[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 55 ตำหนิ

บทที่ 55 ตำหนิ

            ไปทำการล่าตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน จนในที่สุดก็ผ่านไป 1 เดือน ตั้งแต่ตอนโน้นจะออกล่าทุกๆ 6 วัน

            สมัยก่อนตอนเด็กๆ จะเล่นเกมได้แค่วันอาทิตย์ การล่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ทำให้นึกถึงความทรงจำตอนนั้น ตอนนี้พอมาลองคิดดูแล้วก็ช่างเป็นกฎที่น่าฉงน

            อเลนเข้าไปในร้านขายอาวุธหลังตอน 3 ทุ่ม

            “โห ไม่รู้หรอกนะว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่อย่างนี้ใช้ได้ใช่ไหม?”

            เจ้าของร้านอาวุธยื่นของที่เป็นลูกกลมๆมาให้ ทำการหยิบสิ่งที่มีขนาดพอๆกับลูกเบสบอล

            “โอ้ว! ขอบคุณมากครับ!! 60 เหรียญเงินใช่ไหมครับ?”

            เจ้าของร้านบอกว่าตกลงกันไว้อย่างนั้นนี่ เลยทำการมอบเงินให้พร้อมกับรับลูกเหล็ก 3 ลูกมา

            (เยี่ยมเลย ใช้สิ่งนี้แทนก้อนหินก็แล้วกัน)

            ทำการเก็บลูกเหล็กที่ซื้อมาแล้วกลับบ้าน วันนี้หลังเลิกงานแวะมาที่ร้านอาวุธเพื่อซื้อลูกเหล็กที่สั่งทำไว้

            ตั้งแต่ตอนโน้นก็มีวันหยุดอีก 4 ครั้ง แน่นอนว่าทั้ง 4 ครั้งทำการล่าตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้เลเวลเพิ่มจาก 9 เป็น 12 ถึงค่าสเตตัสที่เพิ่มขึ้นจะเป็นเรื่องดี แต่ก็มีเรื่องลำบากใจหนึ่งเรื่อง

            ก้อนหินที่ปาไปเริ่มแตก สาเหตุมาจากไม่มีโอกาสได้ใช้ยั่วยุของแมลง G เลยทำการเปลี่ยนการ์ดส่วนนั้นมาเป็นสัตว์ E เพราะอย่างนั้นทำให้พลังโจมตีเพิ่มมากขึ้น จนก้อนหินไม่สามารถต้านทานความรุนแรงได้ ก้อนหินที่โดนก็อบลินแตกเป็นเสี่ยงๆ จนก้อนหินที่เอามาจากหมู่บ้านคุเรนะหมดแล้ว

            เพื่อจะหาเปลี่ยน ครั้งนี้เลยไปขอให้ร้านอาวุธทำลูกเหล็ก เดิมทีทำการตีก้อนเหล็กเป็นอาวุธอยู่แล้ว การจะทำลูกเหล็กก็ไม่ได้ใช่งานยากอะไร และ 1 ลูกราคาแค่ 20 เหรียญเงิน เลยสั่งไป 3 ลูก

            (ถึงอย่างนั้นมีของที่ต้องการเยอะเลยนะเนี่ย ชุดป้องกัน อุปกรณ์เวทมนตร์ก่อไฟ อยากได้ลูกเหล็กสัก 10 ก้อนด้วยสิ หลังจากนั้นก็อาวุธอีก อาวุธเอาไว้ทีหลังสุดเพราะมีสัตว์อัญเชิญ

            ทำการจดบันทึกและจัดระเบียนของที่ต้องการไว้ในสมุดเวทมนตร์ อุปกรณ์เวทมนตร์ก่อไฟราคา 3 เหรียญทอง ถึงชุดป้องกันจะมีตั้งแต่ห่วยยันดี แต่ถ้าของแพงก็ต้องใช้เหรียญทอง อาวุธเองก็เช่นเดียวกัน

            (จะว่าอย่างไรดี ให้ความรู้สึกเหมือนเตรียมอุปกรณ์ตอนมาถึงเมืองครั้งแรกเลย!)

            ทั้งที่ตัวเองขาดแคลนเงินแต่ก็รู้สึกตื่นเต้น ตอนที่ยังเป็นเคนอิจิจำได้ดีเลยว่าตอนเล่นเกมสับสนว่าจะต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรเพื่อที่จะไปเมืองใหม่

            (ทำการล่ามอนสเตอร์ สะสมค่าประสบการณ์ สะสมเงินเพื่อหาอุปกรณ์ดีๆ เส้นทางปกติที่ดีและเรียบง่าย ส่วนเงินเอามาจากเงินเดือนที่ได้มาประจำ)

            เงินเดือนของคนรับใช้ฝึกหัดจะได้รับตอนสิ้นเดือน ซึ่งตอนปลายเดือนพฤศจิกายนได้รับมา 50 เหรียญเงิน

            เงินเดือนของอเลนอยู่ที่ 50 เหรียญเงิน 1 ปีก็ 6 เหรียญทอง อนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีรายหัว

            เนื่องจากยังอายุแค่ 8 ขวบ ทำให้จำนวนเป็นแค่ครึ่งของคนรับใช้ฝึกหัด คนรับใช้ฝึกหัดตามปกติจะต้องอายุ 12 ปี

            รายได้ของแต่ละระดับชั้น (เงินเดือน)

            ・พ่อบ้าน 5 เหรียญทอง

            ・คนรับใช้ 2 เหรียญทอง

            ・คนรับใช้ฝึกหัด 1 เหรียญทอง

 

            เงินเดือนของหัวหน้าคนรับใช้ฝึกหัดริกเกลที่บอกเรื่องนี้กับผมคือ 1 เหรียญทอง กับ 50 เหรียญเงิน (150 เหรียญเงิน) ริกเกลที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นบอกให้รู้ทุกอย่าง รวมไปถึงถึงเงินเดือนของพ่อบ้านที่ไม่ได้ถามด้วย

            (ถ้าได้รางวัลกำจัดจากกิลด์นักผจญภัยแล้วละก็คงสะสมเงินได้เยอะกว่านี้อีกหน่อย เอาเถอะไม่ได้ลำบากเรื่องเงินอะไรถึงขนาดนั้น แถมไกลจากคฤหาสน์ด้วยสิ)

            ตอนที่ต่อสู้กับก็อบลิน ใช้สัตว์อัญเชิญต่างโล่ ทำให้จนถึงตอนนี้ไม่โดนโจมตีเลยสักครั้ง ถึงเงินจะจำเป็น แต่คิดว่าค่อยๆเก็บมันไปก็ได้

            เนื่องจากดึกแล้วเลยกลับไปที่คฤหาสน์ และว่าจะไปนอน แต่พอสบตากับริกเกล

            “นี่ อเลน”

            “ครับคุณริกเกล สวัสดีตอนเย็นครับ”

            โดนริกเกลเรียก

            “นายไปทำอะไรเนี่ย? พ่อบ้านเรียกน่ะ?”

            “เอ๊ะ?”

            ไม่รู้ว่าโดนเรียกเพราะอะไร แต่ถ้าโดนเรียกก็ต้องไป เลยบอกริกเกลไปว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะไปยังห้องของพ่อบ้าน

            ก๊อกก๊อก

            “ขออภัย อเลนเองครับ”

            “……เข้ามาได้”

            ถึงจะมืดแต่ดูเหมือนจะเข้าไปได้ พอเข้าไปข้างใน ก็โดนบอกให้นั่งลงที่โซฟา

            “เรียกมาหรือครับ?”

            “ฮึม”

            มาเพราะถูกเรียกแต่เอาแต่ฮึมไม่พูดอะไร เลยทำได้แค่รอจนกว่าจะเริ่มพูด

            “อเลนเอ๋ย การทำงานของเจ้ายอดเยี่ยมมาก เหล่าคนรับใช้ต่างก็พูดกันว่าทำงานได้ดี”

            พอผ่านไปสักพักพ่อบ้านก็พูดออกมา ดูเหมือนกำลังเลือกใช้คำพูดอยู่

            “ขะ ขอบคุณมากครับ”

            “แต่ คนของตระกูลแกรนเวลจะโดนคนอื่นเห็นเป็นประจำ การกระทำในชีวิตประจำวันเป็นอะไรที่สำคัญมาก”

            (หือ? พูดเรื่องอะไรกัน? ตำหนิเหรอ?)

            “คะ ครับ”

            “วันหยุดทำอะไรเหรอ?”

            พ่อบ้านมองตรงมาที่อเลนและถามออกมา

            พอวันหยุดก็ออกไปตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แถมยังมุ่งมั่นมากด้วย กลับมาก็หลัง 3 ทุ่ม แถมยังทำต่อเนื่องมา 1 เดือน ทำให้พ่อบ้านมาพูดเกี่ยวกับการกระทำที่ดูแปลกๆ

            “เอ่อ”

            (เอายังไงดีนะ?)

            คิดอยู่ว่าจะบอกหรือจะทำอย่างไรดี ในตอนที่กำลัวใช้ความคิดพ่อบ้านก็พูดเสริมออกมา

            “ถ้าไม่ยอมบอกจะไม่ให้ออกจากห้องนี้หรอกนะ”

            (อย่างนี้นี่เอง คงต้องพูดเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะความแตกเร็วขนาดนี้)

            ระหว่างนี้คิดไว้แล้วว่าความจะแตก เพราะทำการล่ารอบๆเมืองแกรนเวล ถึงจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พบใคร แต่มีบ้างที่พบนักผจญภัย อาจจะมีข่าวลือเด็กหนุ่มผมดำออกไปนอกหมู่บ้านก็ได้ แล้วเรื่องการล่าอาจจะรู้มาถึงคฤหาสน์อยู่

            หรือว่าถ้าบอกให้เลิกล่าแล้วละก็ คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก

            “วันหยุด ออกไปนอกเมืองเพื่อล่ามอนสเตอร์ครับ”

            ตอบออกไปตามตรง

            “มะ มอนสเตอร์?”

            “ใช่แล้วครับ วันหยุดออกจากเมืองแกรนเวลไปตั้งแต่เช้าเพื่อล่ามอนสเตอร์ครับ”

            พ่อบ้านที่ได้ฟังเด็กชายวัย 8 ขวบบอกว่าออกไปล่ามอนสเตอร์ข้างนอก ถึงจะอายุเกือบ 60 ปีจนแทบจะไม่เหลือเรื่องให้ตกใจแล้ว แต่ตัวเองก็รู้ดีเลยว่ากำลังทำตาโตประหลาดใจให้กับคำพูดของอเลน ราวกับเด็กชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นอะไรที่ดูผิดแปลก

            “……มอนสเตอร์เหรอ จะว่าไปถามเรื่องเทือกเขามังกรขาวกับกิลด์ผจญภัยจากริกเกลด้วย สำหรับไปทำการล่ามอนสเตอร์เหรอ?”

            (หือ ริกเกลสารภาพเองเลยเหรอ? เอาเถอะ คนที่คอยดูแลคนอื่นถ้าโดนถามก็ต้องตอบเป็นปกติอยู่แล้ว)

            ถึงคิดจะโทษริกเกลขึ้นมาแวบหนึ่ง แต่ก็เปลี่ยนความคิดใหม่

            “ใช่แล้วครับ”

            “ขอวันหยุด 1 วันเพื่อจะไปล่าเหรอ แล้วทำไมถึงไปล่าล่ะ?”

            “เรื่องนั้น เพราะผมเป็นลูกชายของโรดันผู้ล่าหมู่ป่าไงครับ ผมเองอยากจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับพ่อครับ”

            “หือ?”

            ไม่รู้ทำไมคำพูดถึงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะคิดว่ามันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

            (ใช่แล้ว เป็นลูกของพ่อที่อยากจะเป็นนายพราน ทำให้ผมที่เป็นอย่างนั้นชื่นชอบการล่า พอมาลองคิดดูอีกทีสมเป็นพ่อลูกกันดีนะเนี่ย)

            ยอมรับในคำพูดของตัวเอง

            พอห่างกันทำให้รู้ถึงจุดร่วมกันของพ่อลูก สิ่งนั้นเป็นจุดร่วมที่ยิ่งใหญ่ คุณค่าของการมีชีวิตที่เหมือนกัน รู้สึกได้ถึงประสงค์ของพระเจ้าที่ให้เกิดใหม่กับโรดัน

            “การไปล่าในวันหยุดถือเป็นคุณค่าของการมีชีวิตครับ”

            “คุณค่าของการมีชีวิตเหรอ ขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่สิสมกับเป็นลูกของโรดัน”

            เหมือนพ่อบ้านจะยอมรับในส่วนนั้น อาจจะเพราะอิทธิพลจากการเลี้ยงดูของโรดันก็ได้ ลูกของวีรบุรุษแห่งหมู่บ้าน พูดหนักแน่นว่าการล่าคือคุณค่าของการมีชีวิต บางที ถ้าไม่เปลี่ยนให้เป็นวันหยุด 1 วันตอนมาปรึกษาก่อนหน้านี้อาจจะเลิกเป็นคนรับใช้ฝึกหัดจริงๆก็ได้ นึกถึงดวงตาที่แฝงไว้ด้วยการตัดสินใจนั้นออก

            “อย่างนี้นี่เอง ถ้าไม่ได้ก่อเรื่องเหมือนหัวหน้าพ่อครัวแล้วละก็ คุณค่าของการมีชีวิตเองก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ”

            (หือ? หัวหน้าพ่อครัว? อ้อ บางครั้งก็มีปัญหานะเนี่ย )

            หัวหน้าพ่อครับชอบการทำอาหารมาก ถึงมันจะเป็นเรื่องดี แต่มีบางที่ซื้อวัตถุดิบเกินงบเพื่อเอามาทำการวิจัยอาหาร เพราะอายุใกล้เคียงกับพ่อบ้าน ทำให้หัวหน้าพ่อครัวไม่ค่อยเกรงกลัวคนเก่งๆอย่างพ่อบ้าน

            การต่อสู้ระหว่างพ่อบ้านที่บอกให้อยู่ในงบประมาณ กับหัวหน้าพ่อครัวที่บอกว่าของกินต้องอร่อยกว่านี้ มีให้เห็นในคฤหาสน์อยู่บ่อยครั้ง

            “ครับ จะระวังไม่ให้ส่งผลกระทบกับงานครับ”

            “อืม อเลนเอ๋ย ฉันอยากให้เจ้าเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ด้วยการทำงานที่คฤหาสน์นี้เหมือนกับฉันอยู่หรอกนะ”

            (สิ่งนั้นอาจจะยากไปหน่อย ไม่คิดจะทำงานใต้ใครตั้งแต่มาต่างโลกแล้วด้วยสิ)

            เลยทำการตอบกลับไปก่อน พ่อบ้านทำหน้าเอือมๆก่อนจะถอนหายใจออกมา

            “แล้วกระต่ายมีเขาที่จัดการได้ เอาไปทำอะไรเหรอ?”

            ”เอ๊ะ?”

            พ่อบ้านคงคิดว่าไปล่ากระต่ายมีเขารอบๆเมืองก็ได้ คงนึกไม่ถึงว่าจะไปล่าก็อบลินที่ต้องเดินจากเมืองไป 1 วันหรอก

            “ไม่จำเป็นต้องซ่อนหรอก คงเอาไปขายที่ร้านขายเนื้อเพื่อเงินค่าขนมใช่ไหม?”

            (อย่างนี้นี่เอง ไหลตามน้ำไปอย่างนั้นก็แล้วกัน)

            “ขอโทษครับ”

            เลยบอกไปว่าเอาเนื้อกระต่ายมีเขาไปขายที่ร้านขายเนื้อ

            “อืม คนของตระกูลแกรนเวล จะมาหาเงินค่าขนมอย่างนี้มันก็ดูไม่ค่อยดีเสียด้วย เดี๋ยวในเมืองจะลือกันแปลกๆเอา”

            “ครับ”

            แสดงความสำนึกผิดออกมาอย่างเต็มที่

            แต่ไม่ได้เอาเนื้อไปขายที่ร้านขายเนื้อ เลยบอกไปว่าที่กลับมาช้าเพราะการไปกลับระหว่างร้านขายเนื้อกับคฤหาสน์มันค่อนข้างใช้เวลา ทุกอย่างนอกจากหินเวททำการปล่อยไว้อย่างนั้น เพราะค่าประสบการณ์สำคัญกว่าเงินค่าขนม

            “แต่ยังไงมันก็เป็นเนื้อ เอาเป็นว่าตระกูลแกรนเวลจะทำการรับซื้อเนื้อนั้นเองก็แล้วกัน”

            “จริงหรือครับ!”

            (อ้าน่าขอบคุณจริงๆ)

            เนื้อที่จะทิ้งเปลี่ยนมาเป็นเงิน

            “หือ? คงให้เยอะไม่ได้ เอาเป็นว่าตัวละ 1 เหรียญเงินว่าไง”

            คิดว่าให้แค่นั้นคงไม่มีปัญหา เพราะอย่างนั้นเรื่องที่อเลนออกไปล่าข้างนอกนั้นรู้กันไปทั่ว

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset