[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 128 พลังจิต

บทที่ 128 พลังจิต

            “ระหว่างกินข้าว ปล่อยให้มาเรียทำตามใจชอบไม่ดีกว่าเหรอ?”

            “ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่คะ มาเรียชอบอยู่บนตักของฉันด้วยนี่เนอะ”

            ‘ใช่ฆ่า…’

            (โดนเลี้ยงโดยสมบูรณ์เลยนะเนี่ย ถึงจะไม่เคยเลี้ยงแมวแต่มันคงเป็นความสัมพันธ์แบบเจ้าของที่เอ็นดูแมวมากกับแมวที่โหยหาอิสระ)

            อเลนมองราวกับเป็นเรื่องของคนอื่น

            นีน่าน้องสาวของคีล ตั้งแต่มาอาศัยอยู่ที่ฐานก็อยู่กับสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ตลอด ไม่รู้ว่าเพราะเหงาหรือว่าถูกใจมากๆ เวลานอนยังนอนด้วยกัน

            ถึงจะอยู่ระหว่างรับประทานอาหารเช้าแต่ก็ให้สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C นั่งบนตัก คีลเลยเตือนออกไป

            คีลกับเหล่าคนรับใช้มาอาศัยอยู่ได้ 5 วันแล้ว ถึงจะงุ่มง่านกันอยู่บ้าง แต่ถือว่าค่อนข้างคุ้นแล้ว

            ตอนนี้จะไปลงดันเจี้ยนระดับ C 3 แห่งทุกวัน จากกล่องรางวัลที่ปราบบอสชั้นล่าสุดทำให้ 1 วันหาเงินได้ประมาณ 3 เหรียญทอง โดย 1 ใน 6 หรือ 50 เหรียญเงินจะเป็นงบสำหรับดูแลฐานเช่นค่าอาหารและค่าจ้างคนรับใช้ในแต่ละวัน

            มันเกือบจะไม่พอ

            แต่อเลนแทบไม่ได้ใส่ใจเลย เพราะคิดว่าอีกไม่นานปัญหาเรื่องเงินคงคลี่คลาย

            “เอาละ เตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่วันนี้จะเริ่มลุยดันเจี้ยนระดับ B แล้ว”

            ถูกต้อง จะเริ่มลุยดันเจี้ยนระดับ B กันแล้ว

            “““โอ้ว!”””

            ทุกคนที่กินอาหารเสร็จแล้วตอบคำพูดของอเลนออกมา ตอนออกจากฐานคีลตบเบาๆตรงศีรษะของนีน่าที่มองมาทางนี้ด้วยความเป็นห่วง  มันกลายเป็นธรรมเนียมที่ทำตอนไปดันเจี้ยนแล้ว

            ใกล้ฐานมีดันเจี้ยนระดับ B อยู่ 2 แห่ง

            รูปแบบของมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนระดับ B ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ซึ่งมีทั้งสายแมลงและสายวิญญาณ แต่ที่ไปในครั้งนี้เป็นสายสัตว์ การโจมตีของสายสัตว์อ่านได้ง่าย และมีแค่กับดักพิษและสถานะผิดปกติกับหีบสมบัติเท่านั้น ทำให้ผ่านได้ง่าย

            หลังจากเดินไปไม่นานก็เห็นสิ่งก่อสร้างของดันเจี้ยนระดับ B นักผจญภัยที่เข้าแถวอยู่ดูแข็งแกร่งกว่าดันเจี้ยนระดับ C มาก

            นักผจญภัยกว่า 80% ผ่านดันเจี้ยนระดับ C แล้ว

            ส่วนที่ผ่านดันเจี้ยนระดับ B มีแค่ประมาณ 20% ดันเจี้ยนระดับ B ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจากกับดักอาจถึงตายได้ แถมบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ B เป็นมอนสเตอร์ระดับ B ถ้าไม่ปราบก็ไม่มีความหมาย

            ถ้าไม่มีพรสวรรค์ คงไม่มีทางปราบบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ B ได้ ต้องเป็นปาร์ตี้ที่มีผู้มีพรสวรรค์เป็นศูนย์กลางถึงจะผ่านได้

            สิ่งนี้เป็นกำแพงที่แบ่งระหว่างผู้มีและไม่มีพรสวรรค์

            อนึ่ง ได้ยินมาจากกิลด์นักผจญภัยว่าดันเจี้ยนระดับ A ต้องรวมปาร์ตี้ 5 – 1 0 กลุ่มอยู่

            ตอนที่เข้าไปในสิ่งก่อสร้างของดันเจี้ยนระดับ B พนักงานต้อนรับถามว่า “ไม่เป็นไรแน่เหรอ?” เพราะมันน่าแปลกที่มีแค่ 5 คนแถมยังเด็กกันอยู่ แต่บอกไปว่าไม่มีปัญหาพร้อมกับแสดงตรานักผจญภัยระดับ C เพื่อเข้าไปข้างในสิ่งก่อสร้าง

            ‘ระบบเชื่อมต่อดันเจี้ยน B304 ขอยินดีต้อนรับ’ 

            พอเข้าไปในห้องก็เจอวัตถุทรงลูกบาศก์ลอยอยู่เหมือนดันเจี้ยนระดับ C

            ได้รับการเตือนเกี่ยวกับกับดักที่นี่เหมือนกัน คิดว่าคงมีคนตายมากทำให้ตั้งคำเตือนเอาไว้ เลยถามจนจบเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง

            ดูเหมือนจะไม่มีข้อมูลที่มากไปกว่าข้อมูลที่ตรวจสอบเมื่อวาน เลยขอไปที่ดันเจี้ยน

            “บรรยากาศไม่ต่างจากดันเจี้ยนระดับ C เลยนะ”

            โดโกร่าที่พาดขวานไว้ตรงไหล่มองดูรอบๆ ที่นี่เป็นดันเจี้ยนหินแต่กลับไม่มืด ไม่รู้เหมือนกันว่ามันสว่างได้อย่างไร

            “อือ แต่มันมีกับดักอยู่ ค่อยๆเคลื่อนที่กันอย่างระมัดระวังด้วย”

            มอบยาแก้พิษให้กับทุกคนเผื่อเอาไว้แล้ว ถ้ากินล่วงหน้าผลจะอยู่ได้ 1 วัน ราคาไม่ใช่ถูกๆ ตั้ง 3 เหรียญเงิน

            เริ่มให้สัตว์อัญเชิญนก E นำหน้าเพื่อหาเส้นทาง ในระหว่างที่ใช้แชร์เพื่อหาเส้นทาง ก็นึกถึงคำอธิบายที่ได้ยินมาจากกิลด์นักผจญภัยก่อนหน้านี้

            เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับดันเจี้ยนระดับ B

            ・ ดันเจี้ยนระดับ B มี 10 ถึง 12 ชั้น

            ・1 ชั้นของดันเจี้ยนระดับ B ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง

            ・ดันเจี้ยนช่วงแรกจะเป็นมอนสเตอร์ระดับ D  ช่วงหลังถึงจะมีมอนสเตอร์ระดับ C โผล่ออกมา

            ・บอสชั้นล่างสุดเป็นมอนสเตอร์ระดับ B

            (เอ่อ ที่นี่เป็นดันเจี้ยนที่มีถึง 12 ชั้นสินะ ถ้าระยะการเดินทางที่สั้นที่สุดคือ 12 ชั่วโมง แล้วความเร็วในการเดินอยู่ที่ 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมงละก็ 11 ชั้นจะมีระยะทาง 660 กิโลเมตรเหรอ อยากจบให้ได้ภายใน 1 เดือนจัง)

            ทำการเรียบเรียงว่าจะผ่านได้แค่ไหน ครั้งนี้ไม่รู้เส้นทาง แถมมีแผนมาล่ามิมิคด้วย และมีความสามารถของสัตว์อัญเชิญระดับ C อีกหลายอย่างที่ต้องการตรวจสอบ

            “พอจะรู้เส้นทางคร่าวๆแล้ว ถ้างั้นไปกันเลย เหล่าฟราน”

            ‘กิ้วววว!!!’

            เริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยไม่ใช้ทักษะพิเศษ “วิ่งผ่าน” ถึงจะไม่มีมอนสเตอร์ระดับ D โผล่ออกมา แต่ต้องรับมือกับพวกกับดัก เลยจะไม่พุ่งไปตั้งแต่แรก

            แล้วก็มาถึงตอนเที่ยง

            วางแผนไว้ว่าอีกไม่นานจะซื้ออุปกรณ์เวทมนตร์ที่เป็นนาฬิการาคา 50 เหรียญทอง

            ตอนนี้พอจะคาดเดาเวลาได้ เพราะลงดันเจี้ยนทุกสัปดาห์ ทำให้พอจะรู้คร่าวๆจากอาการหิว

            เข้าดันเตี้ยนมาตั้งแต่ตอน 8 โมงเช้าเพราะมุ่งหน้าด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลยมาถึงชั้น 2 ก่อนเที่ยง

            “ไม่ค่อยพบหีบสมบัติเลยนะเนี่ย”

            เซซิลพูดออกมาในขณะที่กินขนมปัง ในช่วง 2 เดือนนี้คุณหนูเซซิลคุ้นกับการกินอาหารข้างนอกแล้ว

            “เอาเถอะ ถึงจะบอกอย่างนั้น แต่ให้ความสำคัญกับการผ่านดันเจี้ยนก่อนไง จากสภาพอย่างนี้แต่ละชั้นคงมีหีบสมบัติไม่มากเท่าไร”

            คาดการณ์ไว้แล้วว่าแต่ละชั้นที่มีเส้นทางสั้นแค่ 60 กิโลเมตร น่าจะมีหีบสมบัติแค่ไม่กี่กล่อง ถ้าบนเส้นทางที่สั้นที่สุดยังไม่มีหีบสมบัติก็ไม่น่าจะพบได้แล้ว

            ถึงจะไม่สนใจหีบสมบัติของดันเจี้ยนระดับ C แต่เท่าที่จำได้แทบจะไม่เคยเห็นเหมือนกัน

            แล้วตอนบ่ายก็ผ่านอีกชั้นจนมาถึงชั้น 4 จนในที่สุดก็พบ

            “โอ้ว! หีบสมบัติล่ะ!!”

            คีลตะโกนออกมาตอนเห็นหีบสมบัติอยู่ด้านในของห้องเล็ก ทุกคนพยายามหยุดคีลที่ตั้งใจจะมุ่งไปหา ถึงจะเตรียมรับมือกับพิษไว้แล้ว แต่อาจจะเป็นมิมิคก็ได้

            “เอาละ ถ้างั้นมาเรียไปลองเปิดดูที”

            ‘ได้ฆ่า!’

            สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ลอยไปทางหีบสมบัติ

            ปาร์ตี้ของอเลนที่ไม่มีใครแก้กับดักได้ เลยวางแผนให้สัตว์อัญเชิญไปทำการตรวจสอบกับดักของหีบสมบัติ

            สัตว์อัญเชิญของอเลนมีอีกหลายตัวที่มีแขนขา สัตว์อัญเชิญหิน D และ C ก็มีแขนขาแต่พูดไม่ได้ แถมสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ยังทะลุกำแพงได้ ต่อให้ไม่ต้องเปิดหีบก็รู้ได้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ถ้าเป็นกับดักก็จบลงโดยที่ไม่ต้องเปิด

            ทุกคนลุ้นระทึกในระหว่างที่มองดูสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C มุ่งหน้าไปทางหีบสมบัติ และให้คีลเตรียมใช้เวทมนตร์ฟื้นฟู แน่นอนว่าเวทมนตร์ฟื้นฟูของคีลใช้กับสัตว์อัญเชิญได้

            นอกจากนี้สัตว์อัญเชิญยังฟื้นฟูได้ด้วยยาสมุนไพรที่วางขายในเมืองด้วย

            เพราะคีลเลเวลอัพจนถึง30 แล้ว ทำให้โอกาสที่อเลนจะใช้สมุนไพรแห่งชีวิตลดลงไปมาก

            แทนที่จะบอกว่าลดลง ต้องบอกว่าระดับของมอนสเตอร์ที่โผล่ออกมาจนถึงตอนนี้สูงสุดคือระดับ C ทำให้ก่อนที่คีลจะมา อเลนแทบไม่สิ้นเปลืองหินเวทเพื่อฟื้นฟูพลังกายของพวกพ้องเลย

            [ชื่อ] คีล

            [อายุ] 12

            [อาชีพ] บาทหลวง

            [เลเวล] 30

            [พลังกาย] 397

            [พลังเวท] 749

            [พลังโจมตี] 298

            [ความทนทาน] 421

            [ความว่องไว] 479

            [ความฉลาด] 661

            [โชค] 603

            [สกิล] บาทหลวง <2>, ฟื้นฟู <2>, ปกป้อง <2>, วิชาดาบ <3>

            [เอ็กซ์ตร้าสกิล] หยาดแห่งพระเจ้า

            [ค่าประสบการณ์] 26,550 / 30,000

            ・ เลเวลสกิล

            [บาทหลวง] 2

            [ฟื้นฟู] 2

            [ปกป้อง] 2

             ・ ค่าประสบการณ์สกิล 

            [ฟื้นฟู] 28 / 100

            [ปกป้อง] 15 / 100

            (สกิลเองก็เติบโตเรื่อยๆอยู่ จะว่าไปต้องไปสวดภาวนาที่ที่โบสถ์เพื่อจำเวทมนตร์ฟื้นฟูสินะ)

            ตอนที่ได้คีลเป็นพวก ทั้งบาทหลวงและฟื้นฟูยังเป็นเลเวล 1 แต่พอเลเวล 10 บาทหลวงก็ขึ้นสู่เลเวล 2 เหมือนกับตอนของเซซิล 

            ดูเหมือนเวทมนตร์ฟื้นฟูกับโจมตีจะมีแคปเลเวลอยู่

            แล้วพอไปที่โบสถ์และสวดภาวนา ก็ได้สกิลปกป้องมา อนึ่ง ตามปกติต้องมีการบริจาคด้วย แต่โบสถ์เองมีโรงเรียนคอยสนับสนุนอยู่ ทำให้ตอนนักเรียนไปสวดภาวนาเพื่อเอาสกิลไม่จำเป็นต้องเสียอะไร

            ปริมาณการฟื้นฟูของสกิลขึ้นอยู่กับความฉลาด ถึงจะยังไม่ได้ทำการตรวจสอบแต่คีลได้รับการสอนมาจากในชั้นเรียน ทำไมถึงยังไม่ได้ตรวจสอบเพราะว่ายังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย

            ในระหว่างที่อเลนคิดอย่างนั้น สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ก็ไปถึงหีบสมบัติ จากการที่อเลนใช้แชร์กับสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C เลยมองไปที่หีบสมบัติ

            เป็นกล่องไม้ธรรมดา มันจะเป็นอะไรใน 3 อย่างนี้นะ

            1 หีบสมบัติ

            2 กับดัก

            3 มิมิค

            ถึงจะมีวิธีแยกแยะอยู่ แต่อยากมองเข้าไปข้างในหีบโดยที่ไม่เปิดมัน สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C สามารถทะลุผ่านวัตถุต่างๆได้ ถึงจะไม่รู้ว่ากำแพงดันเจี้ยนเป็นวัตถุธรรมดาหรือเปล่า แต่ก็สามารถทะลุมันได้เป็นปกติ

            ถ้ามันเป็นหีบสมบัติค่อยเปิด ถ้าเป็นกับดักก็ปล่อยไว้อย่างนั้น หากเป็นมิมิคแล้วละก็จะทำอย่างไรดี

            มือและหน้าของสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C จมเข้าไปในกล่องไม้

            ‘กรรรรรร!’

            ตอนที่หน้าจมเข้าไปนิดหน่อย ฝาหีบสมบัติก็เปิดออก ตรงขอบมีฟันขนาดใหญ่จำนวนมากเรียงรายอยู่

            “มิมิคล่ะ!!”

            ‘เหวอ! ตะ ตายไปเลยฆ่า!! พลังจิต!!!’

            ตกใจที่จู่ๆหีบสมบัติเข้ามาโจมตี มีลูกกลมสีเทาขนาดพอๆกับลูกวอลเลย์โผล่มาจากมือของสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C และพุ่งไปหามิมิคอย่างรุนแรง

            ‘กรรรรร!!’

            ‘ตายไปฆ่า! ตายไปฆ่า!’

            มิมิคโดนทักษะพิเศษ “พลังจิต” ของสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C จนกระเด็น สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ยิงอย่างไร้ความปราณี ถึงจะกระเด็นไปติดกำแพงแล้วก็ยังไม่หยุดโจมตี จนกระทั่งมิมิคไม่ไหวติง ดูเหมือนจะสิ้นชีพไปแล้ว

            ‘กำจัดมิมิค 1 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 20000’

            (อืมๆ ต้องใช้พลังเวทของมาเรียที่เสริมความแข็งแกร่งครึ่งหนึ่งถึงจะกำจัดมอนสเตอร์ระดับ B ได้งั้นเหรอ)

            พิจารณาถึงความแข็งแกร่งของสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C พลังเวทของสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมงถึงจะฟื้นฟูจนเต็ม

            “เอาจริงดิ มิมิคมันเป็นมอนสเตอร์ระดับ B ไม่ใช่เหรอ”

            โดโกร่าแสดงความประหลาดใจออกมา ระหว่างนั้นมิมิคก็กลายเป็นหินเวทระดับ B กับหอกมิธริล ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงที่พอปราบมิมิคแล้วจะดรอปไอเทมออกมา

            “ว้าว! หอกล่ะ!!”

            คุเรนะลงจากสัตว์อัญเชิญนก C ไปเก็บหอกและหินเวท หอกนี้น่าจะขายได้ราวๆ 50 เหรียญทอง

            แล้วการลุยดันเจี้ยนระดับ B ก็คืบหน้าต่อไปเช่นนี้