บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 595 คนที่หรงเยว่ชอบ

นิสัยของหรงเยว่กับอะซี่เข้ากันได้ดีมาก พักอยู่ในจวนอ๋องฉู่สามสี่วัน คนที่หรงเยว่พูดด้วยมากที่สุดก็คืออะซี่
อะซี่รู้ว่าความหวังสูงสุดของหรงเยว่ที่มาเมืองหลวงในครั้งนี้คืออะไร ดูนางที่อายุใกล้จะยี่สิบแล้ว ก็ร้อนใจแทนนาง ดังนั้นวันนี้ก็ได้ช่วยวิเคราะห์แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้
อ๋องฉีนั้นไม่ต้องไปคิดเลย ผู้ชายที่คิดถึงแต่อดีตคนรักแบบนี้ให้เปล่าๆยังเอาไม่ได้เลย
กู้ซือก็ไม่ต้องไปคิดเหมือนกัน แต่งงานแล้ว วันนี้เขายังได้พาภรรยามาด้วย
เหลิ่งจิ้งเหยียนไม่ควรจะเอา คนผู้นี้น่าเบื่อมาก คนก็เหมือนกับชื่อ สามารถเงียบได้ทั้งวัน เป็นคนซื่อที่พูดน้อยมากถึงมากที่สุด
พี่ซูหลงโอ้อวดเป็นที่หนึ่ง สมญานามรู้จักทุกคนบนโลกนี้(ล้วนเป็นผู้หญิง) เจ้าชู้หลายใจน่ารังเกียจ เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของกุลสตรีที่ดีของแต่ละตระกูล ตัดทิ้งไปได้เลย
นับไปนับมา ก็เหลือแค่เจ้าหวางกับแม่ทัพหลู่หม่างแล้ว
อะซี่ไม่ค่อยสนิทกับสองคนนี้นัก หรงเยว่มองไป เห็นแม่ทัพหลู่หม่างที่ท่าทางหยาบคายกำลังเกาก้นอย่างเมามัน ใบหน้ายังแฝงไปด้วยความรู้สึกสะใจ ก็ขอยอมแพ้ทันที
ไม่ใช่ว่าจะเกาก้นไม่ได้ แต่ในสถานที่ที่มีคนเยอะควรจะระวังภาพลักษณ์ด้วย ไม่ผ่าน!
ก็เหลือเพียงเจ้าหวางคนเดียว อะซี่หาจุดบกพร่องของเจ้าหวางไม่เจอ ไม่ว่าอย่างไรมันจะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงไหนก็ดูเหมือนคนที่อ่านหนังสือเยอะ มีความรู้กว้างขวาง เจ้าหวางก็คือคนแบบนั้น จุดนี้ สามารถมองได้จากรอยหมึกที่ยังล้างไม่สะอาดบนหน้าของเขา
ดูเลอะเทอะไปหน่อย ยังดีที่หน้าตาไม่เลว รูปร่างหน้าตาจัดอยู่ว่าพอใจ
กำลังคิดจะเข้าไปทำความรู้จักนั้น ก็ได้ยินคนของซาวโถ๋จุ้ยมาส่งสุราแล้ว หรงเยว่เลยออกไปสั่งการ
สวีอีที่มีความสงสัยมาตลอดทั้งวัน เมื่อเห็นหรงเยว่ออกไป ก็รีบตามออกไป
ไปขวางหรงเยว่ตรงหน้าประตู “ขอถามอะไรเจ้าหน่อย!”
หรงเยว่เห็นสวีอี เดิมเคยมีความคิดอย่างว่าต่อสวีอี แต่เมื่อได้ยินสวีอีที่ว่านายท่านชอบผู้ชาย นางก็ได้ตัดทิ้งไปอย่างเงียบๆ
หรงเยว่ระงับความหงุดหงิดเอาไว้ ถามด้วยน้ำเสียงที่ดี “เรื่องอะไร?”
สวอีขมวดคิ้วที่ดกดำ คิ้วขดกันเหมือนหนอนที่ไต่อยู่บนกำแพง “ท่านชายสี่เหลิ่งเหลิ่งมาที่จวนอ๋องฉู่มีแผนการอะไร?”
หรงเยว่มองเขา “แผนการอะไร? จวนอ๋องฉู่ของพวกเจ้ามีอะไรน่าโลภบ้าง?”
สวีอีทำเสียงฮึ่มไปหนึ่งที “ของไม่มี แต่มีคน ใครจะไปรู้ว่าท่านชายสี่เหลิ่งของพวกเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? หากพวกเจ้ากล้าทำลายความสัมพันธ์ของรัชทายาทกับพระชายารัชทายาท ข้าสวีอีเป็นคนแรกที่จะไม่ปล่อยพวกเจ้า”
พรงเยว่พูดในใจว่าไม่ดีแล้ว หรือว่าเจ้าโง่คนนี้จะดูออก?
สวีอีเห็นนางที่ตื่นเต้นทันที ก็ชี้ไปที่นาง “ข้าเดาถูกแล้ว ใช่มั้ย? ท่านชายสี่เหลิ่งต้องชอบองค์รัชทายาทแล้วอย่างแน่นอน”
หรงเยว่ได้ยินคำพูดนี้ ก็โล่งอกไปทันที “ไม่ใช่ ไม่มีเรื่องแบบนี้ อย่าพูดไปเรื่อย”
พูดจบ ก็ใช้มือผลักสวีอีออก “หลีกไป ข้าจะให้คนยกสุราเข้าไป สุราในงานเลี้ยงคืนนี้ท่านชายสี่เหลิ่งเป็นคนเอามาเลี้ยง”
สวีอีรีบเข้าไปขวางไว้อีกครั้ง ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าพูดจาให้รู้เรื่องก่อน”
หรงเยว่จ้องมองเขาด้วยความโกรธ คิดอยากจะอ้อมไปจากทางด้านซ้ายของเขา ใครจะไปรู้ว่าสวีอีจะใช้เท้า ทำให้หรงเยว่สะดุดล้มลงมาจากบันได เพราะเลื่อนไถลลงมา ท่าล้ม จึงเหมือนหมาหิวที่แย่งอาหาร
สวีอีก็ตกตะลึง เดิมเขาแค่อยากจะขวางหรงเย่ว คิดไม่ถึงว่านางจะสะดุดล้ม
หรงเยว่ล้มจนผมยุ่งเหยิง หน้าผากกับใบหน้าทับอยู่บนพื้น นางค่อยๆยันมือทั้งสองข้างขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ กำลังคิดอยากจะฆ่าสวีอี นางกลับเห็นรองเท้าสีขาวปักลายเมฆและลายทะเลคู่หนึ่งปรากฏตรงหน้า เสียงที่อ่อนโยนและไพเราะกำลังดังอยู่บนหัวของนาง “แม่นาง เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
มือข้างหนึ่ง ยื่นมาตรงหน้าของนาง
มือข้างนี้อ่อนโยนราวกับหยกขาว ด้วยนิ้วที่เรียวยาว และข้อกระดูกที่ชัดเจน นางมองดูมันด้วยความงุนงง แล้วมือข้างนั้นก็ได้มาจับอยู่ที่แขนของนาง ใช้แรงเล็กน้อยในการดึงนางขึ้นมา
แสงแดดอันอบอุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ราวกับแผ่นทองคำเปลว โปรยลงมาบนใบหน้าของชายที่อยู่ตรงหน้านาง ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย คิ้วของเขางดงามดั่งภาพวาด รอยยิ้มอบอุ่นได้เผยให้เห็นถึงฟันที่ขาวสะอาด ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาสามารถมองเห็นไรขน เมื่อถูกแสงแดดสาด ทำให้เห็นริ้วรอยของกาลเวลาเล็กน้อย
หรงเยว่รู้สึกว่าหัวใจของนางเหมือนกับชนเข้ากับอะไรสักอย่าง ในหัวก็ดังไปด้วยเหมือนเสียงที่แผ่นดินระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ สุดท้ายในใจก็เบ่งบานไปด้วยดอกไม้
“แม่นาง ไม่เป็นใช่มั้ย? ชายผู้นี้เห็นนางเหม่อลอย เลยถามอีกครั้ง แววตาห่วงใย
หรงเยว่ส่ายหัวอย่างงงๆ
ชายผู้นี้ยิ้มๆ และเดินขึ้นไปบันไดพร้อมกับบริวารของเขา
หรงเยว่หันมองตามไปโดยสัญชาตญาณ หลังจากที่ชายผู้นี้เดินขึ้นบันไดหิน เขาก็หยุดแล้วหันมามองนาง เผยรอยยิ้มท่ามกลางแสงแดดที่ทำให้คนหลงใหล “แม่นาง ใบหน้าของเจ้าเปื้อนแล้ว กลับไปล้างก่อนเถอะ”
“อ่อ!” หรงเยว่ไม่ทันได้สนใจใบหน้าของนาง เพียงใช้สายตาไล่มองตาแผ่นหลังของเขา จนกระทั่งเขาเข้าไปแล้ว จนกระทั่งมองไม่เห็นเขา
สวีอีเดินเข้ามาอย่างรู้สึกผิด กล่าวขอโทษอย่างอ้ำๆอึ้งๆ “ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
หรงเยว่คว้ามือของเขาเอาไว้ทันที ดึงตัวเขาไปด้านข้าง ใช้มือขังเขาไว้ในกำแพง ถามด้วยความร้อนใจ “พูดมา คนผู้นั้นคือใคร ปีนี้อายุเท่าไหร่ แต่งงานหรือยัง?”
สวีอีถูกนางทำให้ตกใจแล้ว หรือว่าจะหกล้มจนเอ๋อไปแล้ว?
หรงเยว่ทนไม่ได้กับความเงียบในเวลาที่สั้นของเขา รีบหยิบตั๋วเงินออกมาจากแขนเสื้อยัดใส่มือของเขา “พูดมา ข้อมูลที่เกี่ยวกับคนผู้นั้นทั้งหมด ข้าต้องการรู้ทุกรายละเอียด”
สวีอีเห็นจำนวนเงินในตั๋วเงิน ปากก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ โอ้โอ้สวรรค์ คนซาวโถ๋จุ้ยนี้เป็นคนโง่ที่มีเงินมากจริงๆ ให้ทีก็เป็นร้อยตำลึงเลย
เขารีบเก็บตั๋วเงินอย่างดี ท่าทางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “คนที่เดินเข้าไปเมื่อกี้เป็นลูกชายคนที่หกของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมีนามว่าหยู่เหวินหวย ถูกแต่งตั้งเป็นอ๋องหวย อายุยี่สิบเอ็ดปี ก่อนหน้านี้ป่วยมาโดยตลอด ดังนั้นตอนนี้ยังไม่แต่งงาน”
หรงเยว่ตะโกนจากก้นบึ้งของหัวใจ ก็คือเขา นางจะทำทุกวิถีทาง เพื่อแต่งงานกับเขา
แต่การเจอหน้าครั้งแรกนั้นช่างไม่น่าประทับใจเลย นางหกล้มต่อหน้าเขาอย่างน่าเกลียดเสียอย่างนั้น เขาคงรู้สึกไม่ดีต่อตัวนางแล้วใช่มั้ย?
หรงเยว่ก็มีความกังวลใจขึ้นมาทันที
สวีอีรีบทำคุณไถ่โทษ ไปช่วยขนสุรา และถือโอกาสเตือนนาง “ใบหน้าของเจ้าเปื้อนแล้ว กลับไปล้างก่อนเถอะ”
หรงเยว่จ้องมองเขาอย่างดุดัน “เอาไว้ค่อยคิดบัญชีกับเจ้า”
สวีอีใจสั่น รีบซ่อนตั๋วเงินอย่างมิดชิด กลัวนางมาแย่งกลับไป
หรงเยว่กลับไปเปลี่ยนชุด แล้วแต่งหน้าเป็นเวลานาน โดยคิดว่าจะสร้างความตะลึงได้อย่างไร ดึงดูดความสนใจของเขา แต่ว่า แต่งอย่างไรก็ไม่พอใจ
อะซี่มาตามหานาง นางรั้งอะซี่ไว้ช่วยนาง “เจ้ารีบช่วยข้าแต่งหน้าเร็วเข้า ข้าต้องแต่งหน้าให้สวยที่สุด”
อะซี่มองใบหน้าที่เหมือนจานสีของนาง แล้วหัวเราะ “ใบหน้าสดของเจ้าสวยที่สุดแล้ว”
“โกหก!” หรงเยว่ไม่เชื่อ
“จริงๆ ทำไมอยู่ๆถึงอยากจะแต่งหน้าล่ะ?” อะซี่ถาม จากนั้นก็คิดถึงแผนการอันใหญ่หลวงของนาง ก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ “เจ้าชอบใครเข้าแล้ว?”
ใบหน้าของนักฆ่าอันดับหนึ่งในยุทธภพกลับมีความเขินอาย “อ๋องหวย”
อะซี่ร้องเสียงอ๋อไปหนึ่งที งั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด เจ้าให้พระชายารัชทายาทช่วยเจ้าสิ พระชายารัชทายาทเป็นพี่สะใภ้ของอ๋องหวย เป็นคนที่ช่วยชีวิตเขา ก่อนหน้านั้นที่อ๋องหวยไม่สบายทั้งหมดได้รับการช่วยจากพระชายารัชทายาท และพระชายารัชทายาทเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลู่เฟย ต้องช่วยเจ้าได้อย่างแน่นอน
“พระชายารัชทายาท……..” สีหน้าของหรงเยว่ก็หนักใจขึ้นมาทันที โอ้โอ้สวรรค์ พระชายารัชทายาทเป็นพี่สะใภ้และคนช่วยชีวิตของสามีนาง แต่เป้าหมายการมาเมืองหลวงนี้ในครั้งนี้ของนางกับนายท่านคือฆ่าพระชายารัชทายาทนะ

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset