บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 847 ส่งไท่ซ่างหวงไป

เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก เช้าวันรุ่งขึ้นก็เข้าวังไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปพระตำหนักฉินคุน และไม่ไปห้องทรงพระอักษร แต่ไปหาหวงกุ้ยเฟย ให้หวงกุ้ยเฟยหาเหตุผล หลอกมู่หรูกงกงมาหา
มู่หรูกงกงติดตามฮ่องเต้หมิงหยวนอยู่ตลอด จะหลอกเขามาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดีที่หวงกุ้ยเฟยมีตำแหน่งสูงศักดิ์อยู่ภายในวัง จะกระทำอะไรก็เป็นเรื่องง่าย รออยู่สักพัก มู่หรูกงกงก็มาแล้ว
มู่หรูกงกงเข้าไปภายในตำหนัก มองดูหยู่เหวินเห้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วก็จะรีบวิ่งออกไปด้านนอก
หยู่เหวินเห้าไปขวางทางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “กงกงเห็นข้าแล้วก็จะกลับ ซ่อนอะไรไว้ไม่อยากให้ข้าเห็นหรือ?”
มู่หรูกงกงเห็นว่าหลบไม่ได้ จึงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูรัชทายาทพูดเข้าสิ? ข้าน้อยจะมีสิ่งของดีอะไร? เพียงแค่ไม่ได้มาถวายพระพรหวงกุ้ยเฟยนานแล้ว จึงผ่านมาถวายพระพร”
“กงกงมีความตั้งใจดีจริงๆ” หยู่เหวินเห้าจ้องมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อมาแล้ว นั่งลงคุยกับข้าก่อนไหม?”
ภายใต้การจ้องมองของหยู่เหวินเห้า มู่หรูกงกงแลดูร้อนตัว ขยับไปข้างหลัง พร้อมพูดขึ้นว่า “อันนี้….ข้าน้อยยังต้องกลับไปปรนนิบัติรับใช้ฮ่องเต้ วันนี้ไม่หยุดพูดคุยกับรัชทายาทแล้ว กว่ารัชทายาทจะเข้าวังมาสักครั้ง อยู่เป็นเพื่อนหวงกุ้ยเฟยเถอะ”
หวงกุ้ยเฟยได้ยินเช่นนี้ จึงยิ้มแย้มพร้อมลุกขึ้นพูดขึ้นว่า “กงกงมาได้จังหวะพอดี ข้ายังต้องตรวจสอบบัญชีกับกรมวัง เจ้าอยู่เป็นเพื่อนองค์ชายรัชทายาทก่อน เดี๋ยวข้าก็กลับมา”
พูดเสร็จ แล้วก็พาคนออกไป แม้แต่ประตูตำหนักก็ปิดให้ด้วย
มู่หรูกงกงเห็นเช่นนี้ ถอนหายใจเบาๆหนึ่งที มองดูหยู่เหวินเห้า พร้อมพูดขึ้นว่า “รัชทายาท ข้าน้อยไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น”
“กงกงรู้ได้อย่างไรว่าข้าจะถามเจ้า? ก็แค่จะคุยกับกงกงเท่านั้นเอง กงกงไม่ต้องกลัว นั่งก่อน”หยู่เหวินเห้าลากดึงบีบบังคับให้เขานั่งลง มู่หรูกงกงถอนหายใจ ด้วยความจนใจจึงทำได้เพียงนั่งลง
หยู่เหวินเห้ากลับไม่นั่งลง ยืนมองดูเขาจากที่สูง พร้อมพูดขึ้นว่า “กงกง ช่วงนี้เสด็จพ่อเจอใครค่อนข้างบ่อย?”
มู่หรูกงกงพูดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติว่า “ล้วนปรึกษาเรื่องงานกับพวกเหล่าขุนนาง หรือเล่นหมากรุกกับใต้เท้าเหลิ่น ไม่มีใครเจอฮ่องเต้เป็นพิเศษ”
“อืม งั้นเสด็จปู่ป่วย เสด็จพ่อได้ไปเยี่ยมทุกวันไหม?”
“มี…ไปอยู่ เพียงแต่หลายวันนี้ไท่ซ่างหวงต้องการพักผ่อน ฮ่องเต้จึงไม่ได้ไป แต่ฮ่องเต้สั่งคนส่งซุปยาไปให้ตลอด”
“งั้นทำไมเสด็จพ่อไม่อนุญาตให้พระชายารัชทายาท ไปรักษาไท่ซ่างหวง?”หยู่เหวินเห้าเห็นแววตาของเขากระสับกระส่าย จึงเค้นถาม
สีหน้ามู่หรูกงกงขาวซีดลงทันที พร้อมพูดขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูกว่า “นี่….นี่เท่าที่ข้าน้อยรู้ นี่เป็นความตั้งใจของไท่ซ่างหวงเอง”
“ใช่หรือ? งั้นเจ้าพูดมา ทำไมไท่ซ่างหวงถึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ขึ้นมาในทันใด?”หยู่เหวินเห้าถามขึ้นด้วยแววตาเย็นชา
มู่หรูกงกงตื่นตระหนกตกใจ รีบคุกเข่าลงพร้อมพูดขึ้นว่า “รัชทายาทไม่ควรพูดเช่นนี้เด็ดขาด พระวรกายของไท่ซ่างหวงเพียงแค่ไม่สบายเล็กน้อย พักผ่อนไม่กี่วันก็หายแล้ว”
หยู่เหวินเห้าเอียงหัวมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นด้วยแววตาเยือกเย็นว่า “ข้าเคารพในความที่กงกงเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะสามารถพูดจาตบตาคนอื่นได้เช่นนี้ พักผ่อนไม่กี่วันก็สามารถหายได้จริงหรือ?”
“นี่….” แววตามู่หรูกงกงค่อยๆหรี่ลง ริมฝีปากสั่นเทา พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่….ไท่ซ่างหวงคือโอรสมังกรสวรรค์ ฟ้าสวรรค์ย่อมคุ้มครอง จะต้องหายดีแน่”
หยู่เหวินเห้าฟังคำพูดที่เหมือนดูดีเช่นนี้ ก็โกรธจนตบโต๊ะหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ายังไม่พูดความจริง?”
การตบในครั้งนี้ แววตามู่หรูกงกงกลับแน่วแน่ขึ้นมา เงยหน้าขึ้นพร้อมพูดว่า “รัชทายาท ข้าน้อยพูดล้วนเป็นความจริง อย่างอื่นข้าน้อยไม่รู้เรื่องแล้ว ต่อให้ท่านฆ่าข้อน้อย ข้าน้อยก็พูดอะไรอย่างอื่นก็ไม่มีอะไรออกมาได้”
พูดเสร็จ เขาคำนับหัวสามครั้งติดต่อกัน แล้วก็ลุกขึ้นเปิดประตูออกไป
หยู่เหวินเห้าไม่ได้ไปห้ามไว้ ปากของมู่หรูกงกงเหนียวแน่นมาก ทางด้านเสด็จพ่อ คงจะมีคำสั่งไว้แต่แรกแล้วว่า ไม่ให้เขาพูดอะไรแม้เพียงประโยคเดียว ดังนั้น ทั้งๆที่ในใจของเขาสับสน ก็ไม่กล้าพูด
มู่หรูกงกงกลับมายังห้องทรงพระอักษร ฮ่องเต้หมิงหยวนกำลังตรวจราชฎีกา
“ไปไหนมา?”ฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นเขาเข้ามาเงียบๆ สีหน้าขาวซีด จึงถามขึ้นอย่างเฉยเมย
“ทูลฮ่องเต้ ข้าน้อยไปตำหนักหวงกุ้ยเฟย”
ฮ่องเต้หมิงหยวนวางพู่กันลง มองดูเขาด้วยแววตาเฉียบคมพร้อมพูดขึ้นว่า “องค์ชายรัชทายาทอยู่ที่นั่น?”
“ใช่พะยะค่ะ”
“ถามอะไรเจ้า?”ฮ่องเต้หมิงหยวนถามขึ้น
ริมฝีปากมู่หรูกงกงยังคงสั่นเทา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าน้อยไม่กล้าปิดบัง องค์ชายรัชทายาทถามเรื่องของไท่ซ่างหวง ถามว่าทำไมไท่ซ่างหวงถึงไม่ยอมให้ พระชายารัชทายาทเข้าวังมารักษา”
“คงถามว่าทำไมข้าถึงห้ามล่ะสิ?”น้ำเสียงของฮ่องเต้หมิงหยวนเยือกเย็นว่างเปล่า
มู่หรูกงกงคุกเข่าลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่….ไม่ ฮ่องเต้อย่าได้เข้าใจผิด รัชทายาทไม่เคยถามเช่นนี้”
ดวงตาฮ่องเต้หมิงหยวนเหมือนปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาเคยถาม และนี่ก็เป็นความสงสัยในใจเจ้า ใช่ไหม?”
สีหน้ามู่หรูกงกงยิ่งขาวซีด พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ ไม่ ข้าน้อยไม่กล้า ข้าน้อยไม่เคยมีความสงสัยเช่นนี้ สิ่งที่ฮ่องเต้กระทำทั้งหมด ล้วนเป็นการตัดสินใจที่ทรงปรีชาญาณ”
“ข้าไม่ได้ประเสริฐ….” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดได้ครึ่งหนึ่ง แล้วก็กลืนกลับไป แววตาโผล่คมออกมาให้เห็น พร้อมพูดขึ้นว่า “ลุกขึ้นมาเถอะ ต่อไปหากองค์ชายรัชทายาทถามอะไรเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก”
“พะยะค่ะ” มู่หรูกงกงค่อยโล่งอก ค่อยๆลุกขึ้นมาแล้วถอยออกไป เพิ่งถอยไปถึงหน้าประตู กลับได้ยินฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นอีกว่า “ตามเหลิ่งจิ้งเหยียนเข้าวังมาเล่นหมากลุกเป็นเพื่อนข้า”
“พะยะค่ะ”มู่หรูกงกงรับคำสั่ง
การต่อสู้กันด้วยหมากรุก มักไม่มีเลือดให้เห็น กลับโหดร้ายอย่างมาก เล่นหมากรุกที่ผ่านมา ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่เคยเป็นคู่ต่อสู้ของเหลิ่งจิ้งเหยียน แต่ว่าครั้งนี้ ติดต่อกันหลายรอบ เขาฆ่าเหลิ่งจิ้งเหยียนถอยหนีอย่างย่อยยับ ร้องขอความเมตตา
ฮ่องเต้หมิงหยวนวางหมากรุกลง ยกน้ำชามาดื่มหนึ่งคำ พร้อมถามขึ้นว่า “ล้วนพูดกับองค์ชายรัชทายาทแล้วหรือยัง?”
เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงว่า “เรียนฮ่องเต้ ที่ควรพูดก็พูดแล้ว”
“องค์ชายรัชทายาทมีปฏิกิริยาอย่างไร?”
“โกรธอย่างมาก”
ฮ่องเต้หมิงหยวนอืมหนึ่งคำ พร้อมพูดขึ้นว่า “แค่โกรธยังไม่พอ”
“กระหม่อมพูดอ้อมแล้วว่าให้เขาลาออกจากตำแหน่งราชการ ตีตัวออกห่างขุนนาง และรายงานรายชื่อที่แอบแฝงอยู่ในเซียนเปย”
ดวงตาฮ่องเต้หมิงหยวนสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาพูดว่าอย่างไร?”
“เขาตื่นเต้นอย่างมาก บอกว่าจะทูลขอปลดตนเอง”
ฮ่องเต้หมิงหยวนถือเมล็ดสีขาวไว้ในมือ ดีดเด้งออก หมุนกลิ้งอยู่บนพื้น พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าปั่นป่วนเขาหน่อย เขาอัดอั้นความโกรธไว้ ควรที่จะระเบิดออกมาแล้ว”
เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดขึ้นว่า “กระหม่อมรับทราบ”
“พระที่นั่งจัดเตรียมไว้เรียบร้อยหรือยัง? ข้าวางแผนไว้ว่าจะส่งไท่ซ่างหวงไปพรุ่งนี้”
“ทูลฮ่องเต้ จัดการไว้เรียบร้อยแล้ว ส่งไปพรุ่งนี้ได้พอดี”
“งั้นก็ดี เจ้าไปร่างราชโองการ ให้กู้ซือพาทหารรักษาพระองค์ไปส่ง และให้กู้ซือรู้ว่า ข้าตั้งใจส่งไท่ซ่างหวงไปเพื่อให้การรักษาล่าช้า”
เหลิ่งจิ้งเหยียนฟังแล้ว ก็หัวเราะอย่างข่มขื่น พร้อมพูดขึ้นว่า “กู้ซือพูดจาโผงผางตรงไปตรงมา เก็บงำเรื่องอะไรไว้ไม่ได้ จะต้องไปบอกองค์ชายรัชทายาทอย่างแน่นอน องค์ชายรัชทายาทก็จะต้องเข้าวังมาพบพระองค์ แต่พระองค์ไม่ยอมพบ แล้วก็บีบบังคับให้องค์ชายรัชทายาท ก่อความวุ่นวายในที่ว่าราชการเช้า”
ฮ่องเต้หมิงหยวนลุกขึ้นมาบิดกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “ดี ข้าไม่ได้เห็นลูกชายคนนี้เดือดแค้นกระฟัดกระเฟียดมานานแล้ว ในความเป็นพ่อลูกกันนี้ จะกลมกลืนกันเกินไปไม่ได้ ไม่มีความสนุก”
เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้ยังสามารถมีความสุขในความทุกข์ยาก คิดว่า เรื่องนี้มีวิธีจัดการได้อย่างมั่นใจแล้วหรือ?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังอยู่ภายใต้การควบคุมได้ เจ้าไปจัดการเรื่องนี้ก่อน รอหลังจากกู้ซือไปพูดแล้ว เจ้าค่อยไปพูดคะยั้นคะยอ ข้าจะไปพระตำหนักฉินคุนแล้ว วันนั้นเห็นไท่ซ่างหวงอ้วกออกมาเป็นเลือด ในใจของข้ารู้สึกไม่ดีเลย”

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset