[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 114 บอสชั้นล่างสุด

บทที่ 114 บอสชั้นล่างสุด

            หลังจากการเข้าดันเจี้ยนครั้งแรก ก็มาถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน

            ระหว่างนั้นได้ค้นพบอะไรที่ยิ่งใหญ่ ตอนอเลนผ่านดันเจี้ยนชั้นแรกและไปชั้นที่ 2 ได้เหลือสัตว์อัญเชิญและฟืนเอาไว้

            เหตุผลที่ทำแบบนั้นเพราะเรื่องพูดที่ลูกบาศก์ซึ่งเป็นระบบควบคุมดันเจี้ยนได้บอกเอาไว้ตอนเข้าดันเจี้ยนครั้งแรก ถึงฟังแบบไม่ได้ใส่ใจ แต่คิดจะทำการทดลองอยู่แล้ว

            ที่บอกไว้ว่า “มิติที่จะส่งไปมันแตกต่างกันขึ้นกับปาร์ตี้นักผจญภัยและหมายเลขห้อง นักผจญภัยคนอื่นจะมาไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีความช่วยเหลือใดๆ กรุณาเตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมด้วย”

            ตอนที่ได้ยินครั้งแรก เพราะต่างมิติทำให้นักผจญภัยคนอื่นเข้ามาไม่ได้ ถึงจะดีใจที่สามารถเรียกสัตว์อัญเชิญออกมาได้ตามใจชอบเพราะไม่มีทางพบนักผจญภัยคนอื่น แต่ในระหว่างที่มุ่งหน้าในดันเจี้ยนไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกถึงความเป็นไปได้ 1 อย่าง

            ที่รู้สึกถึงความเป็นไปได้เพราะความแคบของห้อง 205 ถ้าพยายามแค่ 20 คนคงพอเข้าไปได้อยู่ แต่ไม่น่าจะรองรับคน 50 คนได้เลย แต่เจ้าหน้าที่กิลด์อสังหาริมทรัพย์บอกว่าดันเจี้ยนเข้าได้ถึง 50 คน

            บางทีห้องของดันเจี้ยนระดับ B และ A อาจจะกว้างกว่าก็ได้

            จากที่พูดกับระบบเชื่อมต่อดันเจี้ยน นักผจญภัยแต่ละคนไม่ได้เข้าดันเจี้ยนที่ต่างกัน แต่มิติของดันเจี้ยนจะแตกต่างกันไปขึ้นกับห้องและปาร์ตี้ของนักผจญภัย

            คิดอยู่ว่าถ้าเป็นปาร์ตี้นักผจญภัยระดับ 50 คน อาจจะแบ่งเข้าห้อง แล้วค่อยไปรวมตัวกันที่มิติของดันเจี้ยนเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นแล้วพวกเราเองจะเข้าไปในดันเจี้ยนเดิมได้อีกครั้ง หมายความว่าสามารถเข้าไปในดันเจี้ยนเดียวกันได้

            เพราะอย่างนั้นเลยวางสัญลักษณ์ที่เข้าใจได้ง่ายเอาไว้ แล้ววันนั้นก็ลองเข้าไปอีกที ซึ่งสามารถไปยังชั้น 2 ของดันเจี้ยนระดับ C ที่มีฟืนกับสัตว์อัญเชิญได้

            คิดว่าการคาดเดาของอเลนน่าจะถูกต้อง พอลองถามระบบเชื่อมต่อดันเจี้ยนก็เป็นไปตามนั้น

            เห็นได้ชัดเลยว่าสิ่งที่เรียกว่าดันเจี้ยน เป็นมิติดันเจี้ยนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากห้องที่เข้าและปาร์ตี้นักผจญภัย

            ใน 1 วันจะเข้าดันเจี้ยนกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัดจำนวน ดูเหมือนดันเจี้ยนจะมีอยู่มาก่อนที่จอมมารปรากฏตัว ทำให้สงสัยว่าใครเป็นผู้ดูแลกันแน่

            อนึ่ง ระบบเชื่อมต่อดันเจี้ยนเตือนมา 2 เรื่อง

            เรื่องแรกคือ ต่อให้เป็นดันเจี้ยนระดับเดียวกัน แต่ถ้าเข้าคนละห้องแล้วจะเห็นเป็นคนละดันเจี้ยน ไม่สามารถไปห้องเดิมก่อนหน้านั้นได้

            เรื่องที่สองคือ ถ้าไม่ได้เข้าดันเจี้ยนเกิน 1 เดือน ข้อมูลของดันเจี้ยนนั้นจะหายไป รวมถึงของดรอปต่างๆด้วย

            อเลนที่ได้ฟังเช่นนั้น ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนเลยเข้าไปที่ดันเจี้ยน เพื่อให้สัตว์อัญเชิญเก็บหินเวท โดยเรียกสัตว์อัญเชิญไว้ที่ชั้น 1 และ 2 อย่างละ 5 ตัว เพื่อไปเก็บหินเวท ส่วนชั้น 2 ให้ควบไปทำแผนที่ตรงส่วนที่ยังไม่เคยไปด้วย

            สามารถเก็บหินเวทโดยไม่มีใครมาขวางและไม่มีใครรู้

            1 วันที่ชั้น 1 สามารถเก็บหินเวทได้ราวๆ 200 ก้อน อัตราการเจอมอนสเตอร์สูงกว่านอกเมืองแกรนเวล ถ้ารวมกับที่ชั้น 2 จะได้ถึง 400 ก้อน ตั้งแต่นั้นก็เก็บหินเวททุกๆวัน ในระหว่างที่ลุยดันเจี้ยนก็ส่งหลายหน่วยออกไปเก็บ

            คิดว่า 3 ปีมันคงเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปเร็วมาก

            หลังจากเข้าดันเจี้ยนในวันที่ 5 ในที่สุดก็มาถึงชั้นที่ชวนให้คิดว่าเป็นชั้นล่างสุด

            พวกอเลนที่มาถึงชั้น 6 รู้สึกถึงความผิดปกติของชั้นนี้

            “โน้น ด้านในมีประตูอยู่ด้วยน่ะ”

            “จริงด้วย”

            เซซิลกับคุเรนะคุยกันตามปกติ เพราะอาศัยอยู่ชั้น 3 ด้วยกัน ทำให้คุยกันได้อย่างเป็นปกติแล้ว

            จากการพูดคุยกับระบบดูแลชั้น ทำให้รู้ว่าสถานที่แรกที่ถูกส่งมาจะเป็นเขตปลอดภัย หลังจากเขตปลอดภัยนี้ถึงจะเริ่มเป็นทางเดินเขาวงกต จนถึงชั้น 5 มันเป็นทางเดินอยู่ แต่พอชั้น 6 กับเป็นประตูขนาดใหญ่

            “นี่มัน ชั้นล่างสุดแล้วสินะ?”

            “น่าจะอย่างนั้น จะว่าไปเห็นบอกว่าดันเจี้ยนระดับ C มีสูงสุด 6 ชั้น ทำให้คิดว่าชั้นล่างสุดน่าจะเชื่อมต่อกับห้องบอสไม่ผิดแน่ๆ”

            ตอนนี้เพิ่งจะผ่านชั้น 5 ถึงจะไม่รู้เวลาแต่คิดว่าน่าจะเป็นตอนเย็นแล้ว พวกอเลนไม่มีนาฬิกาข้อมือ เลยพูดออกไปว่าอยากจะซื้ออุปกรณ์เวทมนตร์บอกเวลาแบบพกพาได้

            ว่าจะกลับอยู่หรอก แต่ไหนๆมาถึงบอสชั้นล่างสุดแล้ว เลยบอกว่าไปปราบมันกัน

            ประตูใหญ่ที่หนักอึ้ง ลวดลายที่สลักอยู่ตรงประตูแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่ปลายทางข้างหน้ามีศัตรูแข็งแกร่งรออยู่

            พออเลนแตะประตู แล้วประตูบานคู่ก็ส่งเสียงครืดๆๆ และเปิดออก ปลายทางข้างหน้าเป็นลานกว้างวงกลมที่มีรัศมีประมาณ 100 เมตร

            ตรงใจกลางลานกว้างนั้นมีก็อบลินคิง 1 ตัว และก็อบลิน 10ตัวยืนนิ่งไม่ไหวติง

            (โน้น หรือว่าถ้าเข้าไปใกล้ระดับหนึ่งถึงจะเข้ามาโจมตีเหรอ?)

            “อย่างนี้นี่เอง บอสของดันเจี้ยนระดับ C จะเป็นมอนสเตอร์ระดับ C 1 ตัวกับมอนสเตอร์ระดับ D 10 ตัวสินะ”

            อเลนทำการวิเคราะห์ ทำให้อีก 3 คนพยักหน้าเห็นด้วย

            ดันเจี้ยนระดับ C มอนสเตอร์ระดับ C จะมีแค่บอสที่อยู่ชั้นล่างสุด แสดงว่าดันเจี้ยนระดับ B ก็น่าจะเป็นมอนสเตอร์ระดับ B หรือเปล่า

            “นี่”

            “หือ?”

            “พวกฉันคิดว่าควรจะรู้พลังของอเลนด้วยน่าจะดีกว่าน่ะ”

            “อืม?”

            “ดังนั้น มอนสเตอร์พวกนี้ ให้สัตว์อัญเชิญของอเลนจัดการได้หรือเปล่า?”

            “ว้าว! สัตว์อัญเชิญของอเลนเหรอ!!”

            “นั่นสินะ จะว่าไป ฉันอยากเห็นสัตว์อัญเชิญของอเลนสู้เหมือนกัน”

            คุเรนะกับโดโกร่าเห็นด้วยการคำพูดของเซซิลที่บอกให้อเลนจัดการทั้งหมด

            จนถึงตอนนี้ตามปกติจัดการด้วยเวทมนตร์ของเซซิล จนเซซิลขึ้นสู่เลเวล 10 และปลดล็อกเลเวลสูงสุดของสกิล จนเลเวลสกิลขึ้นสู่เลเวล 2 แล้ว

            เพราะอยากให้สะสมค่าประสบการณ์สกิลด้วย และการโจมตีระยะไกลมันใช้เวลาน้อย ส่วนใหญ่เลยให้เซซิลจัดการเป็นหลัก

            อนึ่ง คุเรนะกับโดโกร่ายังไม่ได้เก็บค่าประสบการณ์สกิล เพราะยังไม่รู้วิธีใช้สกิล ทำให้คิดว่าคงสู้ได้ลำบากเกินคาด

            (ไม่สิ อย่างที่เซซิลว่าไว้ ยังเป็นแค่ดันเจี้ยนระดับ C หน้าที่เลยค่อนข้างน้อย แต่การจะผ่านดันเจี้ยนระดับ B หรือ A จำเป็นต้องใช้พลังสัตว์อัญเชิญ ให้ดูตอนนี้อาจจะเป็นอะไรที่ถูกต้อง)

            คุเรนะกับโดโกร่าต่างกับเซซิลที่เคยเห็นแค่นกตัวเล็กๆกับหนู ตอนนี้ควรให้รู้ถึงคุณประโยชน์ของสัตว์อัญเชิญน่าจะดีกว่า

            (เอาละ สกิลเสริมความแข็งแกร่งก็ขึ้นเลเวล 6 แล้วด้วย คงเป็นการณ์ดีหากให้เห็นถึงพลังของฉัน)

 

            [ชื่อ] อเลน

            [อายุ] 12

            [อาชีพ] นักอัญเชิญ

            [เลเวล] 42

            [พลังกาย] 1065+180

            [พลังเวท] 1660+600

            [พลังโจมตี] 584+180

            [ความทนทาน] 584+180

            [ความว่องไว] 1091+36

            [ความฉลาด] 1670+636

            [โชค] 1091

            [สกิล] อัญเชิญ <5>, สร้าง <5>, ผสม<5>, เสริมความแข็งแกร่ง<6>, ขยาย <4>, จัดเก็บ, แชร์, ลบล้าง, วิชาดาบ <3>, ขว้าง <3>

            [ค่าประสบการณ์] 3,016,226 / 60,000,000

 

            ・ เลเวลสกิล

            [อัญเชิญ] 5

            [สร้าง] 5

            [ผสม] 5

            [เสริมความแข็งแกร่ง] 6

             

            ・ ค่าประสบการณ์สกิล

            [สร้าง] 3,636,038 / 10,000,000

            [ผสม] 3,635,015 / 10,000,000

            [เสริมความแข็งแกร่ง] 1,220 / 100,000,000

 

            ・สัตว์ที่สามารถอัญเชิญได้

            [แมลง] DEFGH

            [สัตว์] DEFGH

            [นก] DEFG

            [พืช] DEF

            [หิน] DE

            [ปลา] D

 

            ・ถือครอง

            [แมลง] 

            [สัตว์] D 14 ใบ

            [นก] G 3 ใบ, E 3 ใบ

            [พืช] 

            [หิน] 

            [ปลา] D 30 ใบ

 

            ในที่สุดตอนต้นเดือนเสริมความแข็งแกร่งก็มาถึงเลเวล 6 

            หลังจากนี้จะเพิ่มเลเวลของสร้างและผสม หินเวทถ้ารวบกับคำขอกับกิลด์นักผจญภัยไปจะมีหินเวทระดับ D ราวๆ 35,000 ก้อน โดยจะเปลี่ยนทั้งหมดให้เป็นผลพลังเวท

            ผลพลังเวทฟื้นฟูพลังเวทได้ 1000 หน่วย โดยสร้างขึ้นจากหินเวทระดับ D 5 ก้อน คำนวณแล้วหินเวท 1 ก้อนจะฟื้นฟูพลังเวทได้ 200 หน่วย

            หินเวทระดับ D 35,000 ก้อน ตีเป็นค่าประสบการณ์ได้ 7 ล้าน

            อนึ่ง ผลของเสริมความแข็งแกร่งเลเวล 6 ทำให้ค่าสเตตัส 2 อย่างบวกเพิ่มอย่างละ 500

            “รอแป็บนะ”

            อเลนบอกอย่างนั้นพร้อมกับลบล้างสัตว์อัญเชิญปลา D 10 ตัว เพื่อทำให้ที่เก็บการ์ดว่าง แล้วสร้างและผสมซ้ำไปมา

            “อะไรกัน?”

            “อะไรเนี่ย สุดยอดเลย!”

            โดโกร่ากับคุเรนะประหลาดใจที่สมุดเวทมนตร์พลิกไปมาด้วยความเร็วสูง

            ถึงโดโกร่ากับคุเรนะจะประหลาดใจตอนเซซิลโจมตีด้วยเวทมนตร์เป็นครั้งแรก แต่ดูเหมือนสิ่งนี้จะเป็ฯการประหลาดใจคนละแบบ

            ด้านล่างของบอสชั้นล่างสุดมีสิ่งที่เหมือนวงเวทมนตร์อยู่ มันลอยอยู่เหนือบล็อคหินเล็กน้อย เลยค่อยๆเข้าไปใกล้

            อเลนเดินนำหน้าเคียงข้างคุรนะกับโดโกร่า ส่วนด้านหลังคือเซซิล

            พอเข้าไปในระยะ 50 เมตร เหล่ามอนสเตอร์ก็เริ่มเคลื่อนไหว

            “เหล่าแบร์ ไปจัดการมอนสเตอร์ซะ เหล่าบรอนปกป้องพวกฉัน”

            สัตว์อัญเชิญสัตว์ D 8 ตัวโผล่มาล้อมเหล่ามอนสเตอร์ และวิ่งเข้าใส่พร้อมกับใช้ทักษะ “กัดขยี้” และให้สัตว์อัญเชิญหิน D 2 โผล่มาป้องกันข้างหน้าอเลนตามที่ฝึกฝนไว้ แต่ดูเหมือนจะไม่จำเป็น

            สัตว์อัญเชิญสัตว์ D 8 ตัว ปราบก็อบลินคิงและก็อบลินในการโจมตีเพียงครั้งเดียว พวกมันไม่ใช่คู่มือที่จะต่อกรกับสัตว์อัญเชิญ D ที่เสริมความแข็งแกร่งแล้วได้เลย

            “เป็นไง! สุดยอดเลยใช่ไหม!!”

            “สุดยอด! แค่พริบตาเดียวเอง!!”

            “……”

            ไม่รู้ทำไมเซซิลถึงได้ดูภูมิใจ คุเรนะกับโดโกร่าดูการต่อสู้ด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ

            มอนสเตอร์กลายเป็นหินเวท

            “เอาละ ปราบได้แล้ว หือ?”

            ปลายทางด้านหน้าที่ปราบบอสชั้นมีวงเวทมนตร์อันใหม่ปรากฏขึ้นมา ถึงจะประหลาดใจไปครู่หนึ่งแต่แล้วก็มีกล่องสมบัติโผล่ขึ้นมา ดูเหมือนจะเป็นกล่องไม้

            (จะว่าไป ไม่มีมอนสเตอร์ที่ปลอมตัวเป็นกล่องสมบัติจากรางวัลสินะ)

            อเลนเป็นตัวแทนเข้าไปใกล้กล่องสมบัติเพื่อเปิดมันออก 3 คนที่อยู่ด้านหลังเฝ้ามองด้วยอาการตื่นเต้น

            สิ่งที่อยู่ข้างในเป็นดาบเหล็ก

            “รางวัลปราบบอสชั้นล่างสุดน่ะ จะว่าไปบอสชั้นล่างสุดจะเกิดวันละ 1 ครั้งสินะ”

            “นั่นสินะ”

            บอสชั้นล่างสุด แต่ละปาร์ตี้จะท้าทายได้วันละ 1 ครั้ง

            ด้วยเหตุนี้เลยผ่านดันเจี้ยนระดับ C แห่งแรกแล้ว

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset