บัลลังก์พญาหงส์ – ตอนที่ 494 จุดประสงค์

พอถาวจวินหลันกลับไปก็รีบเรียกหลิวเอินเข้ามาคุย เรื่องการหาหมอประเภทนี้นั้นยังต้องมอบให้หลิวเอินที่วิ่งไปมาข้างนอกไปจัดการถึงจะดี

 

 

ด้วยนางรีบร้อนเช่นนี้ก็ทำให้หลิวเอินตกใจจนไม่กล้าปล่อยปละละเลย พูดเพียงแค่ว่าใช้เวลาแค่วันเดียวก็สามารถหาหมอมาได้ เมื่อได้ยินเช่นนี้ถาวจวินหลันก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง จากนั้นก็ครุ่นคิดว่าจะให้หมอคนนั้นเข้าวังหลวงไปดูอาการไทเฮาอย่างไร

 

 

บางทีอาจจะต้องถามความคิดของไทเฮา? หากไทเฮารู้ว่านางรู้รายละเอียดแล้ว เกรงว่าไทเฮาคงจะไม่พอใจนัก แต่ในตอนนี้ไฉนเลยยังสนใจอะไรได้มากขนาดนั้น? ถาวจวินหลันคิดอย่างเย้ยหยัน ไม่ว่าอย่างไรไทเฮาก็ไม่ชอบตนเอง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลแม้แต่น้อย

 

 

หลังจากคิดวางแผนเรื่องของไทเฮาเสร็จแล้ว ถาวจวินหลันก็คิดถึงอาการบาดเจ็บของหลี่เย่ แล้วถึงได้รีบไปจัดการหายาที่หลี่เย่เคยใช้ตอนกระดูกหักก่อนหน้านี้ออกมาด้วยตนเอง

 

 

ตอนที่นางกำลังยุ่งวุ่นวายจนหัวหมุน โจวซื่อแม่นมของซวนเอ๋อร์ก็มาหา บอกว่ามีเรื่องต้องรายงาน

 

 

ถาวจวินหลันนึกว่าเป็นเรื่องซวนเอ๋อร์ จึงรีบไปพบแม่นมโจว แต่ยังไม่ทันที่นางจะถามอะไรออกไป แม่นมโจวก็นั่งคุกเข่าลงไปกับพื้นในทันใด “บ่าวมีเรื่องรายงานเจ้าค่ะ”

 

 

ดูท่าทางเช่นนี้ถาวจวินหลันก็รู้สึกมึนงงในทันใด “แม่นมโจวเป็นอะไรไปหรือ? มีอะไรก็ลุกขึ้นมาพูดเถิด คุกเข่าอยู่เช่นนี้ไม่เหมาะสม” ในใจนั้นอดคิดไม่ได้ว่า หรือแม่นมโจวจะไปทำผิดอะไรมา?

 

 

แม่นมโจวยังคงไม่กล้าลุกขึ้นมา พูดเพียงว่า “บ่าวหลุดปากออกไป บอกข่าวเรื่องที่ไทเฮาป่วยกับคนอื่นไปเจ้าค่ะ”

 

 

ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้ ถาวจวินหลันผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ แต่มองท่าทีของแม่นมโจวแล้วนั้นนางก็ถามอีกว่า “พูดให้ใครฟัง? มีคนได้ยินเยอะหรือไม่? ฝ่ายตรงข้ามตั้งใจถามเจ้าหรือว่าเจ้าเผลอพูดออกมา?”

 

 

ประโยคสุดท้ายนั้นถึงสำคัญที่สุด ถ้าพูดขึ้นมาด้วยความไม่ตั้งใจก็ยังแล้วไป มากที่สุดก็อธิบายได้ว่าแม่นโจวเป็นคนที่ไม่สามารถปิดบังความลับอะไรได้ แต่หากมีคนตั้งใจหลอกถาม นั่นก็จะแตกต่างกันออกไป

 

 

แม่นมโจวมีสีหน้ารู้สึกผิด “เป็นบ่าวที่อยู่ในหน่วยซักล้างเจ้าค่ะ นางรู้ว่าวันนี้บ่าวพาซวนเอ๋อร์เข้าวังหลวง จึงได้ถามเล็กน้อย บ่าวไม่ทันได้ระวังจึงได้พูดหลุดปากออกไป แต่มีนางเพียงคนเดียวที่ได้ยินเจ้าค่ะ ไม่มีคนอื่น”

 

 

ถาวจวินหลันพยักหน้า ส่งเสียงเรียกหงหลัว “เรื่องนี้มอบให้เจ้า เจ้าไปจัดการเถิด”

 

 

หงหลัวรับคำทันใด แล้วถึงได้ประคองแม่นมโจวออกไป ถาวจวินหลันหงุดหงิดยิ่งนัก หงลัวไม่กล้าให้แม่นมโจวรั้งนั่งอยู่ต่ออีก

 

 

ถาวจวินหลันกลับส่ายหน้าน้อยๆ หลังจากแม่นมโจวออกไป นางก็เข้าใจความคิดของแม่นมโจวเป็นอย่างดี เป็นเพราะกลัวว่านางรู้เรื่องนี้เข้าแล้วจะถูกสอบถาม ดังนั้นตอนนี้ถึงได้คิดว่าต้องรีบมาบอกนาง อย่างน้อยทำเช่นนี้แม้ว่าแม่นมโจวยังมีความผิด แต่นางก็ต้องคิดไว้หน้าที่แม่นมโจวคอยดูแลซวนเอ๋อร์อยู่บ้าง ไม่มีทางที่จะไล่บี้เรื่องนี้อย่างแน่นอน

 

 

นี่ถือเป็นดาบที่ต้องลงไม่ช้าก็เร็ว ไม่สู้ว่าพูดออกไปก่อน ถือว่าคลายความกังวลใจลงได้บ้าง

 

 

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้วแม่นมโจวถือว่าเป็นคนที่ฉลาด

 

 

ถาวจวินหลันครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างละเอียด สุดท้ายแล้วก็ยิ้มเย็น ไม่ได้คิดเอาการกระทำเล็กน้อยนี้เก็บเอาไว้ในใจ ไม่ว่าใครจะให้บ่าวคนนั้นมาลอบถาม ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากขนาดนั้น

 

 

ที่จริงแล้วสิ่งที่นางเป็นกังวลมากที่สุดกลับเป็นสถานการณ์ทางด้านฮ่องเต้ แม้จะบอกว่าหลี่เย่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ไม่แน่ว่าเป็นวิธีอำพรางตาของฮ่องเต้ ก็เหมือนกับไทเฮา ไม่ยอมให้ใครรู้อาการบาดเจ็บของตน

 

 

ไทเฮาอาจจะเป็นเพราะว่าศักดิ์ศรีของตนเองถึงทำให้อธิบายไม่ง่าย แต่ฮ่องเต้นั้นไม่เหมือนกัน ถ้าหากฮ่องเต้ไม่อยากปล่อยอำนาจ ถ้าเช่นนั้นร่างกายก็ไม่อาจล้มลงได้ หรือจะพูดว่าต่อให้สุขภาพร่างกายของเขาไม่ดี แต่เขาก็ไม่อาจให้ขุนนางเหล่านั้นรู้ได้

 

 

นี่ถือว่าเป็นภาพรวม

 

 

ไม่ว่าจะมองอย่างไร สถานการณ์ทั้งหมดในตอนนี้ล้วนส่งผลไม่ดีต่อหลี่เย่ อย่างแรกไทเฮาล้มลงอย่างกะทันหัน ต่อจากนี้เกรงว่าคงไม่สามารถช่วยหลี่เย่ทำอะไรได้หลายอย่าง อย่างที่สองเพราะว่าฮ่องเต้กริ้วมาก ร่างกายรับไม่ไหว

 

 

พูดให้ไม่น่าฟัง หากมีคนฉวยโอกาสลงมือลงไม้ในตอนนี้ องค์รัชทายาทอย่างไรก็เป็นองค์รัชทายาท แม้ว่าจะทำให้ฮ่องเต้โกรธเพียงนี้ แต่ถ้าหากคราวนี้ฮ่องเต้จากไปจริงๆ คนที่ขึ้นบัลลังก์ก็ต้องเป็นองค์รัชทายาท

 

 

ถาวจวินหลันครุ่นคิด สูดลมหายใจเข้าลึก ให้คนไปเรียกหลิวเอินเข้ามา

 

 

หลิวเอินออกไปจากจวนไม่นาน กำลังให้คนที่อยู่เบื้องล่างหาหมอฝีมือดี ก็ถูกถาวจวินหลันเรียกกลับเข้ามาในจวนตวนชินอ๋องอีกครั้ง

 

 

หลิวเอินเองก็งุนงงจับทิศจับทางไม่ถูก

 

 

ถาวจวินหลันไม่ปิดบังเขา สูดลมหายใจเข้าลึก “เรื่องลักลอบความสัมพันธ์ระหว่างองค์รัชทายาทและนางกำนัลเครื่องชาข้างกายฮ่องเต้ ภายในครรภ์มีเลือดเนื้ออยู่หนึ่ง ฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ก็โมโหมากจนสลบไป เกือบจะลมจับ ส่วนไทเฮาก็ลมจับหน้ามืดไปเช่นเดียวกัน ตอนนี้ร่าวกายไม่สามารถขยับได้ ทว่ายังมีสติปัญญาครบถ้วน”

 

 

หลิวเอินตกใจ ที่มากกว่านั้นคือความตื่นตะลึง ข่าวนี้ตามปกติแล้วไม่ใช่เรื่องที่คนอย่างพวกเขาควรจะรู้ แต่คิดไม่ถึงว่าถาวจวินหลันจะบอกเขาตรงๆ เช่นนี้

 

 

“ข้าจะให้เจ้าเอาเรื่องน่าอายที่องค์รัชทายาททำกระจายออกไป” ถาวจวินหลันพูดความคิดในใจของตนอย่างเคร่งเครียด มองไปยังหลิวเอินนิ่ง “อีกอย่างข้าอยากให้เรื่องนี้เริ่มกระจายไปจากจวนจวงอ๋อง”

 

 

หลิวเอินเลิกคิ้ว ยิ่งรู้สึกตกใจมากกว่าเดิม นี่จะทำลายชื่อเสียงขององค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ? แล้วยังจะป้ายสีให้กับจวงอ๋อง? คราวนี้ดูเหมือนจะเล่นใหญ่เกินไปเสียหน่อย อีกทั้งไม่รู้ว่าหลี่เย่คิดอย่างไร

 

 

“ตอนนี้ท่านอ๋องอยู่ในวังหลวง ยังไม่สามารถกลับมาได้” ถาวจวินหลันถอนหายใจออกมา “แม้ว่าจะเป็นการแสดงความกตัญญู ถ้าหากฮ่องเต้ไม่ได้เป็นอะไรจริง เขาที่เป็นคนป่วยคนหนึ่งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเฝ้าอยู่ตลอด ดังนั้นข้าจึงสงสัยว่าอาการป่วยของฮ่องเต้คงไม่ได้เป็นจริงเช่นนั้น”

 

 

เพียงแค่ดูท่าทีของหลิวเอินก็ล่วงรู้ได้ว่าเขาเข้าใจความหมายของนางแล้ว ถาวจวินหลันพูดจริงจังต่อไป “ดังนั้นจะต้องเริ่มจัดเตรียมให้พร้อมตั้งแต่ตอนนี้ เตรียมหมอหลวงคนนั้นให้ไทเฮา ตอนที่จำเป็นก็ใช่ว่าฮ่องเต้จะใช้ไม่ได้ ส่วนองค์รัชทายาทที่ก่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ไม่เพียงแค่ทำลายกฎเกณฑ์ แล้วยิ่งไม่มีมารยาทมากกว่า เป็นองค์รัชทายาทนั้นทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ในเมื่อองค์รัชทายาทยังเป็นเช่นนี้ ก็หมดความน่าเชื่อถือในตำแหน่งองค์รัชทายาทแล้ว”

 

 

ใช้โอกาสครั้งนี้กำจัดองค์รัชทายาท แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่สำเร็จ แต่ก็เป็นการลดทอนอำนาจขององค์รัชทายาท ทำลายศักดิ์ศรีขององค์รัชทายาทให้หมดสิ้น อีกทั้งทำนบพันลี้ทลายลงมา เนื่องจากรังมดที่เจาะอยู่ภายใน เรื่องครั้งนี้ก็ถือเป็นการสั่งสมอีกครั้งหนึ่ง

 

 

อย่างไรมีเรื่องครั้งนี้ ก็จะต้องมีครั้งที่สอง จะต้องมีสักวันที่เรื่องนี้กลายเป็นจริง

 

 

ขอเพียงแค่รัชทายาทโดนปลด ถึงจะวนมาถึงหลี่เย่ได้ ดังนั้นนางจำเป็นจะต้องทำเช่นนั้น ส่วนเหตุผลที่ป้ายความผิดให้จวงอ๋อง แม้ว่าจวงอ๋องจะไม่ได้น่ากลัวเท่าองค์รัชทายาท แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่น่ากลัวเลย ฉวยโอกาสครั้งนี้ทำให้ฮ่องเต้ไม่พอใจจวงอ๋องจะดีที่สุด

 

 

อีกอย่าง ยังสามารถทำให้พรรคพวกของฮองเฮา องค์รัชทายาท และจวงอ๋องตีกันได้ จากนิสัยของฮองเฮาแล้ว จวงอ๋องทำเรื่องเช่นนี้ ฮองเฮาจะต้องเรียกเก็บหนี้แค้นเป็นแน่ ไม่มีทางปล่อยจวงอ๋องไปอย่างง่ายดาย และจวงอ๋องเพื่อปกป้องตนเอง ย่อมต้องตอบโต้ฮองเฮาเป็นแน่

 

 

เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาทั้งสองฝ่ายจะต้องลดความหวาดระแวงและความกดดันที่มีต่อหลี่เย่ลง โดยเฉพาะฮองเฮา

 

 

ทำเช่นนี้ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว อย่างไรเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ช่วยปัดกวาดให้หลี่เย่เรียบร้อยแล้ว

 

 

หลิวเอินเลื่อมใสถาวจวินหลันเล็กน้อย ความเด็ดเดี่ยวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายแล้วทางด้านหลี่เย่…

 

 

ถาวจวินหลันเห็นความลังเลของหลิวเอิน จึงพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “เจ้าเพียงแค่ลงมือทำเท่านั้น ทำแล้วมีแต่ประโยชน์ไม่มีผลร้าย ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้น ก็ให้ผลักมาให้ข้าทั้งหมด บอกแค่ข้าทำเพื่อซวนเอ๋อร์ ท่านอ๋องไม่รู้เรื่องนี้!”

 

 

ในความเป็นจริงแล้วหลี่เย่เฝ้าฮ่องเต้อยู่ตลอด ย่อมต้องไม่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

 

 

หลิวเอินมองถาวจวินหลันอย่างตื่นตะลึง อดร้อนใจไม่ได้ รับคำเสียงสั่น “ขอรับ บ่าวฟังคำชายารอง” เพียงแค่ชายาเอกคนเดียวนี้ จวนตวนชินอ๋องไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชนะ จวนของท่านอ๋องและองค์ชายคนอื่นนั้นไฉนเลยจะมีเช่นนี้? ต่อให้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็สามารถเอามาเทียบได้บ้าง

 

 

ถาวจวินหลันกำชับหลิวเอินอย่างจริงจังต่อเรื่องนี้ “เรื่องนี้ข้ามอบให้เจ้า ข้าเองก็มอบชีวิตของข้าเอาไว้ให้เจ้าแล้ว จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ต้องดูว่าเจ้าทำเช่นไร เจ้าจะต้องระวังให้ดี”

 

 

หลิวเอินเองก็รับคำอย่างจริงจังเช่นกัน “ต่อให้บ่าวจะต้องโยนชีวิตของบ่าวออกไป ก็จะต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดีขอรับ”

 

 

“ไปเถิด ข้ารอข่าวดีของเจ้า” ถาวจวินหลันสูดหายใจเข้าลึก ยิ้มอย่างมีเมตตา

 

 

หลิวเอินขอตัวออกไป ในใจนั้นฟุ้งซ่านเหมือนน้ำทะเลที่พัดพา แผนการที่วางมานานหลายปีนี้ คราวนี้เหมือนว่าจะเริ่มมองเห็นความสำเร็จแล้ว นี่จะไม่ให้นางฟุ้งซ่านได้อย่างไร?

 

 

ถาวจวินหลันสั่งการทุกเรื่องเสร็จแล้วก็รู้สึกเหนื่อยมาก แต่เดิมพอเข้าวังหลวงไปครั้งหนึ่งร่างกายของนางก็รู้สึกว่าหมดเรี่ยวแรง ในตอนนี้ยิ่งต้องมาคิดเรื่องมากมาย ก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวทนไม่ไหว

 

 

ปี้เจียวเห็นเช่นนั้นก็รีบก้าวขึ้นมาเอาน้ำมันสะระแหน่ไปนวดขมับให้ถาวจวินหลัน การทำเช่นนี้จะช่วยลดอาการปวดหัวได้บ้างบางส่วน ทำให้ถาวจวินหลันรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

 

 

ถาวจวินหลันตัดสินใจหลับตาลงพักผ่อน แม้จะบอกว่าพักผ่อน แต่หลังของนางก็ยังยืดตรง ความคิดภายในหัวไม่ได้หยุดเลยแม้แต่วินาทีเดียว

 

 

ผ่านไปครู่หนึ่งถาวจวินหลันก็ลืมตาขึ้นมา สั่งปี้เจียว “ไป เจ้าไปหาองค์หญิงเก้า บอกว่ายาประสานกระดูกที่ได้รับมาครั้งที่แล้ว ถามว่านางยังมีอยู่หรือไม่”

 

 

ในความเป็นจริงแล้วยานั้นเป็นเรื่องโกหก การถ่ายทอดคำพูดนั้นเป็นความจริง หลังจากสั่งเสร็จแล้วนางก็ให้ปี้เจียวเข้ามาใกล้ พูดกระซิบข้างหูนางว่า “เจ้าเล่าให้องค์หญิงเก้าฟังเสียหน่อย บอกนางว่าการกระทำขององค์รัชทายาทนั้นไม่ถูกศีลธรรม ควรจะกำจัด ให้น้องถ่ายทอดบอกน้องชายของข้า อีกอย่างให้เชิญนางเข้าวังหลวงไปเยี่ยมไทเฮา ฮ่องเต้และองค์รัชทายาท ดูว่าสถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง”

 

 

ที่จริงแล้วในใจของถาวจวินหลันรู้ดี ในตอนนี้องค์หญิงเก้าอาจจะรู้อะไรบ้างแล้ว แต่ข่าวคราวขององค์หญิงเก้าไม่ได้เร็วมากนัก ดังนั้นนางยังต้องให้คนไปอธิบายเรื่องให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง นางเชื่อว่าองค์หญิงเก้าจะต้องยืนอยู่ข้างหลี่เย่ และถาวจิ้งผิงก็จะต้องช่วยหลี่เย่ตีพรรคพวกขององค์รัชทายาท

 

 

ไม่เพียงแค่ทางด้านตระกูลถาว แม้แต่ตระกูลเฉิน ถาวจวินหลันก็สั่งให้คนลอบส่งข่าวสารไปให้ถาวซินหลันเช่นเดียวกัน ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากสิ่งที่บอกองค์หญิงเก้ามากนัก

 

 

ถาวจวินหลันไม่ได้คิดจะใช้กำลังของตระกูลเฉิน แต่เมื่อคิดว่าเฉินฟู่เป็นคนที่สามารถออกหน้าออกตาในราชสำนักได้บ้าง

 

 

สุดท้ายแล้วถาวจวินหลันก็ให้คนถ่ายทอดคำพูดไปยังซินพาน ด้วยเป็นแม่ทัพถืออำนาจทางการทหาร ซินพานยื่นฎีกาขอปลดองค์รัชทายาทก็ถือว่ามีน้ำหนักมาก

 

 

แต่ที่นางอยากให้ซินพานทำนั้น ไม่เพียงแค่กำจัดองค์รัชทายาท ยิ่งไปกว่านั้นคือกำจัดจวนเหิงกั๋วโหว แค่หาเหตุผลง่ายๆ สักข้อหนึ่งมาใช้ แม้จะบอกว่าผิดต่อจวนเหิงกั๋วโหว แต่ใครกลัวเล่า? แต่เดิมนั้นก็ไม่ใช่คนที่เดินร่วมทางเดียวกัน และไม่ได้แตกต่างอะไรจากศัตรู แล้วยังจะต้องคำนึงอะไรอีก?

 

 

จุดประสงค์ที่นางทำเรื่องมากมายเช่นนี้ก็ง่ายดาย มีเพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ…

บัลลังก์พญาหงส์

บัลลังก์พญาหงส์

ตัวนางเป็นลูกขุนนางนักโทษ ขายตัวเองและน้องสาวเข้ามาเป็นนางกำนัลต่ำต้อยในวัง เถาจวินหลันต้องยอมรับชะตากรรมเช่นนี้จริงๆ หรือ? จะต้องใช้ชีวิตอย่างน่าอัปยศอดสู แล้วตายไปอย่างเงียบๆ เช่นนั้นหรือ? นางจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด! นางมีทั้งความสามารถและหน้าตาอันงดงาม อำนาจ ครอบครัว ความรัก…นางต้องการมันทั้งหมด! ส่วนพวกปรปักษ์มันจะต้องโดนทำลายจนย่อยยับ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset