[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 16 กลุ่มอัศวิน 2

บทที่ 16 กลุ่มอัศวิน 2

            เหล่าอัศวินอัศวินให้ชาวบ้านที่มารวมตัวกันตรงลานกว้างถอยไป เพื่อให้มีที่กว้างพอจะให้คุเรนะกับรองหัวหน้าอัศวินสู้กัน

            “ได้โปรด ขอร้องเถอะครับ!!”

            เกลด้าพยายามวิงวอนอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เหล่าอัศวินก็พาเกลด้าที่ทำอย่างนั้นไปยังวงนอกของลานกว้าง

            “ยังจะพูดอย่างนั้นอีกเหรอ? เขาบอกกันว่าตอนท่านยอดนักดาบโดเบิร์กอายุ 10 ขวบก็จัดการกับมังกรแดงได้แล้ว ลูกสาวของเจ้าอายุ 5 ขวบแล้วนี่?”

            หัวหน้าอัศวินคงอยากจะบอกว่าพอจะต่อสู้ได้แล้ว เกลด้าถูกพามาที่วงนอกของลานกว้างและมีอัศวินยืนประกบข้าง ทั้งอเลนและโรดันวิ่งมาหาเกลด้า

            (เอาจริงดิ กลายเป็นเรื่องเหลือเชื่อซะแล้ว)

            อเลนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำอย่างไรดี ทั้งเลเวลและสกิลอัญเชิญเองยังไม่เพียงพอ เลยไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างกับคู่ต่อสู้ที่เป็นกลุ่มอัศวิน บางทีคงทำอะไรไม่ได้เลย

            คุเรนะกับชายที่ถูกเรียกว่ารองหัวหน้าอัศวินเรแบรนด์อยู่ตรงใจกลางลานกว้าง ดูเหมือนคู่ต่อสู้จะเป็นรองหัวหน้าอัศวิน 

            ทั้งสองคนตั้งดาบขึ้นมา คุเรนะมีส่วนสูงเกิน 1 เมตรมานิดหน่อยกับเรแบนรด์ที่สูงกว่าเกือบ 2 เท่าและสวมชุดเกราะทั้งตัว ส่วนคุเรนะสวมแค่เสื้อผ้าที่เหมือนผ้าขี้ริ้ว พวกชาวบ้านคงเห็นเป็นการไล่ต้อนฝ่ายเดียวไม่ใช่การต่อสู้แล้ว

            แต่ดูเหมือนคุเรนะจะไม่รู้สึกเกร็งในสถานการณ์นี้เลย เธอตั้งดาบขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ไม่คิดว่าจะแพ้ เธอเอ่ยชื่อออกมาเหมือนกับว่าเล่นติ๊ต่างอย่างทุกที

            “ชื่อของฉันคืออัศวินคุเรนะ!! มาต่อสู้กัน!!!”

            อเลนได้ยินคำกล่าวนั้นมามากกว่า 1000 ครั้ง และคิดว่าได้เวลาเริ่มแล้ว

            “ชื่อของข้าคืออัศวินเรแบรนด์ มาสู้กัน”

            เรแบรนด์เองก็เอ่ยชื่อออกมาเหมือนกัน

            ไม่มีกรรมการและมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว คุเรนะมุ่งหน้าไปหาเหมือนกับตอนที่เล่นติ๊ต่างกับอเลน เธอกำดาบที่หนักกว่าดาบไม้เอาไว้แน่น และวิ่งเข้าใส่เรแบรนด์

            ดาบของทั้งคู่ปะทะกัน ถึงคุเรนะจะจับดาบเป็นครั้งแรก แต่ก็กวัดแกว่งอย่างไร้ความลังเล และฟันซ้ำไปซ้ำมา

            (บางทีถ้าวิชาดาบของผมเลเวล 3 แล้วละก็ คิดว่าวิชาดาบของคุเรนะน่าจะเลเวล 5 แล้วก็ได้)

            มีแค่อเลนเท่านั้นที่อยู่ในเฮลโหมด จากผลการตรวจสอบของการขว้างหิน การจะเพิ่มสกิลเลเวลวิชาดาบของคุเรนะคงเป็น 100, 100, 1,000, 10,000 และ 1แสน ถ้าสกิลเติบโตเร็วกว่าอเลนที่เล่นติ๊ต่างเป็น 100 เท่าแล้วละก็ ความต่างของเลเวลสกิลน่าจะอยู่ที่ 2

            การแลกฟันดาบที่รุนแรงยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่สนการวิเคราะห์ของอเลน เสียงโลหะที่ดังก้องไปทั่วลานกว้าง

            น่าจะมีชาวบ้านหลายคนคิดว่าคุเรนะโดนโดนฆ่าในทันที แต่จากการเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินมาตลอด 3 ปี ทำให้เติบโตพอจะแลกดาบกับอัศวินได้

            หัวหน้าอัศวินไม่พูดอะไร เอาแต่กอดอกทำหน้าปั้นยากพร้อมกับดูการต่อสู้ของทั้งคู่

            ผ่านไปแล้วกี่นาทีกันแน่นะ หลังจากแลกดาบกันไปมาหลายสิบครั้ง การต่อสู้ที่คิดว่าสูสีก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว

            “อึ้ก !!!”

            ขาของเรแบรนด์ที่สวมใส่อย่างดีเตะใส่ท้องของคุเรนะ การต่อสู้ไม่ได้ใช้แค่ดาบอย่างเดียว คุเรนะที่โดนเตะเข้าในจังหวะที่สมบูรณ์ถึงกับกระเด็น

            “คุเรนะ!!!”

            อเลนตะโกนออกมา คุเรนะที่ลอยไปชนกับกำแพงของสิ่งก่อสร้างตรงหน้าอย่างแรงจนนิ่งเงียบไป แรงกระแทกนั้นทำให้กำแพงเกิดรอยร้าวใหญ่โต

            อเลนกับเกลด้าที่คิดจะวิ่งไปหา โดนพวกอัศวินจับกดลงกับพื้น

            (กะแล้วเชียวว่าต้องไม่ไหว คุเรนะยังเลเวล 1 ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นอัศวินมาแล้วกี่ปี แต่การจะให้สู้กับอัศวินที่เลเวลกับสกิลเลเวลเพิ่มขึ้นแล้วเนี่ยมันเป็นไปไม่ได้เลย จะ จะทำไงดี)

            ตอนที่พยายามดิ้นขัดขืนการจับกดของอัศวิน

            “หือ!? ไม่ยอมอยู่เฉยๆงั้นเหรอ!!”

            “ปะ ปล่อยนะ!!”

            ร่างของอเลนโดนอัศวินที่มีพลังมากกว่าจับกดเอาไว้ ต่อให้พยายามจะลุกขึ้นแต่ก็สลัดให้หลุดไม่ได้เลย

            เรแบรนด์ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไล่ตามไป ทุกคนตรงลานกว้างมองไปยังคุเรนะที่นิ่งเงียบหมดสติ

            โดนเตะเต็มแรงด้วยเท้าที่หุ้มเกราะ ทำให้ชาวบ้านส่งเสียงจอแจว่าอาจจะตายแล้วก็ได้

            หัวหน้าอัศวินหลับตาแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

            “ฝืนเกินไปงั้นเหรอ หือ?”

            ตอนที่คิดว่าจบแล้วนั้น คุเรนะที่ล้มอยู่ตรงพื้นก็ค่อยยืนขึ้นมา และตั้งดาบที่ไม่ยอมปล่อยแม้จะกระเด็นมาไกลก็ตามขึ้นมาอีกครั้ง อเลนที่โดนจับกดอยู่ตรงพื้นมองสภาพที่เกิดขึ้น

            เรแบรนด์ตั้งดาบอยู่ตรงนั้น ต่อคุเรนะค่อยๆยืนขึ้นมาเงียบๆ ราวกับรอให้พุ่งเข้ามา

            คุเรนะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาและมองไปที่เรแบรนด์ ประชาชนได้แต่เฝ้ามองด้วยความไม่สบายใจว่ายังจะสู้ต่ออีกหรือ ระหว่างนั้นคุเรนะก็ตะโกนออกมา

            “ย๊าก!!!”

            กำแพงไม้ด้านหลังของคุเรนะที่ยุบเพราะโดนกระแทก พังทลายลงพร้อมกับเสียงตะโกน

            เค้าร่างของคุเรนะโยกไหวอย่างราวกับภาพลวงตาที่เกิดขึ้นจากการหักเหของแสง

            (เอ๊ะ?)

            คุเรนะพุ่งใส่เรแบรนด์พร้อมกับเสียงที่ทรงพลัง เธอกระโดดพร้อมกับฟาดดาบลงมาโดยใช้แรงเหวี่ยงจากศูนย์กลางจากข้างบนของเรแบรนด์

            “อึ้ก!”

            แรงกระแทกโถมเข้าใส่เรแบรนด์ที่รับดาบด้วยมือทั้งสองข้าง เนื่องจากเป็นแรงกระแทกที่ค่อนข้างรุนแรงทำให้พื้นตรงลานกว้างที่เหยียบอยู่ยุบลงไป

            “ย๊าก!!!!”

            เรแบรนด์เองก็ส่งเสียงดังออกมาและเริ่มดวลดาบกันอีกครั้ง ทั้งที่เป็นตอนกลางวันกลับเห็นสะเก็ดไฟกระเด็นออกมา

            แต่มันแตกต่างกับเมื่อครู่ลิบลับ ดาบของเรแบรนด์เริ่มโดนกดกลับมา เพราะไม่สามารถต้านทานแรงจากดาบได้ ทำให้ร่างกายเริ่มเอนไปด้านหลัง

            เสียงกระแทกดังก้องไปทั่วหมู่บ้านบุกเบิก ดูยังไงก็ไม่ใช่การต่อสู้ที่สูสีเลย ต่อให้เป็นมือสมัครเล่นยังรู้ได้เลยว่าเรแบรนด์กำลังโดนกดดันอยู่ คุเรนะเหวี่ยงดาบที่ใหญ่พอๆกับร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วราวกับท่อนไม้ แถมกวัดแกว่งมันด้วยแรงที่ผิดปกติ

            (อะไรน่ะ? เกิดอะไรขึ้น? หรือว่า นี่คือเอ็กซ์ตร้าสกิล?)

            อเลนหาคำตอบที่น่าจะเป็นไปได้ ตอนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วมาเกิดใหม่ยังต่างโลกนี้ อเลนได้อ่านคำอธิบายของนอร์มอลโหมด จะว่าไปนอร์มอลโหมดจะหมุนเอ็กซ์ตร้าสกิลได้ 1 ครั้ง ทำให้คิดว่าสิ่งนั้นชาวต่างโลกก็น่าจะมีเหมือนกัน

            (วิชาดาบที่ผมมีเป็นแค่สกิลธรรมดา บางทีตอนคุเรนะเกิดมาน่าจะได้รับสกิลอื่นมาด้วย สกิลพิเศษที่เหมาะสมกับยอดนักดาบ)

            พลังที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด พอดูแล้วไม่รู้สึกเลยว่าคุเรนะจะแพ้ รู้สึกตัวอีกทีเหล่าอัศวินที่กดอเลนและเกลด้าก็หย่อนแรงลงและจ้องมองการต่อสู้ด้วยอาการตกตะลึง

            “ย๊ากกก!!!”

            ดาบของคุเรนะถูกฟันในแนวราบพร้อมกับเสียงที่ตะโกนออกมา

            แกร๊ง

            “บะ บ้าน่า!”

            ดาบของเรแบรนด์ที่หัก เขาตะโกนออกมาในขณะที่มองดาบหักครึ่ง ดาบอีกครึ่งหนึ่งที่กระเด็นขึ้นท้องฟ้าและเสียบลงพื้น ถึงกระนั้นเรแบรนด์ยังตั้งดาบที่หักครึ่งขึ้นมาเพื่อเตรียมรับการโจมตีต่อ

            “พอแค่นั้นแหละ!!!”

            ตอนนั้นเองที่หัวหน้าอัศวินตะโกนเสียงดังออกมา เพื่อบอกให้หยุดการต่อสู้

            “เอ๋? จบแล้วเหรอ?”

            คุเรนะตอบมาราวกับยังรู้สึกไม่พอ

            “ใช่แล้ว การต่อสู้จบลงแล้ว ทั้งคู่เก็บดาบซะ!”

            คุเรนะวิ่งมาหาเรแบรนด์และโค้งศีรษะให้

            “ขอบคุณมากค่ะ! คุณลุงเก่งจังเลย!!”

            ต่อให้เล่นติ๊ต่างเป็นอัศวิน สุดท้ายจะพูดว่า “ขอบคุณมากค่ะ” ตลอด

            “มะ ไม่ใช่ลุงสักหน่อย…”

            เรแบรนด์ยังทรุดอยู่ตรงพื้นพร้อมกับพูดด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

            “นี่! พารองหัวหน้าไปที!!”

            หัวหน้าอัศวินออกคำสั่งกับเหล่าอัศวินให้พาเรแบรนด์ไปที่ไหนสักแห่งด้วยความเร่งรีบ พอเห็นว่าต้องให้แบกไหล่อย่างนี้ก็รู้ได้เลยว่ายืนด้วยแรงของตัวเองไม่ไหว

            อย่างว่า การจะให้อัศวินทรุดลงไปอย่างนี้ต่อหน้าชาวบ้านจำนวนมากคงจะดูไม่ดี แถมอีกฝ่ายเป็นแค่เด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบด้วย

            หัวหน้าอัศวินตบไหล่เรแบนด์ที่ผ่านข้างๆไป ราวกับอยากจะบอกว่าต่อสู้ได้ดีแล้ว

            คุเรนะถือดาบมาหาหัวหน้าอัศวิน ซึ่งเขาทำการย่อตัวลงเล็กน้อย พร้อมกับเฝ้าระวัง

            “ขอบคุณมากค่ะ!”

            เธอคืนดาบที่ยืมมาให้กับหัวหน้าอัศวิน

            “!?”

            หัวหน้าอัศวินพยายามไม่แสดงออกมาทางสีหน้า พอมองดูตรงใบดาบเหล็กก็เห็นว่ามันบิ่นจากการต่อสู้ จนกลายเป็นดาบที่ใช้การไม่ได้ ที่น่าประหลาดใจกว่าคือตรงด้ามดาบ ทั้งที่มันถูกทำมาจากเหล็กเหมือนกับใบดาบแต่มันบิดเบี้ยวไปมา ด้ามดาบเหล็กมีร่องรอยเหมือนดินเหนียวที่โดนเด็กตัวเล็กๆบีบ มันต้องกำด้วยแรงขนาดไหนกัน แม้จะเป็นกลางหน้าร้อนแต่พอเห็นดาบที่เละเทะอย่างนี้แล้วก็มีเหงื่อเย็นๆไหลออกมา

            ทำการคืนดาบที่ไม่สามารถใส่เข้าไปในฝักได้ให้กับหัวหน้าอัศวิน

            “ทะ ยอดนักดาบ”

            “ตัวจริงๆด้วย! สามารถล้มอัศวินได้เนี่ย!!”

            “มองไม่เห็นดาบเลย!”

            ชาวบ้านพูดต่อสิ่งที่ได้พบเห็น จำนวนนั้นเกินกว่า 100 คนไปแล้ว จากความวุ่นวายน่าจะทำให้ชาวบ้านเกือบ 200 คนได้เห็นการต่อสู้

            การต่อสู้ที่เริ่มอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จบลงด้วยชัยชนะของคุเรนะ

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset