[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ – ตอนที่ 60

ตอนที่ 60

แม่

 

   เจ้าหญิงแสงจันทร์ เซเลน  ผู้ที่เสียสละเพื่อหยุดยั้งคำสาปที่จะทำลายล้างทวีป และฟื้นคืนจากความตาย เป็นตำนานให้เฮลิฟาลเต้ รวมถึงคนทั้งทวีปเล่าขานสืบต่อไปอีกนานเท่านาน จากเหตุการณ์นั้น เซเลนไม่ได้เป็นเพียงเด็กสาวผู้งดงามและมากด้วยปัญญาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นนักบุญ สัญลักษณ์ของการเกิดใหม่

 

   และเซเลนในตอนนี้…

 

“หน้าอก ของท่านพี่…”

“โธ่ เซเลนนี่ก็ เป็นเด็กไม่รู้จักโตสักทีน้า”

 

  วันนี้ก็ได้มานั่งอยู่บนตักของอาลัว เอนตัวพิงลงไปให้ใบหน้าแนบชิดกับหน้าอก

   หรือก็คือ ดูไม่สมเป็นผู้ใหญ่แม้แต่น้อย

 

  เพราะเป็นบุคคลสำคัญของเฮลิฟาลเต้ ทั้งเก้าอีและเตียงนอนของเซเลนจึงคัดเลือกมาแต่ของคุณภาพสูงให้ใช้งาน แต่จุดเด่นก็มีเพียงความนุ่มนิ่มเท่านั้น

 

   ต่อให้วัดกันที่นุ่มนิ่มเพียงอย่างเดียว อาลัวก็ยังชนะขาด

   และยังมีกลิ่นหอมเย้ายวน ความอบอุ่น และสัมผัสเนียนเรียบ ที่หาไม่ได้จากผืนผ้ายัดนุ่นทั้งหลาย

   สำหรับเซเลนแล้ว ถ้าจะให้ผ่อนคลายร่างกายได้ดีที่สุด ก็ต้องอาลัวเท่านั้น

 

   เซเลนพักผ่อนอยู้ใต้ร่มไม้ บนม้านั่งของร้านกาแฟแห่งหนึ่งใมรั้วโรงเรียนที่อาลัวเป็นนักเรียนอยู่ เพราะร่างกายของเซเลนแพ้แสงแดดมาตั้งแต่เด็ก อาลัวจึงเลือกใช้สถานที่ที่มีลมพัดผ่านได้ดีและไม่โดนแสงแดดโดยตรง อาลัวโอบกอดน้องสาวผู้น่ารักของตนไว้ในอ้อมแขนขณะที่ให้นั่งอยู่บนตัก

 

   พ่อบ้านหนูผู้ซื่อสัตย์ บัตเลอร์ ก็ขดตัวนอนอย่างสบายใจอยู่ข้างๆ

   ถึงจะดูเหมือนหลับแต่ก็ยังใช้ประสาทสัมผัสคอยสังเกตสิ่งรอบตัวอย่างเต็มที่ เพื่อลุกขึ้นมาปกป้องเจ้านายจากอันตรายได้ทันท่วงที

 

   เส้นผมสีทองเงางามของอาลัว กับเส้นผมสีเงินดุจเส้นไหมกับดวงตาสีแดงทัพทิมของเซเลน ดูเข้าคู่กันอย่างน่าประหลาด ทั้งบัตเลอร์และเหล่านักเรียนที่เดินผ่านไปมา ต่างก็หันมามองพี่น้องคู่นี้ด้วยรอยยิ้ม 

 

  เป็นฉากที่งดงามราวกับภาพวาดงานศิลปะ อย่างน้อยก็เท่าที่ตาเห็น

 

“อ๊ะ เจอตัวสักที”

 

   ช่วงเวลาแห่งความสุขถูกขัดจังหวะโดยใครบางคน

   ก่อนที่จะเข้ามาใกล้ บัตเลอร์หรี่ตาขึ้นมามอง แต่ก็ปล่อยผ่านโดยไม่ได้ทำอะไร

 

“อ้าว ชินนิ”

 

   คนที่ส่งเสียงทักตอบคือเซเลน ชินนิในเสื้อคลุมสีดำสนิท เส้นผมสีแดง ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ในอดีตเคยศัตรู แต่ก็ได้ตัดสินใจพยายามทำให้ตัวเองเหมาะสมที่จะอยู่เคียงข้างเซเลน

 

“ดูมีความสุขดีนะ”

“มันคือ หน้าที่”

 

  เซเลนตอบเสียงเอื่อยๆพร้อมยกนิ้วโป้งขณะปล่อยศีรษะให้จบลงในร่องอกของอาลัว

   ชินนิเห็นแล้วก็หลุดยิ้ม คนคนนี้ยังมีมุมที่เป็นเด็กแปลกๆเหมือนเคย

 

“แต่ว่า ที่มีธุระด้วยตอนนี้คือท่านอาลัวน่ะค่ะ เพราะสิ่งนี้”

“หืม.. จดหมาย?”

 

  จดหมายปิดผนึกที่ชินนิหยิบออกมาจากเสื้อคลุมและยื่นส่งให้กับอาลัว

 

“ฉันรับฝากไว้เพราะถูกส่งมาถึงตอนที่ท่านอาลัวไม่อยู่ ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องสำคัญ จึงคิดว่าควรรีบส่งให้ถึงมือ”

“ขอบคุณนะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ… ก็เป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว…”

 

  รอยยิ้มของอาลัวทำให้ชินนิหน้าแดงจนต้องหลบสายตา

  แม้ชินนิจะพยายามหลีกเลี่ยงอาลัวที่พยายามจะเข้ามาดูแลเธอในก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่ออาลัวได้แล้ว

 

“ถ้าอย่างนั้น ฉันเองก็…!”

“ชินนิ มาสิ!”

“ไม่ล่ะ ไปก่อนนะ!”

 

   เซเลนทำหน้าผิดหวัง

 

   สำหรับเซเลน ถ้าถูกห้อมล้อมด้วยสาวงาม ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี ในเมื่อชินนิอยู่ตรงนี้แล้วก็อยากให้ร่วมวงกัน แต่ความจริงนั้นก็ไม่ได้เป็นไปตามที่หวังก็เซื่องซึมขึ้นมาเล็กน้อย

 

   ปล่อยเซเลนเอาไว้อย่างนั้นไปก่อน อาลัวเริ่มพิจารณาจดหมายที่ได้รับมา

  กระดาษเนื้อเรียบแสดงให้เป็นว่าเป็นของราคาแพง ทั้งตราและตัวหนังสือก็เป็นทางการ ดูอย่างไรก็เป็นของสำคัญแน่นอน

 

“อื่ม… เกี่ยวกับไอโรเน่”

“ไอโรเน่! ใคร!?”

 

   ชื่อไม่คุ้นหู เซเลนลุกขึ้นนั่งตัวตรงและมองไปทางอาลัว

   จนถึงตอนนี้ แค่คอยกันมิลานให้ออกห่างก็เหนื่อยแล้ว ถ้ามีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาอีกก็ยิ่งลำบาก และสมองของเซเลนมีความจุต่ำ ชื่อของคนที่ไม่น่าสนใจจึงถูกลืมไปสนิท

 

“…ก็ท่านแม่ของพวกเราไงคะ”

“อ๋อ ผู้หญิงคนนั้น*”

“ผู้หญิงคนนั้น…?”

 

  สีหน้าของอาลัวเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองเมื่อได้ยินคำพูดของเซเลน อีกทั้งเซเลนในตอนนี้ก็ดูเหมือนไม่สนใจและกลับมาพิงหน้าอกอีกครั้ง

  ชื่อของราชินีคนปัจจุบันของอาร์คุยล่า ไอโรเน่ อาร์คุยล่า

  ซึ่งก็คือแม่ผู้ให้กำเนิดอาลัวและเซเลน

 

   ถึงจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด แต่เซเลนก็สืบทอดความทรงจำของชายวัยกลางคนมาตั้งแต่เกิด จากนั้นก็ได้ตกหลุมรักอาลัวที่เข้ามาแสดงความดีใจที่ได้น้องสาวน่ารักมาเป็นสมาชิกครอบครัว จนแม่แท้ๆถูกลดระดับความสำคัญลงมา

 

   หลังจากทำใจเรื่องชีวิตใหม่ได้ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตตามใจอยาก เพราะฉะนั้น จึงหมกมุ่นอยู่กับหน้าอก โดยช่วงแรกจะเป็นหน้าอกพร้อมน้ำนมของไอโรเน่ แต่พอผ่านไปได้ไม่นานก็ทำตัวน่าขนลุกให้อีกผ่ายเห็นจนถูกแยกห่าง

 

   สำหรับเซเลนแล้ว ถึงจะชอบหน้าอก แต่ไม่สนใจน้ำนมที่อยู่ข้างใน

   ของกินที่อยากได้จริงๆคือเนื้อย่างติดมัน เพราะฉะนั้น เธอจึงหย่านมก่อนกำหนดในแง่ของสารอาหาร

   อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความพึงพอใจ เธอยังต้องการหน้าอกอยู่เหมือนเดิม

   

   ช่วงนั้น เซเลนได้เลือกที่จะเกาะติดและเชื่อฟังแต่กับอาลัวที่เป็นสาวน้อยน่ารักและยังใจดี แทนที่จะเป็นแม้แท้ๆอย่างไอโรเน่ซึ่งเป็นแม่ม่ายลูกสอง

   

 คล้ายๆกับการเปลี่ยนจากมือถือฝาพับรุ่นเก่า มาเป็น iPh○ne โดยที่มือถือฝาพับก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแค่หมดความสนใจ ชายวัยกลางคนผู้นี้คิดกับแม่ของเขาในทำนองนั้น

 

   สรุปแล้ว ตัวตนของราชินีไอโรเน่ ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษสำหรับเซเลน

   แต่นั่นคือสิ่งที่เซเลนเข้าใจเพียงคนเดียว ผู้คนรอบข้างไม่ได้มองเห็นเป็นเช่นนั้น

 

“เซเลน เดี๋ยวพี่ต้องไปทำธุระแล้วนะคะ เอาไว้วันหลังค่อยมาเจอกันอีกนะ”

“อือ ได้”

 

   ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจ แต่เซเลนก็ลุกออกจากอาลัวแต่โดยดี

   ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เซเลนจะไม่ทำอะไรที่สร้างปัญหาให้กับอาลัว

   อย่างน้อย เซเลนก็มีสติปัญญาพอที่จะทำเช่นนั้นได้ เพียงแค่ขาดสามัญสำนึกในบางครั้ง

 

“กลับดีๆนะ”

“อือ”

 

  อาลัวยิ้มและโบกมือลาขณะเซเลนหันหลังเดินออกไป

   เมื่อเห็นเซเลนไปไกลแล้ว อาลัวจึงพูดในสิ่งที่คิดอยู่

 

“ไม่ใช่แม่… แต่เรียกว่าผู้หญิงคนนั้น…”

 

   เป็นคำพูดที่แสดงความเศร้าสร้อยออกมาชัดเจน ซึ่งก็ถูกความสามารถในการฟังเสียงที่ไม่ธรรมดาของบัตเลอร์จับไว้ได้ทันที

   ยิ่งไปกว่านั้น บัตเลอร์เองก็คิดแบบเดียวกับอาลัวอยู่

 

[“องค์หญิง เกี่ยวกับองค์ราชินี…”]

“มีอะไร?”

[“ท่านเคยคิด… อยากอยู่พร้อมหน้ากับครอบครับบ้างหรือเปล่าครับ?”]

 

   บัตเลอร์ที่ปรกติจะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่พอมาเป็นประเด็นนี้ เขาเลือกใช้คำพูดอย่างระมัดระวังกับเซเลน

   ตัวตนของมารดา เป็นเพียง ‘ผู้หญิงคนนั้น’ สำหรับเซเลน

   หมายถึง ความสัมพันธ์ทางสายเลือดถูกมองข้ามจนกลายเป็นคนอื่นคนไกลไปเสียแล้ว

 

[“(สมัยที่กระผมยังเป็นเด็กน้อยอ่อนแอ ก็มีแต่คุณแม่นี่แหละ ที่ปกป้องเลี้ยงดูจนกระทั่งออกหากินเองได้ น่าเศร้าเหลือเกิน ที่องค์หญิงไม่เคยได้รู้จักความอบอุ่นเช่นนั้น…)”]

 

   คิดแล้วก็ทำให้หัวใจของบัตเลอร์รู้สึกเจ็บปวด

   เจ้านายผู้สูงส่ง ผู้คนทั้งทวีปต่างยกย่องในความงามและปัญญา จนถูกเปรียบเปรยว่าเป็นเด็กสาวที่ได้รับความรักจากพระเจ้า

   แต่ต่อให้ได้รับความรักจากพระเจ้าจริง มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อแม่แท้ๆที่สมควรให้ความรักมากที่สุดกลับไม่แยแส

 

   การทำตัวออดอ้อนเหมือนเด็กๆกับอาลัวก็เพราะโหยหาความอบอุ่นจากแม่

   แต่สุดท้ายแล้ว พี่สาวก็ไม่มีทางเป็นแม่ให้ได้

 

   อันที่จริง เซเลนเกาะติดกับอาลัวเพราะต้องการสนองตัณหาล้วนๆ ไม่ได้เป็นเป็นตัวแทนของแม่อย่างแน่นอน

 

“เจอ ท่านพี่แล้ว กลับเถอะ”

[“นั่นก็จริงครับ….”]

 

   เซเลนลูบหัวบัตเลอร์เบาๆขณะตอบ

   รอบยิ้มไร้กังวลที่เห็นนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เขาเชื่อว่าต้องมีความเศร้าซ่อนอยู่ลึกๆข้างในเป็นแน่

   บัตเลอร์ค่อนข้างมั่นใจ แต่เซเลนไม่ได้คิดอะไรเลย

 

  ความเศร้าของเซเลนคงจะมีแค่ตอนที่อยากกินสเต็กแล้วมื้อเย็นเป็นสลัดผัก กับตอนที่พยายามเข้าอาบน้ำพร้อมกับมารีแต่กะเวลาพลาดจนสวนทางกัน

 

   ในตอนนี้ แม้จะอยากให้เซเลนได้รู้จักความรักของแม่ แต่บัตเลอร์ก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกสักระยะ 

 

   เพราะมีโอกาสที่จะเป็นการทำร้ายจิตใจของเซเลนได้ ซึ่งเขาเป็นห่วงเรื่องนี้มากกว่า

 

[“องค์หญิง หากท่านมีเรื่องไม่สบายใจ กรุณาอย่าเก็บไว้คนเดียว โปรดปรึกษากระผมได้ทุกเวลา กระผมพร้อมเป็นพลังให้ท่านเสมอ”]

“อือ…”

 

  เซเลนตอบรับทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจว่านี่มันเรื่องอะไร

  แน่นอนว่าอยากอยู่ต่อเพื่อสัมผัสเรือนร่างของอาลัวให้นานกว่านี้ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องไม่สบายใจจนอยากปรึกษาใคร

 

 เซเลนจับบัตเลอร์ขึ้นมาวางไว้บนไหล่และเดินไปขึ้นรถม้าเพื่อกลับไปพักผ่อน

   ในตอนนี้ ทุกอย่างเกี่ยวกับราชินีไอโรเน่ก็ได้ถูกลบหายไปจากความทรงจำของเธอจนหมดสิ้นอีกครั้ง

 

 

   ในวันเดียวกัน ภายในปราสาทเฮลิฟาลเต้มีการพบปะครั้งสำคัญ

 

  ผู้มีอำนาจระดับต้นๆของประเทศนี้สามคน ราชาชวาน ราชินีไอบิส และเจ้าชายมิลาน กำลังหมองหน้ากันในบรรยากาศที่จริงจังกว่าปรกติ

 

   คนแรกที่พูดออกมาคือชวาน

 

“เอาล่ะ มิลาน ที่เรียกแกมาในวันนี้ รู้ไหมเพราะอะไร?”

“…ไม่ทราบครับ”

 

  ถึงชวานจะเป็นคนอ่อนโยนแต่บางครั้งก็เข้มงวด เพราะฉะนั้นเขาถึงเป็นทั้งพ่อที่ดีและกษัตริย์ที่น่านับถือ

  การถูกทั้งสองเรียกเข้าพบในลักษณะนี้ เท่าที่มิลานคิดออก เขาน่าจะทำบางอย่างผิดพลาด แต่งานของเขาในช่วงนี้ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ยังเรียนรู้พัฒนาได้เรื่อยๆ

 

“อยู่ดีๆคุณก็พูดออกมาแบบนี้ ใครจะไปเข้าใจล่ะคะ มิลานจะระแวงก็ไม่แปลก”

 

   ไอบิสหันไปดุสามีเบาๆ

   มิลานค่อนข้างโล่งใจ อย่างน้อยตัวเขาก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรไว้โดยไม่รู้ตัว

 

“อื่ม… เข้าใจแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้ต้องทำให้ชัดเจน”

 

   น้ำเสียงของชวานฟังดูเป็นมิตรขึ้นมาเล็กน้อย

   หลังจากบรรยากาศดูเหมือนจะเริ่มผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง เขาก็พูดประเด็นหลักกับมิลานทันที

 

“เรื่องการแต่งงานของแกกับเซเลน”

“แต่งงาน!?”

 

   เมื่อได้ฟัง มิลานที่กลับมาเยือกเย็นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

 

 

____________________

*おばさん (โอบ้าซัง) = หญิงสูงวัย มักใช้เรียกแบบรวมๆไม่เฉพาะเจาะจง เช่น คุณยาย, คุณป้า

 

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset