[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 83 ค่ายพักแรม

บทที่ 83 ค่ายพักแรม

                หัวหน้ากลุ่มอัศวินเล่าสิ่งที่อเลนทำมาจนถึงตอนนี้ให้ฟัง อเลนหยุดกินน่องนกป่าแล้วตั้งใจฟัง

                อเลนเริ่มล่าอัลบาเฮรอนที่หมู่บ้านคุเรนะตอนอายุ 6 ขวบ พออายุ 7 ขวบก็ล่าอัลบาเฮรอนเกิน 50 ตัวไปแล้ว

                เพียงแค่ระยะเวลา 2-3 ปีนี้ ขนของอัลบาเฮรอนจำนวนมากถูกส่งมาจากหมู่บ้านคุเรนะมาที่เมืองแกรนเวล

                แล้วตอนอายุ 7 ขวบก็ทำการชี้นำทาสติดที่ดินและประชาชนล่าหมูป่า ผลสรุปทำให้ปีนั้นล่าหมู่ป่าได้มากกว่า 10 ตัว

                (เอ๊ะ? รู้ได้ยังไงเนี่ย? ถ้าตรวจสอบที่หมู่บ้านคุเรนะก็คงรู้อยู่หรอก แต่ว่าทำไมกัน? รู้ละเอียดมากเลยนะเนี่ย)

                หัวหน้ากลุ่มอัศวิพูดออกมาต่อ ในระหว่างที่ใบหน้าของอเลนเต็มไปด้วยความสงสัย

                พออเลนมาที่คฤหาสน์ ทันใดนั้นระหว่างเมืองแกรนเวลกับเทือกเขามังกรขาวก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ศพของก็อบลินที่เหมือนโดนอะไรสักอย่างฟันเกลื่อนไปทั่ว แถมทุกตัวยังโดนเอาหินเวทออกไป แล้วจำนวนนั้นก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น จากรายงานเหมือนจะมีมากเกิน 1’0 ตัว

                แล้ว 1 ปีให้หลังก็เริ่มเกิดศพสภาพเดียวกันก็อบลินขึ้นกับออร์ค ส่วนปีที่แล้วมีมดเกราะที่โดนปราบแบบเดียวกันแถมถูกเอาหินเวทออกไปด้วย

                รายงานมาในวันหยุดของอเลนและวันที่ทำหน้าที่นายพราน

                แล้วช่วงนี้หมู่บ้านก็อบลินที่กลุ่มอัศวินมุ่งหน้าไปก็โดนโจมตีและเผาทิ้ง

                (อะไรกัน จับเรื่องราวได้เกือบทั้งหมดเลยนี่ เอาเถอะถ้าลองคิดดูแล้วมันก็อย่างนั้นอยู่แล้ว มอนสเตอร์ที่โดนฆ่าแล้วเอาหินเวทออก ฉันเองไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฝังมอนสเตอร์ด้วยสิ ถ้าจากตำแหน่งของหัวหน้าอัศวินคงต้องมีรายงานมาหาอยู่แล้ว)

                แล้วก็เกิดคำถามขึ้นกับพิธีประเมินของอเลน ไม่มีทางให้คิดได้เลยว่าจะไร้พรสวรรค์และความสามารถต่ำ ในช่วง 3 ปี ที่ประลองกับมิไฮซึ่งกลับมาตอนช่วงฤดูใบไม้ผลิก็แสดงให้เห็นว่าค่อนข้างมีฝีมือ

                เลยเรียกบาทหลวงทุกคนที่รับผิดขอบพิธีประเมินของอเลนมา แล้วสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับพิธีประเมิน

                พวกบาทหลวงบอกว่าไม่มีพรสวรรค์ คำพูดนั้นยิ่งทำให้ความสงสัยผุดขึ้นมาอีก

                พิธีประเมินจะเริ่มจากเมืองหลวง แล้วค่อยไปแต่ละแคว้น แล้วไปที่หมู่บ้าน ถึงจะประเมินมามากมาย และผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตามแต่กลับจำผลการประเมินของอเลนได้

                พอบอกอย่างนั้น เหล่าบาทหลวงก็บอกออกมาว่า “นั่นสิ” พร้อมกับเริ่มสงสัยในคำพูดของตัวเอง

                แล้วเหล่าบาทหลวงก็นึกออก คริสตัลที่จะส่องแสงเปลี่ยนไปตามพรสวรรค์ จะว่าไปตอนประเมินอเลนมันสว่างจ้าจนแทบจะต้องปิดตาเลย เด็กชายประหลาดที่มีเส้นผมและดวงตาสีดำ ทุกคนตอบออกมาตรงกันราวกับว่าความทรงจำนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

                แล้วความทรงจำของทุกคนก็ถูกเรียกออกมา

                บาทหลวงที่รับผิดชอบพิธีประเมิน นึกถึงแผ่นโลหะสีดำที่ใช้แสดงรายละเอียอออก

                แล้วก็ตอบออกมาว่า “มีพรสวรรค์อยู่”

                แต่มันเขียนด้วยตัวอักษรที่เข้าใจได้ยากเลยอ่านไม่ออก แถมค่าความสามารถต่ำ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาถึงขนาดนั้น เลยประกาศออกไปว่าไม่มีพรสวรรค์

                “สัตว์เหล่าโน้น คือพรสวรรค์นั้นสินะ”

                “ก็ อย่างนั้นครับ”

                “อืม”

                หัวหน้ากลุ่มอัศวินมั่นใจกับคำพูดนั้น ว่าอเลนรู้ถึงพรสวรรค์ของตัวเอง แถมยังเงียบมาโดยตลอด

                (ความแตกเรื่องที่มีพรสวรรค์แล้วเหรอ จะถามถึงเรื่องนักอัญเชิญหรือเปล่านะ แต่ไม่คิดจะตอบอยู่แล้ว)

                อเลนไม่คิดจะตอบเรื่องของพรสวรรค์ ถ้าหากโดนถามรายละเอียดว่าจะตอบกลบเกลื่อนไป

                แต่ไม่มีการถามอะไรไปมากกว่านี้ หัวหน้ากลุ่มอัศวินกินน่องนกป่าที่ปิ้งด้วยกองไฟ

                “……”

                ความเงียบยังคงดำเนินต่อไป อเลนมองไปยังหัวหน้ากลุ่มอัศวิน

                “นายท่านรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว”

                อเลนมาถึงที่นี่ได้ 3 ปีแล้ว บารอนรู้เรื่องทั้งหมดยิ่งไปกว่านั้นยังให้ทำได้อย่างอิสระ ที่ให้เป็นนายพรานเร็วๆ เพื่อตอบรับความหวังของอเลนที่ชื่นชอบการล่า

                “เอ๊ะ? ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วยครับ?”

                ถามหัวหน้ากลุ่มอัศวินออกไปตรงๆ

                “……ก็ นั่นสินะ ถึงจะรู้สึกคาใจแต่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรจะพูดออกมาหรอก อีกไม่นานคงได้คุยกับนายท่าน ถ้าถึงตอนนั้นก็ถามดูสิ”

                (เรียกฉันมาคุย? คำพูดแปลกๆนะเนี่ย ราวกับว่าบารอนอยากจะขอร้องอะไรกับคนรับใช้ฝึกหัดอย่างฉันเลย)

                ดูเหมือนจะไม่พูดอะไรไปมากว่านี้แล้ว ทั้งเรื่องของสัตว์อัญเชิญและสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน

                อย่างไรก็ตามหลังจากนี้กลุ่มอัศวินยังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่ เนื่องจากเตรียมตัวมาถึงขนาดนี้ จะไปทำการกวาดล้างหมู่บ้านก็อบลินที่อยู่ข้างหน้า แล้วโดนบอกมาว่าหลังจากนี้ตอนที่หัวหน้ากลุ่มอัศวินไปถึงคฤหาสน์แล้ว อยากจะให้ช่วยบอกข้อมูลว่าตอนนี้ทำอะไรไปบ้าง

                ให้อิสระในการกระทำถึงขนาดนี้คงไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ เลยตอบรับคำขอนั้น

                ตอนที่กินอาหารเย็นเสร็จอัศวินคนหนึ่งก็มาบอกว่าเตรียมอ่างอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยอ่างอาบน้ำที่ว่าก็แค่ถังใส่น้ำร้อนเอาไว้เช็ดคราบเหงื่อและสิ่งสกปรกเท่านั้น

                หัวหน้ากลุ่มอัศวินเริ่มถอดชุดเกราะ

                เนื่องจากยังไม่ได้ตอบแทนที่มาช่วย เลยบอกไปว่า “จะถูหลังให้” เลยทำการเช็ดเหงื่อให้หัวหน้ากลุ่มอัศวิน

                ร่างกึ่งเปลือยของหัวหน้ากลุ่มอัศวินที่อายุเกิน 50 ปีไปแล้วเต็มไปด้วยบาดแผล ทำให้อเลนถึงกับตกตะลึง ถึงจะคิดว่าใบหน้าและแขนจะมีแผลเป็นอยู่มาก แต่ใต้เกราะเองก็มีเยอะเหมือนกัน

                ในระหว่างที่ถูหลังก็คิดว่าต่อให้เจอการต่อสู้ที่รุนแรงขนาดไหนก็ต้องมีชีวิตรอดให้ได้ แล้วอเลนก็ต้องตกตะลึงขึ้นไปอีก ตรงแผ่นหลังของหัวหน้ากลุ่มอัศวินทั้งเนื้อและผิวหนังโดนเฉือนหายไปมาก บาดแผลสาหัสที่ทำให้เกือบถึงแก่ชีวิตก็มีมากมายนับไม่ถ้วน

                “หือ? เป็นอะไรเหรอ?”

                “อ๊ะ ขอโทษครับ จะถูให้เดี๋ยวนี้ครับ ถึงอย่างนั้น”

                (แผลเก่าเหรอ ถึงอย่างนั้นคงเจ็บน่าดูเลยนะเนี่ย)

                “เป็นอะไรไปเหรอ?”

                “จะรักษาแผลพวกนี้ไหมครับ? ผมมีสมุนไพรฟื้นฟูอยู่ จะใช้ให้เอาไหมครับ?”

                อเลนแสดงความเป็นห่วงด้วยการจะใช้สมุนไพรแห่งชีวิตในการฟื้นฟู

                “อย่างนั้นแหละ”

                “ไม่เป็นไรครับ สมุนไพรมีเยอะเลย ถ้าอย่างนั้นใช้เลยนะครับ”

                “ไม่หรอก บอกว่าไม่ต้องใช้หรอก ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละดีแล้ว”

                “ยะ อย่างนั้นเหรอครับ”

                ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธ “อย่างนั้นแหละ” ที่คิดว่าจะเป็นการตอบรับ ดูเหมือนอยากจะให้ปล่อยแผลไว้อย่างนั้น ทำให้อเลนถูหลังต่อโดยไม่พูดอะไร

                (ถึงอย่างนั้นการล่าวันนี้แทบจะไม่ได้เรื่องเลย ต่อให้พยายามเข้าไปในประตูขนาดนั้น แต่การป้องกันมันแน่นหนาจนทำให้สภาพแย่ลง การที่ฉันเข้าไปข้างในประตูด้วยถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรง)

                ในระหว่างที่ถูหลังก็คือถึงจุดที่ต้องแก้ไขของการล่าในวันนี้

                “การล่าสนุกไหม?”

                หัวหน้ากลุ่มอัศวินพึมพำออกมา รู้สึกเหมือนถูกอ่านใจเลยว่ากำลังคิดถึงเรื่องของการล่าอยู่

                “นั่นสินะ สนุกมากเลยครับ”

                หัวหน้ากลุ่มอัศวินพูดแค่ว่า “งั้นเหรอ” แล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก ถึงแผ่นหลังจะดูเศร้า แต่อเลนไม่สามารถเห็นสีหน้านั้นได้

                วันรุ่งขึ้น อธิบายเรื่องที่ค้างแรมข้างนอกโดยพลการทำให้กลับคฤหาสน์ช้าไป 1 วัน แต่ก็ไม่โดนตำหนิอะไร ก่อนจะพูดออกมาแค่ว่าดีแล้วที่ปลอดภัย

                การตอบสนองอย่างนี้ ทำให้อเลนรู้ว่าได้รับอิสระในการล่าค่อนข้างมาก แต่ยังไม่ทราบถึงเหตุผล

                หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

                ‘โม่วววววว!!’

                ออร์คคิงที่เลือดอาบส่งเสียงตะโกนออกมาก่อนจะล้มลงกับพื้น

                ‘กำจัดออร์คคิง 1 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 25’0’

                (อืม วิธีการนี้ถูกต้องสินะ? ถึงต้องใช้หินเวท 120 ก้อน แต่ได้รับหินเวทระดับ B ก้อนแรกมาแล้ว)

                จากการที่อเลนลองผิดลองถูก ในที่สุดก็กวาดล้างหมู่บ้านออร์คสำเร็จ

                เดิมที การที่ค่อยๆเข้าไปข้างในมันแทบจะไม่มีประโยชน์ ถ้าทำอย่างนั้นแล้วออร์คตั้งขบวนรบได้จะทำให้มันแย่ลง

                จากจุดผิดพลาดในตรงนั้น ทำให้เปลี่ยนแผนการต่อสู้

                ขั้นแรกแบ่งสัตว์อัญเชิญ 40 ตัว ไปโจมตี 4 ด้านพร้อมกัน ด้านละ  10 ตัว สัตว์อัญเชิญ 1 ตัวสามารถจัดการได้ 2 ตัว ดังนั้นสัตว์อัญเชิญ 40 ตัวจะกำจัดได้ทั้งหมด 80 ตัว ก่อนอื่นต้องลดจำนวนรวดเดียวเยอะๆ เพื่อไม่ให้ออร์คสร้างขบวนรบ

                ใช้แชร์กับ 4 ตัว เพื่อออกคำสั่งกับสัตว์อัญเชิญสัตว์ D โดยทำการกำจัดออร์คที่ใช้เวทมนตร์ก่อนเป็นอันดับแรก และถ่ายทอดคำสั่งกับสัตว์อัญเชิญตัวอื่นว่า ถ้าเจอออร์คที่ใช้เวทมนตร์ให้ไปทำปราบมันก่อน

                ต่อให้จำนวนของสัตว์อัญเชิญลดลง หรือออร์คคิงจะออกมา ก็ยังคงเรียกสัตว์อัญเชิญออกมาเรื่อยๆ เป็นยุทธการคลื่นมนุษย์ ถ้าหากอเลนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่โดนโจมตีแล้วละก็ มันเป็นการต่อสู้ที่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

                ออร์คคิงถูกกำจัดด้วยจำนวนที่เหนือกว่า

                (ถึงจะสิ้นเปลืองหินเวท แต่ชนะก็คือชนะ ถึงการเล่นครั้งแรกจะล้มเหลวแต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี)

                ในโลกก่อนหน้า การทดลองทำอะไรครั้งแรกจะเรียกว่าการเล่นครั้งแรก ความผิดพลาดของหมู่บ้านออร์ค ให้คิดซะว่าเป็นความผิดพลาดของการเล่นครั้งแรก ถ้าเป็นเกมเมอร์การสะสมประสบการณ์เพื่อใช้ครั้งถัดไปถือเป็นเรื่องสำคัญ

                (เอาละ ตอนนี้การกวาดล้างหมู่บ้านออร์คก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว ต่อไปคิดถึงการปรับประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น)

                อเลนที่ครั้งนี้กวาดล้างหมู่บ้านออร์คได้แล้ว ตั้งเป้าหมายที่จะกวาดล้างหมู่บ้านออร์คทั้งหมดตรงเชิงเทือกเขามังกรขาว

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset