[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่2 ตอนที่ 27

บทที่ 2 ตอนที่ 27

 

คุณหนูกำลังอารมณ์ดีหลังจากการได้เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาของตระกูลเอเบน อารมณ์ดีถึงขนาดที่ตอบคำถามของผมตอนที่อยู่บนรถม้าได้อย่างลื่นไหลเลยละ

 

「คุณหนูครับ งานเลี้ยงน้ำชาวันนี้ดูจะสนุกมากๆเลยสินะครับ」

 

「ใช่แล้วละ ชั้นได้รู้แล้วว่าความคิดของท่านอีธานนั้นขึ้นอยู่กับความรู้ด้านยาของเผ่าฮาร์ฟลิง และท่านมิร่าเองก็เน้นไปทางด้านการทหารเป็นหลักด้วย ในประเทศนี้นั้น มี 6 ตระกูลดยุคที่มีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ นอกจากนั้นก็ยังมี 4 ตระกูลมาร์ควิสที่ครองตำแหน่งสูงๆ, 4 ตระกูลเอิร์ลประจำชายแดนที่ครอบครองกำลังทหาร, และ 20 ตระกูลเอิร์ลซึ่งนับรวมชั้นด้วย ถ้าพวกเรานับรวมตระกูลไวเคานต์กับบารอนเข้าไปด้วยละก็ จำนวนก็จะแตะ 3 หลักเลยนะ ถึงชั้นจะรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนแล้วก็จริง แต่ชั้นก็ไม่ได้รู้จักพวกเขาจริงๆเลยหน่ะสิ ดังนั้น ชั้นดีใจจริงๆที่สามารถพูดคุยกับทุกคนได้แบบนี้」

 

「คุณหนูอยู่บนระเบียงทางเดินกับคุณชายหลุยส์ด้วยใช่ไหมละครับ?」

 

ในตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงน้ำชา หลุยส์กับคุณหนูได้ออกไปตรงระเบียงกันสองคน ในตอนนั้น หลุยส์ดูจะพูดอะไรบางอย่างออกมาอย่างกระตือรือร้นเลยละ ตัวคุณหนูเองก็ดูจะรับฟังอย่างกระตือรือร้นเช่นกัน

 

「ใช่แล้วละ ใช่แล้วละ เป็นอย่างนั้นจริงๆ」

 

「โอ้ นั่นเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คุณหนูร่าเริงอย่างนั้นหรือครับ?」

 

「ท่านหลุยส์เห็นด้วยกับความคิดของชั้นละ!」

 

「…เมื่อกี้ว่ายังไงนะครับ?」

 

ผมคิดว่าผมได้ยินอะไรบางอย่างแปลกๆ

 

「ชั้นบอกท่านหลุยส์เกี่ยวกับไอเดียของชั้นหน่ะ การตระหนักถึงสังคมที่ทุกคนเท่าเทียมกันนั้น มันเป็นสิ่งที่จะทำได้เฉพาะคนที่มีอำนาจ ชั้นก็เลยคุยกับเขาเรื่องที่ขุนนางนั้นผูกขาดหินสกิลที่ถูกผลิตขึ้นจากแท่นบูชาที่หนึ่งโดยทั้งๆที่มันถูกประทานโดยพระเจ้าแท้ๆ」

 

「…คุณหนูครับ ได้โปรดงดคุยกับคนอื่นถึงเรื่องนี้ด้วยครับ」

 

「แน่นอนอยู่แล้ว ยังไงซะถ้าเป็นถึงขุนนางก็ต้องงดเว้นการวิพากษ์วิจารณ์ “กฏแห่งราชันศักดิ์สิทธิ์จะส่องสว่างไปทั่วประเทศ” ของฝ่าบาทอยู่แล้ว」

 

คุณหนูรู้อยู่แล้ว… รู้อยู่แล้วสินะ? มันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมเนี้ย?

 

「เรย์จิ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอกหน่า」

 

ใบหน้าของคุณหนูเปลี่ยนไปเป็นบูดบึ้ง ขนาดเธอทำหน้าอย่างนั้นก็ยังสง่างามเลย

 

「ที่ชั้นบอกนายทั้งหมดนี้ก็เพราะว่าชั้นไว้ใจนายยังไงละ! ท่านหลุยส์เองก็สาบานต่อดาบของเขาแล้วว่าจะไม่เอาไปบอกใครด้วย ดังนั้นชั้นก็บอกเขาไปทุกอย่างเลย」

 

「งั้นหรอครับ…」

 

สำหรับนักดาบโดยเฉพาะตระกูลโรซีเออร์ของหลุยส์ที่ยึดถึงในวิชาดาบแล้ว การสาบานต่อดาบของเขานั้น เขาจะต้องทำการตัดสินใจมาอย่างดีแล้วแน่นอน เอาเถอะ จากมุมมองของผม เขาก็ดูไม่ต่างอะไรไปจาก “เด็กที่กำลังมีความรัก” หรอก

 

「แล้วก็นะ เรย์จิ ที่ชั้นถามไปก่อนหน้านี้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ราชอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มีผู้คนหลากหลายเผ่าพันธ์ุหน่ะ?… เป็นคำถามที่ง่ายมากๆเลยนะ」

 

「ตัวฝ่าบาทราชันศักดิ์สิทธิ์กับเหล่าขุนนางทั้งหลายครับ」

 

「…ถูกต้อง ตอบถูกตั้งแต่แรกแบบนี้มันน่าเบื่อจัง」

 

คุณหนูหน้าบึ้งอีกแล้ว

 

ประเทศนี้นั้นยอมรับความแตกต่าง ดังนั้นมันก็เลยไม่มีกำแพงเผ่าพันธุ์

 

อย่างไรก็ตาม พวกเราก็ยังต้องการสิ่งที่จะยึดมั่นพวกเขาเอาไว้ – และสิ่งนั้นก็คือการปกครองแบบชนชั้นทางสังคมของขุนนาง และรวมถึงสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ – ราชาศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

 

ผมคิดว่าสังคมขุนนางที่คุณหนูมองว่ามัน “ไม่เท่าเทียม” นั้นเป็นระบบที่จำเป็น ภึงมันจะเป็นปัญหาตอนที่มีขุนนางหน้าโง่ไปผูดขาดหินสกิลก็เถอะ ตัวคุณหนู, คุณชายอีธาน, และเหล่าคนที่ตอนแรกผมยังกังขาอยู่อย่าง – หลุยส์, คุณหนูมิร่า, และคุณหนูชาล็อต พวกเขาทั้งหมดดูจะเรียนรู้มาอย่างหนักเลยนะ

 

ที่เรียกกันบ่อยๆว่า พลังอันยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง สินะ

 

บุคคลที่มีความรับผิดชอบมากที่สุดก็คือราชันศักดิ์สิทธิ์ บุคคลเพียงหนึ่งหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่บนจุดสูงสุด บุคคลเพียงคนเดียวที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่จนผู้คนต่างพากันคิดว่า “ถ้าฝ่าบาทสั่งมาละก็ มันก็ช่วยไม่ได้ละนะ” นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยึดติดกับสัญลักษณ์อย่าง “สีฟ้าศักดิ์สิทธิ์” นัก

 

「เพราะท่านหลุยส์นั้นมาจากตระกูลโรซีเออร์ที่สามารถควบคุมสำนักงานจัดการหินสกิลได้ยังไงละ เขาก็เลยอยากแจกจ่ายหินสกิลให้กับผู้คนอย่างเท่าเทียม」

 

「โอ๊ะ ตระกูลโรซีเออร์เป็นผู้นำของสำนักงานจัดการหินสกิลยังงั้นหรอครับ?」

 

「ใช่แล้วละ ชั้นได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลเป็นอย่างนั้นละนะ」

 

งั้นก็หมายความว่าพ่อของหลุยส์เป็นหัวหน้าของท่านเอิร์ลหน่ะสิ?

 

ถ้าหลุยส์ขอคุณหนูแต่งงานละก็ ท่านเอิร์ลก็จะปฏิเสธไม่ได้ หรือปล่าวนะ?… หิมม หรือบางที เขาอาจจะแค่ทำงานที่นั่นเพราะจำเป็น และมันก็ไม่มีการแบ่งลำดับชั้นกัน?

 

(ไม่สิ เขาเป็นถึงหนึ่งใน 6 ดยุคผู้ยิ่งใหญ่เลยนะ…)

 

อยู่ๆผมก็รู้สึกตัวถึงบางสิ่ง

 

「แล้วก็นะครับ คุณชายหลุยส์มีญาติพี่น้องด้วยหรือเปล่าครับ?」

 

「เขาบอกว่าเขามีน้องชายกับน้องสาวอยู่เยอะแยะเลย」

 

โอ้ ให้ตายเหอะ เขาเป็นถึงผู้สืบทอดด้วย…

 

ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าทุกอย่างมันจะโอเคจริงๆหรือเปล่า เอาเถอะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะต้องไปกังวลซักหน่อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านเอิร์ลไปละกัน

 

「…เรย์จิ คือว่า ชั้นจะได้รับหินสกิลในอีก 3 วันข้างหน้าหน่ะ」คุณหนูพูดขึ้นอย่างกระสับกระส่ายลังเลด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

「จริงด้วยครับ ยินดีด้วยนะครับ」

 

ถึงผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงรู้สึกลังเลก็เถอะ ผมก็เลยแสดงความยินดีให้กับเธอไปก่อน

 

ผมมั่นใจว่าตระกูลขุนนางทุกตระกูลคงจะเอาพูดถึงแต่เรื่องนี้ในช่วงนี้แน่นอน ตัวอย่างเช่น – “นี่ พ่อจ๋า พ่อจะเอาหินสกิลอะไรให้หนูงั้นหรอ?”, “ฮ่าๆๆ ลูกก็รู้ว่าพ่อจะต้องเก็บเป็นความลับอยู่แล้ว ใช่ไหมละ?”, “ไม่ บอกหนูหน่อยสิ…”, “ฮ่าๆ ไม่มีทาง” อะไรแบบนี้ หรือบางทีพวกเขาจะพูดเป็นทางการมากกว่านี้หรือเปล่านะ? ก็พวกเขาอายุ 12 ปีกันแล้วนี่นา

 

และต่อให้เป็นท่านเอิร์ล ถึงเขาจะไม่แสดงออก แต่ตัวคุณหนูเองก็สำคัญสำหรับเขามากๆเลย ดังนั้นผมมั่นใจว่าเขาจะต้องเตรียมหินสกิลที่มีราคาแพงมากๆเอาไว้แน่ๆเลย

 

「ชั้นคิดว่าท่านพ่อจะต้องเตรียมบางอย่างที่หายากมากๆและเหมาะสำหรับ ‘ขุนนาง’ ให้กับชั้นแน่ๆเลย」

 

「ครับ ท่านเอิร์ลซิวลิซส์จะต้องเตรียมบางสิ่งสุดพิเศษเอาไว้แน่นอนเลยครับ」

 

「เพราะงั้น ชั้น…」

 

「ครับ?」

 

「ชั้น… จะมอบมันให้กับนาย เรย์จิ」

 

「……เอ๊ะ?」

 

มอบให้กับผม? หินสกิลนะหรอ!?

 

「ชั้นจะมอบหินสกิลที่นายสมควรจะได้รับ! จงยินดีซะสิ!」

 

「——」

 

อา~ เป็นอย่างนั้นนี่เอง คุณหนูอยากจะมอบ “ของขวัญ” ให้กับผมนี่เอง

 

เพราะงั้นเธอถึงกระสับกระส่ายสินะ

 

โชคร้ายที่ผมนั้น*อายุ 16 ปีบวกกับ 4 ปีที่ผมใช้ชีวิตที่โลกใบนี้ ดังนั้นผมจึงมีอายุจิตใจเกือบจะ 20 ปีแล้ว ทว่าความคิดของคุณหนูก็ยังทำให้ผมมีความสุขอยู่ดี

 

「ขอบคุณครับ ผมดีใจจริงๆครับ คุณหนู」

 

「…นายดีใจจริงๆนะ?」

 

「แน่นอนครับ!」

 

ใบหูของคุณหนูนั้นแดงระเรื่อพร้อมกับแอบมองมาที่ผม ดังนั้นผมก็เลยตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

 

「งั้นหรอ นายตั้งตารอเอาไว้ได้เลยนะ」

 

คุณหนูละสายตาไปจากผมแล้วหันหน้าหนี ใบหน้าของเธอนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

 

==========================================================

*เพื่อใครงงนะครับ พระเอกน่าจะหมายถึงอายุ 16 ปีในชาติก่อนบวกกับ 4 ปีหลังจากได้ความทรงจำกลับมา พระเอกน่าจะไม่ได้รวมตอนที่ยังไม่ได้ความทรงจำครับ

ปล.ช่วงนี้อาจจะลงนิยายได้ช้าลงนะครับเพราะติดงานของมหาลัย

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset