[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 112 ดันเจี้ยน 1

บทที่ 112 ดันเจี้ยน 1

            หลังจบการอธิบายจากทางโรงเรียนวันแรก ก็ให้นักเรียนทุกชั้นปีไปรวมตัวกันตรงห้องประชุมเพื่อทำพิธีปฐมนิเทศ ตามปกติจะไม่เห็นนักเรียนชั้นปี 2 และปี 3

            เครื่องแบบของนักเรียนปี 2 และ ปี3 จะแตกต่างออกไปนิดหน่อย ดูเหมือนทุกปีการออกแบบจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

            โรงเรียนมีตึกใหญ่อยู่มากมาย หอประชุมและลานกว้างก็มีหลายแห่งซึ่งมันกว้างด้วยกันทั้งนั้น แทบจะไม่เคยพบที่โรงอาหาร ทำให้คิดว่าโรงอาหารเองก็มีหลายแห่ง

            หลังจากนั้นก็ไม่เห็นผู้กล้ากับผู้อำนวยการเลย ถึงราชาแห่งภูตจะพูดอะไรหลายอย่าง แต่ตอนนี้ทำอะไรอยู่ไหนก็ไม่รู้

            จากการเก็บข้อมูลตรงพิธีประเมิน ผู้กล้าเองน่าจะอยู่นอร์มอลโหมด

            ที่โลกนี้ไม่มีคนอยู่ในเฮลโหมดเลย ถ้าอยู่เฮลโหมดต่อให้ค่าความสามารถเป็น S จะถูกแสดงออกมาเป็น E ทั้งหมดขนาดผู้อำนวยการเอลฟ์ที่อยู่มาเป็นพันปียังบอกว่าเพิ่งเคยเจอ แถมยังไม่เคยเปลี่ยนผู้อำนวยการเลยตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียน น่าจะเคยเห็นผู้เข้าสอบมาหลายแสนคน ไม่น่าจะบอกว่าไม่เคยเห็นได้หรอก

            อเลนต้องมาโรงเรียนอยู่แล้ว ถ้าทางนู้นมีอะไรคงเข้ามาพูดเอง

            คาบเรียนของโรงเรียน ปี 1 จะเรียนวิชาทั่วไป แต่มีคาบเรียนเกี่ยวกับการวิจัยมอนสเตอร์ด้วย ที่กำลังเรียนอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบนิเวศและการใช้ชีวิตของก็อบลินกับออร์ค คิดว่าสมเป็นคาบเรียนของต่างโลก อาจารย์สอนอย่างกระตือรือร้นทั้งวิธีการปราบ, จุดอ่อน และข้อควรระวัง 

            ตอนบ่ายจะแบ่งไปตามพรสวรรค์ แต่ไม่มีคลาสเรียนสำหรับนักอัญเชิญอย่างอเลน พอไปปรึกษากับครูประจำชั้น ก็บอกมาว่าถ้าไม่มีคาบเรียนก็ไปเรียนสิ่งที่อยากเรียนได้เลย หรือจะไปตรวจสอบข้อมูลต่างๆที่ห้องสมุดก็ได้ ช่างอยากทำอะไรก็ได้ตามใจนะเนี่ย เลยไปเรียนดาบหรือเวทมนตร์ตามเหมาะสม คิดว่าควรเข้าเรียนทุกวิชาดูก่อน

            ไปโรงเรียน 4 วัน และมีวันหยุด 2 วัน ได้หยุด 2 ใน 6 วันต่อสัปดาห์ ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้ยัดเยียดการเรียนเยอะไป

            พอเรียนไป 4 วัน และมาถึงเช้าวันหยุด พวกอเลนทั้ง 4 คนก็มาอยู่หน้าดันเจี้ยน

            วันนี้จะมาลองดันเจี้ยนระดับ C ตรานักผจญภัยระดับ E ของพวกอเลนตอนนี้เข้าได้แค่ดันเจี้ยนระดับ C เท่านั้น

            ดันเจี้ยนที่เห็นจากที่ไกลๆ ดูเหมือนสิ่งก่อสร้างสูง 3 ชั้นของโลกก่อน ทำไมถึงบอกว่าเห็นจากที่ไกลๆนะหรือ นั่นก็เพราะกำลังต่อแถวอยู่ ข้างหน้ามีนักผจญภัยสวมชุดเกราะเรียงแถวยาวอยู่ ดูเหมือนจะวุ่นวายตั้งแต่เช้าเลย

            (ประมาณตึก 3 ชั้นเหรอ? ได้ยินมาว่าดันเจี้ยนระดับ C มี 4 – 6 ชั้น ถือว่าเป็นตึกที่เตี้ยนะเนี่ย จะขึ้นไปมันก็ครึ่งๆกลางๆ หรือว่าจะเป็นดันเจี้ยนแบบลงใต้ดินเหรอ?)

            ในระหว่างที่คุเรนะมองเมืองผ่านหน้าต่างรถไฟเวทมนตร์ด้วยความปลาบปลิ้ม อเลนทำการยืนยันว่าดันเจี้ยนมันเป็นแบบไหนกันแน่ เพราะไม่มีสิ่งก่อสร้างที่สูงถึง 10 – 20 ชั้น เลยคิดว่าน่าจะเป็นดันเจี้ยนที่ลงไปใต้ดิน

            “ดันเจี้ยนละ!”

            “อ้า ดันเจี้ยน!!”

            พอไปเข้าแถวคุเรนะก็คุยกับอเลนด้วยความตื่นเต้น เขาเลยตอบด้วยรอยยิ้ม

            “ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นด้วย!”

            “……”

            “เซซิลพูดแทรกเข้ามา ส่วนโดโกร่ายังเฝ้ามองอย่างเดียวไม่เปลี่ยน”

            หลังจากรอสักพักก็มาถึงตา

            “นักเรียนสินะ? มีตรานักผจญภัยหรือเปล่า?”

            พวกเราทั้ง 4 คนแสดงตรานักผจญภัยให้กับคนดูแลดันเจี้ยน เขาบอกว่าถึงอุปกรณ์ต่างๆจะดีแล้ว แต่อย่าฝืนเกินไป

            ครั้งนี้ อุปกรณ์ของทั้ง 3 คนใช้ไป 200 เหรียญทอง โดยดาบใหญ่และขวานมิธริลราคารวม 100 เหรียญทอง ส่วนเซซิลใช้ไม้เท้าจากต้นไม้โบราณ กับเครื่องป้องกันของทั้ง 3 คน เงินลดไปค่อนข้างมาก ตอนนี้เหลืออยู่ราวๆ 200 เหรียญทอง

            ดูเหมือนคุเรนะจะชอบดาบใหญ่เอามากๆ

            “วันนเพิ่งเคยเข้าดันเจี้ยนเป็นครั้งแรก แค่เข้าไปข้างในก็พออย่างนั้นหรือครับ?”

            “อ้อ งั้นเหรอ ครั้งแรกสินะ ถ้างั้นคงมีคำถามเยอะเลย เอ้าไปที่ห้อง 205”

            “คะ ครับ เข้าใจแล้วครับ”

            (คำถาม? ห้อง 205? พูดเหมือนเป็นอพาร์ตเมนต์เลย คิดว่ามาดันเจี้ยนกลับเป็นอพาร์ตเมนต์เหรอ)

            อเลนถามเรื่องความยากและการได้ไอเทมที่กิลด์นักผจญภัยไว้มากมาย ทำการเตรียมอุปกรณ์และรู้ถึงความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์พอประมาณแล้ว หลังจากนี้น่าจะพอทำอะไรได้อยู่ แต่รู้ตัวเลยว่ายังมีอะไรที่ไม่รู้อีกเยอะ

            มีหลายปาร์ตี้ของนักผจญภัยที่เอารถเข็นมาด้วย ดูเหมือนทางขึ้นเป็นทางลาด นอกจากอาวุธและเครื่องป้องกันแล้ว เอามาแต่ของที่เก็บในสกิลที่เก็บได้ ในที่เก็บมีตะเกียงเวทมนตร์, อาหาร, และชุดตั้งแคมป์จำนวนมาก

            ตรงชั้น 1 มีประตูขนาดใหญ่จำนวนมากเรียงอยู่ ตรงชั้น 2 เองก็มีห้องจำนวนมากเช่นกัน แถมประตูตรงทางเดินมีระยะห่างที่เท่าๆกันด้วย

            เปิดประตูขนาดใหญ่ที่เขียนไว้ว่าห้อง 205 ต่อให้เป็นปาร์ตี้ขนาดใหญ่หรือรถเข็นคงผ่านเข้าไปได้ง่ายๆ

            สิ่งที่เห็นอย่างแรกตอนเปิดประตูห้อง คือรูบิคที่ลอยอยู่กลางอากาศ ลูกบาศก์ขนาดใหญ่ยาวด้านละ 1 เมตร กำลังลอยอยู่กลางอากาศ มันมีแสงสีแดง ฟ้า เหลืองกะพริบไปมาจนดูเหมือนรูบิคที่กำลังขยับอยู่

            ‘ถ้าเข้ามาข้างในแล้ว กรุณาปิดประตูด้วย’

            “““พูดได้ด้วย”””

            เพราะรูบิคที่ลอยอยู่กลางอากาศพูดออกมาทำให้ทุกคนประหลาดใจ เลยปิดประตูตามที่บอกและไปรวมตัวกันหน้าลูกบาศก์ที่ลอยอยู่กลางห้อง

            ‘กรุณาแสดงตรานักผขญภัยด้วย’

            เสียงสังเคราะห์ที่เหมือนกับอนิเมะหุ่นยนต์สมัยก่อนพูดออกมาต่อโดยไม่สนใจพวกอเลนที่กำลังประหลาดใจ การพูดทีละประโยคอย่างนี้ คงไม่ใช่การพูดของมนุษย์แน่ๆ

            ถ้าเอาแต่ตกใจคงไม่มีอะไรคืบหน้า พวกอเลนเลยแสดงตรานักผจญภัยให้ดูทั้งที่ยังไม่เข้าใจ

            ‘อเลนนักผจญภัยระดับ E, คุเรนะระดับ E เช่นกัน, เซซิลระดับ E เช่นกัน, โดโกร่าระดับ E เช่นกันใช่หรือเปล่า?’

            “ใช่แล้วครับ”

            ‘ยินดีต้อนรับสู่ดันเจี้ยนระดับ C ฉัน C205 เป็นระบบดูแลที่เชื่อมต่อกับดันเจี้ยน’

            (อ้อ ดูไปก็เหมือนระบบดูแลดันเจี้ยนดีนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าสร้างขึ้นมายังไงแต่คงประณีตเอาเรื่องอยู่)

            “ขอโทษครับ ดูเหมือนห้องนี้จะเป็นทางตัน สามารถไปดันเจี้ยนจากห้องนี้ได้เหรอครับ?”

            ‘ถูกต้องแล้ว ฉันจะนำทางไปยังดันเจี้ยนที่อยู่คนละมิติ’

            “คนละมิติ? คนละซาบะอย่างนั้นเหรอครับ?”

            (เหมือนดันเจี้ยนส่วนตัวเลยนะเนี่ย คนละซาบะงั้นเหรอ)

            เกมออนไลน์ที่อเลนเคยเล่นมีบ่อยครั้งที่จะสร้างดันเจี้ยนขึ้นมาสำหรับแต่ละปาร์ตี้ซึ่งเรียกว่าดันเจี้ยนส่วนตัว พอฟังคำอธิบายทำให้คิดว่ามันน่าจะเป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงกับดันเจี้ยนนั้น

            ซาบะคือคำที่ใช้แทนเซิร์ฟเวอร์ พอบอกว่าคนละมิติทำให้อเลนนึกถึงตอนเล่นเกมในโลกก่อน สถานที่ภายในเกมจะอยู่กันคนละเซิร์ฟเวอร์ เพื่อลดความหน่วยของเซิร์ฟเวอร์จากความแออัด เลยมีบ่อยครั้งที่เมือง, ฟิลด์ต่างๆ แล้วก็ดันเจี้ยนจะอยู่กันคนละเซิร์ฟเวอร์

            ดันเจี้ยนส่วนตัวทุกอัน อยู่กันคนละห้วงมิติทำให้นึกถึงเรื่องของคนละเซิร์ฟเวอร์

            ‘ซาบะอย่างนั้นหรือ? ต้องขอประทานโทษด้วย ไม่สามารถเข้าใจได้’

            “ไม่เป็นไร เข้าใจแล้วครับว่าอยู่กันคนละมิติ อยากจะไปดันเจี้ยนช่วยพาไปหน่อยได้ไหมครับ”

            ‘รับทราบ อนึ่งจากการตรวจสอบตรานักผจญภัย นี่เป็นการไปดันเจี้ยนครั้งแรก ขออธิบายเกี่ยวกับดันเจี้ยนได้หรือไม่?’

            (หือ? ยังมีคำอธิบายอีกเหรอ แต่ทุกคนอยู่ด้วยควรจะถามสินะ)

            อเลนเป็นพวกที่ชอบทำไปจำไปมากกว่าฟังอธิบายทีเดียว ถ้าทำแล้วไม่เข้าใจค่อยไปค้นในเน็ต แต่ครั้งนี้มีเพื่อนอยู่ด้วยเลยอยากจะลดอันตรายที่เกิดกับตัวเองให้มากที่สุด

            เริ่มคุยกับ C205 อย่างจริงจัง

            “ช่วยอธิบายด้วยครับ”

            คุเรนะตื่นเต้นตอนที่มองอเลนกับ C205 คุยกัน ส่วนเซซิลทำหน้าสงสัยว่าทำไมถึงคุยได้เป็นปกติ

            ‘มิติที่จะส่งไปมันแตกต่างกันขึ้นกับปาร์ตี้นักผจญภัยและหมายเลขห้อง นักผจญภัยคนอื่นจะมาไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีความช่วยเหลือใดๆ กรุณาเตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมด้วย’

            “โอ้ววววววว! คนละซาบะสมบูรณ์แบบเลยสินะ!!”

            “อะ อะไรอีก! ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว!!”

            “เซซิลไม่เข้าใจเหรอ! บอกแล้วไงว่าคนละซาบะ!!”

            (อย่างนี้เรียกสัตว์อัญเชิญออกมาได้เต็มที่เลย!)

            “อเลนเพี้ยนไปแล้ว ถึงจะรู้สึกอย่างนั้นตั้งแต่ต้นแล้วก็เถอะ……”

            เซซิลตะลึงกับปฏิกิริยาของอเลน

            หลังจากนั้นเพื่อความแน่ใจ เลยสอบถามเกี่ยวกับวิธีการกลับมา, กับดัก, วิธีการไปชั้นถัดไป, เงื่อนไขการผ่านดันเจี้ยน แล้วก็เรื่องควรระวัง

            บอสของดันเจี้ยนระดับ C ดูเหมือนจะเป็นมอนสเตอร์ระดับ C ส่วนมอนสเตอร์อื่นๆจะเป็นมอนสเตอร์ระดับ E และ D

            เพราะถามเรื่องที่อยากถามหมดเลย เลยขอให้ส่งไปที่ชั้น 1 ของดันเจี้ยนระดับ C

            ‘ถ้าอย่างนั้น พยายามเข้านะ’

            พอบอกอย่างนั้นภาพของห้องหมายเลข 205 ก็เปลี่ยนไป ความแคบของห้องยังไม่เปลี่ยน C205 ยังลอยอยู่ใกล้ๆ แต่ตรงหน้าเปิดออกเป็นทาง

            พวกอเลนมองดูรอบๆ

            “เข้ามาในดันเจี้ยนแล้วเหรอ?”

            “เหมือนจะเป็นอย่างนั้น”

            โดโกร่าตอบคำถามของคุเรนะ

            “เอาละ เหมือนจะเป็นดันเจี้ยนชั้น 1 แล้ว ทุกคนลุยกันเลย”

            ทุกคนพยักหน้า แล้วพวกอเลนก็เข้าไปในดันเจี้ยน

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset