[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ – ตอนที่ 59.59

เป็นตอนเดียวของตอนพิเศษชุดนี้ ที่ย้อนกลับไปช่วงสองปีก่อน

 

ตอนพิเศษ 9

คุมะฮาจิ โฮมรันดาร์บี้*

 

 

“นายน่ะ ได้ยินว่าแข็งแกร่งสินะ? มาประลองกันหน่อยไหม?”

 

   บนระเบียงทางเดินในปราสาทเฮลิฟาลเต้ เอลฟ์หนุ่มร่างเล็ก กี หันมาพูดกับมนุษย์ชายร่างใหญ่ คุมะฮาจิ แม้กีจะพูดด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แต่คุมะฮาจิก็ดูท่าทางอึดอัดเล็กน้อย

 

“ข้าน้อยคงตอบสนองความต้องการของท่านไม่ได้ขอรับ ข้าน้อยได้รับมอบหมายให้คุ้มกันท่านทูตจากเผ่าเอลฟ์ จะทำให้บาดเจ็บเสียเองไม่ได้เด็ดขาดขอรับ…”

“โห? มั่นใจว่าทำให้ผมบาดเจ็บได้เลยเหรอ?”

“มิได้ขอรับ… ความแข็งแกร่งของท่านกีนั้นไร้ข้อกังขา ข้อน้อยได้ยินจากองค์ชายมิลานมาแล้ว…”

 

   คุมะฮาจิไม่ถนัดการเกลี้ยกล่อมก็ยิ่งลำบากใจ เพราะหลังจากนี้ยังมีการประชุมระดับชาติที่เอลฟ์ทุกคนต้องเข้า แต่ดูเหมือนกีต้องการเล่นสนุกฆ่าเวลาโดยใช้คุมะฮาจิเป็นข้ออ้าง

 

   เพราะฉะนั้น จึงตอบตกลงไม่ได้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรให้อีกฝ่ายยอมถอย

 

“เอาสิ”

“โอ๊ะ? ดูเหมือนท่านเซเลนจะมีความคิดดีๆอยู่สินะขอรับ”

 

   ขณะที่กำลังคิดหาข้ออ้างที่จะตอบกับกี เซเลนก็มาสะกิดอยู่ข้างหลัง เด็กสาวผู้ชาญฉลาดคนนี้ต้องทำให้ทุกฝ่ายพอใจได้แน่

 

“เบสบอล**”

“นกย่าง**? ของแบบนั้นเอามาแข่งกันได้ด้วยเหรอ?”

 

   กีไม่เข้าใจคำว่า ‘เบสบอล’ ของเซเลน จึงหันไปทางคุมะฮาจิ แต่ก็ดูเหมือนไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน เซเลนเห็นเช่นนั้นจึงเริ่มอธิบายด้วยคำพูดที่กำกวมที่สุด

 

“ปาบอล อีกคน ใช้ไม้ ตีโดน มีคะแนน”

“อื่ม… ฟังดูเหมือนเป็นการละเล่นชนิดหนึ่งเลย”

“ใช่”

 

   อันที่จริง กฎกติกาของไม่ได้มีเพียงแค่นั้น นี่แค่ส่วนหนึ่งที่ยังไม่น่าจะเรียกว่าเบสบอลได้ แต่ก็ไม่มีใครออกมาช่วยเสริม ทุกคนจึงเห็นพ้องกัน อย่างน้อยก็เรียบง่ายและไม่อันตรายเท่ากับการต่อสู้ และที่สำคัญ มันทำให้กีเริ่มสนใจได้

 

“ไปแข่ง เบสบอล กันเลย!”

“…ลองสักหน่อยก็แล้วกัน”

 

   การประลองหระหว่างกีกับคุมะฮาจิก็ได้เริ่มขึ้น ภายในพื้นที่พระราชวังเฮลิฟาลเต้มีพื้นที่กว้างขาวงเพียงพอสำหรับกิจกรรมทุกประเภท ครั้งนี้ได้ใช้สนามหญ้าเห่งหนึ่งเป็นลานแข่งขัน

 

“คุมะฮาจิ ชนะให้ได้นะ!”

“เจ้าหมอนั่น คิดว่าตัวเองมาทำอะไรที่ดินแดนมนุษย์กันเนี่ย…”

 

   ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้สนามที่ใช้แข่ง มีสามสาวเป็นทั้งผู้ชมและกองเชียร์ เซเลน สวมหมวกปีกกว้างสำหรับบังแดด มารี ที่ได้ยินว่ามีเรื่องสนุกจึงตามมาดู และซานา เอลฟ์สาวผู้ติดตามของกี ทั้งสามกำลังมองไปที่การแข่งขัน โดยที่กีเป็นพิชเชอร์(คนขว้าง) และคุมะฮาจิเป็นฮิทเตอร์(คนตี)

 

“เอาล่ะนะ พร้อมหรือยัง?”                    

“ข้าน้อยไม่ถนัดเหวี่ยงอะไรนอกจากดาบเสียด้วยสิ ถ้าคิดว่าเป็นดาบไม้สำหรับฝึกซ้อมก็พอไหวขอรับ”

 

   กียิ้มกว้าง ท่าทางจริงจัง ในมือมีบางอย่างที่เหมือนกับเยื่อไม้ถักรวมกันจนเป็นก้อนกลม มันถูกดัดแปลงมาจากวัตถุดิบที่นำมาจากป่าสีขาว จึงมีทั้งความยืดหยุ่นทนทาน แข็งแรงยิ่งกว่าวัสดุทั่วไป กลายเป็นลูกบอลที่มีมูลค่าสูงจนน่าตกใจ

 

   อีกฝังหนึ่ง คุมะฮาจิถือท่อนไม้ด้วยสองมือ เป็นท่อนไม้รูปร่างอวบ มีด้ามจับ และดัดแปลงมาจากวัตถุดิบของป่าสีขาวเช่นเดียวกัน จึงมีน้ำหนักเบาและแข็งแรงยิ่งกว่าท่อนเหล็ก มูลค่าของอุปกรณ์กีฬาชุดนี้ คนทั่วไปได้ยินแล้วอาจเป็นลมได้

 

“ย้าก! ตายซะ!”

 

   กีข้าวงลูกบอลออกไปพร้อมตะโกยสุดเสียง แม้ร่างกายจะผอมบาง แต่พละกำลังก็ไม่น้อยหน้าใคร บอลพุ่งตรงไปหาคุมะฮาจิด้วยความเร็วสูง

 

“ฮึ่ม!”

 

   แต่คุมะฮาจิก็ไม่แพ้ง่ายๆ ท่อนไม้ถูกเหวี่ยงด้วยแรงที่เท่ากันหรืออาจจะมากกว่ากี เสียงของแข็งกระทบกันดังไปทั้งสนาม ไม้ในมือของคุมะฮาจิปัดบอลจากกีกระเด็นกลับไปไกลลิบ

 

“โฮมรัน!”

 

   เซเลนพูดคำแปลกๆและลุกขึ้นยืนปรบมือ มารีกับซานาไม่มีปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ 

 

“ใช้ได้เลยนี่นา… สมแล้วที่มิลานยอมรับเป็นคู่แข่ง”

“พอจะตัดสินได้หรือยังขอรับ?”

“ถ้าจะตัดสิน มันต้องหลังจากเอาจริงด้วยกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ?”

 

   กีขว้างบอลอีกครั้ง ยังเป็นลูกตรงเหมือนครั้งแรก คุมะฮาจิตั้งท่า เตรียมเหวี่ยงไม้ในจังหวะเดิมอีกครั้ง แต่…

 

“เร่ง!”

 

   ลูกบอลที่ออกจากมือมาครึ่งทางแล้ว ทำความเร็วสูงขึ้นตามคำสั่งของกี

 

“อะไรกัน!”

 

   บอลลอยผ่านคุมะฮาจิไป ไม้ถูกเหวี่ยงช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ขณะที่คุมะฮาจิคิดทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น กีก็ยิ้มออกมา

 

“เข้าใจหรือยัง? ถ้าเอาจริงก็ประมาณนี้แหละ ก็จุดแข็งของเอลฟ์คือเวทมนตร์นี่นา”

“เพิ่มความเร็วของวัตถุสินะขอรับ”

 

   ซานาเก็บลูกบอลและโยนคืน กีรับไว้ละโยนเล่นขณะมองไปทางคุมะฮาจิ

 

“เป็นยังไง? ตัดสินได้หรือยัง?”

“คงต้องหลังจากเอาจริงทั้งสองฝ่ายอย่างที่ท่านว่าจริงๆขอรับ”

“ดี ถ้าอย่างนั้น ก็มาเต็มที่กับไอ้เบสบอลนี่กันเถอะ”

 

   รอบที่สาม กีขว้างลูกตรงไปอีกครั้ง โดยที่เร่งความเร็วด้วยเวทมนตร์ให้มากกว่าเดิม แต่คุมะฮาจิก็ไม่มีอาการแตกตื่นแม้แต่น้อย เขาเป็นถึงนักดาบที่มิลานยอมรับให้เป็นอันดับหนึ่งในประเทศ 

 

“…เห็นแล้ว!”

 

   ความเร็วที่เพิ่มขึ้นในครั้งนี้ไม่สามารถหลอกตาคุมะฮาจิได้ เขาเหวี่ยงไม้อย่างแม่นยำด้วยพละกำลังดั่งสัตว์ป่า เสียงคล้ายค้อนโลหะตอกลงบนก้อนหินดังสนั่น และบอลก็ลอยสูงกระเด็นกลับไปไกลยิ่งกว่าครั้งแรก

 

“เอาจริงดิ!?”

“ข้าน้อยเคยเห็นลูกเล่นของท่านกีครั้งหนึ่งแล้ว ถึงจะเพิ่มความเร็วแต่ถ้าไม่ทำให้เหนือความคาดหมายก็รับมือได้ไม่ยากขอรับ”

 

   คุมะฮาจิยกไม้ตั้งขึ้นตรงด้านหน้า มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะทำโฮมรันจากกีได้ กีที่ได้ฟังก็รู้ว่าคุมะฮาจิทำได้จริงไม่ใช่คำขู่ หลังจากนี้ก็จะถูกตีกลับทุกครั้งอย่างแน่นอน

 

“ก็เพราะนายมีปัญญาทำได้แค่นี้ถึงได้แพ้ไงล่ะ!”

 

   ก่อนจะขว้างครั้งที่สี ซานาก็เข้ามาขัดจังหวะการแข่งขัน

 

“หา? เงียบไปเลยน่า! กำลังคิดแผนอื่นอยู่ต่างหาก!”

“แผนอื่น ก็คงไม่พ้น ‘ใส่พลังเวทลงไปให้เยอะๆ บอลจะได้พุ่งเร็วสุดๆ’ ใช่ไหม?”

“อึก!”

 

   ซานาถอนหายใจและแย่งบอลไปจากมือของกี

 

“นี่!”

“เห็นแล้วทนดูไม่ไหว นายคอยดูอยู่เฉยไปก่อนก็แล้วกัน”

“ว่าไงนะ!? ผมยังไม่แพ้สักหน่อย!”

 

   ไม่ว่ากีจะบ่นอะไรอีก ซานาก็ไม่ฟัง เธอหันไปเผชิญหน้ากับคุมะฮาจิ

 

“ขอเปลี่ยนตัวหน่อยนะ อันที่จริง ฉันไม่ได้สนใจเบสบอลอะไรนี่หรอก แค่ไม่อยากให้หมอนี่ทำเอลฟ์ขายหน้าไปมากว่านี้น่ะ”

“ไม่มีปัญหาขอรับ ต่อให้เป็นสตรี ข้าน้อยก็ไม่ออมมือ… ท่านเองก็ไม่อยากให้ข้าน้อยทำเช่นนั้นเหมือนกันใช่ไหมขอรับ?”

“ก็ตามนั้นแหละ”

 

   ซานายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะขว้างบอลออกไป ความเร็วของบอลเมื่อเทียบกับกีแล้ว เรียกได้ว่าช้าจนน่าหัวเราะ แต่ก็แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่นั้น

 

“บิด!”

 

   บอลที่ลอยช้าอยู่กลางอากาศเปลี่ยนรูปทรงตามคำสั่งของซานา มันเปลี่ยนทิศทางและแหวกว่ายอากาศราวกับมีชีวิต คล้ายกับลูกธนูที่ใช้จับบัตเลอร์ในป่าสีขาว

 

“หืม!?”

 

   มันเบี่ยงหลบไม้ของคุมะฮาจิที่ถูกเหวี่ยง ก่อนจะตกลงบนพื้นและกลิ้งไปด้านหลัง

 

“เป็นยังไง? พอสมน้ำสมเนื้อขึ้นมาบ้างไหม?”

“เล่นงานข้าน้อยได้อยู่หมัดเลยขอรับ”

 

   คุมะฮาจิตอบซานาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สิ่งที่เรียกว่าเบสบอลนี้ ให้ประสบการณ์ได้ดีกว่าที่คิด

 

“เอาล่ะ พอแค่นี้ดีกว่า ฉันไม่อยากเหงื่อออกไปเข้าร่วมประชุม”

 

   เป้าหมายของซานามีแค่ทำให้การแข่งครั้งนี้ ไม่ได้ดูเหมือนเอลฟ์ถูกไล่ต้อนอยู่ฝ่ายเดียวก็พอใจแล้ว แต่กีไม่ยอมพอแค่นั้น

 

“…ยังหรอก! แค่นี้ยังตัดสินกันไม่ได้!”

 

   คราวนี้ กีเป็นฝ่ายแย่งบอลจากมือของซานา และไปเผชิญหน้ากับคุมะฮาจิ

 

“นายนี่มัน… ก็น่าจะเล่นสนุกจนพอแล้วนี่นา…”

“ไม่ได้หรอก นี่มันคือศึกตัดสินระหว่างลูกผู้ชาย! ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ซานา ที่ทำให้ผมเข้าใจความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเอลฟ์! เอาล่ะ ในนามของ กี ตัวแทนของเอลฟ์แห่งป่าสีขาว! ขอท้าประลองกับคุมะฮาจิ!”

“จุดเด่นของเอลฟ์ไม่ใช่การใช้เวทมนตร์แต่เป็นการควบคุมสินะขอรับ เข้าใจแล้ว ด้วยเกียรติแห่งซามูไร ข้าน้อยขอรับคำท้า!”

 

   ด้วยเหตุนี้ ต่อสู้อันดุเดือดระหว่างพิชเชอร์เอลฟ์ กับ ฮิทเตอร์ซามูไร กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เป็นบรรยากาศร้อนแรงราวกับมีไฟลุกอยู่ในฉากหลังของพวกเขา

 

“…พวกผู้ชายนี่มันบ้ากันจริงๆ”

“…พอๆกันทั้งมนุษย์ทั้งเอลฟ์เลย”

“โอ้ว! ลุยเลย!”

 

   ขณะที่มารีกับซานานั่งมองและบ่นด้วยความเอือมระอา เซเลนลุกขึ้นตะโกนเชียร์อย่างเร่าร้อน เป็นผู้ชมที่คนเดียวที่สนุกกับการแข่งเบสบอลเวทมนตร์ในครั้งนี้

 

   การแข่งขันดำเนินต่อไปอีกห้าสิบรอบ หลังจากรอบที่ห้าสิบ ทั้งกีและคุมะฮาจิก็หมดแรงลงไปนั่งกับพื้นหญ้า

 

“เอาเรื่องเหมือนกันนี่นา…”

“ท่านกีก็ใช่ย่อย… ข้าน้อยชื่นชมจากใจเลยขอรับ”

 

   ในตอนนี้เอง เซเลนเดินเข้าไปหาพวกเขาที่เหนื่อยหอบ

 

“หมี ตีได้ สามสิบเก้า จากห้าสิบ”

“…ชิ สุดท้ายก็แพ้”

 

   กีบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ เขาแพ้ในอัตราส่วนใกล้เคียงกับแปดในสิบ

 

“กีชนะ”

“ได้อย่างไรกันขอรับ!?”

 

   ผลการตัดสินเหนือความคาดหมาย คุมะฮาจิถามหาเหตุผล เพราะเซเลนบอกเองว่าเขาตีโดนเยอะกว่า

 

“ไม่ถึงสี่สิบ แพ้”

“ถึงข้าน้อยจะไม่เข้าใจวิธีนับคะแนน… แต่ถ้ากฎเป็นเช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้ขอรับ”

 

  ดูเหมือนเบสบอลจะไม่ได้นับว่าคนที่ตีได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะเสมอไป อาจจะนับเป็นอัตราส่วน ถ้าอย่างนั้น ฝ่ายที่ขว้างก็จะได้เปรียบมากกว่า เพราะมันเป็นการแข่งขันแบบนั้น ก็ต้องยอมรับกันไป

 

“เอาเถอะ ผมก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองชนะเหมือนกัน… เอาไว้มาประลองกันใหม่เถอะ”

 

   แม้แต่ผู้ชนะอย่างกี ก็ยังดูเหมือนไม่พอใจกับผลการตัดสิน แต่ทั้งกีและคุมะฮาจิก็ยอมรับและเข้าใจความสามารถของอีกฝ่ายและเข้าไปจับมือกันหลังจบการแข็งขัน ซึ่งก็เป็นช่วงเย็น มารีและซานาหมดความสนใจและกลับไปตั้งนานแล้ว

 

“…ช้ามาก”

 

   อีกฝั่งหนึ่งในเวลาเดียวกัน มิลานและนักวิชาการของมนุษย์ รวมถึงหัวหน้าหมู่บ้านเอลฟ์ร่วมหลายคน กำลังเบื่อหน่ายกับการรอคอย เพราะหัวหน้าหมู่บ้านเอลฟ์คนหนึ่งยังไม่มาเข้าร่วมประชุม และที่สำคัญที่สุด เจ้าหญิงแสงจันทร์ผู้เป็นตัวกลางระหว่างมนุษย์และเอลฟ์ก็ยังไม่โผล่ออกมาให้เห็น

 

   นั้นก็เพราะ เซเลนไม่ได้นอนกลางวันในวันนั้นจนไม่มีกระจิตกระใจทํางาน และกีก็เหนื่อยจนกว่าจะพูดคุยโต้ตอบกับใครได้ การประชุมจึงถูกเลื่อนเป็นวันถัดไปด้วยเหตุสุดวิสัยนี้

 

 

____________________

*ล้อเกม วินนี่เดอะพูห์ โฮมรันดาร์บี้ (Winnie the Pooh’s Home Run Derby)

 

** 野球 (ยาคิว/ยา-คิ-ว) = เบสบอล

焼き鵜 (ยากิอุ) = 焼き(ยากิ)ย่าง + 鵜(อุ)นกเป็ดน้ำชนิดหนึ่ง

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset