[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่ 1 ตอนที่ 10

บทที่ 1 ตอนที่ 10

 

เมื่อผมก้าวเท้าลงไปในบ่อน้ำพุร้อน ร่างกายของผมรู้สึกเหมือนกับจะละลายเลย

 

ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าบ่อน้ำพุร้อนจะเป็นเรื่องธรรมดาๆที่จะมีมันอยู่ในทุกโรงแรม ปัญหาที่ผมอ่านเจอในนิยายแนวต่างโลกบ่อยๆก็มักจะเป็นอะไรอย่างเช่น “มีเพียงแค่ราชวงศ์กับขุนนางเท่านั้นที่จะมีสิทธิใช้บ่อน้ำพุร้อน!”

 

มีผมเพียงแค่คนเดียวที่อยู่ในโรงอาบน้ำที่ทั้งใหญ่และเต็มไปด้วยไอน้ำจนมองไม่เห็นข้างหน้าเลยแห่งนี้ ผมเห็นมีคนจำนวณหนึ่งอยู่ตรงล็อบบี้ของโรงแรม ดูเหมือนคนพวกนั้นทั้งหมดจะเป็นพ่อค่า ทำไมถึงรู้นั้นเหตุผลคงเป็นเพราะผมได้ยินมาจากมิมิโนะซังว่าโรงแรมแห่งนี้ลูกค้าหลักจะไม่ใช่นักเดินทางหรือนักพจญภัยแต่เป็นพ่อค้า อีกเหตุผลนึงก็คือรูปร่างของพวกเขาดูไม่เหมาะกับการต่อสู้อีกด้วย

 

ดูเหมือนว่าถึงพวกเราจะไม่ได้เป็นเผ่ามนุษย์ ก็จะมีเหล่าพ่อค้านี้แหล่ะที่จะปฏิบัติกับเราอย่างเท่าเทียม ตามมาด้วยเหล่าประชาชนทั่วไป นักพจญภัย ขุนนาง และชาวนาตามลำดับ ที่พวกชาวนาดูจะมีนิสัยเลือกปฏิบัติอย่างรุณแรงคงเป็นเพราะว่าพวกเขานั้นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแบบปิด โดยปกติพวกเขาก็เกลียดผู้คนจากภายนอกอยู่แล้วด้วย

 

…ก็ดูจะสมเหตุสมผลละนะ

 

ถึงจะเป็นอย่างงั้น ประชาชนทั่วไปนั้นก็ยังมีคนอยู่หลากหลายประเภท ดังนั้นยังไงก็ต้องมีคนที่มีอคติต่อครึ่งมนุษย์อยู่แล้ว รวมถึงพ่อค้าบางคนก็ด้วย มิมิโนะซังเตือนผมให้ระวังในเรื่องนี้เอาไว้

 

「พลิ้ว… อยู่คนเดียวนี้มันรู้สึกสงบใจจริงๆ」

 

ตามที่【World Ruler】บอกเอาไว้ว่าบ่อน้ำพุร้อนนี้ผุดขึ้นมาจากตาน้ำใต้ดินและดูจะส่งผลดีต่อโรคทางผิวหนังด้วย แต่มันก็ไม่สามารถแก้คำสาปที่ทำให้กลายเป็นหินได้อยู่ดี

 

โรงอาบน้ำขนาดใหญ่ที่ทำจากหินนี้เป็นกึ่งห้องใต้ดินของโรงแรม มันมีหน้าต่างระบายอากาศอยู่ด้านบนด้วย

 

เพราะว่าไม่ค่อยมีแสงไฟ ผมไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะมีใครอยู่กับผมด้วยรึปล่าว แต่ตอนนี้มันก็ดึกมากๆแล้ว คงจะไม่มีปัญหาในเรื่องนั้น

 

แล้วก็อีกอย่าง ไรเครียซังได้พูดไว้ว่า “มนุษย์สัตว์หน่ะไม่อาบน้ำกันหรอก!” ปรากฎว่าพวกมนุษย์สัตว์มักจะขนร่วงเวลาอาบน้ำละนะ ดันเต้ซังก็พูดเหมือนกันว่า “ข้าขอผ่าน” ดูเหมือนว่าเขาจะใส่ใจกับคนรอบข้างที่อาจจะคิดว่าคำสาปของเขามันจะติดต่อกับคนอื่นได้

 

เพราะแบบนั้นผมเลยได้ครอบครองโรงอาบน้ำแต่เพียงผู้เดียว

 

…อาาา นี้มันสวรรค์ชัดๆ

 

ในตอนที่ผมคิดแบบนั้นเพียงเท่านั้นแหล่ะ ผมก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก หมดเวลาผูกขาดโรงอาบน้ำแล้วสินะ

 

…เอาเถอะ อยู่คนเดียวมันก็ค่อนข้างเหงา ดังนั้นมันก็ไม่เป็นละมั้ง แต่ผมคงจะมีปัญหาถ้าพวกเขากลัวผมสีดำของผมละนะ

 

「เธออยู่ตรงนั้นรึปล่าว เรย์จิคุง?」

 

…เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนสิ?! ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ละ?

 

「ทะ-ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กันละครับ มิมิโนะซัง?!」

 

「ก็เพราะมันถึงเวลาของพวกผู้หญิงแล้วนะสิ」

 

「ชั้นเองก็อยู่ด้วยนะ」

 

มิมิโนะซังกับน็อนซังก็เดินเข้ามา

 

แย่จริงๆที่ผมมองไม่เห็นเพราะไอน้ำหนาเกินไป— ไม่ใช่สิ! ไม่ใช่เวลามามัวคิดเรื่องนั้น!

 

「เวลาของพวกผู้หญิงงั้นหรอครับ?! คุณบอกว่าจะรอผมแช่จนเสร็จก่อนไม่ใช่หรอครับ!?」

 

「ใช่ แต่ว่าเรย์จิคุงแช่นานเกินไปแล้วหน่ะสิ งั้นก็ถึงเวลาของพวกผู้หญิงแล้ว เรย์จิคุงเองก็อายุแค่10ขวบแถมยังดูเด็กกว่านั้นอีก ชั้นไม่ถือหรอก」

 

…แต่ผมถือนะสิ! อย่าเข้ามาใกล้นะ! พวกเธออยู่ข้างหลังผมแล้ว!

 

「งะ-งั้นผมขอออกไปก่อนนะ!」

 

「นี่ มองหน้าชั้นเวลาพูดสิ」

 

「?!」

 

มิมิโนะซังจับหน้าของผมให้หันไปหาด้วยมือทั้ง2ข้าง

 

มิมิโนะซังกับน็อนซังนั้นยืนอยู่ใต้แสงไฟสลัวๆ

 

ขอละมิมิโนะซังเอาไว้(ขออภัยนะครับ)ในฐานที่เข้าใจ แต่พลังทำลายของน็อนซัง(ผมไม่บอกหรอกนะว่าอะไร)นั้นสุดยอดมากๆ

 

「…โอ้ เธอกลับมาแล้วงั้นรึ?」ดันเต้ซังพูดขณะที่นั้งอยู่บนเก้าอี้ ตอนที่ผมกลับมาถึงห้องพัก ไรเครียซังก็ดูจะหลับไปแล้ว ผมเลยนั้งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับดันเต้ซัง

 

「เป็นอะไรไปละ? เรย์จิ」

 

「…ไม่ ไม่มี… อะไรหรอกครับ…」

 

「จริงรึ?」

 

พวกผู้หญิงนั้นพักอยู่ห้องข้างๆดังนั้นดันเต้ซังอาจจะไม่รู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าดันเต้ซังที่อ่อนโยนรู้เรื่องที่ผมอาบน้ำกับน็อนซังเข้าละก็ เขาอาจจะกลายร่างเป็นปีศาจแล้วพูดว่า「ถ้าแกทำอะไรกับลูกสาวของข้าละก็!!!」…ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆละก็ ผมคงจะฉี่รดกางเกงเลยหล่ะ

 

「ยังไงก็เถอะ… มันดีจริงๆหรอครับที่จะพักในห้องดีๆแบบนี้?」

 

「ดีสิ ปกติพวกเราเดินทางกันในป่าใช่ไหมหล่ะ? ดังนั้นจึงแทบไม่เสียค่าเดินทางเลย แถมเธอยังเจอพืชที่กินได้ซึ่งทำให้ช่วยลดค่าอาหารลงได้อีกด้วย การพักในโรงแรมดีๆภายในเมืองจึงไม่มีปัญหายังไงหล่ะ…」

 

ตอนที่เขาพูดคำว่า “พวกเรา” นั้นใบหน้าของเขาก็ดูโดดเดี่ยวไปซักพัก เขาคงจะทำแบบเดียวกันนี้กับปาร์ตี้เก่าของเขาด้วยสินะ

 

「หืมม แต่เธอนี้ดูท่าทางมีความรู้จริงๆนะ เรย์จิ」

 

「อะไรนะครับ??」

 

「ข้าก็คิดตั้งแต่แรกแล้วนะว่าเธอนั้นดูฉลาด แต่หลังจากเธอล้างเนื้อล้างตัวไปแล้ว เธอยิ่งดูมีภูมิฐานมากยิ่งขึ้นไปอีก」

 

「ขอบคุณครับ…?」

 

ผมพยายามนึกถึงความทรงจำสมัยยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายแทนที่จะนึกถึงความทรงจำแย่ๆในโลกใบนี้ นึกถึงความทรงจำแย่ๆก็รังแต่จะทำให้มันยุ่งยากเท่านั้น

 

บางทีนั้นคงทำให้ผมดูเป็นคนที่ “มีความรู้” สินะ?

 

「ข้าแน่ใจว่าเธอคงจะได้การศีกษามาดี– อา ไม่สิ ลืมสิ่งที่ข้าพูดไปเถอะ」

 

「ไม่เป็นไรครับ ผมไม่คิดมากหรอก ผมเองก็คิดว่าผมนั้นได้รับการศึกษาในรูปแบบหนึ่งอยู่เหมือนกันครับ」

 

ในโลกใบนี้ ผู้คนจะช่วยครอบครัวทำงานตอนยังเป็นเด็ก ถ้าตัดสินใจเลือกอาชีพได้แล้วก็สามารถไปเข้าร่วมโดยมีคนคอยดูแลได้ – เหมือนกับลูกศิษย์ – และได้รับหินสกิลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำมา

 

มันมีกิลด์ที่เกี่ยวข้องกับไม้สำหรับคนตัดไม้และยังมีกิลด์ที่เกี่ยวข้องกับการตกปลาสำหรับนักตกปลาด้วย ดูเหมือนหินสกิลจะหมุนเวียนกันในราคาถูกภายในกิลด์พวกนั้น สมแล้วที่โลกใบนี้มันหมุนรอบหินสกิล

 

「ผมคิดว่าคุณนี้ช่างอ่อนโยนจริงๆนะครับ ดันเต้ซัง」

 

「…ข้าหรอ?」

 

「ใช่แล้วครับ โดยเฉพาะเวลาที่คุณมองไปที่น็อนซัง」

 

「………」

 

ดันเต้ซังทำสีหน้าปั้นยาก

 

…นี่ผมพูดอะไรผิดไปรึปล่าว? โอ้ ไม่นะ นี่เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงอาบน้ำงั้นหรอ?! ผมต้องขะ-ขะ-ขอโทษด้วยจริงๆครับ! ผมไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงจริงๆนะครับ!

 

「ข้า… บางทีคงจะรักษาคำสาปนี้ไม่ได้แล้วตายไปอยู่ดีนั่นละนะ」

 

「…หะ?」

 

「ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคำสาปที่ซับซ้อนมากเลยหน่ะ ข้าได้ยินมาจากผู้ใช้เวทย์รักษาทุกคนที่เคยเจอเลยว่าการจะหาวิธีรักษาที่ราชอาณาจักรอัศวินนักบุญได้หน่ะ มันมีที่โอกาศที่ต่ำมากๆ」

 

ผมไม่รู้เลย… ว่าดันเต้ซังนั้นเตรียมใจตายมาตั้งแต่แรกแล้ว เขาคงจะตัดสินใจไว้แล้วที่จะใช้เวลาชีวิตที่เหลืออยู่กับลูกสาวของเขา น็อนซัง

 

「นั้นแหล่ะข้าถึงอยากจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่กับแค่กับลูกสาวข้าแต่รวมถึงมิมิโนะที่ร่วมเดินทางมาด้วย คงเพราะโชคชะตาบางอย่างที่ทำให้ไรเครียกับเธอนั้นได้ร่วมเดินทางมาด้วย ข้าจึงอยากจะให้ความรู้ทุกอย่างที่ข้ามีและพร้อมที่จะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องพวกเธอ ข้าหวังว่าเธอจะไม่โทษตัวเองเมื่อเวลานั้นมาถึง มันเป็นความเห็นแก่ตัวของข้าเอง ข้าแค่อยากจะทำสิ่งดีๆในตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ก็เท่านั้นเอง」

 

「………」

 

「ขอโทษด้วยที่ข้าเอาแต่พูดถึงเรื่องเศร้าๆนะ ฮาๆๆ…」ดันเต้ซังพูดออกมาพร้อมทั้งหัวเราะเหมือนกับแต่ก่อน

 

ผมได้ยินจากมิมิโนะซังมาว่าเขานั้นคอยปกป้องและดูแลสมาชิกของปาร์ตี้เก่าอยู่ตลอด

 

…คนๆนี้ยอมลงทุนลงแรงไปจนถึงไหนกันเพื่อที่จะช่วยใครสักคน

 

「ดันเต้ซัง」

 

…ผมจะไม่มีทางทรยศใครสักคนที่ ”ให้” บางสิ่งบางอย่างกับผมแบบนี้ ผมไม่อยากจะทรยศพวกเขา

 

「อะไรรึ?」

 

「นี้มันอาจจะเป็นเพียงเรื่องเหลวไหลนะครับ แต่ผมอยากจะขอยืมเงินของคุณสักหน่อยหน่ะครับ ผมจะบอกคุณในภายหลังเองครับว่าผมจะซื้ออะไร ถึงจริงๆผมเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าผมจะซื้อมันได้…」

 

「อะไรละ? เป็นสิ่งที่เธออยากได้อย่างนั้นรึ?」

 

「ครับ」

 

ผมมองตรงไปที่ดันเต้ซัง

 

—ใบไม้ 5 แฉกที่ดูเหมือนกับใบไม้ในฤดูใบไม้ล่วง

 

—โลหะสีเงินบริสุทธิ์

 

—สิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับไส้เดือน

 

ภาพพวกนั้นพุดขึ้นมาในหัวทุกครั้งที่ผมมองไปยังรอยคำสาปของดันเต้ซัง

 

ถ้ามันมีขายละก็ ผมจะซื้อมันทันทีเลย ถ้ามันเจอในป่าละก็ ผมจะไปหามันทันทีเลย

 

ผมยังบอกเขาไม่ได้… ผมไม่อยากจะสัญญาอะไรก่อนที่จะทำมันได้จริงๆ

 

ผมตัดสินใจแล้วที่จะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อที่จะรักษาคำสาปของดันเต้ซัง

 

「…งั้นรึ ข้าไม่ว่าอะไรหรอก บางครั้งลูกผู้ชายก็ต้องการอะไรบางอย่างที่เขาต้องการนั่นแหล่ะ น็อนไม่เคยขออะไรจากข้าเลยสักครั้ง และมันคงไม่สนุกถ้าเธอทำแบบเดียวกันด้วย」

 

ดันเต้ซังยืนขึ้นแล้วลูบหัวของผมที่ยังคงเปียกชื้นจากการแช่น้ำ

 

「เอาหล่ะ ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เราจะไปที่กิลด์นักพจญภัยเพื่อขายสิ่งที่เราเจอมาในระหว่างการเดินทางกัน」

 

「ครับ」

 

จากนั้นผมก็เข้านอน ผมหลับไปทันทีที่ผมหลับตาลง เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นมันก็เป็นตอนเช้าซะแล้ว

 

หมายความว่า ผมนั้นไม่ได้ฝันถึงอะไรเลย และก็รู้สึกตัวถึงบางอย่างอีกว่า… นี่เป็นครั้งแรกในโลกนี้ไม่ใช่หรอที่ผมได้นอนบนเตียงหน่ะ…?

 

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset