บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ – ตอนที่ 6

ตอนที่ 6 เชือกหนึ่งเส้น
“เอาล่ะหม่าเจวียน ฉันว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ นะ เธอลองคิดดูสิ ถ้าไม่มีรองเท้านั่น ตอนนี้เธอจะเป็นยังไง? หัวคงจะแตกเลือดอาบแล้ว…ที่นี่เป็นยอดเขา หากเจ็บหนักขึ้นมาจริงๆ พวกเราคงพาเธอลงเขาไปรักษาไม่ทันแน่” ฟางอวิ๋นจิ้งนั่งยองลงตบหลัง หม่าเจวียน ช่วยให้เธอเบาความโกรธลง เพียงแต่ว่าขณะพูด นัยน์ตาฟางอวิ๋นจิ้งฉายแววสงสัย เธอกำลังคิดเหมือนกับจ้าวต้าถง ‘นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือ?’
หม่าเจวียนเองก็ไม่ใช่คนเขลา เมื่อครู่นี้เพิ่งล้มลง ตอนนี้ได้สติกลับมาแล้วก็ใคร่ครวญ พลันตัวสั่นระริกพลางเอ่ยขึ้น “อวิ๋นจิ้ง ต้าถง หูหาน ก่อนหน้านี้…เจ้าอาวาสบอกว่าฉันจะมีภัยนองเลือดไม่ใช่เหรอ? จากนั้นฉันก็เป็นแบบนี้ ถ้าเขาไม่วางรองเท้าไว้ นี่มันตรงตามคำพยากรณ์รึเปล่า? พวกเธอว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเขามองเห็นจริงๆ?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…เอ่อ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ดีกว่ามั้ง? แต่ฉันเริ่มกลัวแล้วนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเรารีบไปกันเถอะ” หูหานว่า
จ้าวต้าถงกล่าวต่อ “ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน พวกเรา…เอ่อ ฟางเจิ้งนายออกมาอีกแล้วเหรอ? เอาเชือกมาทำอะไร?”
ฟางเจิ้งมองจ้าวต้าถงอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “อมิตพุทธ นักบวชไม่พูดโกหก โยมอย่าถามเลย ถามแล้วเดี๋ยวโยมจะโกรธอีก”
พูดจบฟางเจิ้งก็ออกจากวัดไป
หม่าเจวียนมองเงาแผ่นหลังฟางเจิ้งพลางว่า “ฟางเจิ้ง ขอบคุณสำหรับรองเท้าที่ช่วยชีวิตฉันไว้นะ!”
“อื้ม” ฟางเจิ้งขานรับแล้วเดินไปไกล
“เขาเป็นคนซื่อจริงๆ…ตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยอีกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” หม่าเจวียนยิ้มเฝื่อน
ฟางอวิ๋นจิ้งพูดต่อ “ไม่ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า ฉันว่าพวกเรากลับกันก่อนดีกว่า วัดเอกดรรชนีมันแปลกๆ ตอนขึ้นเขา ชาวบ้านบอกว่าที่นี่ร้างไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ? พวกเธอดูสิ นี่มันร้างที่ไหนกัน? แล้วยังมีเจ้าอาวาสคนนี้อีก ไม่เห็นเหมือนหลวงจีนเลยสักนิด? ท่าทีก็ดูพิลึก…”
“พิลึกจริงๆ วัดนี้ก็แปลกด้วย ตอนเข้ามาให้ความรู้สึกจิตใจสงบ หลวงจีนนั่นก็ให้ความรู้สึกไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่พวกเธอเคยเห็นวัดไหนบ้างที่เป็นแบบนี้? จริงๆ นะ มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นผลจากธูปหลงใหลบางอย่าง…หรือไม่ก็ หลวงจีนนี่ก็เป็นปีศาจ” จ้าวต้าถงพูดเสริม
“นายพูดน้อยๆ คอยดูให้มากๆ ได้หรือเปล่า?” หูหานต่อว่า
“นายสั่งสอนฉันเรอะ? เอาเถอะ รีบไปกันดีกว่า” จ้าวต้าถงตอบ
หม่าเจวียนแทรกขึ้น “ไม่ตั้งแคมป์แล้วเหรอ?”
“เปลี่ยนที่ตั้งแคมป์เถอะ…” ฟางอวิ๋นจิ้งตอบ
หม่าเจวียนก็ไม่ได้คัดค้านอะไร พวกเขาออกจากวัดทันที เตรียมลงเขา แต่ก็เจอกับฟางเจิ้งที่เพิ่งกลับมาตรงปากทางลงเขา
“พวกโยมจะไปกันแล้วเหรอ?” ฟางเจิ้งไม่แปลกใจที่คนเหล่านี้จะลงเขาแม้แต่น้อย เพราะเขาเห็นอนาคตของจ้าวต้าถงก่อนแล้ว
พอเห็นสีหน้าฟางเจิ้งเหมือนรู้ทุกอย่าง พวกเขาก็รู้สึกขนลุกกว่าเดิม
จ้าวต้าถงหัวเราะเสียงดัง “ใช่ ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ต้องรีบลงเขา ฟางเจิ้ง พวกเราไม่รบกวนนายแล้วล่ะ”
ฟางเจิ้งพยักหน้า “ก็ดี พวกโยมค่อยๆ เดินล่ะ เส้นทางภูเขาสูงชัน ระวังด้วย”
พูดจบฟางเจิ้งชำเลืองตามองจ้าวต้าถงอีกครั้ง เห็นอีกฝ่ายดูไม่เป็นตัวของตัวเองจึงเดินจากไปช้าๆ
“ต้าถง นายว่าฟางเจิ้งนั่นชอบนายหรือเปล่า?” หูหานถาม
“จะบ้าเรอะ ฉันชอบผู้หญิง! อย่างน้อยก็ต้องเหมือนอวิ๋นจิ้ง” จ้าวต้าถงตำหนิด้วยความโกรธ
ฟางเจิ้งหน้าแดงเล็กน้อย ซ้ำยังว่ากล่าวไป “พูดอะไรกัน?”
“เฮอะๆ…” จ้าวต้าถงก็หน้าแดงเล็กน้อยแล้ว เกิดความไม่มั่นใจเล็กน้อยจึงเร่งฝีเท้าเดินไป
จ้าวต้าถงนำหน้า หูหานปิดท้าย สองสาวอยู่ตรงกลาง ไม่มีใครพูดอะไร
ระหว่างทางลงเขาพวกเขาคุยเล่นกัน ไม่นานก็ลืมเรื่องทุกข์บนเขาไป ตอนนี้เองจ้าวต้าถงพลันร้องเสียงหลง เดินลื่นเอาหัวปักลงไป!
แต่ว่าหูหาน ฟางอวิ๋นจิ้งและหม่าเจวียนห่างจากเขาอยู่ช่วงหนึ่งจึงดึงไว้ไม่ทัน เห็นจ้าวต้าถงตกหน้าผาไป สองสาวได้แต่ตกใจจนตะลึงค้าง
หูหานก็นิ่งอึ้งไปเหมือนกัน แต่ว่าก็ยังเป็นผู้ชาย มีปฏิกิริยาโต้ตอบรวดเร็ว รีบวิ่งไปดูสถานการณ์แล้วตะโกนเสียงดัง “จ้าวต้าถง! จ้าวต้าถง!”

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์

บนภูเขาเอกดรรชนีในเขตภูเขาอันไกลโพ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีวัดเล็กแห่งหนึ่งนามว่าเอกดรรชนี แต่กลับประหลาดอย่างยิ่ง ในวัดมีข้าว ส่งกลิ่นหอมโชยสิบลี้ ในวัดมีน้ำ หวานสดชื่นอย่างยิ่ง เลิศล้ำกว่าสุราชั้นดี ในวัดมีพระพุทธ หากจริงใจจะสัมฤทธิ์ผล วัดไม่ใหญ่แต่กลับมีทุกสิ่ง วัดไม่ใหญ่แต่ความคึกคักของเพลิงเทียนกลับเหนือกว่าวัดทุกแห่งหน และดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนจากภายนอกให้อดหลับอดนอนเรียงหน้ากันเข้ามา… ในวัดนี้มีหลวงจีนรูปหนึ่ง แม้ใจอยากสึก แต่กลับถูกระบบพุทธองค์ชั่วช้าจับตัวไว้ จำต้องอยู่ต่อไปเพื่อบรรลุอรหันต์ ได้แต่คอยพูดงึมงำอยู่ทุกวันว่า “อาตมาจะสึก จะหาภรรยาที่ไม่ต้องสวยมาก มีลูกน้อยด้วยกัน แล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset