[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 15 โครงการคนละครึ่งของเทพธิดา

Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)
ชื่อไทย : มาฮิรุณคอแดง(?)
ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง
Chapter : 15 โครงการคนละครึ่งของเทพธิดา
 
“ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อนมากนะคะ นี่ค่ะ เสื้อฮู้ดกับกางเกงวอร์มที่คุณให้ฉันยืม”
 
มาฮิรุมาส่งอาหารเย็นในกล่องอาหารตามปกติพร้อมกับถุงกระดาษ
เขาเห็นของบางอย่างในกระเป๋าใบนั้น…บางทีมันคงจะเป็นเสื้อฮู้ดกับกางเกงวอร์มที่เขาให้เธอยืมไปเมื่อวันศุกร์ก่อน ดูเหมือนว่าเธอจะพับมาอย่างเรียบร้อยเลย
 
“หืม แล้วอาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้าง?”
“มันไม่เจ็บแล้วล่ะค่ะ แต่ฉันคงยังออกกำลังกายหนักๆไม่ได้จนกว่าจะหายดีค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ดีแล้วล่ะ ฉันจำได้ว่าเห็นเธอนั่งพักอยู่ตรงขอบสนามในคาบพละด้วยนี่นะ”
“ค่ะ”
 
ดูเหมือนว่าเธอจะนั่งดูจากระยะไกลเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน และเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เจ็บแล้ว แต่เธอยังไม่หายขาดและเดินได้นิดหน่อย
อามาเนะพยักหน้าเข้าใจ และนึกถึงรอยยิ้มในตอนนั้น
 
“ว่าก็ว่าเถอะ คุณเทพธิดาเนี่ยดังจริงๆเลยนะ แค่รอยยิ้มแค่นิดเดียวก็ทำให้พวกผู้ชายบ้าคลั่งได้ตั้งขนาดนั้น”
“ถึงได้บอกไงคะว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น…ฉันเองก็มีปัญหากับเรื่องนั้นเหมือนกัน ฉันควรจะดีใจไหมล่ะคะนั่น?”
“เอาเถอะ ถ้าเห็นรอยยิ้มสวยๆแบบนั้นก็คงจะมีกำลังใจเป็นปกติล่ะมั้ง เธอไม่เห็นพวกสาวๆ ที่ส่งเสียงกรี๊ดตอนคาโดวากิโบกมือให้พวกเธอบ้างหรอ”
“…คาโดวากิ…อา คนๆนั้นเป็นคนที่ดังมากหรอคะ?”
 
มาฮิรุดูไม่ค่อยได้สนใจหรือไม่เธอก็คงไม่ได้สนใจเลยต่างหาก เธอจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ โดยเธอนึกออกหลังจากที่อามาเนะได้อธิบายไป
เขาไม่ใช่ทูตสวรรค์ แต่คาโดวากิเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโรงเรียน ดังนั้นมันจึงน่าแปลกใจที่เธอไม่รู้จักเขาเมื่อเธอได้ยินชื่อ
 
“เธอไม่ได้สนใจเขาเลยงั้นหรอ?”
“ไม่ค่ะ เราอยู่คนละห้องด้วย และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันด้วยสิ”
“หืมม แต่เห็นผู้หญิงคนอื่นๆดูสนใจเขากัน บอกว่าหล่อด้วย”
“เขาดูดีก็จริงค่ะ แต่ฉันไม่เคยคุยกับเขา ไม่ได้ข้องเกี่ยวกัน แล้วก็ไม่สนใจด้วยค่ะ”
“เธอนี่เย็นชาจังเลยน้า”
“ถ้าคนเราจะตกหลุมรักกันและกันได้ด้วยเพราะแค่รูปลักษณ์ภายนอกแล้วล่ะก็ แล้วทำไมคุณถึงไม่ตกหลุมรักฉันล่ะคะ?”
“โอ้ว รู้ตัวแล้วสินะว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน”
[[ TL Note : อะไรกันคร้าบเนี่ย (❤´艸`❤) ]]
 
แต่สิ่งที่มาฮิรุพูดมานั้นมีเหตุผล
ปัจจัยด้านรูปลักษณ์อาจจะเป็นเหตุผลสำหรับให้ความรู้สึกชอบกับใครบางคน แต่ไม่มากพอที่จะให้ตกหลุมรัก
เขาเห็นด้วยและยอมรับว่ามาฮิรุเป็นคนสวย แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เธอรับรู้และยอมรับเรื่องนั้นเองด้วย
 
“วุ่นวายกันขนาดนั้นฉันก็รู้ได้ถึงแม้ว่าจะไม่อยากค่ะ นอกจากนี้ฉันก็เข้าใจว่าหน้าตาฉันดี และฉันก็ไม่ได้ละเลยมันค่ะ”
 
มาฮุริพูดตามความจริง เธอไม่ได้มีความโอ้อวดในน้ำเสียงของเธอแต่อย่างใด
อันที่จริง เธอก็อาจจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรักษาความงามของเธอ
 
ใบหน้าของเธอนั้นสวยงาม แต่เธอก็ไม่ได้พอใจกับสิ่งนั้น
เส้นผมของเธอที่เงางามราวกับมีวงแหวนซึ่งเหมาะสมกับชื่อเล่นของเธอว่าเทพธิดา และผิวพรรณที่สมบูรณ์แบบไร้รอยติ เธอมักจะทำงานบ้านอยู่ตลอด แต่มือของเธอก็ไม่ได้หยาบกร้าน เล็บเธอก็เรียบร้อย
ร่างกายของเธอมีส่วนโค้งเว้าที่ดูดี และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาในวันเดียว
 
“จริงด้วยนะ สิ่งที่เธอพูดก็คือความจริง ฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกดีกับเรื่องนั้น ดังนั้นก็แปลว่าเธอไม่ได้อายที่เธอถูกยกย่องงั้นหรอ?”
“ฉันจะรู้สึกรำคาญถ้าคนอื่นมาสรรเสริญฉันมากเกินไปค่ะ”
“คนสวยเองก็ลำบากจังนะ”
“แต่ฉันก็ได้อะไรจากสิ่งนั่นมามากเหมือนกัน เพราะงั้นฉันก็ไม่ได้จะบอกว่ามันแย่ทั้งหมดหรอกค่ะ”
“…พูดเหมือนเป็นเรื่องคนอื่นจังนะ…”
“อะไรกันคะ? จะให้ฉันตอบว่า ‘ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกค่ะ’ ด้วยใบหน้าเขินอายดีกว่างั้นหรอคะ?”
“ไม่ล่ะ สำหรับคนที่รู้จักตัวตนของเธออย่างฉันคงรู้สึกแปลกๆ”
“ฉันก็คิดอย่างงั้นค่ะ ฉันคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะวางตัวแบบนั้นกับคุณ”
“นั่นสินะ”
 
เขาไม่อยากให้มาฮิรุเปลี่ยนท่าที และหากเขาได้รับการปฏิบัติกับเขาแบบที่โรงเรียน เขาก็จะรู้สึกขนลุก ดังนั้นเขาจึงอยากให้เธอวางเป็นอย่างที่เธอเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ความคุ้นชินเป็นสิ่งที่น่ากลัว หากเธอทำตัวเหมือนอยู่ที่โรงเรียน เขาจะรู้สึกไม่สบายใจ
 
อามาเนะรู้ดีว่ามาฮิรุที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่มาฮิรุที่อยู่ที่โรงเรียน
ทั้งสองคนเห็นพ้องต้องกันว่ามันดีกว่า อามาเนะหันมองที่กล่องอาหารที่นำมาให้เขา
มันมีขนาดใหญ่กว่าปกติ และเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องเคียงหลายอย่าง มันเหมือนว่าเขาจะได้ข้าวกล่องขาดใหญ่เสียมากกว่า
 
“วันนี้ค่อนข้างเยอะจังนะ”
“คุณได้ดูแลฉันไว้มากเลยนี่คะ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าเธอไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้นก็ได้น่า…โอ้ว มีคร็อกเก้ด้วยนี่นา”
 
[[ TL Note : คร็อกเก้ พวกอาหารชุบแป้งทอดนั่นแหละ ]]
อย่าดูถูกว่ามันเป็นแค่คร็อกเก้เชียว 
[[ TL Note : เหมือนผมโดนอามาเนะด่าเลย ]]
แม้ว่าคร็อกเก้จะเป็นอาหารเครื่องเคียงที่ธรรมดาทั่วไป แต่มันเป็นอาหารโฮมเมดที่ทำด้วยตัวเองลำบากอย่างนึงเลย
 
ทั้งต้องต้มและบดมันฟรั่ง เพิ่มผสมเนื้อบดและหัวหอม ปั้นเป็นก้อน แช่เย็นให้คงตัว ชุบแป้งและลงทอด…แม้ว่ามันจะเป็นขั้นตอนธรรมดาๆ แต่ก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามเป็นอย่างมาก
แม้ว่าอามาเนะจะทำอาหารไม่เป็นก็ตามเขาก็ยังคิดว่ามันลำบากเมื่อตอนเห็นแม่ของเขาทำ
เพราะอย่างงั้น แม่ของเขาจึงไม่ค่อยเต็มใจจะทำมันเท่าไหร่ เมื่อเขาขอให้ทำ
 
“ฉันก็แค่ทอดของที่แช่ไว้ก่อนแล้วเท่านั้นแหละค่ะ”
“เพราะงั้นก็เลยมีไก่ทอดด้วยสินะ?”
“ใช่แล้วค่ะ”
 
อาหารทอดอย่างเดียวที่อามาเนะกินตอนอยู่คนเดียวคือของทอดเครื่องเคียงที่เขาซื้อมาจากร้านค้า ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณที่ได้รับของที่ทำด้วยมือ
หากเขาโลภได้มากขึ้นแล้วล่ะก็ เขาก็อยากจะกินแบบสดใหม่กรอบๆพร้อมกับข้าวร้อนๆ
 
“…นานๆทีก็อยากจะกินของที่ทำใหม่ๆจังเลยน้า”
 
เพื่อสุขอนามัยที่ดี เธอจะต้องทำให้อาหารเย็นลงก่อนถึงจะเอามาใส่ลงในกล่องอาหาร และเขาจะต้องเอาไปอุ่นก่อนจะกิน ไมโครเวฟอาจจะทำให้มันร้อนและกรอบได้ แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกับรสสัมผัสที่สดใหม่จากกระทะ
แน่นอนว่าแบบนั้นมันก็อร่อยเช่นกัน เพียงแต่ว่ามันจะดีที่สุดถ้าสามารถกินสดๆใหม่ๆจากกระทะ
เขาเพียงปล่อยความปราถนาให้รั่วไหลไปโดยไม่ได้มีเจตนาอื่นๆ แต่เขาอาจจะขอมากไปเล็กน้อย มาฮิรุขมวดคิ้ว
 
“อยากให้ฉันเข้าไปทำในบ้านหรอคะ?”
“ฉันไม่ได้จะพูดแบบนั้นหรอกน่า เธอแบ่งอาหารให้ฉันอยู่เสมอ แล้วมันก็จะมากไปถ้าฉันขอให้เธอทำอย่างงั้น”
 
เพื่อสลัดความสงสัยทั้งหมดไป เขายักไหล่และปฏิเสธเรื่องนั้นไป มาฮิรุแตะมือไว้ที่ใต้คางของเธอและก้มหน้าลง
ดูเหมือนว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้มองไปที่อามาเนะ
 
“…ครึ่งนึง”
“หืม?”
“ฉันคิดว่าหากจะทำอาหารที่บ้านของคุณ เราควรจะหารค่าวัตถุดิบกันคนละครึ่งค่ะ”
 
คำพูดที่มาฮิรุพูดขึ้นในตอนท้ายมีอิมแพ็คพอให้อามาเนะตกตะลึงอ้าปากค้าง
มันก็แค่การล้อเล่น…หรือไม่ก็ความคิดชั่วแล่นที่เขาเผลอพูดออกไป- แต่เขากลับถูกตอกกลับด้วยการคิดที่จริงจังของเธอและเห็นด้วยกับมันอีก
โดยปกติแล้ว จะมีใครบ้างที่เข้ามาทำอาหารในบ้านของผู้ชายที่เธอไม่ค่อยรู้จัก?
แม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากก็ตาม แต่เขาก็ยังเป็นเพศตรงข้ามและก็ไม่ได้สนิทกันนักด้วย มันใช่ใช่สิ่งที่เธอจะสบายใจได้เลย
 
“ฉันไม่มีปัญหาหรอกที่จะแบ่งกันจ่ายคนละครึ่ง เพราะฉันได้รับจากเธอมามากพอแล้ว…แต่เธอไม่คิดว่ามันจะอันตรายบ้างหรอ?”
“หากคุณคิดจะทำอะไรฉันล่ะก็ ฉันจะบดขยี้มัน ทางกายภาพน่ะ ไม่ให้มันฟื้นกลับมาใช้ได้อีกเลยค่ะ”
“เหวอ น่ากลัวชะมัด”
“ถึงยังไง แม้ว่าฉันจะไม่ทำอะไรก็ตาม คุณก็คงไม่ทำอะไรเสี่ยงแบบนั้นหรอก คุณเองก็รู้จุดยืนในโรงเรียนของฉันดีใช่ไหมคะ?”
“ถ้าฉันทำอะไรเธอล่ะก็ ฉันคงจะตายทั้งเป็นสินะ”
 
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างอามาเนะกับมาฮิรุซึ่งเป็นผู้อ่อนแอ และความนิยมที่ต่างกันอย่างห่างชั้น หากมาฮิรุพูดว่ามาอาเนะทำอะไรบางอย่างกับเธอเข้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอามาเนะคงเอาเท้าไปแตะที่โรงเรียนอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้แน่
เขารู้ถึงผลของการฆ่าตัวตายทางสังคมดี…ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนโง่ อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ
หรือก็คือเขาเองก็ไม่ได้มีเจตนาจะทำเช่นนั้น
 
“นอกจากนี้”
“นอกจากนี้?”
“คุณดูเหมือนจะไม่ได้สนใจคนอย่างฉันเท่าไหร่ค่ะ”
 
เธอพูดออกมาพร้อมกับใบหน้าอันจริงจัง ทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างเจื่อนๆ
 
“ถ้าฉันบอกว่าสเปคของฉันเป็นแบบเธอล่ะ?”
“คุณก็คงจะพยายามพูดคุยกับฉันอย่างต่อเนื่องในตอนแรก แล้วฉันก็จะรักษาระยะห่างออกมาค่ะ”
“อย่างงั้นหรอ เธอยังจำตอนนั้นได้สินะ”
“เอาเถอะ ฉันเข้าใจดีแล้วล่ะค่ะว่าคุณเป็นคนที่ปลอดภัย”
“ขอบคุณละกันนะ”
 
(ฉันคิดว่างั้นก็คงไม่เป็นไรแล้วล่ะ) แต่เขาก็ไม่มีความตั้งใจจะทำอะไรเธออยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธ
 
นอกจากนี้แล้ว เขาก็ไม่อยากที่จะพลาดโอกาสที่จะได้กินอาหารเย็นที่สดใหม่จากกระทะ ขณะเดียวกันเขาก็ได้อยู่ในตำแหน่งของชายที่ไม่เป็นอันตรายสำหรับเธอ แถมยังได้รับสิทธิพิเศษลิมิเต็ตอิดิชั่นในการได้ทานอาหารเย็นร่วมกับเธอทุกวันอีกด้วย
 
 
*———-จบตอน———-*
TL : อืมมม รีบๆแต่งๆกันไปเถอะ
 
**แปลจากอิ้ง เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล เพิ่งเคยแปลเรื่องแรก อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ
นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ แต่ก็ยังคงความหวานไว้เช่นเคย

[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 15 โครงการคนละครึ่งของเทพธิดา

[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 15 โครงการคนละครึ่งของเทพธิดา

Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) ชื่อไทย : มาฮิรุณคอแดง(?) ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง Chapter : 15 โครงการคนละครึ่งของเทพธิดา   “ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อนมากนะคะ นี่ค่ะ เสื้อฮู้ดกับกางเกงวอร์มที่คุณให้ฉันยืม”   มาฮิรุมาส่งอาหารเย็นในกล่องอาหารตามปกติพร้อมกับถุงกระดาษ เขาเห็นของบางอย่างในกระเป๋าใบนั้น…บางทีมันคงจะเป็นเสื้อฮู้ดกับกางเกงวอร์มที่เขาให้เธอยืมไปเมื่อวันศุกร์ก่อน ดูเหมือนว่าเธอจะพับมาอย่างเรียบร้อยเลย   “หืม แล้วอาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้าง?” “มันไม่เจ็บแล้วล่ะค่ะ แต่ฉันคงยังออกกำลังกายหนักๆไม่ได้จนกว่าจะหายดีค่ะ” “ถ้าอย่างงั้นก็ดีแล้วล่ะ ฉันจำได้ว่าเห็นเธอนั่งพักอยู่ตรงขอบสนามในคาบพละด้วยนี่นะ” “ค่ะ”   ดูเหมือนว่าเธอจะนั่งดูจากระยะไกลเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน และเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เจ็บแล้ว แต่เธอยังไม่หายขาดและเดินได้นิดหน่อย อามาเนะพยักหน้าเข้าใจ และนึกถึงรอยยิ้มในตอนนั้น   “ว่าก็ว่าเถอะ คุณเทพธิดาเนี่ยดังจริงๆเลยนะ แค่รอยยิ้มแค่นิดเดียวก็ทำให้พวกผู้ชายบ้าคลั่งได้ตั้งขนาดนั้น” “ถึงได้บอกไงคะว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น…ฉันเองก็มีปัญหากับเรื่องนั้นเหมือนกัน ฉันควรจะดีใจไหมล่ะคะนั่น?” “เอาเถอะ ถ้าเห็นรอยยิ้มสวยๆแบบนั้นก็คงจะมีกำลังใจเป็นปกติล่ะมั้ง เธอไม่เห็นพวกสาวๆ ที่ส่งเสียงกรี๊ดตอนคาโดวากิโบกมือให้พวกเธอบ้างหรอ” “…คาโดวากิ…อา คนๆนั้นเป็นคนที่ดังมากหรอคะ?”   มาฮิรุดูไม่ค่อยได้สนใจหรือไม่เธอก็คงไม่ได้สนใจเลยต่างหาก เธอจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ โดยเธอนึกออกหลังจากที่อามาเนะได้อธิบายไป เขาไม่ใช่ทูตสวรรค์ แต่คาโดวากิเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโรงเรียน ดังนั้นมันจึงน่าแปลกใจที่เธอไม่รู้จักเขาเมื่อเธอได้ยินชื่อ   “เธอไม่ได้สนใจเขาเลยงั้นหรอ?” “ไม่ค่ะ เราอยู่คนละห้องด้วย และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันด้วยสิ” “หืมม แต่เห็นผู้หญิงคนอื่นๆดูสนใจเขากัน บอกว่าหล่อด้วย” “เขาดูดีก็จริงค่ะ แต่ฉันไม่เคยคุยกับเขา ไม่ได้ข้องเกี่ยวกัน แล้วก็ไม่สนใจด้วยค่ะ” “เธอนี่เย็นชาจังเลยน้า” “ถ้าคนเราจะตกหลุมรักกันและกันได้ด้วยเพราะแค่รูปลักษณ์ภายนอกแล้วล่ะก็ แล้วทำไมคุณถึงไม่ตกหลุมรักฉันล่ะคะ?” “โอ้ว รู้ตัวแล้วสินะว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน” [[ TL Note : อะไรกันคร้าบเนี่ย (❤´艸`❤) ]]   แต่สิ่งที่มาฮิรุพูดมานั้นมีเหตุผล ปัจจัยด้านรูปลักษณ์อาจจะเป็นเหตุผลสำหรับให้ความรู้สึกชอบกับใครบางคน แต่ไม่มากพอที่จะให้ตกหลุมรัก เขาเห็นด้วยและยอมรับว่ามาฮิรุเป็นคนสวย แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เธอรับรู้และยอมรับเรื่องนั้นเองด้วย   “วุ่นวายกันขนาดนั้นฉันก็รู้ได้ถึงแม้ว่าจะไม่อยากค่ะ นอกจากนี้ฉันก็เข้าใจว่าหน้าตาฉันดี และฉันก็ไม่ได้ละเลยมันค่ะ”   มาฮุริพูดตามความจริง เธอไม่ได้มีความโอ้อวดในน้ำเสียงของเธอแต่อย่างใด อันที่จริง เธอก็อาจจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรักษาความงามของเธอ   ใบหน้าของเธอนั้นสวยงาม แต่เธอก็ไม่ได้พอใจกับสิ่งนั้น เส้นผมของเธอที่เงางามราวกับมีวงแหวนซึ่งเหมาะสมกับชื่อเล่นของเธอว่าเทพธิดา และผิวพรรณที่สมบูรณ์แบบไร้รอยติ เธอมักจะทำงานบ้านอยู่ตลอด แต่มือของเธอก็ไม่ได้หยาบกร้าน เล็บเธอก็เรียบร้อย ร่างกายของเธอมีส่วนโค้งเว้าที่ดูดี และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาในวันเดียว   “จริงด้วยนะ สิ่งที่เธอพูดก็คือความจริง ฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกดีกับเรื่องนั้น ดังนั้นก็แปลว่าเธอไม่ได้อายที่เธอถูกยกย่องงั้นหรอ?” “ฉันจะรู้สึกรำคาญถ้าคนอื่นมาสรรเสริญฉันมากเกินไปค่ะ” “คนสวยเองก็ลำบากจังนะ” “แต่ฉันก็ได้อะไรจากสิ่งนั่นมามากเหมือนกัน เพราะงั้นฉันก็ไม่ได้จะบอกว่ามันแย่ทั้งหมดหรอกค่ะ” “…พูดเหมือนเป็นเรื่องคนอื่นจังนะ…” “อะไรกันคะ? จะให้ฉันตอบว่า ‘ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกค่ะ’ ด้วยใบหน้าเขินอายดีกว่างั้นหรอคะ?” “ไม่ล่ะ สำหรับคนที่รู้จักตัวตนของเธออย่างฉันคงรู้สึกแปลกๆ” “ฉันก็คิดอย่างงั้นค่ะ ฉันคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะวางตัวแบบนั้นกับคุณ” “นั่นสินะ”   เขาไม่อยากให้มาฮิรุเปลี่ยนท่าที และหากเขาได้รับการปฏิบัติกับเขาแบบที่โรงเรียน เขาก็จะรู้สึกขนลุก ดังนั้นเขาจึงอยากให้เธอวางเป็นอย่างที่เธอเป็นอยู่ในปัจจุบัน ความคุ้นชินเป็นสิ่งที่น่ากลัว หากเธอทำตัวเหมือนอยู่ที่โรงเรียน เขาจะรู้สึกไม่สบายใจ   อามาเนะรู้ดีว่ามาฮิรุที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่มาฮิรุที่อยู่ที่โรงเรียน ทั้งสองคนเห็นพ้องต้องกันว่ามันดีกว่า อามาเนะหันมองที่กล่องอาหารที่นำมาให้เขา มันมีขนาดใหญ่กว่าปกติ และเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องเคียงหลายอย่าง มันเหมือนว่าเขาจะได้ข้าวกล่องขาดใหญ่เสียมากกว่า   “วันนี้ค่อนข้างเยอะจังนะ” “คุณได้ดูแลฉันไว้มากเลยนี่คะ” “ฉันบอกแล้วไงว่าเธอไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้นก็ได้น่า…โอ้ว มีคร็อกเก้ด้วยนี่นา”   [[ TL Note : คร็อกเก้ พวกอาหารชุบแป้งทอดนั่นแหละ ]] อย่าดูถูกว่ามันเป็นแค่คร็อกเก้เชียว  [[ TL Note : เหมือนผมโดนอามาเนะด่าเลย ]] แม้ว่าคร็อกเก้จะเป็นอาหารเครื่องเคียงที่ธรรมดาทั่วไป แต่มันเป็นอาหารโฮมเมดที่ทำด้วยตัวเองลำบากอย่างนึงเลย   ทั้งต้องต้มและบดมันฟรั่ง เพิ่มผสมเนื้อบดและหัวหอม ปั้นเป็นก้อน แช่เย็นให้คงตัว ชุบแป้งและลงทอด…แม้ว่ามันจะเป็นขั้นตอนธรรมดาๆ แต่ก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามเป็นอย่างมาก แม้ว่าอามาเนะจะทำอาหารไม่เป็นก็ตามเขาก็ยังคิดว่ามันลำบากเมื่อตอนเห็นแม่ของเขาทำ เพราะอย่างงั้น แม่ของเขาจึงไม่ค่อยเต็มใจจะทำมันเท่าไหร่ เมื่อเขาขอให้ทำ   “ฉันก็แค่ทอดของที่แช่ไว้ก่อนแล้วเท่านั้นแหละค่ะ” “เพราะงั้นก็เลยมีไก่ทอดด้วยสินะ?” “ใช่แล้วค่ะ”   อาหารทอดอย่างเดียวที่อามาเนะกินตอนอยู่คนเดียวคือของทอดเครื่องเคียงที่เขาซื้อมาจากร้านค้า ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณที่ได้รับของที่ทำด้วยมือ หากเขาโลภได้มากขึ้นแล้วล่ะก็ เขาก็อยากจะกินแบบสดใหม่กรอบๆพร้อมกับข้าวร้อนๆ   “…นานๆทีก็อยากจะกินของที่ทำใหม่ๆจังเลยน้า”   เพื่อสุขอนามัยที่ดี เธอจะต้องทำให้อาหารเย็นลงก่อนถึงจะเอามาใส่ลงในกล่องอาหาร และเขาจะต้องเอาไปอุ่นก่อนจะกิน ไมโครเวฟอาจจะทำให้มันร้อนและกรอบได้ แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกับรสสัมผัสที่สดใหม่จากกระทะ แน่นอนว่าแบบนั้นมันก็อร่อยเช่นกัน เพียงแต่ว่ามันจะดีที่สุดถ้าสามารถกินสดๆใหม่ๆจากกระทะ เขาเพียงปล่อยความปราถนาให้รั่วไหลไปโดยไม่ได้มีเจตนาอื่นๆ แต่เขาอาจจะขอมากไปเล็กน้อย มาฮิรุขมวดคิ้ว   “อยากให้ฉันเข้าไปทำในบ้านหรอคะ?” “ฉันไม่ได้จะพูดแบบนั้นหรอกน่า เธอแบ่งอาหารให้ฉันอยู่เสมอ แล้วมันก็จะมากไปถ้าฉันขอให้เธอทำอย่างงั้น”   เพื่อสลัดความสงสัยทั้งหมดไป เขายักไหล่และปฏิเสธเรื่องนั้นไป มาฮิรุแตะมือไว้ที่ใต้คางของเธอและก้มหน้าลง ดูเหมือนว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้มองไปที่อามาเนะ   “…ครึ่งนึง” “หืม?” “ฉันคิดว่าหากจะทำอาหารที่บ้านของคุณ เราควรจะหารค่าวัตถุดิบกันคนละครึ่งค่ะ”   คำพูดที่มาฮิรุพูดขึ้นในตอนท้ายมีอิมแพ็คพอให้อามาเนะตกตะลึงอ้าปากค้าง มันก็แค่การล้อเล่น…หรือไม่ก็ความคิดชั่วแล่นที่เขาเผลอพูดออกไป- แต่เขากลับถูกตอกกลับด้วยการคิดที่จริงจังของเธอและเห็นด้วยกับมันอีก โดยปกติแล้ว จะมีใครบ้างที่เข้ามาทำอาหารในบ้านของผู้ชายที่เธอไม่ค่อยรู้จัก? แม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากก็ตาม แต่เขาก็ยังเป็นเพศตรงข้ามและก็ไม่ได้สนิทกันนักด้วย มันใช่ใช่สิ่งที่เธอจะสบายใจได้เลย   “ฉันไม่มีปัญหาหรอกที่จะแบ่งกันจ่ายคนละครึ่ง เพราะฉันได้รับจากเธอมามากพอแล้ว…แต่เธอไม่คิดว่ามันจะอันตรายบ้างหรอ?” “หากคุณคิดจะทำอะไรฉันล่ะก็ ฉันจะบดขยี้มัน ทางกายภาพน่ะ ไม่ให้มันฟื้นกลับมาใช้ได้อีกเลยค่ะ” “เหวอ น่ากลัวชะมัด” “ถึงยังไง แม้ว่าฉันจะไม่ทำอะไรก็ตาม คุณก็คงไม่ทำอะไรเสี่ยงแบบนั้นหรอก คุณเองก็รู้จุดยืนในโรงเรียนของฉันดีใช่ไหมคะ?” “ถ้าฉันทำอะไรเธอล่ะก็ ฉันคงจะตายทั้งเป็นสินะ”   มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างอามาเนะกับมาฮิรุซึ่งเป็นผู้อ่อนแอ และความนิยมที่ต่างกันอย่างห่างชั้น หากมาฮิรุพูดว่ามาอาเนะทำอะไรบางอย่างกับเธอเข้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอามาเนะคงเอาเท้าไปแตะที่โรงเรียนอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้แน่ เขารู้ถึงผลของการฆ่าตัวตายทางสังคมดี…ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนโง่ อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ หรือก็คือเขาเองก็ไม่ได้มีเจตนาจะทำเช่นนั้น   “นอกจากนี้” “นอกจากนี้?” “คุณดูเหมือนจะไม่ได้สนใจคนอย่างฉันเท่าไหร่ค่ะ”   เธอพูดออกมาพร้อมกับใบหน้าอันจริงจัง ทำให้เขาหัวเราะออกมาอย่างเจื่อนๆ   “ถ้าฉันบอกว่าสเปคของฉันเป็นแบบเธอล่ะ?” “คุณก็คงจะพยายามพูดคุยกับฉันอย่างต่อเนื่องในตอนแรก แล้วฉันก็จะรักษาระยะห่างออกมาค่ะ” “อย่างงั้นหรอ เธอยังจำตอนนั้นได้สินะ” “เอาเถอะ ฉันเข้าใจดีแล้วล่ะค่ะว่าคุณเป็นคนที่ปลอดภัย” “ขอบคุณละกันนะ”   (ฉันคิดว่างั้นก็คงไม่เป็นไรแล้วล่ะ) แต่เขาก็ไม่มีความตั้งใจจะทำอะไรเธออยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธ   นอกจากนี้แล้ว เขาก็ไม่อยากที่จะพลาดโอกาสที่จะได้กินอาหารเย็นที่สดใหม่จากกระทะ ขณะเดียวกันเขาก็ได้อยู่ในตำแหน่งของชายที่ไม่เป็นอันตรายสำหรับเธอ แถมยังได้รับสิทธิพิเศษลิมิเต็ตอิดิชั่นในการได้ทานอาหารเย็นร่วมกับเธอทุกวันอีกด้วย     *———-จบตอน———-* TL : อืมมม รีบๆแต่งๆกันไปเถอะ   **แปลจากอิ้ง เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล เพิ่งเคยแปลเรื่องแรก อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ แต่ก็ยังคงความหวานไว้เช่นเคย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset