[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 89 รังมดเกราะ 3

บทที่ 89 รังมดเกราะ 3

            ขั้นสุดท้ายของการผ่านรังมดเกราะ สัตว์อัญเชิญนก D มุ่งหน้าไปจนพบห้องที่ใหญ่เป็นพิเศษห้องหนึ่ง

            มีมดเกราะอยู่หลายตัว โดยมันพยายามปกป้องมดเกราะตัวหนึ่งที่ใหญ่กว่าตัวอื่นเป็นเท่าตัว ถึงจะบอกว่าใหญ่แต่ส่วนหัวและความสูงของเกราะนั้นเท่ากับตัวอื่นๆ แต่ความยาวของเกราะมันเหมือนกับตัวหนอนเลย ร่างกายที่ยาวเป็นตัวหนอนราวๆ มดเกราะ 3 ตัวยืดหดไปมา

            (โอ้ว!! ราชินีมดเกราะไม่ผิดแน่ๆ!!)

            อเลนดีใจอย่างมาก ดูเหมือนที่นี่จะเป็นจุดสิ้นสุดของรังมดเกราะ  แล้วยังมีตัวพิเศษที่ชวนให้คิดว่าเป็นราชินีมดเกราะอีก

            เอาสัตว์อัญเชิญนก D 3 ตัวที่ใช้สำหรับทำแผนที่ของโพรงกลับเป็นการ์ด แล้วทำการบันทึกตำแหน่งที่เจอราชินีมดเกราะ ก่อนจะให้สัตว์อัญเชิญทุกตัวที่อยู่ในโพรงกลับมาเป็นการ์ด

            ตอนนี้ทำการแชร์กับสัตว์อัญเชิญได้ 8 ตัว

            (ก่อนอื่น ก็ไปทั้งอย่างนี้ ถ้ามันลำบากค่อยเพิ่มความฉลาดแล้วเพิ่มสัตว์อัญเชิญก็แล้วกัน)

            ・สัตว์อัญเชิญสัตว์ D 6 ตัว

            ・สัตว์อัญเชิญนก D 1 ตัว

            ・สัตว์อัญเชิญแมลง D 1 ตัว

            ใช้แชร์กับสัตว์อัญเชิญทั้ง 8 ตัว แล้วบัฟด้วยทักษะพิเศษ “กระจาย” ของสัตว์อัญเชิญปลา D ก่อนจะมุ่งหน้าไปปราบราชินีมดเกราะ

            อนึ่งได้สั่งให้สัตว์อัญเชิญสัตว์ D ที่ไม่ได้ทำการแชร์ ตามสัตว์อัญเชิญที่ทำการแชร์ไป แต่เพราะมันมืดอย่างนี้ ต่อให้ตามไปก็มองไม่เห็นข้างหน้าเลยไม่ให้ตามไป ครั้งนี้เลยให้เฉพาะสัตว์อัญเชิญที่ทำการแชร์ไปปราบ

            มุ่งหน้าผ่านโค้งและทางแยกในโพรง เพื่อมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกสุดของโพรงที่อยู่ลึกลงไป 5 กิโลเมตร

            ตรงปลายทางมีราชินีมดเกราะที่ยังอยู่ในสภาพเดิมก่อนหน้านี้อยู่

            (ก่อนอื่นมดเกราะพวกนี้มันเกะกะ การสู้กับบอสต้องกำจัดลิ่วล้อก่อน มันเป็นสัจธรรมของโลกนี้)

            กำจัดมดเกราะ 10 ตัวที่อยู่ใกล้ๆ เนื่องจากห้องที่ราชินีมดเกราะอยู่ค่อนข้างกว้าง ทำให้ตากลางคืนของสัตว์อัญเชิญนก D ดูรอบๆได้อย่างง่ายดาย แล้วกำจัดโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายมีจำนวนที่เยอะกว่า

            ถึงสัตว์อัญเชิญสัตว์ D จะโดนเล่นงานไปแล้ว 3 ตัว แต่ก็อัญเชิญแล้วให้มุ่งหน้าไปทันที เป็นแผนการเดียวกับตอนที่จัดการออร์คคิง ใช้จำนวนที่มากกว่าการโจมตีของศัตรู

            (ลิ่วล้อเองก็จัดการไปแล้ว ฉันเองเข้าไปในรังแล้วอัญเชิญจำนวนมากดีกว่า)

            ตอนปราบออร์คคิงต้องใช้สัตว์อัญเชิญสัตว์ D มากกว่า 100 ตัว แผนการคือล้อมโจมตีทุกทิศทาง ต่อให้โดนจัดการไปหลายตัว ก็ให้สัตว์อัญเชิญที่ยังเหลือรอดเข้าไปโจมตี ครั้งนี้เองก็ว่าจะใช้แผนเดียวกัน แต่ปลายทางมันอยู่ห่างจากพื้นดินลงไปลึก 5 กิโลเมตร

            เนื่องจากจัดการลิ่วล้อจนแทบจะไม่มีอันตรายแล้ว แต่มันเสียดายเวลาที่จะต้องอัญเชิญแล้วให้มุ่งหน้าไปใหม่ อเลนเลยทำการเรียกสัตว์อัญเชิญนก D 1 ตัว กับสัตว์อัญเชิญสัตว์ D 2 ตัวออกมาเพื่อเข้าไปในรัง เนื่องจากมองอะไรไม่เห็นเลยพึ่งตากลางคืนของสัตว์อัญเชิญนก D ที่ทำการแชร์ไว้

            (รู้สึกเหมือนบังคับตัวเองจากข้างบนเลย)

            ในระหว่างที่มุ่งหน้าไปพร้อมกับคิดเช่นนั้น สัตว์อัญเชิญสัตว์ D ที่อยู่ด้านในสุดก็เข้าไปโจมตีราชินีมดเกราะ

            (ถึงการเคลื่อนไหวจะช้า แต่มันอันตรายเกินไปที่จะเล็งตรงหัว)

            เพราะกรามมันอันตรายเลยลงความเห็นว่าควรจะหลีกเลี่ยงส่วนโครงขนาดใหญ่ตรงหัว และทำการโจมตีส่วนท้องที่ดูแล้วน่าจะอ่อนนุ่มแทน

            สัตว์อัญเชิญสัตว์ D 3 ตัวใช้ทักษะพิเศษ “กัดขยี้” ตรงส่วนท้องที่เหมือนกับตัวหนอน ราชินีมดเกราะบิดตัวทำให้เหล่าสัตว์อัญเชิญสัตว์ D ที่กัดไปตรงท้องด้านข้างถึงกับกระเด็น

            สัตว์อัญเชิญสัตว์ D ที่ล้มอยู่โดนกรามขนาดใหญ่กัดจนสลายกลายเป็นฟองแสง

            (โดนซะแล้ว ไม่สิ อย่างนี้น่าจะพอไหว ความเร็วในการโดนกำจัดมันช้ามากๆ)

            ถ้าเทียบกับการต่อสู้ของออร์คคิงที่ใช้ง้าวแล้ว ความเร็วในการโดนกกำจัดจากการโจมตีของราชินีมดเกราะถือว่าค่อนข้างช้า

            อเลนมาถึงห้องใหญ่ที่ราชินีมดเกราะอยู่

            (ศัตรูเคลื่อนไหวช้าลงแล้ว!! เหล่าแบร์ ลุยรวดเดียวเลย)

            ‘‘‘กรรรรรรรรร!!!’’’

            สัตว์อัญเชิญสัตว์ D 20 ตัวคำรามออกมาพร้อมกัน แล้วมุ่งหน้าเข้าใส่ราชินีมดเกราะ อีกฝ่ายระดับสูงกว่า แล้วทางนี้เกินครึ่งมองไม่เห็น ถึงกระนั้นการที่ศัตรูมีร่างกายที่ใหญ่โตทำให้โจมตีโดนอยู่ ต่อให้โดนซัดจนกระเด็นก็ไม่สนเข้าไปกัดต่อ

            (เคลื่อนไหวช้าถ้าเทียบกับออร์คคิงนะเนี่ย)

            รู้สึกว่ามันไม่ค่อยได้ผลมากกว่าที่คิด ในระหว่างที่คิดอย่างนั้น สัตว์อัญเชิญสัตว์ D ก็ทำบาดแผลสาหัสได้ ร่างกายที่ยาวของราชินีส่วนหนึ่งโดนทำลาย แล้วมีของเหลวสีขาวกระจายเต็มพื้น

            ‘กี้!!!’

            ราชินีมดเกราะชูหัวขึ้นแล้วทำท่าเหมือนกรีดร้องก่อนจะล้มลงไปตรงพื้น ร่างกายคดงอและกระตุก เพราะอย่างนั้นยิ่งทำให้ของเหลวสีขาวทะลักออกมามากขึ้น

            ‘กำจัดราชินีมดเกราะ 1 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 45000’

            (อืม จัดการได้ตามปกติแฮะ)

            เพียงไม่นานก็จัดการราชินีมดเกราะได้

            (เอาละ จัดการได้แล้วจะเอาไงต่อดี ต่อให้กลับไปตอนนี้คงกลับไปไม่ถึงเมืองด้วยสิ)

            การจะปราบรังมดเกราะมันต้องใช้เวลาถึง 1 วัน ต่อให้กลับไปยังเมืองแกรนเวลประตูก็คงปิดไปแล้ว ทำให้เข้าเมืองไม่ได้ ถึงจะรู้สึกเหมือนทำผิดแต่ก็คิดว่าจะทำอย่างไรดี

            (อย่างนี้ต้องพักแรมข้างนอกโดยไม่ขออนุญาต คงโดนพ่อบ้านโกรธแน่ๆ แถมยังรู้สึกผิดต่อคุณริกเกลด้วยสิ)

            วันนี้เป็นวันที่ 2 ของวันล่าต่อเนื่อง จะไม่กลับก็ไม่ได้ แต่ถ้าหยุดปราบกลางคันมดเกราะอาจจะฟื้นตัวขึ้นมาได้อยู่ เพราะอย่างนั้นเลยให้ความสำคัญกับการกำจัดราชินีมดเกราะก่อน ผลสรุปนั้นทำให้พักแรมข้างนอกโดยไม่ขออนุญาต แล้วก็คิดหาวิธีขอโทษริกเกล

            (ก่อนอื่นเก็บเกราะของราชินีมดเกราะ แล้วค่อยกลับไปขอโทษก็แล้วกัน)

            เอาอุปกรณ์จุดไฟเวทมนตร์ออกมาจากที่เก็บ แล้วบิดเพื่อเปิดตะเกียง ถึงจะเห็นจากตากลางคืนของสัตว์อัญเชิญนก D แต่ก็อยากจะเห็นภายในโพรงด้วยตาของตัวเอง

            เข้าไปใกล้ราชินีมดเกราะเพื่อตรวจสอบสภาพ

            (เหม็น!)

            ของเหลวที่ออกมาจากราชินีมดเกราะ มันให้ความรู้สึกเหม็นเปรี้ยว ดูท่าคงไม่ดีกับร่างกายสักเท่าไร

            (ถึงอย่างนั้นเคลื่อนไหวไม่ค่อยดีเลย หรือว่าสภาพมันไม่ดีงั้นเหรอ)

            ทำไมถึงฆ่าราชินีมดเกราะได้ในทันที ถ้าเป็นมอนสเตอร์ระดับ B แล้วละก็ น่าจะแข็งแกร่งระดับเดียวกับมาด้ากัลชูแท้ๆ ทำให้คิดว่ามันอ่อนแอลง หรือว่าอ่อนแอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

            (หรือว่าออกไข่เยอะไปเลยทำให้อ่อนแอหรือเปล่า)

            ใน 2 เดือนมานี้ อเลนปราบมดเกราะเกิน 5000 ตัว เดิมทีในรังน่าจะมีมดเกราะแค่ 1000 ตัว แต่ในช่วง 2 เดือนมานี้อาจจะต้องให้กำเนิดมดเกราะเกินกว่า 4000 ตัวก็ได้

            ทำให้คิดว่าออกไข่เยอะไป ทำให้อ่อนแอกว่าที่ควรจะเป็นก็ได้

            (อืม มอนสเตอร์เองก็ต้องกินและนอนเหมือนกัน ทำให้อ่อนแอได้เหมือนกันสินะ มีทั้งไข่และตัวอ่อนด้วย สิ่งสำคัญก็คือต้องให้อีกฝ่ายอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์)

            สรุปความคิดนั้นออกมา

            (รีบๆชำแหละราชินีมดเกราะแล้วกลับดีกว่า)

            เพราะไม่อยากจะอยู่นานเลยใช้ดาบมิธริลสุดที่รักชำแหละ ดูเหมือนจะชำแหละราชินีมดเกราะได้อย่างไม่มีปัญหา เลยเอาส่วนเกราะกับหินเวทออกมาเพื่อเอากลับไป

            (ใช่แล้ว แร่มิธริลไง)

            นึกถึงสิ่งที่ห้ามลืมออก รังมดเกราะติดกับเหมืองมิธริล เพราะอย่างนั้นห้องกว้างตรงนี้อาจจะมีแร่มิธริลอยู่ก็เป็นได้

            (แค่นี้พอหรือเปล่านะ?)

            เนื่องจากไม่เคยเห็นแร่มิธริลมาก่อน เลยใช้อุปกรณ์จุดไฟเวทมนตร์หาหินที่สะท้อนแสง แล้วเลือกมาราวๆ 10 ก้อนก่อนจะใส่เข้าไปในที่เก็บ สิ่งนี้จะเอาไปรายงานให้พ่อบ้านทราบ

            (เอาละ กลับดีกว่า)

            ทำสิ่งที่ต้องทำเสร็จแล้ว เลยลากเกราะของราชินีมดเกราะกลับไปตามทางเดิม

            พักที่หมู่บ้านตรงเชิงเทือกเขามังกรขาว 1 คืน ก่อนจะกลับไปยังเมืองแกรนเวล

            ก่อนจะเข้าไปในคฤหาสน์ ก็เอาแร่ที่อยู่ในที่เก็บออกมาใส่ถุงกระสอบแล้วเอาพาดไหล่

            เนื่องจากออกเดินทางตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับถึงก็เป็นช่วงเที่ยงๆ

            (ก่อนอื่นต้องขอโทษพ่อบ้าน)

            ว่าจะไปขอพบกับพ่อบ้านเพื่อที่จะขอโทษเรื่องพักแรมข้างยอกโดยไม่ขออนุญาต แต่ก็อยู่ตรงห้องอาหารชั้น 2 แล้ว เลยเอาเกราะของราชินีมดเกราะที่กว้างยาว 3 เมตรวางไว้ตรงสวน

            “ขอประทานโทษครับ”

            ส่งเสียงออกไปหนึ่งคำ ก่อนจะเข้าไปในห้องอาหาร ทำให้สายตาของตระกูลบารอนและพ่อบ้านมารวมกันทางนี้

            “ดะ เดี๋ยวสิ!! ทำไมเพิ่งกลับมาตอนนี้!!”

            คนที่ส่งเสียงออกมาคนแรกคือเซซิล

            “ต้องขอประทานโทษด้วยครับ ที่เพิ่งกลับมา”

            ทันใดนั้น คนที่พูดออกมาไม่ใช่พ่อบ้านแต่เป็นบารอน

            “อเลนเอ๋ย เมื่อวานไม่ได้กลับมา ขอฟังหน่อยสิว่าทำไมถึงไม่กลับมา”

            “ครับ ทำการบุกรังของมดเกราะตรงเทือกเขามังกรขาวมา 2 เดือนกว่า แล้วเมื่อวานผลก็ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง จนในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะไปปราบราชินีมดเกราะเสียทีครับ ถ้าหากปราบราชินีมดเกราะตรงนี้ได้แล้วละก็ แผนการบุกรังมดเกราะที่ยาวนานจะจบลง เลยให้ความสำคัญกับการปราบ จนต้องพักแรมข้างนอกโดยไม่ขออนุญาตครับ ต้องขอประทานโทษเรื่องที่พักแรมข้างนอกโดยไม่ได้ขออนุญาตไว้ด้วยครับ”

            ทำการอธิบายสถานการณ์ออกไป ก่อนจะโน้มตัวลงมา 90 องศาเพื่อแสดงการขอโทษ นี่คือสิ่งที่อเลนเห็นริกเกลทำอยู่บ่อยๆ

            “หือ? ราชินีมดเกราะ?”

            “ครับ ราชินีมดเกราะครับ ทำการกำจัดแล้ววางเกราะไว้ตรงสวนแล้วครับ”

            หลังจากที่บารอนถามอเลนอีกครั้ง ก็มองไปที่พ่อบ้าน ด้วยสีหน้านิ่งๆ พ่อบ้านก็จ้องกลับไปที่บารอน ด้วยสีหน้านิ่งๆ ทั้งบารอนและพ่อบ้าน พอได้ยินเรื่องนี้ก็มองกันและกันด้วยสีหน้านิ่งๆ

            “อเลนเอ๋ย โทษทีนะ ไม่ค่อยเข้าใจความหมายสักเท่าไร ช่วยอธิบายให้ฟังอีกทีได้ไหม?”

            บารอนหันหน้าไปหาอเลน พร้อมบอกว่าไม่เข้าใจ

            (ว่าอธิบายอย่างดีไปแล้วนะ หรือว่ากำลังโกรธอยู่? ถึงจะยังไม่เข้าใจแต่ลองอธิบายให้ฟังอย่างดีอีกครั้งน่าจะดีกว่า)

            ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่เข้าใจ เลยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟังอีกครั้ง

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset