[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 8 เทพธิดาที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)
ชื่อไทย : มาฮิรุณคอแดง(?)
ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง
Chapter : 8 เทพธิดาที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
 
“อ๊ะ”
 
มีน้ำเสียงที่ใสดั่งกระดิ่งเงินแว่วขึ้นที่ด้านหลังของเขา
แม้ว่ามันจะเป็นเสียงที่อามาเนะคุ้นเคยและได้ยินเมื่อเร็วๆนี้มาก่อน แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่อพาร์ตเม้นต์แต่อย่างใด เขาอยู่ที่โซนขนมในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งใกล้ๆอาพาร์ตเม้นต์
อามาเนะไม่คิดว่าเขาจะถูกมาฮิรุทัก เขาจึงเบือนหน้าไปหาเธออย่างกระอักกระอ่วน เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธออยู่ตรงนั้น
เธอถือตะกร้าที่มีหัวไชเท้า เต้าหู้ น่องไก่ และนม ซึ่งเป็นส่วนประกอบอาหารของมื้อค่ำนี้
ดูจากสถานการณ์แล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะบังเอิญมาเจอเขาที่โซนขนม
 
“ขอบอกไว้ก่อนนะว่าบังเอิญ ฉันไม่ได้แอบตามเธอมาหรอกนะ”
“ฉันรู้ค่ะ ที่นี่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้ที่สุด ฉันเข้าใจดีค่ะ”
 
เขาพูดดักไว้ก่อน [ทำไมถึงคิดอย่างงั้นล่ะ?] เธอพูดอย่างงุนงง จากนั้นเธอก็มองลงไปที่สมุดบันทึกในมือของเธอ
ดูเหมือนว่ามาฮิรุจะเขียนสิ่งที่จำเป็นต้องซื้อทั้งหมดลงไว้ในสมุดบันทึกของเธอ
เมื่อเธอตรวจสอบเนื้อหาในสมุดบันทึกลายดอกไม้น่ารักๆเสร็จ เธอก็เดินออกของโซนขนมไปยังโซนเครื่องปรุงรสที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
[ซอสถั่วเหลืองกับมิริน*] เธอพึมพำด้วยเสียงน่ารักๆ ขณะที่กำลังหาเครื่องครัว ท่าทางของเธอช่างน่ารักเสียจริงๆ อามาเนะคิด
[[ TL note : *มิริน เป็นเครื่องปรุงอาหารที่จำเป็นในการประกอบอาหารของญี่ปุ่น ประกอบด้วยน้ำตาล 40-50% เป็นประเภทไวน์ข้าวคล้ายกับสาเก ]]
 
“มิลินอยู่ตรงนี้ เอ้านี่”
“อ๋อ นั่นไม่ใช่มิลินที่ฉันหา ผู้เยาว์ซื้ออันนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”
“เจ้านี่ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยหรอ?”
“มันคือไวน์หวาน เป็นเครื่องปรุงประเภทที่เมาไม่ได้เพราะเพิ่มเกลือเข้าไป ดังนั้นแม้แต่ผู้เยาว์ก็ซื้อได้ค่ะ” **
[TL note : **ตรงนี้ผมไม่มีความรู้จริงๆครับฮ่าๆ]
 
เขาต้องการส่งมิลินให้เธอ แต่เธอส่ายหน้าปฏิเสธแล้วใส่มิลินของเธอลงในตระกร้าแทน
มันเป็นครั้งแรกที่อามาเนะผู้แทบไม่ได้แตะงานบ้านใดๆได้ยินเรื่องนี้ [เห] เขาพึมพำตอบ ขณะที่กำลังมองเธอเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วจากด้านหลัง
มาฮิรุจ้องมองชั้นวางซอสถั่วเหลืองอย่างตั้งใจโดยเพ่งไปที่ป้ายราคาพร้อมขมวดคิ้วและพึมพำขึ้นมา
 
“…ส่วนลดพิเศษจำกัด 1 ขวดต่อท่านเท่านั้น…”
 
ดูเหมือนว่าเธอต้องการจะซื้อเพิ่มอีกขวด เธอถอนหายใจด้วยความน่าสงสารและมองมาที่เขา
 
“ฉันจะซื้อขวดนึง โอเคไหม?”
“ขอบคุณที่เข้าใจฉันค่ะ”
 
เขารู้ความหมายที่เธอสื่อถึงและหยิบขวดซอสถั่วเหลืองออกมาแล้วยิ้มเจื่อน มาฮิรุขยับริมฝีปากของเธอยิ้มออกมาอย่างพอใจ
 
“…เธอดูประหยัดกว่าที่ฉันคิดนะ”
“ประหยัด หรือจะพูดก็คือประหยัดให้มากที่สุดที่ฉันทำได้ค่ะ เราไม่ควรใช้จ่ายมากเกินจำเป็น”
“ฟังดูเป็นลักษณะเฉพาะของคนญี่ปุ่นดีนะ…อืม มันก็จริงเนอะเพราะยังไงพวกเราก็ยังอาศัยอยู่ด้วยเงินของพ่อแม่ด้วย”
 
แม้ว่าอามาเนะจะเคยบอกว่าเขาอาศัยอยู่คนเดียว แต่พ่อแม่ก็ยังคงเลี้ยงดูเขาอยู่
เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีเงิน และถึงให้อามาเนะอาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ที่สะอาดและปลอดภัย และยังมีเงินให้ใช้อยู่อย่างเพียงพอ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของเขาจริงๆ เขายังต้องจ่ายค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่ประจำวัน ดังนั้นเขาจึงพยายามเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
 
“…นั่นสินะคะ ยังไงเราก็ยังคงพึ่งพาพวกเขาอยู่ ดังนั้นการประหยัดจึงเป็นเรื่องสำคัญ”
 
มาฮิรุตอบกลับเขาอย่างเรียบเฉย ขณะที่จัดของในตะกร้าของเธอ มันเป็นเสียงที่หนาวเย็นปราศจากความอบอุ่นในน้ำเสียงของเธอ
มาฮิรุเงียบลง แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็กลายเป็นใบหน้ายามปกติไปแล้ว
ดวงตาที่ดูหมองคล้ำที่เหลือบไปมองเมื่อครู่ก็ไม่มีแล้วเช่นกัน
 
“…ยังไงเถอะ นั่นคุณจะซื้อมันงั้นหรอคะ”
 
ดูเหมือนว่ามาฮิรุจะพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย เธอมองไปที่ห่อข้าวสารแบบสุญญากาศและสลัดมันฟรั่งในตะกร้า
อาหารส่วนแบ่งที่เขาได้รับมาจากมาฮิรุนั้นอร่อยมากจริงๆ แต่ปริมาณมันไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขา เขาจึงซื้อข้าวสำหรับเมนูหลักและสลัดมันฟรั่งเป็นเครื่องเคียง
 
“สำหรับมื้อค่ำน่ะ”
“มันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ”
“ไม่จริงสักหน่อย นี่ไงฉันซื้อสลัดน่ะเห็นไหม?”
“แต่นั่นมันสลัดมันฟรั่งนะคะ…คุณทำลายสุขภาพร่างกายตัวเองแบบนี้ใช้ชีวิตอยู่มาได้ยังไงคะเนี่ย…”
“กังวลเกินไปแล้ว”
 
[คุณควรทานผักให้มากกว่านี้นะคะ] มาฮิรุหรี่ตาแคบลงและจ้องมองกดดันอย่างเงียบๆกับอามาเนะ ผู้ซึ่งเบือนหน้าหนีเดินไปจ่ายเงินแล้ว
ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่ อามาเนะก็จ่ายเงินเสร็จแล้วและเก็บของไว้ในถุงพลาสติก ในทางกลับกัน มาฮิรุก็นำถุงรีไซเคิลออกมาและเก็บของเข้าไว้ข้างในนั้น
เธอช่างเป็นเทพธิดาที่รักสิ่งแวดล้อมเสียจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นเธอใส่ของปริมาณมากเข้าไปทำให้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย
นม ซอสถั่วเหลืองและมิลินปรุงรสรวม 4 ลิตร ปริมาณอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยแต่มันก็หนักถึง 4 กก. นอกจากนี้เธอยังซื้อส่วนผสมบางอย่างเช่นหัวไชเท้าอีกด้วยซึ่งมันหนักมาก
เธอใส่รวมกันไว้อย่างเรียบร้อย แต่มันคงจะเป็นงานที่หนักพอตัวสำหรับการแบกมันกลับอพาร์ตเม้นต์ทั้งๆแบบนี้
 
[เธอซื้อเครื่องปรุงมาจำนวนมากก็เพราะฉัน]
 
ดูเหมือนว่าเธอจะทำอาหารมากกว่าปกติเพื่อแบ่งให้กับเขา ก่อนหน้านี้ที่อามาเนะได้รับส่วนแบ่งมาจากเธอ เธอบอกว่าทำอาหารมามากเกินไป แต่ดูเหมือนว่าเธอจะจงใจทำเกินมาสักพักแล้ว
ดูเหมือนว่าอามาเนะจะสร้างปัญหาให้เธอมากขึ้นซะแล้ว เขาคงจะไร้ค่าในฐานะผู้ชายถ้าไม่ได้ทำอะไรให้เธอบ้างเลย
เมื่อเขาเห็นเธอเก็บของเสร็จแล้ว อามาเนะก็ยกของขึ้นมา มันไม่ได้หนักเกินไปสำหรับเขา แต่มันคงจะหนักเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงที่จะเดินในระยะไกลๆ
แม้ว่าเธอจะเก่งกาจในด้านกีฬา แต่ความแข็งแรงทางกายภาพมันก็อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อดูจากรูปร่างภายใต้เสื้อผ้าของเธอ คงบอกได้ว่าแขนอันเรียวบางของเธอคงไม่ได้มีความแข็งแรงมากนัก
 
ท่าทางของอามาเนะทำให้ดวงตาสีคาราเมลของเธอกระพริบ
เธอดูชื่นชมมากกว่าจะตกใจ
 
“…ไม่ได้จะขโมยหรอกนะ”
“ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะ…แล้วก็ ของแค่นั้นฉันก็ยกเองได้นะคะ?”
“เวลาแบบนี้ถ้าเธอยอมรับอย่างง่ายดายบ้างล่ะก็คงจะน่ารักขึ้นเยอะนะรู้ไหม?”
“พูดอย่างกับฉันไม่น่ารักอย่างงั้นแหละค่ะ”
“เปรียบเทียบกับการกระทำของเธอที่โรงเรียนกับการกระทำที่ทำต่อฉันต่างหาก”
 
เธอเหมือนจะตระหนักได้ และสะดุดใจนิดหน่อย
ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าเธอนั้นจริงใจ ใจดี และอ่อนน้อมถ่อมตนตอนที่อยู่โรงเรียน แต่กับอามาเนะเธอไม่ได้เป็นแบบนั้น
จริงๆก็คือเธอปฏิบัติต่อเขาดี แต่เธอก็ไม่ได้แคร์อะไรมากนักกับอามาเนะ เธอมักจะพูดกับเขาตรงๆจากใจจริงของเธอ
มันก็ดีกว่าการโกหกล่ะนะ อย่างไรก็ตาม อามาเนะก็ไม่ได้คิดมากอะไร
 
ในขณะที่มาฮิรุยังคงนิ่งเงียบอยู่ อามาเนะถือโอกาสนั้นคว้าถุงรีไซเคิลที่เต็มไปด้วยเครื่องปรุงและส่วนผสมขึ้นมา และรีบเดินไปที่ทางออก
ดูเหมือนว่าเธอจะดูมึนงงเล็กน้อยอยู่ข้างหลัง แต่อามาเนะไม่สนใจและเดินตรงมุ่งหน้ากลับไปยังบ้าน
เขาไม่คิดที่จะรอเธอ
พวกเขาอยู่ด้วยกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วถ้ามีใครเห็นพวกเขาเดินกลับบ้านด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบ
สำหรับพวกเขา มันคือระยะห่างที่เหมาะสมแล้ว
 
อามาเนะจึงแกล้งทำเป็นไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันกับเธอ […ขอบคุณนะคะ] เสียงกระซิบเบาๆ ดังก้องขึ้นเล็กน้อยอยู่เบื้องหลังของเขา
 
 
 
**แปลจากอิ้ง แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ
นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ แต่ก็ยังคงความหวานไว้เช่นเคย
 
แงงง เพิ่งฟื้นครับจ่กวัคซีน+ทำงานเสร็จมาครับ หายไปสักพักเลย ช่วงนี้ก็จะหลับมาแปลแล้ว จะลง ประมาณ 3-4 วันต่อตอนนะครับ
 
อย่าลืมกดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยนะครับ ที่เพจล่วงหน้าตอนนึง 
เพจ : แปลแบบคนเหงาและง่วง

[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)

[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)

[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset