ไกล ๆ ?

 

 เอ๊ะ เดี๋ยวนะ?

 เกิดอะไรขึ้นกัน?

 

 ชั้นเงยหน้าขึ้นไปมองหาหัวของตะขาบยักษ์

 พอควันเลือนหายไป ภาพของตะขาบยักษ์ที่ลำตัวหายไปหนึ่งในสามที่กำลังอาละวาดอยู่ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น

 ของเหลวสีเขียวเข้มพุ่งกระฉูดไปทั่วทุกบริเวณ

 ขาทั้งหลายต่างก็ขยับไปมาพร้อมๆกัน

 

 มองแล้วทำให้นึกถึงคนที่กำลังจะจมน้ำ พยายามไขว่คว้าหาที่เกาะไว้

 ขาของมันก็ชักจะทำให้นึกถึงแขนคนแล้วสิ

 ชั้นส่ายหน้าไปมาเพื่อเอาภาพหลอน ๆ ออกจากหัว

 

 แผนบีมตะขาบดันได้ผลดีกว่าที่ชั้นคิดไว้ซะอีก

 ไม่ใช่แค่ช่วยเจาะทะลวงเปลือกของมันได้ แต่ถึงขั้นตัดร่างของมันออกเป็นสองส่วนเลย

 สกิลนี้มันแรงขนาดไหนกันแน่นะ? โล่งอกไปทีที่ชั้นไม่โดนยิงเข้า

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร
Status: Ongoing
เปรี๊ยะ ข้างหน้าชั้นตอนนี้มีรอยร้าวอยู่ โลกที่เคยมีแต่ความมืดก็มีแสงส่องเข้ามา ชั้นแลตามองออกไปดูรอยร้าวที่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หืม นี่มันป่าเหรอ? เหมือนว่าจะอยู่บนยอดต้นไม้ซะด้วย พอชั้นลองยืนขึ้น ก็ได้ยินเสียงอะไรแตกอยู่ใต้เท้า เอ ชั้นเหยียบอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แบบว่า เหมือนมันกำลังแตกอยู่เลยอะ ทันทีที่คิดอย่างนั้น ก็มีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายเกมก็ปรากฏขึ้นในหัว —————————————————————

Comment

Options

not work with dark mode
Reset