[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่2 ตอนที่ 34

บทที่ 2 ตอนที่ 34

 

* อีวา ซิวลิซส์ *

 

เนื่องจากอีวาได้เข้ามาในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรก เธอก็เลยถูกกดดันด้วยบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากปกติโดยสิ้นเชิง จำนวนอาคารนั้นน้อยมาก แถมยังมีสวนมากมายคั่นระหว่างอาคารพวกนั้นด้วย เธอรู้สึกเหมือนกับหลงทางอยู่ในป่าเลย

 

อีวาเห็นธานน้ำและน้ำพุอยู่ทั้งตรงนั้นตรงนี้เต็มไปหมด และยังมีสะพานหินหลากสีที่สร้างขึ้นเพื่อข้ามพวกมันไปด้วย

 

พื้นที่สำหรับรอของเหล่าเด็กอายุ 12 ปีที่จะเข้ารับหินสกิลนั้นเป็นศาลาทรงเหลี่ยมที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หลากชนิด

 

「มิสอีวา!」

 

เป็นหลุยส์ที่สังเกตเห็นอีวาที่เดินตามการนำทางของนักบวชที่ทำงานในพระราชวังแห่งนี้ก่อน หลุยส์นั้นสวมชุดที่คล้ายๆกับอีวา ต่างกันเพียงแค่เนื้อผ้าที่เป็นสีเหลืองสดกับดาบล้ำค่าที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเขาเท่านั้น เหล่าเด็กผู้ชายจะได้รับอนุญาตให้นำดาบล้ำค่าเข้ามาได้ ซึ่งมันจะถูกใช้ในงานพิธีด้วย

 

ถึงมันจะถูกเรียกว่าศาลา แต่มันก็กว้างเอามากๆ แถมยังมีโซฟามากมายด้วย เหล่าชายหญิงที่ดูเหมือนจะรู้จักกันต่างก็รวมตัวพูดคุยสนทนากัน

 

「อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านหลุยส์」

 

「อรุณสวัสดิ์ อะ-เอออออ เจ้าใส่อะไรก็ดูดีก็ดูดีมากเลยนะ」

 

「ขอบคุณค่ะ」อีวาโค้งคำนับอย่างสง่างาม

 

หลุยส์ที่มีท่าทางหยาบคายมากๆในตอนที่เขาพบกับเธอครั้งแรกนั้น ได้เปลี่ยนมาเป็นท่าทีสุภาพขึ้นตั้งแต่การพบกันครั้งที่สองเป็นต้นมาแล้ว

 

「กำไลข้อมืออันนั้นคืออะไรหน่ะ…? มันดูหยาบเกินไปเล็กน้อยสำหรับเครื่องประดับนะ」

 

ในสวนของอัญมณีที่อยู่บนกำไลนั้น 2 ใน 5 ของอัญมณีมรกตได้เปลี่ยนเป็นสีฟ้าแล้ว เหลือพื้นที่เก็บมานาเพียงแค่ 3 ก้อนเท่านั้น

 

「ชั้นได้รับอนุญาตให้สวมมันเข้ามาได้เป็นกรณีพิเศษน่ะค่ะ นอกจากนี้แล้วคนอื่นๆละคะ?」

 

「นี่ ก่อนหน้านั้นเรามาพูดคุยกันสักนิดดีไหม?」

 

อีธานและชาล็อตนั้นได้มาถึงกันแล้ว ทว่าพวกเขาอยู่กับเจ้าชายคลูฟชราท คลูฟชราทเองก็ต้องเข้าพิธีเหมือนกัน เขาก็เลยต้องอยู่ในพื้นที่สำหรับรอเข้าพิธีด้วยเหมือนกัน

 

เหล่าเด็กๆมากมายนอกจากอีธานกับชาล็อตต่างก็เข้าไปล้อมรอบตัวคลูฟชราท เมื่อคลูฟชราทสังเกตเห็นว่าอีวาได้มาถึงแล้ว เข้าก็หลุดปาก “อะ” ออกมา ทว่าตัวเธอก็ถูกลากตัวไปยังมุมนึงของศาลาโดยหลุยส์ในทันที

 

「ท่านหลุยส์คะ ชั้นจะต้องไปกล่าวทักทายท่านคลูฟชราทนะคะ…」

 

「ไว้ทีหลังก็ได้ไม่ใช่หรอ?」

 

เพราะน้ำเสียงที่แข็งกว่าทุกที—เธอเลยนึกถึงความเอาแต่ใจของเขาในครั้งแรกที่เจอกัน—อีวาจึงต้องเชื่อฟังอย่างไม่เต็มใจแล้วนั่งลงข้างๆหลุยส์

 

(ถ้าเรย์จิอยู่ที่นี่ละก็ ชั้นมั่นใจเลยว่าเขาจะเข้ามาขัดแน่นอนเลย)

 

โชคไม่ดีที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ และตัวเธอเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมเท่าไหร่ด้วย

 

「มิสอีวา ข้าจะเริ่มฝึกดาบภายใต้การชี้นำของกัปตันอาเธอร์ละ ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่นอนเลย」

 

「…ยินดีด้วยนะคะ」

 

「ขุนนางนั้นต้องการความรู้ ทว่าพวกเขาเองก็ต้องการพลังต่อสู้ด้วยเหมือนกัน หากตัวขุนนางไม่กวัดแกว่งดาบด้วยตัวเอง ก็จะไม่มีเหล่านักรบผู้แข็งแกร่งคนไหนติดตาม หรือก็คือ ฝ่าบาทราชันศักดิ์สิทธิ์นั้นดูจะเชี่ยวชาญด้านหอกด้วยนะ」

 

ปรัชญาพวกนั้นไม่ได้สอดคล้องกับอีวาเลย เพราะมันเป็นเพียงแค่ความเห็นที่ถูกหยิบยกมาจากของอาเธอร์เท่านั้น ตัวอีวาเองก็ไม่คิดว่าขุนนางจะต้องการความแข็งแกร่งทางร่างกายอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว และพ่อของเธอ เอิร์ลซิวลิซส์นั้นก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม มันเป็นการยากที่จะปฎิเสธเรื่องนั้นเมื่อชื่อของราชันศักดิ์สิทธิ์ถูกหยิบยกขึ้นมาแบบนี้ ดังนั้นเธอก็เลยเงียบเอาไว้

 

「ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นเจ้าก็ควรจะเรียนให้หนักขึ้นเหมือนกัน」

 

「ค่ะ ชั้นจะพยายามให้ดีที่สุด」

 

「ข้าจะเป็นตัวแทนความแข็งแกร่งที่เจ้าขาดไปเอง」

 

「?」

 

อีวาเอียงหัวพร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่โผล่ขึ้นมาเต็มไปหมด แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะหลุยส์เอาแต่พูดเรื่องทฤษฎีที่เขาคิดขึ้นมาได้คนเดียวนี่นา

 

อีวาดูงดงามมากเลยจากการเอียงหัวแบบนั้น หลุยส์คิดกับตัวเอง

 

「หืมม? …มิสอีวา เจ้าดูไม่ค่อยดีเลยนะ」

 

เป็นครั้งแรกที่หลุยส์ดูจะคิดถึงสภาพของอีวา

 

「…ชั้นรู้สึกไม่สบายนิดหน่อยน่ะค่ะ」

 

「นั่นไม่ดีเลยนะ เอานี่ รับนี่ไปสิ」

 

หลุยนำดาบล้ำค่าที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเขาออกมาพร้อมกับฝักดาบ ก่อนจะยื่นมันให้กับอีวา

 

「ถือนี้ไว้จะทำให้รู้สึกดีขึ้นนะ มันเป็นดาบที่มีเวทย์ป้องกันเยอะแยะเลยละ แถมข้าก็ไม่รู้สึกเหนื่อยตอนพกมันไปมาด้วย」

 

「แต่ มันเป็นของสำคัญนี่คะ」

 

「ขะ-ข้าไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเป็นเจ้า」

 

ดาบล้ำค่าที่ถูกยื่นมาให้กับเธอนั้นดูจะสร้างความอบอุ่นให้กับมือของเธอ—มือเย็นๆของเธอ อีวารู้สึกสะบาย

 

เธอไม่ได้อยากจะถือมันเอาไว้ ทว่า…

 

(อุ่นจังเลย และรู้สึกง่วงแบบแปลกๆ…)

 

เนื่องจากอีวานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ข้างกำแพง และหลังของเธอก็ชิดอยู่กับกำแพงด้วย เธอก็รู้สึกง่วงขึ้นมาทันใด หลังจากนั้นแปปเดียว มิร่าก็มาถึงที่ที่ทั้งสองคนอยู่

 

「…ท่านอีวาคะ?」

 

「ชู่วว… เธอดูจะอาการไม่ค่อยดีหน่ะ ปล่อยให้เธอพักซักหน่อยแล้วกัน」หลุยส์พูดขึ้น

 

ทั้งสองคนออกห่างจากอีวาที่กำลังเริ่มสัปหงกไปสักพักอย่างเงียบๆ ทั้งหลุยส์และมืร่าต่างก็เป็นคนอ่อนโยน

 

หลังจากนั้นสักพัก เมื่อมีเสียงกระดิ่งเล็กๆดังใกล้เข้ามา เหล่าเด็กๆที่กำลังรออยู่ในศาลาก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวขึ้น

 

「กระต่ายละ」

 

「โอ๊ะ จริงด้วย กระต่ายละ」

 

「นี่ นั่นท่านนักบวชระดับสูง ท่านเอลนะ」

 

เอลผู้ที่ดูเหมือนกับกระต่ายที่สวมชุดคลุมสีฟ้านั้น ได้เข้ามาพร้อมกับนักบวชอีกหลายๆคน

 

「เออ, ทุกท่าน, ขอบคุณสำหรับการเฝ้ารอนะขอรับ, พวกเราจะนำพวกท่านไปยังสถานที่พิธีแล้ว, ทว่า โปรดถอดรองเท้าของท่านไว้ที่นี่ด้วยขอรับ, เออ, ขอบคุณสำหรับความร่วมมือขอรับ」

 

แน่นอนว่า ตัวของเอลที่เป็นคนพูดว่าให้ถอดรองเท้านั้นเองก็เท้าเปล่าด้วย – ถึงตั้งแต่แรกแล้วเขาจะเป็นกระต่ายก็เถอะ – และเหล่านักบวชทุกคนที่ติดตามเอลมาก็เองก็เท้าเปล่าด้วยเช่นกัน

 

เหล่าเด็กๆขุนนางต่างก็แสดงความไม่พอใจกัน ทว่าเมื่อคลูฟชราทถอดรองเท้าของเขาออกเป็นคนแรก พวกเขาก็เริ่มถอดรองเท้าของพวกเขาออกทีละคน

 

「เออ, โปรดสวมมงกุฎอันนี้เอาไว้บนหัวของพวกท่านด้วยขอรับ, มันเป็นใบไม้สีฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่จะปกป้องพวกท่านจากสิ่งชั่วร้ายขอรับ」

 

ใบไม้สีฟ้าที่เหมือนกับสีชุดคลุมของเอล—เหล่าเด็กๆขุนนางนอกจากเผ่าฮาล์ฟลิงอย่างอีธานนั้นไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีใบไม้สีแบบนี้อยู่ในธรรมชาติด้วย ใบไม้นั้นถูกร้อยเข้าด้วยกันจนเป็นมงกุฎ

 

「ท่านอีวาคะ ตื่นเถอะค่ะ! ได้เวลาไปแล้วนะคะ」

 

เมื่ออีวาลืมตาขึ้น เธอก็เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของมิร่า

 

「อา… ชั้น ชั้น–」

 

「ดูเหมือนพวกเราจะต้องถอดรองเท้าของพวกเรานะคะ ชั้นถอดของชั้นเรียบร้อยแล้วค่ะ」

 

「โอ้–」

 

ด้วยการกระตุ้นของมิร่า อีวาก็เลยถอดรองเท้าของเธอ เมื่อเท้าของเธอสัมผัสกับพื้นเธอก็รู้สึกเย็นๆ เธอได้ยินเสียงเจี็ยวจ๊าวของเหล่าชายหญิงที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเข้าไปในป่า

 

「เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง มิสอีวา?」

 

「ค่ะ รู้สึกดีขึ้นแล้ว นี่ค่ะ ชั้นจะคืนมันให้」

 

อีวาคืนดาบล้ำค่าให้กับหลุยส์ และสิ่งที่เธอพูดก็เป็นความจริง จากนั้นเธอก็เริ่มเดินออกไปอย่างมั่นคง

 

「งั้นหรอ นั่นดีแล้–เดี๋ยวสิ อย่าทิ้งข้าสิ!」

 

หลุยส์ไล่ตามหลังมิร่ากับอีวาที่เริ่มเดินออกไปแล้ว

 

ในตอนนั้น หลุยส์รับรู้ถึงเสียงเล็กๆอะไรบางอย่าง เสียงที่ราวกับอะไรบางอย่างแตกออก

 

「…คิดไปเองหรือปล่าวนะ?」

 

หลุยส์ไม่รู้เลยว่าจากเวทมนตร์ทั้งหมดที่ร่ายเอาไว้บนดาบล้ำค่าของเขานั้น หนึ่งในนั้นเป็น “ฟื้นฟูมานา”

 

มีเศษของอัญมณีสีฟ้าหล่นอยู่ที่เท้าของเขาในตอนที่เขาเดินออกไป

 

=========================================================

TL: ช่วงนี้ติดงานมหาลัยครับ ขออภัยที่ลงช้านะครับ

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset