[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่1 ตอนที่ 29

บทที่ 1 ตอนที่ 29

 

「แกจบที่ตรงนี่แหล่ะ」

 

ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ลูกบอลไฟของคริสต้าก็ใหญ่พอๆกับรถยนตร์ 3 คันแล้ว

 

มังกรก็ดูเหมือนกับว่ากำลังหายใจหอบอยู่

 

「ทุกคน! เผ่นเร็วเข้า! เดี๋ยวจะโดนลูกหลงไปด้วย!」

 

ผมรู้สึกตัวจากเสียงของดันเต้ซัง บอลไฟนั่นอาจจะสามารถจัดการมังกรตัวนั้นได้ แต่พวกเราจะต้องโดนลูกหลงจากแรงระเบิดแน่นอน

 

คริวต้ายิงลูกบอลไฟเข้าใส่มังกรตัวนั้นโดยที่ไม่รอให้เหล่านักพจญภัยกับเหล่าทหารทำการลี้ภัยก่อนเลยแม้แต่น้อย

 

「มังกรมัน…!」

 

ผมเบิกตากว้างขึ้น

 

มังกรคัวนั้นได้พ่นไฟที่รุณแรงมากกว่าทุกๆครั้งออกจากปากของมัน ― สร้างแรงพลักดันให้ตัวมันพุ่งไปข้างหน้า

 

「อะไรกัน!」

 

มันเป็นการเคลื่อนไหวรูปแบบเดียวกับที่คริสต้าเคยใช้แรงระเบิดทำ ทว่า การระเบิดที่มังกรทำนั้นไม่มีการควบคุมพลัง ดังนั้น ขนาดมังกรที่เป็นคนใช้ก็ยังได้รับบาดเจ็บได้

 

ถึงอย่างงั้น มังกรตัวนั้นก็ยังเดิมพันกับมัน

 

“สัตว์ที่กำลังบาดเจ็บหน่ะอันตรายที่สุด” – พวกเราได้ประจักษ์ถึงความจริงข้อนั้นอีกครั้งนึงแล้ว

 

ร่างของมังกรพุ่งชนเข้ากับลูกบอลไฟขนาดยักษ์ที่คริสต้าเป็นคนปล่อยออกมา การระเบิดขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้นแล้วได้กลืนร่างของคริสต้าเข้าพร้อมกันกับมังกรตัวนั้นด้วย

 

แสงแสบตาก็สว่างจ้าขึ้น

 

คลื่นกระแทกจากแรงระเบิดวิ่งเป็นวงกว้าง เปลวไฟจากการระเบิดเผาไหม้เมือง

 

ก่อนที่จะเกิดการระเบิด ผมได้วิ่งออกมาจากอาคารที่หลบซ่อนสักระยะนึงแล้ว แต่เปลวไฟกับแรงระเบิดก็ยังมาถึงผมอยู่ดี มันส่งให้ผมลอยขึ้นก่อนจะตกลงมากระแทกกับพื้น

 

「หว่าาา!」

 

ตัวผมไม่ติดไฟ แต่ถูกแรงระเบิดซัดจนปลิวไปประมาณ 5 เมตรข้างหน้าก่อนจะตกลงมากระแทกกับผิวถนน

 

…เจ็บโคตร

 

ความเจ็บปวดที่รู้สึกราวกับทุกส่วนในร่างกายของผมหักเลย ร่างกายของผมรู้สึกมึนงงไปหมด ผมร่ายเวทย์รักษาในปริมาณที่น้อยมากๆ – เพื่อจะได้ประหยัดมานาให้ได้มากที่สุด เพื่อผมจะได้มีโอกาสรักษาคนอื่นที่บาดเจ็บหนัก – กาอนจะลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ

 

หูของผมไม่ได้ยินเสียงใดๆเลย แก้วหูของผมอาจจะไม่แตก แต่มีอาการหูหนวกชั่วคราวเอง

 

ซากประหรักหักพังกระจัดกระจายเกลื่อนพิ้นหิน ทัศนวิสัยมืดมัวเพราะฝุ่นควัน อาคารที่ผมเคยหลบซ่อนอยู่ก่อนหน้านี้พังไปบางส่วน

 

เมื่อผมเดินอ้อมอาคารนั้นแล้วกลับมายังสนามรบ ผมก็พูดอะไรไม่ออกเลย

 

มีหลุมที่มีเส้นผ่าศุนย์กลางประมาณ 30 เมตรอยู่ตรงนั้น

 

…นั่นมันศพของนักพจญภัยหรือทหารที่ฝั่งอบู่ในกำแพงของตึกที่ถล่มลงมาจนมีเลือดเจิ่งนองราวกับว่ามันอ๊วกมาเป็นเลือดรึปล่าว?

 

เห็นภาพแบบนั้นผมก็รู้สึกอยากจะอ๊วกออกมา ดังนั้นผมจึงพยายามไม่มองไปที่มัน

 

ห่างออกไปเล็กน้อย มีร่างของมังกรที่คอบิดเบี้ยวนอนจมอยู่ในกองซากปรักหักพัง เกล็ดแทบจะทั้งร่างหลุดออกมาและร่างของมันก็โชกไปด้วยเลือด

 

「ไอ้สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ…!」

 

ผมสะดุ้งเฮือก

 

คำพูดนั่นเข้ามาในหูของผมหลังจากที่ผมหายจากอาการหูหนวกพอดี

 

เสียงนั่นดังมาจากบนท้องฟ้า เมื่อผมมองขึ้นไป ก็เห็นคริสต้าที่เสื้อผ้าไหม้ไปครึ่งนึงเผยให้เห็นร่างที่โชกเลือด เขาลอยลงมาพร้อมกับปัดเสื้อของเขา

 

เขาสร้างแรงระเบิดเล็กๆด้วย【เวทย์ไฟ】ก่อนจะลงจอดที่พื้นอย่างนิ่มนวล เมื่อเขาลงถึงพื้น เขาก็คุกเข่าลงกับพิ้นทันที ผมของเขาไหม้เกรียมและใบหน้าก็เต็มไปด้วยเขม่าควัน รูปลักษณ์อันสง่างามของเขาไม่เหลือให้เห็นอีกแล้ว

 

「ฮาา ฮาา ฮาา… เลือกที่จะระเบิดตัวตายไปพร้อมกับข้าในวินาทีสุดท้าย… มังกรนี้แม่งไม่สมเหตุสมผลจริงๆ! ข้าอยากจะให้พวกแม่งสูญพันธุ์ไปให้หมดโลกเลย!」

 

คริสต้าลุกขึ้นพร้อมกับพูดสาปแช่งออกมา ก่อนจะเดินไปยังทางมังกรที่นอนแน่นิ่งอยู่

 

「แกนะแก! ข้าเป็นถึง “ผู้ฆ่ามังกรสีชาด” เลยนะเว้ย! ไอ้เศษขยะเฮงซวยนี่!」

 

เขาเตะไปที่ท้องของมังกรตัวนั้น มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังเตะกำแพงเลย ทว่าสำหรับคริสต้า เขาไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองกลับมาหรือไม่ ขอแค่เขาได้ระบายอารมณ์ก็เพียงพอแล้ว

 

「ฟูวว… ทหารพวกนั้นไปไหนกันแล้ว? เจ้าพวกนี่มันเกินกว่าจะเรียกว่าน่าสงสารซะอีก กะอีแค่การต่อสู้แค่นี้ ข้าจะไม่มีวันรับงานในที่ไร้ค่าแบบนี้อีกแล้ว– หะ?」

 

ในตอนนั้นเอง ร่างของคริสต้าก็หยุดนิ่ง

 

ผมที่เฝ้าดูอยู่ตั้งแต่แรก ก็ไม่อาจส่งเสียงอะไรออกมาได้

 

เพราะเขาเคลื่อนไหวเร็วมากเกินไป ผมไม่ได้คาดคิดไว้เลย

 

「ในที่สุดข้าก็เจอแกซักที… คริสต้า-ลา-คริสต้า…!!」

 

ท้องของคริสต้าถูกแทงทะลุด้วยแขนข้างหนึ่ง

 

แขนที่เต็มไปด้วยขนที่เคยกอดหัวผมเมื่อไม่นานมานี้ – แขนของไรเครียซังนั่นเอง

 

ไรเครียซังที่ดูจะหลบซ่อนตัวเองอยู่จนถึงตอนนี้ได้เฝ้ารอคอยจังหวะนี้ – จังหวะที่คริสต้าจัดการกับมังกรได้และกำลังลดการป้องกันของตัวเองลง

 

โอกาสที่เขาจะได้แก้แค้นให้กับพรรคพวกของเขา

 

เลือดไหลออกมาจากปากของคริสต้า ต่อให้ไม่ต้องตรวจดูด้วย【World Ruler】มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขากำลังจะตาย

 

「ไรเครียซัง!!」

 

ทว่า ผมก็ได้กรีดร้องออกไป

 

ไม่ได้จะกล่าวโทษเรื่องที่ไรเครียซังได้ทำลงไป

 

แต่เป็นเพราะว่าอีกสิ่งหนึ่งที่【World Ruler】ได้รายงานมา

 

「เรย์จิ… ข้า…」

 

「มังกรมันยังไม่ตาย–」

 

ผมจะอธิบายถึงใบหน้าของเขาในยามนั้นยังไงดี? เขาดูเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิด แต่ก็ยังดูเหมือนกับนักบวชที่บรรลุหน้าที่ของตนเองแล้วอีกเช่นกัน — และด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็ดูเหมือนกับคนบาปที่กำลังขออภัยโทษเลยด้วยเหมือนกัน

 

ขาหน้าของมังกรได้กวาดร่างของไรเครียซํงไปพร้อมกับร่างของคริสต้า ส่งให้ร่างของทั้งสองคนลอยขึ้นไปบนฟ้า

 

ผมอยากจะกรีดร้องออกมา ผมอยากจะถามตัวเองถึงเรื่องที่จะหยุดเหตุการณ์เลวร้ายโง่ๆนี่ยังไง ผมอยากจะซบอกของใครสักคนแล้วเริ่มร้องไห้

 

แต่ผมก็ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย

 

「……ไม่」

 

ซากประหรักหักพังล่วงหล่นลงมาจากร่างของมังกรที่กำลังลุกขึ้น

 

「ม่ายยยยยยยยย!!」

 

ผมเห็นฮาล์ฟลิงคนนึงที่ยืนอยู่ใกล้กับตรงนั้น

 

คนๆนั้นถือตะกร้าในมือทั้งสองข้าง บางทีคงจะมาหลังจากซื้อของ ตะกร้านั้นมีขวดโหลบรรจุส่วนผสมที่ง่ายต่อการเก็บรักษาและเครื่องเทศต่างๆนาๆ มันเต็มไปด้วยสิ่งของที่จะใช้สำหรับการเดินทางในอนาคตข้างหน้า

 

แต่คนๆนั้น – มิมิโนะซัง ปล่อยมือจากมันแล้วกรีดร้องออกมา การเป็นพยานให้กับวินาทีสุดท้ายของไรเครียซังคงจะเป็นเรื่องที่เกินกว่าเธอจะรับไหว

 

และนั่นก็เกินพอแล้วที่จะเรียกร้องความสนใจจากมังกรตัวนั้น

 

มิมิโนะซังไม่ได้รับรู้ถึงมังกรเลย เธอทรุดตัวลงพร้อมกับเอามือกุมหัวของตัวเธอเอง ขนาดที่มังกรอ้าปากขึ้น ขนาดที่มีแสงก่อตัวขึ้นภายในปากของมัน เธอก็ไม่ได้สังเกตุถึงมันเลยแม้แต่น้อย

 

…มิมิโนะซังกำลังจะถูกเผาทั้งเป็นแล้ว!

 

「โอ้ววววววว!!」

 

ผมวิ่งออกไปอย่างสุดตัว ใช้แค่สกิล【ทักษะการวิ่ง】นั้นไม่ทันเวลาแน่นอน ดังนั้นผมจึงใช้มันควบคู่กับ【เวทย์ไฟ】ที่ใช้ที่เท้าเพื่อให้เกิดระเบิดสร้างแรงพลักดัน ส่งผลให้ภาพรอบๆเปลี่ยนไปในทันที บัดนี้ใบหน้าของมังกรก็ได้มาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว

 

นักพจญภัยระดับมิธริวนี่สุดยอดจริงๆที่ควบคุมอะไรแบบนี้ได้ดั่งใจนึก

 

「โออออออออออ้!!」

 

การเคลื่อนไหวของผมเลียนแบบท่ากระโดดเตะของไรเครียซังได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผมเตะเข้าไปที่ใบหน้าของมังกรตัวนั้น แล้วเพิ่มแรงจากระเบิดด้วย【เวทย์ไฟ】ส่งผลให้เป่าใบหน้าขนาดเท่ารถยนตร์นั่นไปอีกทาง

 

【World Ruler】รายงานผมว่าขาของผมหักแล้ว

 

《……เจ้า – ที่อยู่บนหลังคาก่อนหน้านี้……?》

 

ร่างกายของผมมาถึงขีดจำกัดแล้ว มานาเองก็แทบจะหมดลงแล้วเช่นกัน

 

「มิมิโนะซัง… มิมิโนะซัง!」

 

「…เรย์จิคุง?」

 

「ได้โปรดรีบหนีไปเถอะครับ อย่างน้อยคุณก็ต้องรอดไปให้ได้…」

 

ผมยืนหันหลังให้กับเธอแล้วกางแขนออก ผมรู้ว่าร่างกายเล็กๆนี้ไม่อาจปกป้องอะไรเธอได้ ทว่า ผมก็จะทำมันอยู่ดี

 

「มะ-ไม่ เรย์จิคุง! เธอต่างหากที่ต้องหนี–」

 

「ช่วยบอกกับกำลังเสริมด้วยนะครับว่าตอนนี้มังกรใกล้จะตายแล้ว」

 

ผมใช้มานาที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อใช้งาน【เวทย์ไฟ】มิมิโนะซังกระเด็นออกไป ตัวผมเองก็กระเด็นออกไปเช่นกันในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับเธอ — ตรงไปทางมังกรตัวนั้น

 

「เรย์จิคุง!!!!!」

 

「อย่าเข้าไปใกล้ มิมิโนะซัง!」

 

…ผมได้ยินเสียงของน็อนซัง ถ้าเธออยู่แถวๆนั้นละก็ ถ้าเธอห้ามปรามมิมิโนะซังเอาไว้ละก็ ผมจะมีความสุขสุดๆไปเลย

 

ผมไม่เหลือพลังอะไรอีกแล้ว แต่ผมก็ปกป้องมิมิโนะซังเอาไว้ได้

 

《……ร่างกายของเจ้ามีสกิล 10 ดาวงั้นรึ……? ไม่ เรื่องนั้นมันไม่สำคัญอะไรอีกต่อไปแล้ว เอาละ สูดลมหายใจเฮือกสุดท้ายของชีวิตเจ้าซะสิ ผู้กล้าหาญตัวน้อย…》

 

ขณะที่มังกรตัวนั้นกำลังอ้าปากของมันออก ผมก็ได้หมดสติไป

 

ผมทำมันจนได้

 

ผมมั่นใจว่าผมต้องยิ้มออกมาได้ในวินาทีสุดท้ายของชีวิตแน่ๆ

 

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset