[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 31 โดโกร่า

บทที่ 31 โดโกร่า    

                ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับวันที่โรดันบาดเจ็บสาหัสจากร้านขายยาแล้ว ทำให้รู้ถึงมิตรภาพของโรดันกับเกลด้าและตั้งใจจะเก็บสิ่งนี้ไว้เป็นความลับกับตัวเอง

                (ข้างๆคือร้านขายอาวุธเหรอ?)

                ออกจากร้านขายยา และเข้าไปในร้านขายอาวุธที่อยู่ข้างๆ

                “ขอโทษครับ”

                “……”

                ดูเหมือนจะเป็นร้านที่ไม่ชอบตอบกลับ ส่วนด้านในมีเจ้าของร้านที่ใบหน้าดูคุ้นตาอยู่

                (หือ? คนโน้นพ่อของเด็กที่เป็นผู้ใช้ขวานนี่)

                พ่อของผู้ใช้ขวานที่นั่งด้วยกันตอนงานเลี้ยง เป็นเจ้าของร้านอาวุธหรือเนี่ย พอเห็นเด็กหนุ่มสวมเสื้อปอนๆเดินเข้ามาเขาก็ยืนกอดอก ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเด็กที่เดินเข้ามาคืออเลน ทำให้จ้องอย่างหนัก

                เพราะไม่โดนไล่ออกจากร้าน เลยเดินดูของต่างๆ

                (คิดว่าเป็นร้านอาวุธแต่เป็นร้านขายอุปกรณ์เหรอ  มีหม้อกับมีดทำครัวด้วย)

                หมู่บ้านเล็กๆที่เพิ่งสิ้นสุดจากการเป็นหมู่บ้านบุกเบิก บางทีอาจจะมีของต่างๆนอกจากอาวุธก็ได้  ร้านสะดวกซื้อตามบ้านนอกเองยังมีขายพวกผักด้วยเลย

                (ถึงจะไม่ได้รีบ แต่อยากเลิกใช้ดาบไม้สักที)

                เหตุผลที่เข้าร้านครั้งนี้ เพราะอยากจะอัพเกรดอาวุธที่ใช้ในการล่าอัลบาเฮรอน มีบ้างบางครั้งที่ดาบไม้หัก ถึงจะมีเตรียมสำรองเผื่อไว้ในกรณีอย่างนั้น แต่ถ้าเกิดหักขึ้นมาจะไม่ทันการ และต้องใช้มือในการกดเพื่อจัดการมันอยู่

                “มีดสั้นเล่มนี้ราคาเท่าไรเหรอครับ?”

                “…… 50 เหรียญเงิน”

                เขาตอบกลับมาห้วนๆ

                เกือบทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้รู้อยู่แล้วว่าพ่อของเด็กชายผมดำคนนี้คือโรดัน

                เจ้าของร้านขายอาวุธเองก็รู้เรื่องที่โรดันเป็นผู้นำทาสติดที่ดิน ตั้งแต่ช่วงต้นของการบุกเบิก ก็ทำการบุกเบิกหมู่บ้านพร้อมกับไปล่าหมู่ป่า โดยเกลด้าเองก็เป็นผู้นำด้วยอีกคนหนึ่ง นั่นคือการคงอยู่ที่คนในหมู่บ้านรับรู้ จำนวนประชากรของคนในหมู่บ้าน 70% เป็นทาสติดที่ดิน ทำให้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของการคงอยู่

                เดิมทีถ้ามีเด็กอายุ 6 ขวบสวมเสื้อปอนๆเข้ามาถามเรื่องราคาอาวุธ คงไม่คิดว่ามาดูอย่างเดียวหรอก แต่เพราะโรดันทำให้เขาตอบคำถามอยู่

                (อย่างนี้นี่เอง มีดสั้นที่ราคาน่าจะถูกที่สุดยัง 50 เหรียญเงิน อัลบาเฮรอน 5 ตัวเหรอ)

                “แล้วถ้าเป็นท่อนเหล็กที่ยาวพอๆกับดาบไม้นี้ราคาประมาณเท่าไรเหรอครับ?”

                “น่าจะประมาณ 20 เหรียญเงิน”

                ตามปกติมันจะเคลื่อนไหวโดยพกดาบไม้ไว้ตรงเอว

                (ราคาเอาเรื่องนะเนี่ย)

                ขนาดท่อนเหล็กที่ไม่มีคมยังราคาเท่ากับอัลบาเฮรอน 2 ตัว

                ถ้าเป็นไปได้อยากจะซื้ออุปกรณ์ดีๆอยู่หรอก แต่คงไม่ดีเท่าไรหากซื้ออาวุธดีๆเพื่อเติมเต็มความต้องการของตัวเอง อยากจะใช้เนื้อของอัลบาเฮรอนเพื่อครอบครัวมากกว่า

                เลยล้มเลิกและออกจากร้านขายอาวุธ

                (เอาละ ไปซื้อฟืนแล้วกลับดีกว่า ทำการสำรวจตลาดส่วนใหญ่เสร็จแล้วด้วย)

                ไปร้านขายฟืนที่ไปเมื่อ 2 วันก่อน

                “โอ้ เจ้าหนูเมื่อตอนโน้นนี่ วันนี้ก็มาซื้อฟืนเหรอ”

                “ครับ ขอแลกกับเนื้อหน่อยครับ”

                ดูเหมือนจะหลงเหลือความประทับใจค่อนข้างมาก ทำให้เจ้าของร้านขายฟืนจำได้ ทำการแลกเปลี่ยนฟืน 60 กิโลกรัมสำหรับ 4 วัน ก่อนจะผูกเข้ากับชั้นสะพายไหล่

                ตอนที่ออกจากร้านก็ได้ยินเสียงเจ้าของร้านบอกว่า สุดยอดไปเลยนะเนี่ย ออกมา ทำการแบกของที่หนักกว่าตัวเองหลายเท่ากลับไป ตอนนี้ยังไม่ถึง 10 โมงเช้า ทำให้ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คน

                แต่ก็เดินหน้าต่อไปโดยไม่สนใจ แล้วปลายทางข้างหน้าก็มีโดโกร่าเด็กชายที่ใบหน้ามีกระอยู่

                “อ้า ไม่ชอบใจเลย! มาทำอะไรแถวนี้หา! เจ้าผมดำ!”

                บางทีเพราะเป็นลูกเจ้าของร้านขายอาวุธเลยได้ยินจากพ่อที่เป็นเจ้าของร้านก็ได้ แถวนี้เป็นถิ่นของโดโกร่าทำให้เขามาหาเรื่อง

                “หือ? แค่มาซื้อฟืนน่ะ”

                พอบอกอย่างนั้น ก็เดินไปข้างหน้าต่อและพยายามจะเดินผ่านโดโกร่าที่ยืนขวางอยู่ เพราะไม่อยากจะมีเรื่องด้วยในระหว่างที่คิดว่าไปทำอะไรให้หรือเปล่า

                “เฮ้ย! อย่าเมินสิ! จะหนีงั้นเหรอ!!”

                ดูเหมือนจะไม่พอใจท่าทีอย่างนั้นของอเลน เลยเอามือมาผลักอก ทำให้ต้องถอยไปหลายก้าวเพื่อปรับสมดุลของฟืนที่แบก

                “หือ? คิดจะทำอะไร?”

                “ไม่ให้ผ่านตรงนี้หรอก ถ้าอยากผ่านก็มาเป็นลูกน้องของฉันซะ”

                โดโกร่าอยากให้อเลนมาเป็นลูกน้อง เพราะรู้ว่าอเลนไม่มีทางขัดขืนได้หรือเปล่านะทำให้เขายิ้มไม่หยุด

                อเลนที่ได้ยินดังนั้น ก็วางชั้นสะพายหลังลงตรงข้างทางเพื่อไม่ให้เกะกะทางเดินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

                อเลนตอนอยู่โลกก่อนเป็นเกมเมอร์ แถมเป็นเกมเมอร์ที่เล่นเกมค่อนข้างหนักด้วย พอเล่นเกมออนไลน์แบบ MMO ถึงจะเป็นแค่พนักงานบริษัทแต่ก็กลายข่าวลือตามเว็บบอร์ดหรือผู้ติดเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ

                ผู้ติดเกมออนไลน์ คือฉายาของผู้ที่ได้อุทิศชีวิตของตัวเองให้กับเกมนั้นๆ ซึ่งพนักงานบริษัทไม่น่าจะทำได้เลย

                วิธีการเล่นเกมสมัยนั้นมันง่ายๆ เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นต้องเพิ่มเลเวล หาอุปกรณ์ดีๆ แล้วไปปราบศัตรูที่แข็งแกร่ง ไม่ทำการเก็บไอเทมที่ไม่ทำให้แข็งแกร่ง ไม่ทำงานพวกช่างตีเหล็ก ไม่สนใจอีเว้นท์ตามฤดูกาลที่ไร้ความหมาย

                แน่นอนว่า ไม่มีความสนใจที่จะไปลานประลองเพื่อทำการ PVP เพราะการ PVP ไม่ได้รับค่าประสบการณ์ ไม่ได้ทำให้แข็งแกร่งขึ้น เคนอิจิจะต่อสู้กับแค่มอนสเตอร์เท่านั้น ไม่ทำการ PVP 

                แต่พอเป็นคนดังและถูกเผยแพร่ไปตามเน็ท ก็มีสิ่งที่ต้องจ่ายเพราะชื่อเสียงนั้น

                มีเพลเยอร์บางคนที่ทำการออกล่าผู้เล่นคนอื่นซึ่งจะเรียกพวกนั้นว่าเพลเยอร์คิลเลอร์ เป็นการไปโจมตีเพื่อความสนุก หรือไม่ก็เพื่อแย่งชิงอุปกรณ์

                ถ้าเวลานั้นมาถึง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นนักเรียนมัธยม เป็นแม่บ้าน หรือเป็นพวกเล่นตัวสลับเพศ ถ้ามาขัดขวางการล่าจะจัดการให้หมดทุกคน ให้พูดตามตรงเพราะเป็นเกมออนไลน์ทำให้ไม่รู้เพศและอายุของอีกฝ่าย แต่เนื่องจากเตรียมอุปกรณ์ไว้รับมือกับเพลเยอร์คิลเลอร์เป็นปกติอยู่แล้วทำให้จัดการได้อย่างแน่นอน

                “โอ้ จะมาเป็นลูกน้องเหรอ?”

                โดโกร่าเห็นว่าวางชั้นสะพายไหล่ลง

                “ไม่มีทางอยู่แล้ว”

                พอบอกอย่างนั้น ก็ทำการชักดาบไม้ที่อยู่ตรงเอวออกมา และกำมันด้วยมือทั้งสองข้างให้อยู่ตรงระดับอก

                ”หา!?”

                โดโกร่าอยู่ในสภาพมือเปล่า คงไม่นึกว่าจะทำการชักดาบไม้ออกมา

                “เป็นอะไรไป เข้ามาสิ”

                “ขะ ขี้โกงนี่หว่า!!”

                “ในสนามรบจะพูดอย่างนั้นได้เหรอ? อัศวินผู้ใช้ขวานเอ๋ย”

                ผลจากการเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับคุเรนะมา 3 ปี ทำให้พูดแบบอัศวินได้อย่างเชี่ยวชาญแลดูเป็นธรรมชาติ ต้องขอบคุณคุเรนะ

                “ชิ!?”

                “จะรอก็ได้ ไปหาอาวุธอะไรมาก็ได้ อัศวินผู้ใช้ขวานเอ๋ย”

                “หา!? อย่าหนีนะเฟ้ย!!”

                โดโกร่าวิ่งไปแล้วก็วิ่งกลับอย่างรุนแรง โดยในมือกำอะไรใหญ่ๆอยู่

                เพราะมีร้านขายอาวุธ ทำให้เอาท่อนไม้ขนาดใหญ่มา

                โดโกร่าตั้งท่าพร้อมกับพูดบ่นด้วยความโกรธ

                “เป็นอะไรไป ไม่เข้ามาเหรอ?”

                “หือ โอ้วววววว!!!”

                เริ่มเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับโดโกร่าที่โดนยั่วยุจนโมโห เขาเหวี่ยงไม้พลองโดยอาศัยแต่แรง ซึ่งใช้ดาบไม้รับได้อย่างง่ายดาย 

                ถึงจะมีหลายคนที่เห็นการเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินระหว่างอเลนกับโดโกร่า แต่ก็ดูเงียบๆ

                (ผู้ใช้ขวานเหรอ เกมที่ฉันเล่นเหมือนจะถูกเรียกว่าอัศวินขวาน ถึงจะเริ่มเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินแล้ว แต่จะทำยังไงดีนะ)

                เริ่มโดยที่ไม่ได้คิดอะไร แต่เนื่องจากไม่ใช่เกมเลยไม่อยากให้เลือดตกยางออก ในระหว่างที่คิดว่าจะจบเรื่องอย่างไรดี ก็ทำการรับท่อนไม้ของโดโกร่าไปเรื่อยๆ

                “ฮะๆ เป็นอะไรไปไม่เข้ามาแล้วเหรอ!!”

                โดโกร่าโดนอเลนที่เอาแต่ตั้งรับยั่วยุ เขาใส่แรงเข้าไปในดาบไม้ที่รับท่อนไม้ของโดโกร่าอีกนิดหน่อย

                เพราะว่าเข้าเดือนธันวาคม ทำให้การล่าอัลบาเฮรอนจบลง งานเกษตรเองก็แทบจะหมดแล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีแรงมากถึงขนาดนั้น ไหนโรดันจะฟื้นตัวเรื่อยๆแล้วด้วยอีก

                เพราะอย่างนั้นเลยเปลี่ยนจากสัตว์ F มาเป็นพืช F เพื่อทำการเพิ่มพลังเวทสำหรับเก็บประสบการณ์สกิล ถึงกระนั้นก็ยังมีพลังมากกว่าโดโกร่า และอาจจะมากกว่าผู้ใหญ่แถวนี้หลายเท่าอยู่

                “ย้าก!”

                ทั้งที่เป็นฝ่ายรับท่อนไม้ แต่คนที่กระเด็นกลับเป็นโดโกร่า ตอนที่เขาสบถพร้อมกับกำลังจะยืนขึ้น ก็มีดาบไม้มาจ่ออยู่ตรงปลายจมูก

                “จะต่ออีกไหม”

                “ชิ!”

                ดูเหมือนเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมกับหายใจหอบแฮ่กๆ เพราะเอาแต่จ้องไม่ยอมยืนขึ้นมาเลยไปแบกชั้นสะพายไหล่ที่วางอยู่ข้างทางขึ้นมา

                “นี่ โดโกร่าอัศวินแห่งขวานเอ๋ย”

                “อะ อะไรอีก?”

                “อีก 2 วันจะมาซื้อของช่วงเวลานี้อีก”

                “หา!?”

                อเลนพูดอย่างนั้นกลับโดโกร่าที่ยังไม่คิดจะยืนขึ้น ก่อนจะกลับบ้านไป

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset