บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 412 บัญชีดำวังหลัง

อีกอย่าง เขาก็ไม่ใช่คนโง่
ตอนนี้ได้ดองกับตระกูลกู้ ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน ความรุ่งเรืองยังไงก็ต้องมาถึง ยังไงตระกูลกู้ก็ต้องอยากให้ตระกูลลูกสะใภ้ของตนมีฐานะสูง
เขาเป็นคนที่ยืดได้หดได้คนหนึ่ง ทุกคนล้วนมีอนาคตที่ดี ล้วนควรมีคุณสมบัติเช่นนี้
ฮูหยินใหญ่หวังอยากให้เขาลาออกจากราชการ และก็เคยพูดกับหยวนชิงหลิง
ตอนนั้นหยวนชิงหลิงยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ตอนนี้เมื่อฟังเขาพูดเช่นนี้ ถอนหายใจแล้วก็รู้ว่าคนที่รู้จักลูกดีที่สุดก็คือคนเป็นแม่ ลูกชายของตนเองเป็นอย่างไร คนเป็นแม่รู้ดีที่สุด
คนอื่นรับราชการ มีแต่ชีวิตที่ดีขึ้นอยู่ทุกวัน
แต่เขารับราชการ กลับต้องส่งเงินให้คนอื่นทุกปี กลายเป็นคนขายบ้านขายหม้อขายกระทะ ยังไงจวนเจ้าพระยาจิ้งที่กว้างใหญ่นี้ ก็ไม่มีสิ่งของล้ำค่าอะไรแล้ว
เจ้าพระยาจิ้งเป็นลูกผู้ลากมากดี งั้นก็อยู่อย่างลูกผู้ลากมากดีต่อไปอย่างเดียวก็พอ
หยวนชิงหลิงพูดเตือนอีกครั้งว่า “ตอนนี้มีคนคอยจับตาดูจวนเจ้าพระยาจิ้งของเราทุกย่างก้าว หากเจ้าคิดจะไปหาคนข้างนอก วางแผนที่จะตบตาคน ยังไงก็ปิดบังไว้ไม่ได้ มีแต่จะกระทำให้ตระกูลประสบความหายนะ ท่านพ่อล้มเลิกความคิดนี้แต่แรกเถอะ”
เจ้าพระยาจิ้งพูดขึ้นอย่างเซื่องซึมว่า “มีคนจับตาดูจริงหรือ? งั้นเรื่องนี้ก็กระทำไม่ได้แล้ว”
ตอนนั้นเขายังชื่นชมในความฉลาดของตนเองอยู่เลย
“ฮ่องเต้ไม่ตัดหัวพวกเรา ยังไงข้าก็ยังเป็นแม่ของซื่อจื่อ เจ้าเป็นตาของซื่อจื่อ ขอเพียงท่านปฏิบัติตนสงบเสงี่ยม ลาออกจากราชการประพฤติตนเหมาะสม เมื่อฮ่องเต้หายโกรธแล้ว ก็จะไม่ลงโทษท่านอีก”
เจ้าพระยาจิ้งคิดเพียงว่านางมีความเห็นที่ธรรมดา
ฮ่องเต้ปูนบำเหน็จความดีความชอบและลงโทษอย่างชัดแจ้งยุติธรรม มีความผิดต้องได้รับการลงโทษ เพียงแต่ตอนนี้เพราะไม่มีชินอ๋องคนไหนคลอดซื่อจื่อ เขาจึงไม่เห็นแก่ลูกในท้องของหยวนชิงหลิงไม่ได้ จึงผ่อนปรนการลงโทษไว้
ก่อนหน้านี้พูดว่า หากคลอดซื่อจื่อ ก็จะละเว้นโทษ ก็จะเป็นไปตามนั้น
เพราะอ๋องฉู่ก็จะมีโอกาสได้รับแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท คนในตระกูลซื่อจื่อจึงจะต้องโทษไม่ได้ อย่างน้อย เมื่อสถานะยังไม่แน่นอน ก็ไม่มีทางเป็นไปได้
แต่หากคลอดออกมาเป็นจวิ้นจู่ ก็จะไม่เหมือนกันแล้ว
ดังนั้น เขาคิดว่าถึงแม้แผนการของตนเองจะค่อนข้างเสี่ยง แต่แอบเตรียมการไว้ยังไงก็ไม่ผิดแน่
เขามองดูท้องของหยวนชิงหลิงแว็บหนึ่ง แล้วถามขึ้นว่า “ตอนนี้เจ้าท้องได้กี่เดือนแล้ว?”
“ห้าเดือน” หยวนชิงหลิงรู้ว่าเขายังไม่ยกเลิกความคิดเดิม แต่ครั้งนี้ก็ไม่รีบร้อนที่จะพูดโน้มน้าวเขา ความจริงแล้ว เขาก็เตรียมการไม่ได้ เพราะประโยคต่อไปนี้ ทำให้เจ้าพระยาจิ้งนิ่งอึ้งอยู่กับที่ พร้อมพูดขึ้นว่า “แฝดสาม ดังนั้น หากท่านพ่อจะเตรียมการ งั้นก็ต้องเตรียมสามคน ถึงตอนนั้น ตบตาคนอื่น ก็ต้องเปลี่ยนสามคน”
เจ้าพระยาจิ้งโซซัดโซเซ แล้วก็พูดขึ้นว่า “อะไรนะ? สามคน?”
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเหมือนมีโคลนสีเหลืองจุกอยู่ที่คอของเขา
สามคนจะคลอดยังไง? คลอดสองคน ส่วนมากล้วนตายหนึ่งคน มีชีวิตหนึ่งคน สามารถมีชีวิตได้ทั้งสองคนมีไม่มาก
สามคน…ฮ่าๆ แม้แต่แม่ก็แทบจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ โดยเฉพาะร่างกายอ่อนแออย่างนาง จะสามารถทนคลอดได้สามคนหรือ?
อีกอย่างต่อให้เขาเป็นลิงขึ้นฟ้าได้ เขาก็ไม่สามารถสับเปลี่ยนเด็กทั้งสามคนภายใต้สายตาผู้คนมากมาย
ดังนั้น ภายในใจรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก เดินซวนเซออกไป
แม่นมสี่ฟังได้ยินจากด้านนอกแล้ว จึงเข้ามาถามหยวนชิงหลิงว่า “เรื่องนี้ท่านตั้งใจที่จะพูดเปิดเผยออกไปแล้วหรือ?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่จริงข้าคิดดูแล้ว ไม่ปิดบังก็ช่างเถอะ ตอนนี้เรื่องคุณหนูฮู่ ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว เรื่องอ๋องเว่ยก็จบไปในระดับหนึ่งแล้ว ต่อให้มีคนมาวุ่นวายกับข้ามากหน่อย ก็ไม่สำคัญแล้ว”
แม่นมสี่หัวเราะพร้อมพูดว่า “ใช่ หากในวังรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นขนาดไหน วันนั้นตอนที่เข้าวัง ข้าอดทนไว้อย่างมาก ไม่ได้เล่าให้ฉางกงกงฟัง”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างหดหู่ว่า “ข้ารู้สึกว่า ไท่ซ่างหวงสามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ก่อนหน้านี้เขามอบหยกสามลูกนั้นให้กับข้า ก็เป็นการยกให้ลูกทั้งสามคนของข้า”
“ไท่ซ่างหวงอัศจรรย์ขนาดนี้เลยหรือ? หากอัศจรรย์ขนาดนี้จริง ก็ดี อย่างน้อยหยกสามลูกนี้ก็สามารถมอบออกไปได้แล้ว”แม่นมสี่พูดขึ้นด้วยเสียงเบา
หยวนชิงหลิงมองดูนาง เห็นนางถึงแม้จะยิ้มแต่แววตากลับแฝงไปด้วยความกังวล จึงดึงมือของนางไว้พร้อมพูดปลอบว่า “เจ้าวางใจ ก่อนคลอด ข้าจะเตรียมการไว้อย่างดี”
“เตรียมการยังไง?”แม่นมสี่ถามขึ้น นางเป็นกังวลเรื่องนี้ทั้งวันทั้งคืนจริงๆ
“มีคนคนหนึ่งสามารถช่วยข้าได้ เป็นเจ้าอาวาสของวัดฮู่กว๋อ”หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้น
“เขา? เขาทำคลอดเป็นหรือ?”
“เขาผ่าท้องคลอดเป็น”หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
“อะไรนะ?”แม่นมสี่อึ้ง
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดปลอบโยนว่า “ไม่ว่ายังไง ข้าจะเตรียมการไว้อย่างดี เจ้าวางใจก็พอ”
แม่นมสี่ก็วางใจได้เพียงเล็กน้อย ถึงแม้พระชายาจะกระทำทุกอย่างได้อย่างรอบคอบมาตลอด แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนปกติ
ผ่านไปหลายวัน สถานการณ์ของเจ้าห้าก็ดีขึ้นแล้วอย่างมาก สามารถนอนพลิกตัวสามารถลงจากเตียงออกมาเดินได้แล้ว ที่สำคัญที่สุดก็คือ ในที่สุดเขาก็สามารถเดินไปยังห้องที่ต้องการได้ด้วยตนเองแล้ว
เมื่อหายดีแล้ว เขาก็เริ่มไปมาที่จวนเจ้าพระยาจิ้ง
รู้ว่าหยวนชิงหลิงบอกเรื่องแฝดสามให้เจ้าพระยาจิ้งรู้เรื่องแล้ว เขาจึงปรึกษากับหยวนชิงหลิง คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรบอกภายในวัง
หมอหลวงเฉาแทบจะร้องไห้กับการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้ ควรที่จะบอกตั้งแต่แรกแล้ว เขาต้องรับความกดดันอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ไว้เพียงคนเดียว ผมร่วงหล่นเป็นกำมือทุกคืน จนจะกลายเป็นคนหัว ล้านแล้ว
วันนี้หยู่เหวินเห้าพาหยวนชิงหลิงเข้าวัง ในฐานะที่เป็นพระชายาแล้วถูกฮ่องเต้ไล่กลับไปอยู่บ้าน ที่จริงหยวนชิงหลิงไม่มีสิทธิ์เข้าวัง อยู่ด้านนอกประตูวัง ก็มีทหารรักษาพระองค์ขวางไว้ เมื่อถามแล้ว แม้แต่หยู่เหวินเห้าก็ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเหมือนกัน ถูกดึงเข้าไปอยู่ในรายชื่อบัญชีดำแล้ว
หยู่เหวินเห้าอึ้ง ถามว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ทหารรักษาพระองค์ตอบว่า เริ่มตั้งแต่วันที่ฮ่องเต้แต่งตั้งฮู่เฟย
หยู่เหวินเห้าโกรธแทบตาย ไม่ว่าจะพูดดีอย่างไร แต่ทหารรักษาพระองค์ก็พูดเพียงว่า ฮ่องเต้มีราชโองการ ห้ามไม่ให้เข้า หากอ๋องฉู่บุกรุกเข้าไป ก็สามารถใช้อาวุธขับไล่ได้
หยู่เหวินเห้าโกรธจัด พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่อาวุธ? จะเห็นว่าข้าเป็นคนตายแล้วหรือ? มา มาตีท้องของนางเลย”
พูดเสร็จ เขาดึงมือทหารรักษาพระองค์คนนั้นมา แล้วยื่นไปที่ท้องของหยวนชิงหลิง
ทหารรักษาพระองค์ตกใจรีบถอยหดมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง อย่าทำให้กระหม่อมลำบากใจเลย กระหม่อมเพียงแค่ทำตามพระราชโองการ”
หยวนชิงหลิงดึงมือหยู่เหวินเห้าไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ช่างเถอะ เราไม่เข้าไปแล้ว”
หยู่เหวินเห้าก็โกรธอย่างมาก จึงพูดขึ้นว่า “อืม ไม่ไป ต่อไปมาเชิญพวกเราก็ไม่ไป เราคลอดลูกทั้งสามคนเสร็จ แล้วก็ไปท่องเที่ยวยุทธภพ ไม่ เราไปเก็บของตั้งแต่ตอนนี้ ไปจากเมืองหลวง”
พูดเสร็จ จูงมือหยวนชิงหลิงแล้วก็เดินจากไป
บีบบังคับให้เขาต้องป่าวประกาศให้รู้กันไปทั่ว ข้าก็ขี้ใจน้อยเหมือนกัน แล้วยังไง? มีภรรยางดงาม ยังจะต้องทำตัวน่าสงสารหรือ? อีกอย่าง ตัวเขาเองยังไม่อยากสู่ขอ แล้วทำไมจะต้องโยนมาให้เขา? หากมีใจแต่ไม่มีแรง ให้หมอหลวงจ่ายยาบำรุงให้กับเขา รับรองว่าเขาจะเป็นเหมือนดั่งเจ้าบ่าวมือใหม่ได้ในทุกค่ำคืน
ที่หยู่เหวินเห้าโกรธขนาดนี้ เพราะตนเองต้องเป็นแพะรับบาปมากมายขนาดนี้แล้ว ต้องแยกกันอยู่กับเจ้าหยวนเป็นระยะ และเรื่องราวก็มาถึงจุดจบสิ้นแล้ว แสดงพ่อก็ยังโกรธเขาขนาดนี้ ตอบแทนกันแบบนี้ ทำเกินไปแล้ว
ทหารรักษาพระองค์แปดคนตรงประตูหลักทิศตะวันออก ได้ยินอ๋องฉู่หยู่เหวินเห้าพูดประโยคสุดท้าย ต่างก็มองหน้ากัน หมายความว่าอย่างไร? เด็กสามคนหมายความว่าอย่างไร?
“ท่านอ๋องพูดว่าไปจากเมืองหลวง เรื่องนี้จะต้องทูลฮ่องเต้”ทหารรักษาพระองค์คนหนึ่งพูดขึ้น
“งั้นก็รีบไปเถอะ” อีกหลายคนรีบพูดขึ้น
ทหารรักษาพระองค์คนนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไป ไปถึงห้องทรงพระอักษร เรียนทูลมู่หรูกงกงว่าอ๋องฉู่ กำลังจะพาพระชายาไปจากเมืองหลวง
มู่หรูกงกงหัวเราะพร้อมพูดว่า “ไปไม่ได้ ตอนนี้พระชายากำลังตั้งครรภ์ จะสามารถไปไหนได้? เจ้ากลับไปเถอะ เดี๋ยวข้าจะไปทูลฮ่องเต้เอง”
ทหารรักษาพระองค์ยกมือทูลลา เดินไปได้สองก้าว แล้วทันใดนั้นก็ยืนนิ่งแล้วหันกลับมา

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset