[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 116 หาตี้จร 2

บทที่ 116 หาตี้จร 2

            อเลนยืนขึ้น คุเรนะกับโดโกร่า เลยมองว่าจะทำอะไร

            “จะเปิดรับพวกเหรอ?”

            “อือ คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะหาบาทหลวงน่ะ”

            เซซิลที่นั่งอยู่ด้านหลังถามออกมา และบอกว่าจะหาบาทหลวงที่เคยคุยกันที่ฐานก่อนหน้านี้

            (น่าจะประมาณนี้สินะ “หาพระ 1 คนเข้าตี้ปราบจอมมาร ตอนนี้มีนักอัญเชิญ, ยอดนักดาบ, นักเวท, ผู้ใช้ขวาน ไม่มีประสบการณ์ก็ได้” เอาเถอะ ครั้งนี้แค่พาผ่านดันเจี้ยน)

            อเลนสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ

            “ทุกคนฟังทางนี้หน่อย!! เปิดรับสมัครหาพวกไปลงดันเจี้ยน!!!”

            ตะโกนออกไปอย่างดัง

            “ดูนี่!! ตรานักผจญภัยระดับ D นี่เป๋นหลักฐานว่าปาร์ตี้ของพวกฉัน 4 คน ผ่านดันเจี้ยนระดับ C แล้ว !!!”

            เอาตรานักผจญภัยออกมาจากที่เก็บ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรื่องที่พูดเป็นความจริง

            “ขะ ของจริงด้วย ตรานักผจญภัยระดับ D”

            นักเรียนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เข้ามาดูเพื่อตรวจสอบตรานักผจญภัย ซึ่งอเลนยื่นตราให้เขาตรวจสอบอย่างละเอียด

            ว่าไงนะๆ ทุกคนหยุดการหาแล้วมุ่งความสนใจมาที่อเลน ครูประจำชั้นยังกอดอกมองอเลน

            “พวกฉัน 4 คน ตั้งแต่เริ่มเรียนตอนเดือนเมษายน ไปดันเจี้ยนสัปดาห์ละ 2 วัน!!! ใน 1 เดือนผ่านดันเจี้ยนระดับ C ไปแล้ว 2 แห่ง!!”

            หลังจากตอนนั้นพวกอเลนก็ผ่านดันเจี้ยนอีก 1 แห่ง

            เหล่านักเรียนประหลาดใจมากที่ผ่านดันเจี้ยนไปแล้ว 2 แห่ง จนซุบซิบกันว่าจริงหรือเปล่า ดูเหมือนยังไม่เคยมีใครไปดันเจี้ยนมาก่อนเลย

            “พวกฉัน กำลังหาผู้มีพรสวรรค์ทางด้านการรักษาอย่างบาทหลวง 1 คน!! เงื่อนไขคือต้องมาเข้าร่วมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน!!”

            ได้ยินคนพูดกันว่า ผ่านดันเจี้ยนแล้วยังจะไปอีกเหรอ หรือไม่ก็จะไปทุกสัปดาห์เลยเหรอ

            สำหรับอเลนคิดว่าสัปดาห์ละ 2 วันคงเป็นอะไรที่ฝืนเกินไป เลยอยากจะเปิดรับสมัครคนที่เข้าร่วมได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน การบอกเงื่อนไขก่อนหาพวกเป็นมารยาทที่ควรจะทำ

            “เรื่องผ่านดันเจี้ยนสบายใจได้เลย พวกฉันมียอดนักดาบกับนักเวทอยู่ ถึงดันเจี้ยนจะไม่มีอะไรที่ปลอดภัยแน่นอน แต่อยากจะให้เชื่อใจในพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมของพวกพ้อง”

            จะโกหกว่าปลอดภัยแน่นอนไม่ได้ แต่บอกเงื่อนไขและข้อมูลที่น่าจะทำให้รู้สึกสบายใจได้ออกไป

            “แน่นอนว่าไอเทมและรางวัลที่ได้จากดันเจี้ยน จะแบ่งให้เท่าๆกันทั้ง 5 คน! ด้วยจำนวนคนแค่ 5 คนส่วนแบ่งถือว่าค่อนข้างเยอะอยู่นะ!!”

            แล้วบอกข้อดีออกไป คนมักไม่เข้าร่วมหากไม่มีผลประโยชน์

            อเลนอธิบายออกไปรวดเดียว และมองดูสภาพรอบๆก่อนจะนั่งลง

            ถึงทุกคนจะให้ความสนใจ แต่ไม่มีใครมาเลย ไม่มีใครจะมาเข้าร่วมด้วย

            (กะแล้วเชียวว่ามันต้องยาก)

            อเลนตามหาฮีลเลอร์เพื่อ๕วามปลอดภัยของปาร์ตี้ การจะไปต่อสู้กับกองทัพจอมมารขนาดใหญ่ ยังไงก็ต้องมีฮีลเลอร์ แต่ก็รู้ตัวดีว่าการจะตามหาฮีลเลอร์มันเป็นเงื่อนไขที่ค่อนข้างยาก

            ตอนพิธีประเมินพอรู้ว่าเด็กมีความสามารถทางด้านการรักษาจะถูกทางโบสถ์ดึงตัวไปตอนพิธีประเมินที่หมู่บ้านคุเรนะเองก็เช่นกัน อเลนเห็นว่ามีทาสติดที่ดิน 1 คน ที่โดนโบสถ์พาตัวไป

            คิดเอาไว้ว่าผู้ที่มีความสามารถในการรักษา จะโดนผู้เกี่ยวข้องกับโบสถ์ดึงตัวไป ทำให้แทบจะไม่ค่อยมีใครมาโรงเรียน

            แล้วต่อให้มาเป็นพวกก็ไม่มีเหตุผลให้ไปสู้กับกองทัพจอมมาร ผู้มีพรสวรรค์ในการรักษามีงานให้ทำมากมาย มีเหมือนกันที่บาทหลวงจะถูกเชิญไปทำงานกับขุนนาง หลังจบการศึกษาแล้วไม่ไม่มีความลำบากในการใช้ชีวิตเลย

            ถ้าเป็นขุนนางคงไม่มีปัญหาเพราะมีหน้าที่และต้องไปสนามรบด้วยกัน

            คิดเอาไว้เหมือนกันว่าที่โรงเรียนอาจจะไม่มีบาทหลวงก็ได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วค่อยใช้เงินจ้างนักผจญภัยที่เป็นฮีลเลอร์ สะสมเงินจำนวนมากจากการผ่านดันเจี้ยน แล้วจ้างฮีลเลอร์ที่มีความสามารถ คิดว่าสิ่งนี้น่าจะพอทดแทนได้อยู่

            แต่คิดว่านักเรียนที่เรียนโรงเรียนเดียวกันมันดีกว่านักผจญภัยที่มากประสบการณ์และการประเมินค่าต่างกันอยู่ หลังจากนี้เป็นพวกพ้องที่ต้องฝากให้ดูด้านหลัง เลยอยากจะให้มีประสบการณ์ร่วมกัน

            “อเลนเนี่ยสุดยอดไปเลยนะ”

            ริโฟลลูกของนายพลที่นั่งอยู่ด้านหน้าพอได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ

            “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ถึงจะไม่ได้เปิดรับนักดาบ แต่ถ้าลำบากในการผ่านดันเจี้ยนมาบอกได้นะ น่าจะพอช่วยได้อยู่”

            (ถ้าถึงตอนนั้นค่อยให้คุเรนะไปช่วย อาจจะให้ไปคู่กับโดโกร่าด้วย)

            “จริงเหรอ ถ้าไม่ไหวจะมาขอร้องก็แล้วกัน!”

            สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปคงค่อนข้างดีใจกับคำพูดของอเลน อาจจะยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายในการผ่านดันเจี้ยนก็ได้ แต่ริโฟลที่มีพรสวรรค์นักดาบและเกิดในตระกูลเคานต์มีหน้าที่ที่ต้องจบการศึกษาให้ได้ คิดว่าคงกดดันค่อนข้างมากสำหรับขุนนางที่เกิดรับหน้าที่นายพลอย่างนี้

            หลังจากนั้นไม่นานคาบโฮมรูมก็จบลง และเริ่มเรียนคาบช่วงเช้า

            พอมาถึงตอนกลางวัน ตอนที่กำลังจะบอกว่าให้ทั้ง 4 คนไปกินข้าวที่โรงอาหารนั้น

            มีนักเรียนหนึ่งคนเข้ามาหาอเลน

            “คุณอเลนหรือเปล่า?”

            “ครับ ฉันอเลน มีอะไรเหรอครับ?”

            “ฉันชื่อคีล ยังเปิดรับสมัครฮิลเลอร์หรือเปล่า?”

            (โอ๊ะ! ฮิลเลอร์มาแล้ว!! ฮิลเลอร์สินะ? ถ้าไม่ใช่คงไม่มาคุยหรอกมั้ง??)

            “ครับ ยังไม่มีใครตอบรับเลย ทำให้ตอนนี้ยังว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง สามารถรักษาได้ใช่ไหมครับ?”

            “อือ ใช่อยู่หรอก แต่อยากจะขอคุยรายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหม?”

            เพราะว่าเที่ยงแล้วเลยบอกให้กินไปคุยไป เลยพาไปที่โรงอาหารพร้อมกับคุเรนะ, เซซิล และโดโกร่า

            โรงอาหารของโรงเรียนเป็นแบบบุฟเฟต์ โดยจ่ายแค่ 2 เหรียญทองแดงก็สามารถตักกินได้ตามใจชอบ ช่างเป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้ออยู่

            คุเรนะกับโดโกร่าตัดอาหารพูนจานเป็นเรื่องปกติไปแล้ว คุเรนะหยิบจานแล้วมุ่งหน้าไปโต๊ะที่วางอาหาร อเลนเองก็ไปตักอาหารแล้วกลับมานั่งที่ ส่วนคีลเอามาแค่แก้วใส่น้ำ

            “อ้อ ขอโทษด้วยที่ให้รอ เชิญไปตักอาหารได้เลยครับ”

            “เอ๊ะ? อ้อ ไม่เป็นไร กลางวันไม่ค่อยกินข้าวน่ะ”

            คิดว่านั่งจองที่ให้พวกอเลนซะอีก ถึงอเลนจะส่งเสียงออกไปด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนจะไม่กินข้าวกลางวัน

            (พวกที่ไม่ค่อยกินข้าวหรือเปล่านะ?)

            คีลเป็นชายผมบลอนด์รูปร่างผอม เขาสูงกว่าอเลนเล็กน้อย ผมชี้ตั้งแววตาดูน่ากลัว ตอนเข้ามาพูดทำให้เหมือนคุยกับพวกอันธพาล หรือว่าจะเป็นเด็กเกแถวชนบท

            หลังจากนั้นไม่นานคุเรนะกับโดโกร่าก็เอาจานใส่อาหารมาวาง คีลมองดูอาหารพูนจาน

            “คุณคีล ไหนๆวันนี้ก็มาด้วยกันแล้ว ขอเลี้ยงอาหารให้ก็แล้วกัน”

            “เอ๊ะ? ไม่สิ เรื่องอย่างนั้นมัน……” 

            “พูดอะไรอย่างนั้น กินไปคุยไปกันเถอะ”

            พอบอกอย่างนั้นก็มอบ 2 เหรียญทองแดงให้กับคีลที่ปฏิเสธ ตอนที่มอบให้เขาพูดออกมาว่า “……ขอโทษนะ” ก่อนจะไปตักอาหาร

            คีลคงจะหิวมาก เพราะจานที่เขายกกลับมามีอาหารพูนจานเช่นกัน พอเขานั่งลงอเลนก็เริ่มพูดต่อ

            “แล้ว บอกว่าชื่อคีลสินะ ถ้ายังไงขอแนะนำตัวเองอีกครั้งก็แล้วกัน ฉันชื่ออเลนครับ แล้วนี่พวกของฉันเซซิล. คุเรนะ แล้วก็โดโกร่า”

            “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”

            “ฝากเนื้อฝากตัวด้วย”

            “ยินดีที่ได้รู้จัก”

            แนะนำตัวสั้นๆแค่ชื่อ

            “อือ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย ฉันชื่อคีล”

            “แล้ว อยากจะขอพิจารณาก่อนเข้าปาร์ตี้ผ่านดันเจี้ยนใช่หรือเปล่าครับ?”

            “ใช่แล้ว ฉันมีพรสวรรค์ ‘บาทหลวง’ ก่อนเข้าร่วมอยากจะขอฟังหน่อยว่าทำอะไรกันบ้าง”

            (โอ้ว! บาทหลวงมาแล้ว ถึงจะไม่เหมือนบาทหลวงสักเท่าไรก็ตาม)

            คิดว่าเป็นการเสียมารยาทไปหน่อยกับชายที่เพิ่งจะเข้ามาทักเช่นนี้

            เริ่มพูดเรื่องที่ทั้ง 4 คนเกิดในแคว้นเดียวกัน และในสองวันที่ไม่มีเรียนจะเป็นวันลุยดันเจี้ยน ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้ไปสัปดาห์ละ 2 วันหรืออย่างน้อยก็สัปดาห์ละ 1 วัน

            ถ้าบอกไปว่าจะล่าบอสชั้นล่างสุดทุกวันธรรมดา เลยอยากให้ทุกคนอาศัยอยู่ที่ฐานด้วยกัน มันจะเป็นการยกระดับความยากของการเข้าร่วมมากเกินไปเลยไม่ได้บอก

            “งั้นเหรอ แล้วได้กำไรจากดันเจี้ยนไหม? เรื่องนี้บอกได้หรือเปล่า?”

            (หือ? ที่สนใจคือเงินเหรอ เงินสินะ)

            ถึงจะพูดอะไรหลายอย่างออกไป แต่สิ่งที่อยากฟังคงจะไม่ใช่เรื่องพวกนั้น

            “ครับ ดันเจี้ยนถ้าปราบมอนสเตอร์จะได้หินเวท ส่วนตอนปราบบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนจะได้กล่องสมบัติ”

            บอกออกไปว่า ดันเจี้ยนระดับ C ไอเทมที่ได้จากกล่องสมบัติของบอสชั้นล่างสุดมีราคาประมาณ 1 – 2 เหรียญทอง ถ้าแบ่ง 5 ส่วนจะได้คนละ 20 – 40 เหรียญเงิน

            “ดะ ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ? ขอลองเข้าร่วมสักครั้งได้ไหม?”

            “โอ้ว! แน่นอน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”

            ด้วยเหตุนี้ เลยพาชายที่ชื่อคีลซึ่งมีพรสวรรค์บาทหลวงไปลุยดันเจี้ยนด้วยกัน

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset