[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 18 งานเลี้ยง 2

บทที่ 18 งานเลี้ยง 2              

                “แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

                หัวหน้าอัศวินยังพูดออกมาต่อ

                “ต้องขอโทษด้วยเกี่ยวกับเรื่องที่ให้ต่อสู้กับอัศวินในครั้งนี้ มันไม่ใช่ความผิดของท่านเจ้าเมืองหรอก แต่ช่วงนี้มันค่อนข้างเคร่งน่ะ”

                “เอ๊ะ?”

                ดูเหมือนจะอธิบายเรื่องราวว่าทำไมถึงให้คุเรนะต่อสู้กับรองหัวหน้าอัศวินเรแบรนด์ตรงลานกว้าง ทั้งเกลด้าและโรดันฟังที่หัวหน้าอัศวินพูด และย้ำว่าอยากจะให้หัวหน้าหมู่บ้านฟังด้วยทำให้เขาตั้งใจฟัง

                “จริงๆแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน มีลูกของท่านเคานต์อาณาเขตหนึ่งเป็นยอดนักดาบอยู่”

                (ยอดนักดาบเกิดในตระกูลท่านเคานต์? หือ? ยอดนักดาบเกิดได้ถึงแค่บารอนไม่ใช่เหรอ?)

                อเลนนึกถึงความสัมพันธ์ของชนชั้นกับอาชีพตอนสร้างตัวละครในโลกแห่งความเป็นจริง ยอดนักดาบจะเกิดได้แค่ทาสติดที่ดิน ประชาชนแล้วก็บารอนเท่านั้น

                หัวหน้าอัศวินพูดออกมาต่อ คนนั้นได้รับฉายายอดนักดาบและทำงานรับใช้เชื้อพระวงศ์ จริงอยู่ที่รูปร่างดี วิชาก็ไม่มีใครโต้แย้ง แต่ตอนที่จะได้แสดงพลังของยอดนักดาบออกมากลับไม่เปล่งประกายเท่าที่ควร เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพลังของเขาแตกต่างกับยอดนักดาบคนอื่นๆอย่างโดเบิร์กอยู่

                “หะ หา”

                เกลด้าพยักหน้าตอบรับเป็นช่วงๆเหมือนรู้ว่าพูดเรื่องอะไร

                “เพราะอย่างนั้นเลยให้ทำการประเมินอีกที ซึ่งพบว่ามีพรสวรรค์นักดาบไม่ใช่ยอดนักดาบ ด้วยความประหลาดใจเลยสั่งทำการตรวจสอบขุนนางคนอื่นจึงพบว่าทำการปลอมแปลงทั้งที่ไม่มีพรสวรรค์บ้าง ปลอมเป็นยอดนักดาบหรือจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ทั้งที่เป็นแค่นักดาบหรือผู้ใช้เวทบ้าง ทำให้เมืองหลวงวุ่นวายยกใหญ่เลย” 

                (อย่างนี้นี่เอง ขุนนางในเมืองหลวง มีการตบแต่งพรสววรค์อยู่เยอะสินะ)

                ได้ยินมาว่ากษัตริย์โกรธมากเพื่อเป็นการลงโทษเลยทำการการริบอาณาเขตของท่านเคานต์ที่ปลอมแปลงเป็นยอดนักดาบ

                “พอครั้งนี้ได้ยินว่าเป็นยอดนักดาบเลยบอกว่าให้มำการยืนยัน ทั้งซึ่งพอตรวจกับโบสถ์ดูเหมือนจะไม่ใช่การปลอมแปลงรายงาน”

                ถ้าเป็นยอดนักดาบยังไงก็ต้องรายงานให้กษัตริย์ทราบ แต่ช่วงนี้มีการลงโทษหนักกับขุนนางที่ตบแต่งพรสวรรค์อยู่เยอะ ถึงจะตรวจสอบกับโบสถ์แล้วว่าเป็นยอดนักดาบจริง ถึงกระนั้นท่านเจ้าเมืองก็ยังคงเป็นกังวล เลยใช้เวลาตรวจสอบกับทางโบสถ์ถึง 3 เดือน และตอนนี้เลยส่งให้กลุ่มอัศวินมาตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นยอดนักดาบจริงหรือไม่

                สิ่งนี้เป็นการอธิบายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดต่อเกลด้าและคุเรนะที่มาโดนทดสอบ ช่างเป็นการอธิบายที่เต็มไปด้วยควมนอบน้อมต่อทาสติดที่ดิน

                มองดูคุเรนะ

                เพราะมีแต่ของกินที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกหรือเปล่านะทำให้ตั้งหน้าตาตากินไม่สนใจอะไร เธอกัดขนมปังด้วยความตื่นเต้นจนแทบไม่ได้ฟังที่พูดเลย 

                “ยะ อย่างนั้นเองเหรอเนี่ย”

                “อืม เพราะอย่างนั้นตั้งแต่ปีหน้าผลจากพิธีประเมิน จะต้องรายงานอย่างไร้การโกหก เพราะไม่อยากลงโทษหัวหน้าหมู่บ้านที่ตั้งใจสร้างหมู่บ้านนี้ขึ้นมาไง”

                หัวหน้าอัศวินพยายามถ่ายทอดออกมาว่า ต่อให้เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีก็ต้องรายงานโดยไม่ปิดบังเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด

                “ต่อจากนี้จะให้คุเรนะทำอะไรดีเหรอครับ?”

                เกลด้าที่พอได้ฟังเรื่องราวจนเริ่มสงบลงก็ถามออกมา เพราะไม่รู้ว่าพอเป็นยอดนักดาบแล้วจะต้องทำอะไร หรือให้ทำอะไรดี

                “อืม นั่นสินะ เลี้ยงดูให้เติบโตตามปกติไปนั่นแหละ”

                หัวหน้าอัศวินตอบพร้อมกับมองคุเรนะที่กินราวกับสิ่งนั้นเป็นศัตรูของครอบครัว

                “คะ ครับ”

                “แล้วหลังจากนี้ ถ้าอายุ 12 ปีอยากจะให้ไปโรงเรียน ยังไงก็ต้องได้รับการศึกษา หลังจากจบการศึกษาแล้วน่าจะทำงานให้กับเชื้อพระวงศ์น่ะ”

                (โอ๊ะ! มีโรงเรียนด้วยเหรอ!!”)

                “““เชื้อพระวงศ์”””

                อเลนตอบสนองต่อคำว่าโรงเรียน ส่วนทุกคนรวมไปถึงหัวหน้าหมู่บ้านที่นั่งอยู่ตอบสนองต่อคำว่าเชื้อพระวงศ์ การทำงานให้เชื้อพระวงศ์ เท่ากับว่าอยู่ใต้สังกัดโดยตรงของเมืองหลวง

                “โรงเรียนเหรอ”

                “อืม เมืองแห่งการศึกษาไง ที่นั่นจะได้รับการศึกษาและฝึกฝนความสามารถให้สูงขึ้น”

                พูดเกี่ยวกับโรงเรียนให้ฟังง่ายๆ จะให้ผู้ที่ได้รับการยอมรับจากพิธีประเมินว่ามีพรสวรรค์ไปเข้าเรียนที่นั่น ถึงจะต้องใช้เงินในการเข้าเรียนกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเป็นยอดนักดาบท่านเจ้าเมืองบอกว่าจะเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายให้เอง

                “ถ้าไปโรงเรียนจะได้เป็นอัศวินเหรอ!?”

                “จะ เจ้าบ้าโดโกร่า”

                คนที่เข้ามาแทรกบทสนทนาคือโดโกร่าที่มีพรสวรรค์ของผู้ใช้ขวาน ร่างกายที่ใหญ่โตกับใบหน้าบ้านๆกำลังทำตาเป็นประกาย

                “หือ? เด็กคนนั้น”

                “ต้องขอประทานโทษด้วยครับ โดโกร่าลูกของผมเอง มีพรสวรรค์ของผู้ใช้ขวานและอยากจะเป็นอัศวินครับ”

                ในขณะที่พูดขอโทษก็พาลูกของตัวเองออกมาข้างหน้า แน่นอนว่าการที่นั่งอยู่โต๊ะของหัวหน้าอัศวินอาจจะเพราะอยากจะให้เป็นที่รู้จัก

                “โอ้ ผู้ใช้ขวานเหรอ ถึงกลุ่มอัศวินจะต้องการผู้ใช้หอกที่สุดแต่ผู้ใช้ขวานเองก็มีค่าเหมือนกัน ถ้าหากคะแนนการสอบดีแล้วละก็จะช่วยค่าเล่าเรียนก็แล้วกัน”

                (โอ้ ต้องการหอกมากกว่าขวานเหรอ แถมช่วยค่าเล่าเรียนเนี่ย)

                มีระบบที่ค่อนข้างชัดเจนอย่างการสนับสนุนค่าเล่าเรียนนะเนี่ย แต่คิดขึ้นมาว่าหลังจากจบการศึกษาแล้วต้องไปช่วยงานที่อาณาเขตแทนการสนับสนุนหรือเปล่านะ

                “เข้าใจแล้ว!!”

                โดโกร่าที่ได้ยินอย่างนั้นแสดงความยินดีออกมา

                “อืม นั่นสินะ และเพื่อที่จะไม่ให้คุเรนะสอบตก อีกไม่ช้าคงส่งอาจารย์มาช่วยสอนอยู่ จงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน โดโกร่าเอ๋ยถ้าตั้งใจเป้าหมายจะเป็นอัศวินแล้วละก็จงไปเรียด้วยกันซะ” 

                “เข้าใจแล้วครับ!!”

                ดูเหมือนแค่มีพรสวรรค์อย่างเดียวจะเข้าเรียนไม่ได้ หัวหน้าอัศวินเองพยายามบอกกับหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ หากสอบเข้าโรงเรียนไม่ผ่านดูเหมือนท่านเจ้าเมืองจะมีปัญหา เลยบอกว่าคนอื่นจะมาเรียนด้วยก็ได้แต่อย่ามารบกวนการเรียนของคุเรนะก็พอ

                คนเป็นพ่อขยี้ศีรษะของโดโกร่าเพราะอยากจะให้ใช้คำสุภาพสักหน่อยหรือเปล่านะ แต่ใบหน้านั้นกลับแสดงความดีใจ เพราะหัวหน้าอัศวินพูดถึงเกี่ยวกับการที่โดโกร่าอาจจะได้ไปทำงานรับใช้

                “อเลนเองก็จะเรียนด้วยใช่ไหม?”

                (หือ?)

                “หา!? เจ้าผมดำไม่มีพรสวรรค์นี่ จะเรียนไปทำไม คนอ่อนแอเป็นอัศวินไม่ได้หรอก”

                “อเลนแข็งแกร่งจะตาย! เพราะเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินด้วยกันตลอดเลย!!”

                “เอ๊ะ น่าจะรู้นี่ คนที่ไม่มีพรสวรรค์ความสามารถจะต่ำไปด้วยนี่?”

                “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! อเลนแข็งแกร่งจะตาย รู้อะไรหลายๆอย่างด้วย!!”

                (พอเถอะน่าคุเรนะ ทำไมถึงราดน้ำมันเข้ากองเพลิงเนี่ย)

                คุเรนะทำแก้มป่องและโกรธจนหน้าแดงใส่โดโกร่าที่พูดไม่ดีกับอเลน เนื่องจากเธอส่งเสียงดังออกมา ทำให้อัศวินคนอื่นและชาวบ้านหันมาดูด้วยความสนใจ

                และหันสายตาไปทางอเลนที่กินอาหารแบบไม่ให้เป็นจุดสนใจ

                “จะว่าไป เด็กผมดำคนนั้นคือ”

                เด็กผมสีดำที่ดูแปลกตายืนอยู่ข้างๆคุเรนะ ถึงหัวหน้าอัศวินจะรู้สึกว่ามันแปลก แต่ถ้าเทียบกับยอดนักดาบแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยยังไม่ได้กล่าวถึง

                “ลูกของผมเองครับ ท่านหัวหน้าอัศวิน”

                โรดันโค้งศีรษะลง แล้วหัวหน้าอัศวินก็ทำหน้าแบบว่าคนคนนี้คือใครกัน ถึงงานเลี้ยงจะเริ่มไปพักใหญ่แล้วแต่โรดันไม่เคยเข้ามาร่วมคุยกับหัวหน้าอัศวินเลย

                “คนคนนี้เป็นเพื่อนของผมชื่อโรดันครับ”

                เกลด้าพอเห็นสภาพของหัวหน้าอัศวินเลยทำการแนะนำโรดัน ดูเหมือนชื่อโรดันจะไปสะกิดใจอะไรบางอย่างเลยพูดออกมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก

                “โรดัน? หรือเจ้าจะเป็นโรดันน่าล่าหมูป่า?”

                (เอ๊ะ? รู้ด้วยเหรอ? จะว่าไปเพิ่งเคยได้ยินฉายานะเนี่ย)

                ความสนใจของหัวหน้าอัศวินจากเด็กชายผมดำอัลเลนพุ่งไปทางโรดันพ่อของเขา

                “เอ๊ะ ครับ ผมชื่อโรดันครับ”

                ทำไมหัวหน้าอัศวินถึงรู้จัก

                “โอ้!! ต้องขอโทษด้วย ทำไมถึงไม่บอกชื่อกันก่อน เดี๋ยวได้กลับไปโดยที่ไม่ได้เจอวีรบุรุษของหมู่บ้านกันพอดี!!”

                จู่ๆท่าทีของหัวหน้าอัศวินก็เปลี่ยนไป

                “เอ๊ะ? รู้จักผมด้วยเหรอ?”

                “แน่นอน ขนาดท่านเจ้าเมืองยังเอ่ยปากชม การที่อาณาจักรนี้มีอาหารเพิ่มขึ้นมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จึงก่อตั้งหมู่บ้านเพื่อให้มีสวนมากขึ้น แต่ทุกหน้าหนาวกลับมีเนื้อหมูป่าส่งมอบมาให้เนี่ย ทำให้ท่านเจ้าเมืองยินดีเป็นอย่างมาก” 

                ดูเหมือนฤดูหนาวของทุกปีเนื้อที่ถูกแปรรูปจะถูกส่งมาจากหมู่บ้านบุกเบิก ตอนที่ท่านเจ้าเมืองรู้ว่ามีเนื้อถูกส่งมาจากหมู่บ้านบุกเบิกในช่วงฤดูหนาวได้พูดกับหัวหน้าอัศวินด้วยความยินดีอยู่

                เกรซบอร์ 1 ตัวมีเนื้อที่สามารถเอามากินได้มากกว่า 1 ตัน ซึ่งครึ่งหนึ่งนั้นไม่ได้เอามาบริโภคกันในหมู่บ้านเพราะส่วนใหญ่ส่งไปยังเมืองที่ท่านเจ้าเมืองอยู่ ใน 1 ปีล่าเกรซบอร์ได้เกือบ 10 ตัว ทำให้เนื้อหมูป่าหลายตันถือเป็นอาหารที่ล้ำค่าในช่วงฤดูหนาว 

                “พอลองตรวจสอบดูก็รู้ว่าเป็นโรดันกับเกลด้าที่นำทาสติดที่ดินออกล่า ยอดเยี่ยมมาก!! นี่ไม่ใช่คำพูดของฉัน แต่เป็นคำพูดจากท่านเจ้าเมืองเองเลย”

                ถึงจะไม่ได้มีรางวัลอะไรเป็นพิเศษ แต่โรดันได้รับการชมเชยจากหัวหน้าอัศวิน ชาวบ้านทุกคนก็ได้ยินบทสนทนา เลยส่งเสียงยกย่องโรดันจนดังก้องไปทั่วห้องโถง

                “ขะ ขอบคุณครับ”

                ความรู้สึกตื้นตั้นของโรดันเอ่อล้นออกมา ราวกับได้รางวัลอะไรบางอย่างจากการล่าหมูป่ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโรดันที่ได้รับการชมเชยอย่างนี้ก็รู้สึกยินดีในตัวเองอยู่

                หลังจากนั้นไม่นานงานเลี้ยงก็จบลงและเริ่มเดินทางกลับบ้าน ทำการเอาผลโมลโม่ 4 ผล ซ่อนไว้ในเสื้อได้เป็นผลสำเร็จ โรดันคงอยากพูดเรื่องที่ได้รับการชมกับเทเรเซียเลยเดินด้วยกลับความเร็วที่มากกว่าเดิมเล็กน้อย

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset