บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 371 ท่านอ๋องสลบไปแล้ว

หยู่เหวินเห้าไม่พูดไม่จา เพียงแค่ยื่นมือเช็ดหน้าผาก สายตาเหลือบมองดูเตา ถ่านไฟแรงมาก ทำให้จิตใจหงุดหงิดไปด้วย
“ท่านอ๋อง กี่คนกันแน่?”อะซี่ร้อนใจมาก
หยู่เหวินเห้ายกมือ บ่งบอกว่า “เจ้าไม่ต้องเร่ง ข้าฟังได้ยินไม่ชัด”
หัวของหยวนชิงหลิงค่อยๆพิงบนเก้าอี้กุ้ยเฟย ทอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ตั้งใจฟัง”
หยู่เหวินเห้าย้ายเครื่องตรวจด้วยตนเอง ฟังทั่วทุกทิศ ฟังถึงสุดท้าย สีหน้าขาวซีด ยังไม่ตายใจ ตั้งใจฟังต่อ แต่สิ่งที่ได้ยิน ก็เป็นเช่นนี้แหละ
“ท่านอ๋อง หนึ่งคนหรือสองคนกันแน่?”หยวนหย่งอี้ก็ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ จนจำไม่ได้แล้วว่าตนเองกลัวเขา
หยู่เหวินเห้าเหงื่อไหลท่วมตัว ค่อยๆชูนิ้วขึ้นสามนิ้ว พร้อมพูดว่า “สาม”
“สาม?”คนในห้อง นอกจากหยวนชิงหลิง ทุกคนต่างก็ร้องออกมาอย่างตกใจ แม้แต่ทังหยางกับสวีอีที่อยู่ด้านนอกประตู ต่างก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตู และก็ร้องตามขึ้นมา
มีสิ่งของอะไรตกลงพื้น “ตุ๊บ”อย่างเสียงดัง
“ท่านอ๋อง”สวีอีกับทังหยางรีบวิ่งเข้ามา ประคองหยู่เหวินเห้าที่เป็นลมอยู่บนพื้น บีบๆนวดๆ จนในที่สุดหยู่เหวินผู้ขี้ขลาดก็ถูกหยิกจนฟื้นขึ้นมา
หยู่เหวินเห้ายืนขึ้นมาอย่างสั่นเทา มองดูหยวนชิงหลิง วินาทีนี้ เขาแทบอยากจะตาย
ทันใดนั้น เขาก็กระโดดขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “เสด็จปู่ให้หยกมาสามลูกใช่ไหม? เอากลับไปคืน รีบเอากลับไปคืนเขา”
ทังหยางรีบดึงเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านอย่าใจร้อน นี่เป็นเรื่องที่ดี”
หยู่เหวินเห้าแทบอยากจะกลืนกินทังหยาง จิตใจกระสับกระส่าย คำรามออกมาอย่างต่อเนื่องว่า “เป็นเรื่องที่ดี? ถือว่าเป็นเรื่องดีตรงไหน? ข้านอนกับนางแค่ไม่กี่ครั้งเองก็ท้องสามคนแล้ว? ไม่….เรื่องนี้ไม่สำคัญ ถึงแม้เรื่องนี้ก็สำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทังหยาง เจ้าเคยเห็นผู้หญิงท้องแฝดกี่คน? แฝดคู่ก็อันตรายแล้ว อย่าว่าแฝดสามเลย ยิ่งอันตราย เจ้ารู้ไหม?”
แม่นมสี่รีบดึงเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ท่านอ๋อง อย่าพูดจาไม่เป็นมงคล ท่านทำให้พระชายาตกใจแล้ว”
หยู่เหวินเห้ารีบหุบปาก หันไปมองดูหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงก็มีความคิดอยากที่จะตาย ดวงตาแดงก่ำ เหมือนกำลังอยากร้องไห้ ร้องไห้ไม่ออก อยากหัวเราะ ก็หัวเราะไม่ออก สับสนอย่างมาก
หยู่เหวินเห้ารู้สึกเจ็บปวดใจ เดินไปกอดนางไว้ พูดปลอบด้วยเสียงเบาว่า “ขอโทษ ขอโทษ ข้าดีใจมาก ข้าแค่กลัว ข้าแค่เป็นห่วง……”
สมองของเขาสับสนอย่างมาก และก็พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะพูดปลอบอย่างไรหรือทำยังไงให้นางมีความสุขบ้าง
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ ช่วงนี้นางถอนหายใจค่อนข้างบ่อยมาก แต่ความสามารถในการยอมรับของนางค่อนข้างดี เรื่องวิญญาณสามารถข้ามภพมาได้อย่างเหลือเชื่อนี้ นางยังยอมรับได้ ท้องแฝดสาม จะเป็นอย่างไร?
ท้องแฝดสาม จะเป็นอย่างไร?
ช่างซวยจริงๆ
สวีอีกลับไม่เป็นกังวลเลยสักนิด เพียงแค่มองดูหยู่เหวินเห้าอย่างชื่นชม พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านเก่งจังเลย ครั้งเดียวได้ถึงสาม”
หยู่เหวินเห้าอยากสับสวีอีให้ละเอียดเป็นหมื่นๆชิ้น
ทุกคนต่างเงียบไม่พูดไม่จา
แล้วก็เป็นอย่างที่หยู่เหวินเห้าพูด ไม่ใช่ไม่ดีใจ ดีใจอย่างแน่นอนอยู่แล้ว ท้องแฝดสาม เป็นมงคลอย่างยิ่ง
แต่ก็เป็นดั่งที่หยู่เหวินเห้าเป็นกังวล หากจะคลอดแฝดสาม เท่ากับเป็นการเอาชีวิตเข้าไปในประตูผีแล้วครึ่งหนึ่ง ต่อให้สุดท้ายแม่ปลอดภัย แต่ลูกทั้งสามก็ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด อาจสามารถมีชีวิตได้เพียงคนเดียว สองคน หรืออาจไม่รอดทั้งสามคน
นี่ใช่ว่าพวกเขาเป็นกังวลไปเรื่อย ความจริงแล้ว เคยมีตัวอย่างให้เห็นอยู่
อีกอย่าง หากเป็นแฝดสามจริง เริ่มตั้งแต่อายุครรภ์กดเจ็ดเดือน ก็ต้องนอนติดเตียงแล้ว
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ ยังไม่ต้องบอกคนในวัง”
นางตั้งใจให้หมอหลวงกลับไปก่อน ค่อยเอาเครื่องฟังเสียงหัวใจออกมา
หยู่เหวินเห้าค่อยๆโอบกอดนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “หากภายในวังรู้เรื่อง จะต้องส่งคนแล้วคนเล่ามาเฝ้าดูแน่ เจ้าอย่าคิดว่าจะได้หายใจสะดวกเลย”
“พระชายา ท่านแน่ใจแล้วจริงๆหรือ?” แม่นมสี่ถามขึ้น นางจ้องมองดูเครื่องตรวจฟังเสียงหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “สิ่งของนี้สามารถฟังรู้ว่าข้างในมีกี่คนจริงๆหรือ?”
“อย่างน้อย ก็แม่นยิ่งกว่าหมอหลวงจับชีพจร”หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
หยู่เหวินเห้ามองดูนาง เหมือนกับมองดูสิ่งของล้ำค่า เฮ้อ แผนการแย่งชิงบัลลังก์ แผนการแก้แค้นอะไรก็ไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือปกป้องนาง
จะให้คลาดสายตาไม่ได้เลย
เขาใช้สวีอีกลับไประดมพลทหาร มาเฝ้าหอสิงหนิงทั้งด้านหน้าด้านหลังไว้อย่างแน่นหนา ยังส่งคนไปตรวจเวรยามตรงประตูด้านหน้าด้านหลังอีกหลายคน หากพบบุคคลน่าสงสัย ให้จับตัวไว้ทันที
เขายังสั่งกำชับหมันเอ๋อกับอะซี่ ห้ามไปจากพระชายาพร้อมกันเด็ดขาด จะต้องมีหนึ่งคนคอยเฝ้านางไว้
เมื่อสั่งการทุกอย่างแล้ว เขาก็นั่งอยู่ด้านข้างหยวนชิงหลิงอย่างหนักใจ จับมือของนางไว้ พร้อมมองดูนางอย่างไม่พูดไม่จา
หยวนชิงหลิงมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เจ้าไปทำงานของเจ้าเถอะ อย่าเอาแต่อยู่กับข้าที่นี่ เสด็จพ่อรู้เข้า จะโกรธเจ้าอีก”
“เขาให้ข้ามาเฝ้าเจ้า วันละมื้อเอง”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “เจ้าห้า เขาเป็นฮ่องเต้ เจ้าจะไม่เชื่อฟังเขาไปตลอดไม่ได้ เขาให้เจ้ามาอยู่เป็นเพื่อนข้า นั่นเป็นเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือด หากเจ้าหน้าไหว้หลังหลอก เขาจะไม่พอใจ”
หยู่เหวินเห้าจะไม่รู้หรือ?
ที่จริงเขารู้จักเสด็จพ่อเป็นอย่างดี ไม่เชื่อฟังเป็นบางครั้งได้ แต่จะท้าทายอำนาจของเขาไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อเขาโกรธขึ้นมาจริงๆ ก็จะเหมือนสิงโตโกรธ
“ไปทำงานของเจ้าเถอะ ข้าไม่เป็นไร” หยวนชิงหลิงเอานิ้วมือประสานกับนิ้วมือของเขา คิดถึงคำพูดประโยคนั้นของเขา แล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ และพูดขึ้นว่า “ใช่ ยังมีอีกเรื่อง เรื่องแฝดสาม ระหว่างตั้งครรภ์โดยรวมแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก”
แววตาหยู่เหวินเห้าแวววาว พูดขึ้นด้วยเสียงแหบว่า “หากสามารถทำให้พวกเจ้าปลอดภัย ชั่วชีวิตนี้ไม่ต้องคิดก็ไม่เป็นไร”
“จริงหรือ?”หยวนชิงหลิงมองดูเขา
“จริง”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างจริงจัง
หยวนชิงหลิงหัวเราะ ตาคิ้วฉายแววซาบซึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไปเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมา”
“เฮ้อ ไม่วางใจ”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นด้วยเสียงเบา
“แบบนี้เจ้าทำให้ข้าค่อนข้างลำบากใจ”
เขาจ้องมองดูนาง โน้มตัวจุมพิตบนหน้าผากหนึ่งที จากนั้นก็ลูบหน้าท้องของนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างขมขื่นว่า “สวีอีพูดถูก ทำไมข้าถึงได้เก่งขนาดนี้? ครั้งเดียวได้ถึงสามคน”
เขาทุกข์ใจมาก ภายในใจทุกข์ระทมย่างที่สุด
พวกเขาอยู่ด้วยกันยังไม่นาน นางก็ตั้งครรภ์แล้ว และครรภ์ก็ปกติ ทำให้ชีวิตที่มีความสุขของเขาเกิดความผิดพลาดขึ้น
ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ก็มีแต่เรื่องตกอกตกใจ ไม่เคยมีชีวิตที่สงบสุข
ตอนนี้ตอนกลางคืนไม่มีนางนอนเคียงข้าง ทำให้รู้สึกว่าภายในห้องเงียบเหงาว่างเปล่า เขาไม่อยากกลับไปเลยสักนิด
ที่ที่ไม่มีนาง เหมือนไม่ใช่บ้าน
อยู่ต่ออีกสักพัก เขาค่อยจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
บอกคนในวังไม่ได้ แต่ฮูหยินใหญ่เคยคลอดบุตรหลายคน นางมีประสบการณ์ ดังนั้นแม่นมสี่เห็นว่า ควรที่จะบอกฮูหยินใหญ่
หยวนชิงหลิงก็เห็นด้วย
ฮูหยินใหญ่ค่อนข้างเข้มแข็ง ไม่ได้เป็นลมล้มพับ เพียงแค่เบิกตาโตมองดูหยวนชิงหลิงอยู่เนิ่นนาน ค่อยพูดเล็ดลอดไรฟันออกมาว่า “ดี”
หลังจากนั้น ฮูหยินใหญ่กลับไปภายในห้อง สั่งให้ซุนมามาหาตำรา ดูพวกที่บันทึกเกี่ยวกับแฝดสาม มีประสบการณ์อะไรแนะนำบ้าง
จากนั้น นางตามหมอหลวงเฉามา ขอคำแนะนำอย่างอ่อนน้อมว่า “หมอหลวง ข้ามีเรื่องหนึ่ง อยากที่จะขอคำแนะนำ”
หมอหลวงเฉาให้ความเคารพฮูหยินใหญ่อย่างมาก จึงพูดขึ้นว่า “เชิญฮูหยินใหญ่ตรัสสั่ง”
ฮูหยินใหญ่ยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ามีลูกพี่ลูกน้อง หลานสาวของนางตั้งครรภ์ หมอบอกว่าเป็นแฝดสาม เจ้าว่าตั้งครรภ์แฝดสาม จะต้องระมัดระวังอะไรบ้าง?”

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset