บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 578 เจ้าจะทำอย่างไร

จวนอ๋องฉู่ตำหนักเซี่ยวเยว่
เด็กๆสามคนคืนนี้ก่อกวนเป็นอย่างมาก ไม่ต้องการให้แม่นมดูแล ต้องการให้หยวนชิงหลิงดูแลให้ได้ ดังนั้น คืนนี้ก็รับเข้ามาในห้อง เจ้าห้ามือหนึ่งอุ้มทังหยวนและซาลาเปา ยายหยวนอุ้มข้าวเหนียว ไม่ง่ายกว่าจะกล่อมจนหลับไป สบตากันและกัน โล่งใจไปเฮือกหนึ่ง
วางลงบนเตียงอรหันต์ช้าๆ เรียงเป็นหนึ่งแถว แต่ก็กลับนอนหลับอย่างไม่สงบ ทั้งสองลุกขึ้น ก็ตกใจตื่นทันที อุแว้อุแว้ร้องไห้โวยวาย ทั้งสองทำได้เพียงต้องกลับไปนั่งปลอบ
ทั้งสองคนจึงนอนลงโดยไม่ถอดเสื้อผ้าข้างกายเด็กๆเสียเลย สบตากัน ล้วนเป็นความจนปัญญา
หยู่เหวินเห้ากดเสียงแล้วกล่าว “แต่ก่อนไม่ได้ก่อกวนขนาดนี้ คืนนี้เกิดอะไรขึ้น? ไม่สบายหรือไม่?”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่ หากว่าไม่สบาย โวยวายเสียงดังไปนานแล้ว อาจเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน อยากนอนแนบชิดกับกลิ่นอายของคน”
“เป็นแบบนี้ทุกวัน ยังจะไหวหรือ? เมื่อครู่แทบจะอดไม่ได้ตีให้คนละที” หยู่เหวินเห้าเหนื่อยเป็นที่สุด สู้สงครามสนามหนึ่งก็ไม่เหนื่อยขนาดนี้จริงๆ อุ้มเด็กเจ้าเนื้อหนักอึ้งสองคน ยังต้องโยกไปมาอีก ช่วงบั้นเอวแทบจะหักแล้ว
หยวนชิงหลิงกลับดีกว่าหน่อย อุ้มข้าวเหนียวไว้ในอ้อมแขนก็เชื่อฟังแล้ว ดังนั้นไม่ได้ทรมานเท่าไหร่ ได้ยินหยู่เหวินเห้าโอดครวญ “ไม่เช่นนั้นท่านคิดว่าเป็นพ่อแม่คนง่ายดายขนาดนี้หรือ? ขณะที่ตั้งครรภ์ก็เป็นห่วงว่าจะเกิดออกมาไม่แข็งแรง เกิดออกมาแล้วเป็นห่วงว่าจะเลี้ยงไม่โต เลี้ยงโตแล้วก็เป็นห่วงว่าจะเรียนรู้สิ่งไม่ดี ไม่ได้เรียนรู้สิ่งไม่ดีก็กลัวว่าจะไม่มีอนาคต โดยสรุป เลี้ยงลูกถึงร้อยปีต้องเป็นห่วงถึงอายุเก้าสิบเก้าปี ลูกชายสามคน อนาคตข้างหน้ามีให้เจ้าได้วางแผน”
หยู่เหวินเห้าได้ยินคำพูดนี้ เพ่งมองใบหน้าที่งดงามอ่อนวัยของเด็กสามคน ถอนหายใจเบาๆ “วางแผนมากมายทำอะไร? พวกเขาจะเป็นมังกรเป็นหนอน ก็ดูความฉลาดของพวกเขา เป็นมังกรอาจจะไม่ได้ดีใจ เป็นหนอนอาจจะไม่ได้มีความสุข”
หยวนชิงหลิงเห็นเขาขมวดคิ้ว รู้ว่าสองวันนี้เข้ายุ่งกับการตรวจสอบเรื่องเขาโรคเรื้อนมีความร้อนใจไม่เป็นสุข จึงกล่าวถาม “ยังไม่จบเรื่องหรอกหรือ? จัดการยากมากหรือ?”
หยู่เหวินเห้าลูบหัวซาลาเปาเล่น กล่าวเบาๆ “บอกว่าจัดการยากก็ไม่นับว่าจัดการยาก เพียงแค่ไม่รู้ว่าควรจะไปจัดการอย่างไร”
“อ๋อ?” หยวนชิงหลิงเอาผ้าห่มเคลื่อนไปทางเขาเล็กน้อย “พูดอย่างไร?”
หยู่เหวินเห้ามองดูนาง สีของลูกตาดำเย็นสบาย “ท่านแม่สามีของเจ้ามีความข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ขนมรังนกคนป่วยวันละหนึ่งมื้อเป็นความประสงค์ของนาง และการฉ้อฉลเงิน มากกว่าครึ่งเข้ากระเป๋าของนาง นางบอกว่าใช้เงินเหล่านี้วางแผนเพื่อข้า ที่ผ่านมาของที่ประทานให้ข้า ส่วนมากก็ควักออกมาจากเงินเหล่านี้”
หยวนชิงหลิง “ทำไมถึงทำเรื่องที่ขาดคุณธรรมประเภทนี้?”
“คนก็ทำแล้ว ยังจะมีเหตุผลเต็มเปี่ยม!” หยู่เหวินเห้านอนราบ มือสองข้างนวดระหว่างคิ้ว ส่วนโค้งของคางแข็งแรงยิ่งเด่นชัดขึ้น “ปวดหัวจัง จัดการก็อกตัญญู ไม่จัดการก็ละอายใจต่อราษฎร ยายหยวน หากว่าเป็นเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร?”
หยวนชิงหลิงคิดแล้วคิดอีก กล่าว “แม่ของข้าจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้”
“แม่ของเจ้า……” หยู่เหวินเห้านึกขึ้นมาได้ว่านางหวงไม่ใช่แม่แท้ๆของนาง “หากว่าทำล่ะ?”
หยวนชิงหลิงหนุนแขนสองข้างไว้หลังศีรษะ ในดวงตามีความมืดมิดดำขลับออกมา “เจ้าห้า ข้าไม่มีทางจะคิดถึงถ้าหาก ชีวิตนี้ของแม่ข้าล้วนไม่เคยทำเรื่องที่ขาดคุณธรรม นางช่วยคนไว้มากมาย เจ้าให้ข้าคิดว่าถ้าหากนี่ ข้าล้วนรู้สึกว่าเป็นการดูถูกนางชนิดหนึ่ง”
“แม่ยายของข้าเคยช่วยเหลือคนมากมาย? ยอดเยี่ยมขนาดนี้เชียวหรือ?” หยู่เหวินเห้าเอียงหน้า มองดูนางด้วยความชื่นชม
แววตาของหยวนชิงหลิงมองไปไกล “ก็ใช่น่ะสิ? พ่อตาของท่านก็ยอดเยี่ยม แต่ว่าพูดถึงคนที่เยี่ยมยอดจริงๆ คุณย่าของข้า……ก็คือท่านย่าของข้ายอดเยี่ยมยิ่งกว่า ทั้งชีวิตของนางทำเพียงแค่เรื่องเดียว นั่นก็คือช่วยรักษาคนป่วย”
ในดวงตาของหยู่เหวินเห้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความใฝ่ฝัน “ยายหยวน ทั้งครอบครัวของเจ้าดีเพียงนี้ ข้าอยากพบจริงๆ หากว่าสามารถพบเจอได้ ก็เป็นความโชคดีที่พบได้ยากยิ่ง”
หยวนชิงหลิงยิ้มแล้ว มีความโศกเศร้าเล็กน้อย “ข้าก็หวังว่าพวกเขาจะได้พบกับสามีของข้า”
น่าเสียดาย เพ้อฝันมากกว่าความหวัง
หยู่เหวินเห้ากล่าวอีกทันที “แต่ว่า หากว่าข้าพบแล้ว เกรงว่าจะต้องหวั่นเกรง”
“ทำไม?” หยวนชิงหลิงมองทางเขา กล่าวถาม
หยู่เหวินเห้าถอนใจ “เพราะว่า ข้าอาจจะทำให้พวกเขาไม่พอใจ”
“ข้าเลือก พวกเขาควรเชื่อถือสายตาของข้า” หยวนชิงหลิงกล่าวปลอบ
หยู่เหวินเห้ากล่าว “อยากพบเจอจริงๆ เจ้าดูสิ เสด็จแม่ของข้าเช่นนี้ จวนเจ้าพระยาจิ้งของเจ้าทางนั้นก็เป็นเช่นนี้ พวกเราต้องการท่านพ่อท่านแม่และผู้อาวุโสที่เป็นปกติที่สุด”
“ก็ไม่สามารถกล่าวเช่นนี้ได้ ไม่ใช่ว่ายังมีท่านย่าของข้าและไท่ซ่างหวงหรือ?”
“ก็โชคดีที่มีพวกเขา”
ทั้งสองนิ่งเงียบครู่หนึ่ง แล้วกลับสู่ตัวปัญหาอีก “ยักยอกเงินไปมากเท่าไหร่?”
หยู่เหวินเห้ากล่าวเบาๆ “จะต้องมีเจ็ดแปดแสนตำลึง”
หยวนชิงหลิงถอนใจ “นั่นไม่น้อยเลยจริงๆ เมื่อก่อนราชสำนักจัดการกับขุนนางหรือนางสนมที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงเหล่านี้อย่างไร?”
“หากว่าเป็นขุนนาง อันดับแรกปลดจากตำแหน่งสอบสวนและลงโทษ จากนั้นคืนเงินที่ยักยอกไป ค่อยปรับเงิน ต่อจากนั้นตัดสินคดีตามสภาพการณ์ แขวนคอตายก็มี สำหรับนางสนม……”
หยู่เหวินเห้าปิดตาลง กล่าวอย่างหนักใจ “ไม่เคยมีมาก่อน”
หยวนชิงหลิงมองดูท่าทางที่กลัดกลุ้มจนหน้านิ่วคิ้วขมวดของเขา ปวดใจเป็นอย่างมาก “เงินเจ็ดแปดแสนตำลึงนั่น ระดับนี้จำเป็นต้องตัดหัวหรือ?”
“แสนตำลึงก็สามารถเอาหัวหนึ่งหัวได้แล้ว” เสียงของหยู่เหวินเห้าแหบพร่า เต็มไปด้วยความจนปัญญาและความโศกเศร้าที่สุดจะพรรณนา
หยวนชิงหลิงไม่พูดจา เพียงแค่จับมือของเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
จากการวิเคราะห์ของนาง ฮ่องเต้จะใช้โทษฐานความผิดนี้สังหารเสียนเฟยหรือไม่ สาเหตุหลักนี้ยังอยู่ที่เจ้าห้า ไม่อยากให้ฐานะของเขาเปรอะเปื้อนได้รับความอัปยศ
แต่ว่า ไทเฮาได้ประกาศต่อภายนอกแล้วว่าเสียนเฟยป่วยหนัก ดังนั้น สุดท้ายแล้วจะแอบจัดการหรือไม่ นั่นก็ไม่แน่แล้ว
ไม่ว่าเสียนเฟยจะเคยทำเรื่องที่ไม่ดีขาดสติมากมายต่อนางหรือต่อคนป่วยบนเขาโรคเรื้อน แต่ สำหรับเจ้าห้าแล้ว นางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดร่างกายของเขา มีบุญคุณในการให้กำเนิด อีกทั้งบุญคุณในการอบรมเลี้ยงดู
ดังนั้น ทันทีที่เสียนเฟยถูกลงโทษประหารชีวิต เจ้าห้าคือผู้ที่เสียใจที่สุด
“พรุ่งนี้ ข้าตั้งใจจะรายงานเสด็จพ่อ” เสียงของหยู่เหวินเห้าเงียบสงบ ไม่ได้เปิดตา แต่ทั้งคนเห็นได้ชัดว่าเหนื่อยล้าเป็นที่สุด
“อืม” หยวนชิงหลิงตอบรับเบาๆคำหนึ่ง กั้นด้วยทารกทั้งสาม หามือของเขาพบ จับไว้แน่น
ทั้งครอบครัวห้าคน เบียดกันอยู่บนเตียงอรหันต์ ลมหายใจของทารกทั้งสามที่อยู่ระหว่างกลางเบาและมั่นคง ผู้ใหญ่สองคนกลับหายใจอย่างไม่เป็นจังหวะ
ก็เช่นนี้ ทั้งสองไม่มีวาจาต่อกันและกัน จนเที่ยงคืนก็หลับไป
เว้นไประยะหนึ่ง แม่นมเข้ามาป้อนนมตอนกลางคืน อุ้มไปอีกทางหนึ่ง หลังจากดื่มเสร็จก็อุ้มกลับมาเปลี่ยนผ้าอ้อม หยู่เหวินเห้าหลับไปอย่างง่ายมาก ตื่นขึ้นมา เห็นแม่นมมาแล้ว จึงหลับไปอีก
ค่ำคืนที่มีลูกๆ มักจะวุ่นวายอลหม่านเช่นนี้เสมอ เขาคุ้นเคยแล้ว
ก่อนฟ้าสางหยู่เหวินเห้าก็ลุกเข้าเดินย่องเบาๆ หยิบเสื้อผ้าไปด้านนอกเรียกคนมาปรนนิบัติ ล้างหน้าล้างตาเสร็จสรรพ ไม่ได้กินอาหารเช้าก็จากไปแล้ว
หยวนชิงหลิงถูกเด็กๆรบกวนจนตื่น พวกแม่นมเข้ามาทีละคน ให้นมเด็ก ล้างก้นเปลี่ยนผ้าอ้อม ฉี่หลอและลู่หยาก็เข้ามาช่วยเหลือ หมันเอ๋อเตรียมอาหารเช้า โดยปกติแม่นมสี่จะเข้ามาช้าหน่อย ร่างกายของนางยังไม่ได้ฟื้นฟูเป็นปกติ หยวนชิงหลิงไม่อนุญาตให้นางทำงาน
เรื่องจัดการเด็ก ปกติต้องใช้เวลาจัดการครึ่งค่อนเช้า จากนั้นหยวนชิงหลิงจึงสามารถนั่งลงกินอาหารเช้าได้
จากนั้นเตรียมจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสั่งยา อ๋องหวยทางนั้น ฮูหยินใหญ่ทางนั้น ฮูหยินจูกั๋วกงทางนั้น แต่ละจวนล้วนส่งคนเข้ามาเอายา โดยปกติคือเว้นสามวันมาเอาหนึ่งครั้ง
อ๋องหวยทางนั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกินยาแล้ว แต่เพราะป่วยนานแล้ว เขาบอกว่าไม่กินยามักจะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่หาย หยวนชิงหลิงจึงให้วิตามินเขานิดหน่อยทำเป็นยาหลอกให้ใช้
พระชายาซุนตอนนี้ก็ส่งคนเข้ามารับยา รับยาทาริดสีดวงทวารและยาลดความอ้วนของอ๋องซุน อันที่จริงหยวนชิงหลิงมียาลดน้ำหนักที่ไหนกัน? แต่เห็นเขาเก็บความอยากกินไม่ได้ จ่ายยาระงับความอยากอาหารให้เขานิดหน่อย ช่วยให้เขาลดปริมาณการกินอาหารลง
เพราะเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว ดังนั้นวันนี้ในห้องครัวทำข้าวเหนียวก้อนและโจ๊กธัญพืชแปดชนิด มีผลในการขับความชื้นและบำรุงไต
แต่เช้าตรู่ขนาดนี้ หยวนชิงหลิงกินข้าวเหนียวก้อนไม่ลง กินโจ๊กธัญพืชแปดชนิดชามหนึ่ง จึงอุ้มเด็กๆออกไปตากแดดในลานพร้อมกับพวกแม่นม

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset