บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 60 ดูไม่ชัด

บทที่ 60 ดูไม่ชัด
แม่นมสี่ฝืนยิ้มออกมา “ติดหนี้บุญคุณก็ต้องตอบแทน ปีก่อนข้าน้อยป่วยหนัก พระชายาฉีได้นำยามารักษาจนหาย วันนี้ได้ช่วยนางแล้ว ก็ถือว่าได้ตอบแทนนาง ข้าน้อยรู้ดีว่าพระชายาฉู่ไม่มีทางถูกลงโทษ เพราะฝ่าบาทยังต้องการนาง อย่างมากก็แค่ต่อว่าสองสามคำ ข้าน้อยไม่ได้อยากทำร้ายใครเพคะ”
นางพูดจบ ก็พลันโขกหัวลงไปอีกครั้ง พอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าก็ดูสงบแล้ว “ข้าน้อยไม่มีอะไรจะพูดแล้วเพคะ ฝ่าบาททรงรับสั่งให้ข้าน้อยดื่มเหล้าพิษเถอะเพคะ!”
วันนี้ที่นางติดค้าง นางก็ตอบแทนหมดแล้ว
วันข้างนาง นางก็ไม่ติดค้างเขาอีกแล้ว
สีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวนดูไม่สงบ “ถ้าหากว่าท่านบอกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร ข้าจะถือว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
แม่นมสี่เงียบ และใบหน้านั้นก็เหมือนจะตัดสินใจว่าเลือกที่จะตายไว้แล้ว
ฮ่องเต้หมิงหยวนโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เพราะเขาไม่สามารถประหารแม่นมสี่ได้ อีกทั้งยังไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับไท่ซ่างหวง เพราะตอนนี้ไท่ซ่างหวงก็ป่วยใจ จะสามารถทนรับความเจ็บปวดที่คนข้างกายตัวเองวางยาพิษและลอบทำร้ายพระองค์ได้อย่างไร?
เงียบไปสักพัก เขาจึงพูดขึ้น “ในเมื่อท่านบอกว่าไม่ได้มีใจคิดร้ายต่อไท่ซ่างหวง ข้าก็จะเชื่อท่าน และไม่ถามต่อ เพียงแต่แม่นมอายุมากแล้ว ไม่เหมาะที่จะดูแลไท่ซ่างหวงต่อ ในเมื่อแม่นมกับพระชายาฉู่มีเรื่องต่อกัน อย่างนั้นข้าก็จะไปขอไท่ซ่างหวงเพื่อให้แม่นมกลับไปดูแลพระชายาฉู่ที่จวน”
ดูท่าฮ่องเต้หมิงหยวนจะไม่ยอมลงมือเอง แม่นมสี่ที่เคยทำร้ายนาง กลับไล่ให้มาอยู่กับนาง เพื่อให้นางจัดการ
หยวนชิงหลิงเบิกตาโตพูดไม่ออกเลย!
“แม่นมสี่กลับไปก่อนเถอะ” ฮ่องเต้หมิงหยวนที่สงบสติลงแล้วพูดขึ้น
แม่นมสี่หันมามองหยวนชิงหลิงด้วยสายตาซับซ้อน พร้อมกับคำนับแล้วออกไป
ฮ่องเต้หมิงหยวนหันมามองฉางกงกง “เจ้าไปจับตาดูนางไว้ พยายามพูดกับนางสักสองสามคำ อย่าให้นางตัดสินใจคิดสั้น”
ในแววตาของแม่นมสี่นั้นดูเหมือนจะคิดสั้นแล้ว เพียงแค่ถ้าทำในวังนี้ ไท่ซ่างหวงก็จะรู้
“พ่ะย่ะค่ะ!” ฉางกงกงน้อมรับสั่ง
หยวนชิงหลิงกับฮ่องเต้หมิงหยวนหันมาสบตากัน
“เจ้าก็ไม่คิดที่จะมาบอกข้าก่อนหน่อยหรือ?” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
หยวนชิงหลิงรู้ว่าครั้งนี้ตัวเองบุ่มบ่ามเกินไป และไม่เคยคิดเลยว่าฝ่าบาทจะไม่ยอมให้แม่นมสี่เกิดเรื่อง
นางจึงพูดออกมาอย่างสำนึก “หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนจ้องนาง “เจ้ารู้ก่อนแล้วหรือว่าแม่นมสี่จะนำไข่มุกไปให้ฮองเฮา?”
“หม่อมฉันให้นางนำไปให้เสียนเฟยเพคะ”
“ชิ” ฮ่องเต้หมิงหยวนสบถออกมา “เจ้าไม่ใช่บอกว่านางหยิบไปเองหรือ?”
หยวนชิงหลิงจึงพูดขึ้น “หม่อมฉันไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วนางจะยอมรับหรือไม่ ถ้าหากนางยอมรับ อย่างนั้นหม่อมฉันก็จะยอมรับเช่นกัน ถ้าหากนางไม่ยอม หม่อมฉันก็จะยืนหยัดบอกว่านางขโมยไป ยังไงก็ไม่มีทางยอมให้ทำร้ายหม่อมฉันง่ายๆ ”
ฉลาดไม่เบาเลย
ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ถามต่อ เพียงแค่สงสัยอย่างหนึ่งจึงพูดขึ้น “นางบอกว่าจะนำไปให้เสียนเฟย แต่ทำไมเจ้าถึงรู้ว่านางจะนำไปให้ฮองเฮา?”
“ถ้าหากว่านางหวังดีอยากให้ความสัมพันธ์ของหม่อมฉันกับเสียนเฟยดีขึ้น นางก็ควรแนะนำให้หม่อมฉันนำไปให้เอง แต่ไม่ใช่ให้นางนำไปให้ อีกอย่าง ไข่มุกหนันนี้ขนาดฮองเฮาก็ยังไม่เคยได้ แต่นางกลับบอกให้นำไปให้เสียนเฟย มันดูไม่ถูกต้องเท่าไหร่ แม่นมสี่ไม่มีทางทำผิดพลาดในเรื่องนี้แน่ นอกจากว่านางต้องการจะใส่ร้ายหม่อมฉัน”
ทุกอย่างชัดเจน ตอนนี้ในสมองนั้นชัดเจนมาก
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเสียงเรียบ “ตอนนี้ข้ามอบแม่นมสี่ไปอยู่กับเจ้า เจ้าอยากจะทำอะไรก็ได้ เพียงแต่อย่าทำให้ไท่ซ่างหวงรู้ก็พอ”
หยวนชิงหลิงจึงพูดขึ้นอย่างหมดความอดทน “เสด็จพ่อ มอบนางให้หม่อมฉันมันไม่ถูกนะเพคะ หม่อมฉันทำอะไรนางไม่ได้” ต้องการยืมมือนางจัดการแม่นมสี่ ก็มีแต่จะทำให้ไท่ซ่างหวงโมโห นางไม่อยากจะตัดหางตัวเอง
“ยังไงข้าก็มอบให้แล้ว เจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำ ข้าไม่สนใจ”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าฮ่องเต้หมิงหยวนนั้นเจ้าเล่ห์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาเป็นฮ่องเต้
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองนาง “ถ้าหากว่าเจ้าไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร บางทีเจ้าอาจจะกลับไปปรึกษาท่านพ่อของเจ้าให้สอนเจ้าก็ได้”
หยวนชิงหลิงหมดความอดทน เอาแต่พูดลองใจออกมาแบบนี้มันดีจริงหรือ?
“ไม่ต้องลำบากถึงท่านพ่อหรอกเพคะ” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
คำตอบนี้ ฮ่องเต้หมิงหยวนพอใจอย่างมาก พลันมองนางครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น “เมื่อครู่แม่นมสี่บอกว่าพระชายาฉีอิจฉาเจ้าจึงต้องการทำร้ายเจ้า ฟังดูยังไม่ค่อยสมเหตุสมผล ห้ามเจ้าแก้แค้นคืน เข้าใจหรือไม่?”
“ถ้าหากนางรังแกหม่อมฉันก่อนล่ะเพคะ?” หยวนชิงหลิงถามกลับ เพราะนางไม่มีทางยอมโดนรังแกฟรีๆ แน่
“นางไม่กล้าหรอก ตระกูลฉู่ไม่มารังควานเจ้าอีกหรอก และอีกเรื่อง” ฮ่องเต้หมิงหยวนนิ่งไปครู่หนึ่ง พลันมองนาง “เสียนเฟนเคยพูดกับข้าว่าหลานห้ากับพระชายาฉีเป็นคู่สร้างคู่สม แต่สุดท้ายกลับไม่สมหวัง จึงรู้สึกเสียดาย พระชายาฉีมีน้องสาวคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนนางมาก ข้าจึงคิดว่าจะทดแทนให้กับหลานห้า โดยการแต่งนางเข้ามาเพื่อเป็นชายารอง เจ้าอยากจะพูดอะไรหรือไม่?”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่มีเพคะ!”
ฮ่องเต้หมิงหยวนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่นางใจกว้างขนาดนี้?
คุณหนูรองของตระกูลฉู่นั้นเป็นบุตรสาวของภรรยาคนแรก ถ้าเข้ามาในจวน ตำแหน่งชายาของตัวนางก็อาจจะต้องยกให้คุณหนูรอง นางไม่สนใจจริงหรือ?
หรือว่านางไม่รู้ถึงอำนาจของตระกูลฉู่?
เห็นได้ชัดว่านางไม่ใช่คนโง่เขลา ก็น่าจะรู้ข้อนี้ดี
“กลับไปเถอะ” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงคำนับแล้วออกมาทันที
พอออกมาจากตำหนัก นางก็สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ แต่งชายารองหรือ?ทำไมจะไม่ดี?ถ้าได้ชายารอง มันก็สมใจเขา หลังจากนี้พวกนั้นสองคนก็จะได้ครองรักกัน และไม่มาระรานนางอีก
พอกลับมาถึงด้านนอกตำหนักข้าง นางก็มองเห็นแม่นมสี่ยืนอยู่ใต้ต้นตั๊กแตน สองมือแนบลำตัว พลันมองมาที่นาง
แววตาของนางเหมือนกับว่าไม่มีความรู้สึกอะไร และเหมือนกับว่าระหว่างพวกเขานั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ดูนิ่งจนน่าขนลุก
หยวนชิงหลิงเดินเข้าไปแล้วสบตานาง
แม่นมสี่จึงก้มหน้าลง พร้อมกับย่อตัวคำนับ “พระชายา!”
“แม่นมรอข้าหรือ?”
แม่นมสี่จ้องหน้านาง “ในเมื่อพระชายารู้แต่แรกแล้ว ทำไมถึงไม่พูดออกมาเพคะ?”
“ในใจข้าเชื่อว่า แม่นมสี่จะไม่มีทางนำไข่มุกหนันไปให้ฮองเฮา”
แม่นมสี่เงียบพักหนึ่ง แล้วหัวเราะออกมา “พระชายาคงจะผิดหวังมากๆ ใช่หรือไม่?ที่ข้าน้อยไม่ได้รักษาโอกาสที่ท่านให้ และยังนำไข่มุกหนันไปมอบให้ฮองเฮา”
“ใช่ ข้าผิดหวังมาก” หยวนชิงหลิงไม่มีท่าทีเปลี่ยนไป แต่น้ำเสียงกลับฟังดูเจ็บปวดอยู่ลึกๆ “ข้านึกว่า ไม่ว่านอกวังหรือในวังต้องมีคนที่หวังดีกลับข้าสักคน ข้าคงคิดไปเอง”
นางหันไปมองประตูตำหนักข้าง ก็พลันได้ยินเสียงหัวเราะของอ๋องซุนดังออกมา ถ้าเข้าไปก็จะเจอหยู่เหวินเห้า นางไม่อยากเจอเขา ทันใดนั้น ก็รู้สึกว่าโลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ นางกลับไม่มีที่ไป
นางจึงไปที่ตำหนักฉินคุน
ถึงตาเฒ่านั่นจะอารมณ์ร้าย และชอบว่านาง แต่พอด่าจบกลับรู้จักพูดปลอบ
ในระหว่างทางนั้น นางก็พลางฉุกคิดเรื่องของคนที่อยู่เบื้องหลัง ว่าตกลงเป็นใครกันแน่ถึงสามารถทำให้แม่นมสี่หักหลังไท่ซ่างหวงได้ และยอมตายแทนที่จะพูดว่าคนคนนั้นเป็นใคร?
ไม่มีทางเป็นฉู่หมิงชุ่ย แม่นมสี่ไม่มีทางทำร้ายไท่ซ่างหวงเพื่อฉู่หมิงชุ่ย
แม่นมสี่บอกว่าไม่รู้ว่าเป็นยาพิษ นางไม่ได้คิดจะทำร้ายไท่ซ่างหวง แต่นางอยู่ในวังมานาน นางจะซื่อจนคิดว่าคนคนนั้นให้นางเอาลูกอมให้ไท่ซ่างหวงกินหรือ?
ท่าทางของฝ่าบาทเองก็ดูแปลก ถึงจะเห็นแก่ฐานะของไท่ซ่างหวง ก็ไม่น่าจะไม่สืบต่อนะ?เพราะนี่เป็นการคิดร้ายต่อไท่ซ่างหวง มีโทษถึงประหาร แต่คนร้ายกลับไม่สามารถจับตัวได้ ไท่ซ่างหวงก็ยังถือว่าอยู่ในอันตราย
หยวนชิงหลิงยิ่งรู้สึกว่าตัวเองนั้นเริ่มมองไม่ชัดเรื่องในวังนี้แล้ว

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset