บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 535 อาการป่วยของแม่นมสี่

หลังจากผู้ช่วยเจ้ากรมพาอะซี่ไปแล้ว เฉินจิ่นหนิงถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ผู้ช่วยเจ้ากรมคนนั้นอวดดีขนาดนี้ พระชายารัชทายาทไม่กลัวเขาใช้วิธีทรมานหรือ? อีกอย่าง ไม่มีความจำเป็นที่จะให้เขาพวกพาคนไป สงสารสาวน้อย”
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “จวิ้นจู่วางใจ ข้าตั้งใจให้พวกเขาพาตัวไป หากสุดท้ายความจริงไม่ใช่อะซี่ทำร้ายคน ก็จะไม่สามารถที่จะมาอีกครั้ง เพื่อจับตัวหมันเอ๋อไป ส่วนการใช้วิธีทรมาน พวกเขากล้าหรือ อะซี่ไม่ธรรมดานะ ตระกูลหยวนยิ่งไม่ธรรมดา”
นางเงยหน้าขึ้นมาพูดกับทังหยางว่า “เจ้าไปที่จวนตระกูลหยวน ไปบอกฮูหยินใหญ่ บอกว่าอะซี่ถูกใส่ร้ายว่าทำร้ายร่างกายตี๋เว่ยหมิงฮูหยินของแม่ทัพใหญ่ ถูกกรมการพระนครพาตัวไปแล้ว ให้ฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนไปดูหน่อย”
ทังหยางรับคำ หันตัวเดินไปแล้ว
จิ่นหนิงหัวเราะพร้อมพูดว่า “มีคนออกหน้าให้หรือ? พระชายารัชทายาทฉลาดมาก”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ตระกูลหยวนจัดการได้ดีกว่าข้าจัดการ สถานะของข้า ทำอะไรก็ถูกจับผิด แทนที่จะเดือดร้อน อยู่อย่างสงบดีกว่า”
“ใช่ ไม่สนุกเลย คนที่อยู่บนตำแหน่งสูงส่ง คนจับตาดูก็จะมีเยอะ จะก้าวพลาดกระทำผิดไม่ได้เลย”จิ่นหนิงพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย
หมันเอ๋อพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า “พระชายารัชทายาท บ่าวจะทำให้แม่นางอะซี่เดือดร้อนจนได้รับโทษไหม?”
“เจ้าไปถึงจะถูกลงโทษ นางไม่ได้รับโทษแน่ เจ้าไปดูแม่นมสี่ นางดีขึ้นบ้างหรือยัง?”หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
“ใช่”หมันเอ๋อหันหน้าเดินไปอย่างไม่ค่อยสบายใจ
แม่นมสี่ป่วยมาสองวันแล้ว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หลังจากทานยาแล้ว อาการไข้สูงลดลง แต่ก็ยังมีไข้อ่อนๆ คนก็ง่วงมาก นอนหลับไปหลายรอบแล้ว ก็ยังไม่หายง่วง
หลังจากหมันเอ๋อบอกหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงได้ยินว่ายังไม่หาย จึงไปดูด้วยตนเอง
แม่นมนอนจนตาบวมขึ้นมาบ้างแล้ว เห็นหยวนชิงหลิงมา นางฝืนลุกขึ้นมานั่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำให้พระชายารัชทายาทต้องเป็นห่วงแล้ว คนแก่แล้ว ใช้การไม่ค่อยได้แล้ว”
หยวนชิงหลิงดึงหมอนขึ้นมาหนึ่งใบ ยื่นไปหนุนตรงเอวให้นาง พร้อมนั่งลงพูดขึ้นว่า “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง? ยังรู้สึกไม่สบายอย่างมากไหม?”
“ไม่เป็นอะไรมาก แค่หลังจากตัวร้อน ก็ค่อนข้างเวียนหัว”แม่นมสี่นวดขมับ สีหน้าขาวซีดอย่างมาก
หยวนชิงหลิงมองดูใบหน้าของนางอย่างละเอียด แม่นมสี่เป็นหญิงมีอายุที่มีลักษณะพิเศษ ใบหน้างดงาม ตอนนี้แก่แล้ว แต่ก็ยังเห็นเค้าหน้าตอนยังอายุน้อย นางค่อยรับใช้ไท่ซ่างหวงอยู่ที่พระตำหนักฉินคุน ก็ไม่ได้เหน็ดเหนื่อย สิ่งของใช้ทุกอย่างล้วนเป็นของที่ดีที่สุด บวกกับไม่เคยมีลูก บำรุงดูแลตนเองเป็นอย่างดี เดิมใบหน้าแดงระเรื่อ นอกจากริ้วรอยตรงหางตา สีผิวนับว่าขาวสะอาด
แต่ตอนนี้ใบหน้าของนางเหมือนมีผื่นแดงขึ้นมาบ้าง ไม่ได้ชัดเจน แต่เพราะตอนนี้สีหน้าขาวซีด สีแดงจางลง จึงทำให้มองเห็นผื่นแดงพวกนั้น
“นี่คืออะไรหรือ?” หยวนชิงหลิงยื่นมือไปแตะดู พร้อมถามขึ้นว่า “คันไหม? เจ็บหรือไม่เจ็บ?”
แม่นมสี่ยื่นมือลูบดู พร้อมพูดขึ้นว่า “อะไรหรือ? ไม่เจ็บนี่ และก็ไม่คัน ไม่มีความรู้สึก มีอะไรหรือ?”
หมันเอ๋อจึงเอากระจกมาให้แม่นมสี่ส่องดู หมันเอ๋อพูดว่า “ปกติเหมือนจะไม่มีผื่นแดงพวกนี้”
แม่นมสี่มองดูใบหน้าของตนเองในกระจก แล้วก็รู้แปลกใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ถูกยุงกัดหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ยุงกัด? เหมือนเป็นผื่น”หมันเอ๋อพูดขึ้น
แม่นมสี่หัวเราะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “แก่ขนาดนี้แล้ว ยังจะมีผื่นอะไร?”
นางยื่นมือลูบดูสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “น่าแปลกจริงๆ ทำไมที่นี่ถึงไม่มีความรู้สึกแล้ว? นี่เกิดเป็นอะไรขึ้นมา? ความรู้สึกเจ็บก็ไม่มี”
หยวนชิงหลิงมองดูสักพัก พร้อมถามขึ้นว่า “นอกจากใบหน้า ยังมีตรงไหนมีผื่นแบบนี้อีก? รีบดู”
หมันเอ๋อไปช่วยแม่นมสี่ หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวรอก่อน หมันเอ๋อ เจ้าสวมถุงมือด้วย”
นางล้วงเองถุงมืออนามัยออกมาจากกล่องยาหนึ่งคู่ ยื่นให้กับหมันเอ๋อ หมันเอ๋อครุ่นคิดแปบหนึ่ง แล้วก็สวมใส่ไว้
สีหน้าแม่นมสี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย มองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นโรคอะไรหรือ?”
“ดูก่อน ไม่ต้องกังวล”หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเบา แต่ก็เอาผ้าปิดปากออกมาให้แม่นมสี่สวมไว้
แม่นมสี่รับผ้าปิดปากมา มือค่อนข้างสั่น แววตาก็ค่อนข้างตื่นตระหนก
หมันเอ๋อช่วยแม่นมสี่ถอดเสื้อออกมาดู เห็นมีผื่นกลมแบบนี้ขึ้นตามร่างกายบางจุด หยวนชิงหลิงให้หมันเอ๋อใช้เล็บกดดู แล้วถามแม่นมสี่ว่าเจ็บไหม
แม่นมสี่ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่มีความรู้สึกอะไร”
หยวนชิงหลิงให้หมันเอ๋อวางเสื้อลง แล้วให้นางรีบไปล้างมือ หมันเอ๋อมองดูหยวนชิงหลิงอย่างลังเล พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นมป่วยเป็นโรคอะไรหรือ?”
“ยังไม่รู้ เจ้าไปล้างมือก่อน”หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
หมันเอ๋อรับคำ แล้วก็ถอยออกไป
แม่นมสี่มองดูหยวนชิงหลิง แววตาเมื่อกี้ยังตื่นตระหนกอยู่ ตอนนี้สงบนิ่งลงแล้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาทพูดมาเถอะ เป็นโรคอะไรกันแน่ ข้าทำใจพร้อมแล้ว”
หยวนชิงหลิงไม่ตอบ เพียงถามขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดว่า รู้สึกปวดเมื่อยตรงข้อต่อกับกล้ามเนื้อใช่ไหม?”
“ใช่ ตอนนี้ก็ปวดเมื่อยอย่างมาก” แม่นมสี่พูดพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่นว่า “ท่านพูดมาเถอะ ไม่เป็นไร อายุขนาดนี้แล้ว จะมีอะไรที่รับไม่ได้อีก?”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เจ้านอนลงก่อน ข้าตรวจดูอีกครั้งก่อน”
ตอนที่แม่นมสี่นอนลง ก็พูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาทก็ใส่ผ้าปิดปากไว้ สวมถุงมือไว้ ท่านยังต้องดูแลพวกลูกๆ”
หยวนชิงหลิงจึงสวมไว้ ท่าทีค่อนข้างหนักใจ
นางตรวจเส้นประสาทหู เส้นประสาทอัลนาร์ ข้อศอก เส้นประสาทส่วนปลายทั่วไปให้กับแม่นมสี่ พบว่ามีการขยายตัวของเส้นประสาทเล็กน้อย นางหยิบเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่ม แทงลงไปบนผื่นเม็ดกลม พร้อมถามว่า “เจ็บไหม?”
แม่นมสี่พูดขึ้นด้วยเสียงสำลักเล็กน้อยว่า “ไม่เจ็บ”
หยวนชิงหลิงเอาน้ำร้อนมาอีก เอาน้ำร้อนหยดลงบนผื่นเม็ดกลม พร้อมถามว่า “รู้สึกร้อนไหม?”
แม่นมสี่ส่ายหัวอย่างเงียบๆ
หยวนชิงหลิงหายใจเข้าลึกๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ เจ้านอนลง ข้าจัดยาให้เจ้า ช่วงเวลานี้ เจ้าอยู่แต่ในเรือนก่อน ไม่ต้องออกไปไหน”
“โรคอะไร?”แม่นมสี่ถามขึ้นอย่างสงบ พร้อมจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
หยวนชิงหลิงมองดูนาง สงสารจับใจ ริมฝีปากพูดออกมาหลายคำว่า “เป็นไปได้อย่างเลวร้ายที่สุดคือโรคเรื้อน”
ริมฝีปากแม่นมสี่สั่นเทาเล็กน้อย แววตาปกคลุมไปด้วยชั้นสีเทา พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม รู้แล้ว”
หยวนชิงหลิงพูดปลอบขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัว ต่อให้เป็นโรคเรื้อน โรคนี้ข้ารักษาได้”
แม่นมสี่พยักหน้าอย่างไปเรื่อย พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท ขอท่านช่วยข้าเช่าบ้านอยู่ด้านนอกสักหลัง ข้าไปอยู่ข้างนอก”
“พูดอะไรไปเรื่อย?” หยวนชิงหลิงพูดตำหนิว่า “ห้ามออกไป รักษาตัวอยู่ในจวนนี้แหละ โรคนี้รักษาไม่ยาก”
แม่นมสี่พูดขึ้นอย่างดื้อรั้นว่า “ไม่ ข้าอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ ข้าอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง รักษาหายหรือไม่หายก็ไม่เป็นไร ในเมื่อข้าป่วยแล้ว ไม่อยากเอาเรื่องวุ่นวายในจวนอ๋องฉู่มาแบกรับให้กดดัน ข้าอยากมีชีวิตเป็นของตนเอง”
หยวนชิงหลิงรู้ว่านางกำลังพูดปากไม่ตรงกับใจ จึงพูดสั่งบังคับว่า “พูดยังไงก็ไม่ให้ออกไป รักษาตัวอยู่ที่นี่ก็พอ โรคนี้ไม่ใช่โรคที่รักษาไม่หาย สามารถรักษาได้”
“โรคนี้เป็นโรคที่รักษาไม่หาย” แววตาแม่นมสี่เจ็บปวด พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเศร้าว่า “ไม่เพียงเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ ยังสามารถแพร่เชื้อ ต่อไปข้าจะอุ้มเด็กๆไม่ได้แล้ว เจอก็ไม่กล้าเจอ กลัวนำเชื้อไปติดพวกเขา ข้าอยู่ที่นี่ยังจะมีประโยชน์อะไร? ข้าเป็นตัวอันตราย ให้ข้าออกไปเถอะ ข้าไม่โทษใครทั้งนั้น”
หยวนชิงหลิงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าบอกแล้วว่าไม่ใช่โรคที่รักษาไม่หายก็คือไม่ใช่โรคที่รักษาไม่หาย เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ? โรคที่พวกเจ้าพูดว่ารักษาไม่หาย ข้าล้วนรักษาได้ โรคนี้สำหรับข้าไม่มีความยากเลยสักนิด เชื่อข้าสักครั้งได้ไหม? หลังจากรักษาหายดีแล้ว เจ้าก็ยังสามารถช่วยข้าเลี้ยงดูลูกต่อ”
แม่นมสี่คร่ำครวญอย่างสุดซึ้งว่า “ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไร ข้าก็ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ให้ข้าออกไปเถอะ”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ทานยาก่อน หลังจากทานยาแล้ว เราค่อยคุยกัน”

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset