บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 862 นางสามารถวาดออกมาได้นี่

หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ไม่ผิด ประเทศซู่ทางนั้นมีข่าวกลับมาแล้ว เสี้ยวหงเฉิงมาด้วยตัวเองรอบหนึ่ง ประเทศซู่มีการเคลื่อนไหวแล้วจริงๆ และสงครามของแคว้นต้าโจว เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดแล้ว”
“แคว้นต้าโจวทางนั้นมีจดหมายรายงานส่งมาหรือไม่?”
“ได้ติดต่อกับจิ้งถิงแล้ว เมื่อวานนกพิราบส่งจดหมายมา พวกเขาจัดวางกำลังและแผนการอย่างเหมาะสมแล้ว บอกให้ข้าเตรียมตัวให้ดีหน่อย พวกเราสองประเทศมีพันธมิตรด้านการทหาร ดังนั้นทันทีที่ทำสงครามขึ้นมา กองทัพใหญ่ของพวกเราก็จำเป็นต้องไปประชิดที่ชายแดน ช่วยเหลือพวกเขาในเวลาที่จำเป็น”
“แต่อาวุธของพวกเรายังไม่ได้ประดิษฐ์ออกมานี่” หยวนชิงหลิงตะลึงครู่หนึ่ง ต้องทำสงครามจริงๆแล้ว? นางไม่เต็มใจเพียงใดกัน!
หยู่เหวินเห้ากล่าว: “เสี้ยวหงเฉิงบอกว่าคนสอดแนมที่ข้าส่งออกไปรู้เบาะแสของแผนที่ทางการทหารแล้ว แต่ต้องการทำลายแผนที่ทางการทหาร ยังต้องเหนื่อยยากกับอุปสรรคอยู่บ้าง”
“พวกเขาเริ่มประดิษฐ์แล้วหรือ?”
“ยัง พวกเขายังไม่ได้ทำความเข้าใจต่อแผนที่ทางการทหาร แต่ครั้งนี้แคว้นต้าโจวก็น่าจะส่งคนเข้าไปด้วย มีความเป็นไปได้มากที่พวกเขาจะบีบบังคับคนของแคว้นต้าโจวให้ไขความลับของแผนที่ทางการทหาร วันนี้ข่าวกรองที่เสี้ยวหงเฉิงส่งมาก็มีการคาดเดาเช่นนี้ แต่ยังมีการคาดเดาอีกอย่าง คือประเทศซู่อาจจะข่มขู่ทูตของแต่ละประเทศ ไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าร่วมเรื่องสงครามครั้งนี้”
หยวนชิงหลิงตกใจ “ตอนนี้ประเทศซู่ได้ออกทัพพร้อมกับเป่ยโม่แล้ว หงเล่ต้องการสองต่อหนึ่งตีแคว้นต้าโจว? พวกเราเป็นพันธมิตรกับแคว้นต้าโจวล่วงหน้าแล้ว ไม่สามารถนิ่งเฉยดูดายได้ ดังนั้น การเดินทางของท่านพี่รองครั้งนี้มีความอันตรายมากน่ะสิ”
หยวนชิงหลิงไตร่ตรองอย่างละเอียดก็รู้สึกว่าน่ากลัวเป็นที่สุด “ไม่ ทีแรกประเทศซู่คิดต้องการให้ท่านไปเข้าร่วมการฉลองครั้งนี้ พูดอีกนัยว่าพวกเขาต้องการบีบท่านไว้ในกำมือ ถ้าหากว่าท่านไม่ได้ถูกรับโทษกักบริเวณ ที่ไปก็เป็นท่านแล้ว คนของประเทศซู่มีความมุ่งมาดปรารถนาอันร้อนแรงโจ่งแจ้ง ท่านพี่รองไปไม่ได้นะ”
“เสด็จพ่อทรงตอบรับไปแล้ว กษัตริย์แห่งประเทศไม่สามารถคืนคำได้ เขาคำนวณก้าวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทีแรกคิดให้ท่านพี่สี่ไป เพราะว่าหงเย่ประเทศซู่ยังต้องพึ่งพาท่านพี่สี่ จะไม่ทำอะไรท่านพี่สี่ ใครจะคิดถึงว่าท่านพี่สี่จะคิดร้ายกับท่านพี่รองด้วยแล้ว ชั่งน่าแค้นใจนัก!”
หยู่เหวินเห้าโกรธแค้นต่ออ๋องอานจนกัดฟันกรอดๆด้วยความเดือดดาล ใจเขารู้ดี หากว่าตัวเองไปจะไม่เกิดเรื่องใหญ่ แต่บังเอิญให้ท่านพี่รองไปแล้ว ท่านพี่รองไปหมายความว่ามีความเป็นไปได้มากที่ประเทศซู่จะทำสำเร็จ อ้างสิ่งนี้ในการกดดันบังคับเป่ยถังให้ออกทัพไม่ได้ เช่นนั้นเป่ยถังกับแคว้นต้าโจวก็จะโกรธเคืองกัน และพันธมิตรระหว่างประเทศซู่กับเป่ยโม่ทำสงครามต่อแคว้นต้าโจวครั้งนี้ เป็นไปได้มากที่แคว้นต้าโจวจะพ่ายแพ้สงคราม
หยวนชิงหลิงคิดๆก็รู้สึกสะพรึงกลัวสุดขีด “เช่นนั้นจะทำอย่างไร? ตอนนี้ท่านพี่รองยังไม่รู้ถึงอันตรายนี่”
หยู่เหวินเห้าคิดแล้วคิดอีก มองดูนางแล้วกล่าว: “พรุ่งนี้เขาบอกว่าต้องการจะเชิญเพื่อนสนิทมางานเลี้ยงเจ้าไปรอบหนึ่ง ข้าไปไม่ได้ แต่แม้ว่าข้าจะไปแล้ว ตอนนี้เขาก็โกรธข้า คำที่ข้าพูดเขาก็ฟังไม่เข้าหู เจ้าไปบอกกับท่านพี่สะใภ้รองสักคำ ทำให้เขาจำเป็นต้องพาพี่ซูหลงไปให้ได้ พี่ซูหลงเป็นคนมีไหวพริบ มีความสามารถในการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดกะทันหันสูง หากว่ามีเขาอยู่ ข้าจะค่อนข้างวางใจหน่อย ตอนนี้คนของข้าก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในประเทศซู่แล้ว ข้าจะส่งจดหมายไป ให้พวกเขาช่วยเหลือพี่ซูหลง จำเป็นต้องรับประกันความปลอดภัยของท่านพี่รอง ทันทีที่เกิดเรื่อง ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ให้พวกเขาส่งท่านพี่รองกลับมาก่อน”
“ได้ ท่านวางใจ ท่านพี่สะใภ้รองทางนั้นข้าสามารถพูดเกลี้ยกล่อมได้ ท่านพี่รองก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง ก็คือเชื่อฟังภรรยา อย่ากังวลมากนัก แค่ไปจัดการเรื่องของท่านเท่านั้น” หยวนชิงหลิงกล่าว
หยู่เหวินเห้ากลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก “ตอนนี้ควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้แล้ว จะต้องทำอย่างไรในใจก็รู้สภาพดี เพียงแต่อาวุธนี่ไม่สามารถประดิษฐ์ออกมาได้ จิตใจของข้าก็ไม่สงบ ทีแรกเสด็จพ่อเคยบอกให้คนทำตามแผนที่ทางการทหารปลอมฉบับนั้นก่อน ก็ไม่สำเร็จ ไม่กี่เดือนมานี้ก็ศึกษามาโดยตลอด ศึกษาสาเหตุออกมาไม่ได้”
หยวนชิงหลิงกล่าว: “ของปลอมมีอะไรน่าศึกษา?”
“เจ้าไม่ได้เคยพูดหรือ? แผนที่ทางการทหารปลอมมีการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่เล็กน้อยไม่กี่ที่เท่านั้น ถ้าหากพวกเราสามารถรู้ได้ว่าเปลี่ยนแปลงตรงจุดไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร เช่นนั้นอย่างน้อยพวกเราก็สามารถทำให้แผนที่ทางการทหารแผนหนึ่งกลับสู่สภาพเดิมได้ นับว่าเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ก้าวหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็แค่ไขรหัสสัญลักษณ์เล็กๆยาวๆเหมือนไส้ไก่เหล่านั้นแล้ว”
หยวนชิงหลิงตะลึง มองดูเขา “ข้ารู้ว่าที่ไหนมีการเปลี่ยนแปลงนี่ ทำไมท่านไม่ถามข้า?”
“เจ้าจำได้?” หยู่เหวินเห้าตะลึง แต่ทันทีหลังจากนั้นก็รู้ว่านางเข้าใจผิดแล้ว “รู้ว่าตรงไหนมีการเปลี่ยนแปลงยังไม่พอ ยังต้องรู้ว่าก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนแปลงคืออะไรด้วย”
“ข้าจำได้นี่ สัญลักษณ์เหล่านั้น…..ไม่ใช่สัญลักษณ์ นั้นคือตัวอักษรชนิดหนึ่ง ข้าเคยบอกกับท่านว่าข้ารู้นี่ คิดไม่ถึงว่าพวกท่านจะศึกษาแผนที่ทางการทหารมาโดยตลอดแต่ไม่ใช่วิธีการประดิษฐ์งั้นหรือ? การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นข้าเคยบอกท่าแล้วนี่”
หยวนชิงหลิงตีหน้าผากทันที นางคิดว่าพวกเขาขบคิดว่าจะหล่อหลอมอย่างไรมาโดยตลอด เพราะว่าคนที่แคว้นต้าโจวส่งเข้าอธิบายรูปภาพไม่ได้มา ระหว่างทางถูกฆ่าตัดตอนแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะยังยุ่งกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงอยู่อีก
หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ไม่ผิดเจ้าเคยบอกแล้ว แต่ว่าส่วนที่เปลี่ยนแปลงเดิมทีกำหนดไว้เป็นอะไรเจ้าไม่ได้บอกนี่ และเรื่องนี้ยังต้องค่อนข้างระมัดระวัง เจ้าต้องรู้ แม้ว่าจะเป็นจุดละเอียดเล็กๆ ล้วนเป็นไปได้ที่จะทำให้สิ่งที่ทำมาตลอดไม่สำเร็จ เพราะพวกเราไม่มีความเข้าใจต่อรถทำสงครามประเภทนี้จริงๆ โดยเฉพาะโครงสร้างและการดำเนินงานก็ล้วนไม่เข้าใจ
ข้าเคยฟังจิ้งถิงบอกว่า หลังจากที่ประดิษฐ์รถทำสงครามนั่นสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ม้าลากให้เดิน คนนั่งด้านใน เท้าเหยียบที่เหยียบก็สามารถเดินไปด้านหน้าได้ อีกทั้งมีที่ป้องกันครอบคลุมก็สามารถปกป้องคนขับรถได้ ดังนั้นรายละเอียดเล็กๆก็ไม่สามารถผิดพลาดได้ ผิดพลาดก็ทำออกมาไม่ได้แล้ว”
หยวนชิงหลิงกล่าว: “การประดิษฐ์รถทำสงครามนี้ข้าไม่เข้าใจ ด้านการขับเคลื่อนต้องทำอย่างไรข้าก็ไม่เข้าใจ แต่หากว่าท่านต้องการให้ข้าวาดแผนที่ทางการทหารออกมา ข้าทำได้นี่นา หากไม่เชื่อข้าวาดออกมาให้ท่านดู หลังจากวาดออกมาแล้วข้าเอาสัญลักษณ์เหล่านั้นเปลี่ยนเป็นอักษรจีน ท่านเอาไปให้กรมทหารดู ดูว่าโรงหล่อหลอมของกรมทหารทางนั้นสามารถทำออกมาได้หรือไม่ แต่ ข้าสามารถวาดออกมาได้เท่านั้น ไม่สามารถอธิบายรูปภาพได้ พวกท่านยังต้องไตร่ตรองให้ดีๆอีกรอบ”
หยู่เหวินเห้าเห็นนางพูดอย่างคล่องแคล่วประเปรียวเพียงนี้ คิดว่าไม่สามารถทำให้นางหมดอารมณ์ได้ จึงกล่าว: “เช่นนั้นก็ดี หากเจ้าต้องการลองวาดภาพ ข้าจะบอกเจ้าเจ็ดให้ไปกรมทหารรอบหนึ่ง เอาแผนที่ทางการทหารปลอมนั่นกลับมา ให้เจ้ากลับไปคิดดูว่าสามารถนึกได้ครบถ้วนหรือไม่”
“ไม่ต้อง เอาของปลอมให้ข้า กลับทำให้ข้าสับสน แผนที่ทางการทหารที่สมองของข้าจดจำล้วนเป็นของจริง” หยวนชิงหลิงกล่าว
หยู่เหวินเห้าหัวเราะขึ้นมาแล้ว “ยายหยวน ความจำของเจ้าจะยอดเยี่ยมเพียงใด ก็ดูเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง สามารถจำทั้งหมดได้เชียวหรือ? สามารถจำได้ว่าเปลี่ยนแปลงก็สุดยอดแล้ว แผนที่ทางการทหารนั่นเปิดออกเป็นหนึ่งแผ่น แต่พับขึ้นมา นั้นก็คือสมุดเล่มหนาๆ โครงสร้างกลไกด้านในซับซ้อนมาก เจ้าจะสามารถจำได้อย่างไร? นี่เป็นไปไม่ได้ เอาล่ะ ข้าบอกให้เจ้าเจ็ดไปเอาก่อนเถอะ เอากลับมาแล้วเจ้าก็จัดการ”
หยู่เหวินเห้าพูดจบก็บอกให้คนไปหาอ๋องฉี ให้อ๋องฉีไปกรมทหารรอบหนึ่ง
หยวนชิงหลิงก็ขี้เกียจจะอธิบายกับเขา พุ่งเข้าห้องหนังสือทันที
นางจำเรื่องราวไม่แน่ว่าจะสามารถจดจำได้อย่างชัดเจนมากนัก แต่ตัวอักษรและรูปภาพนางสามารถจำได้อย่างชัดแจ้งเป็นที่สุด สมองนี้เคยได้ศึกษาพัฒนามาแล้วนี่
แม้จะบอกว่าหลังจากที่ให้กำเนิดเจ้าตัวน้อยทั้งสามแล้ว สมองเชื่องช้าเล็กน้อย และไม่มีความสามารถพิเศษเหล่านั้นเช่นตอนที่เพิ่งจะข้ามเวลามาแล้ว อันนี้นางก็เคยคิด อาจจะเป็นประสิทธิภาพของยาที่ค่อยๆหมดฤทธิ์ ดังนั้นจึงทำให้ความสามารถพิเศษลดลง
นางเคยคิดว่ารอให้เรื่องราวผ่านไปแล้ว ไปหารุ่นน้องพูดคุยเรื่องนี้ เพราะรุ่นน้องข้ามเวลาเข้ามาด้วยวิธีเดียวกัน แต่เขาสามารถหยิบวัตถุผ่านช่องว่างของกาลเวลาได้ ไม่มีเสื่อมถอย
แต่นางหลังจากที่ให้กำเนิดลูก กลับอ่อนแอแล้ว จนกระทั่งไม่เคยฝันเห็นห้องทดลองอีก ไม่รู้ว่าถูกการใช้ชีวิตที่นี่ผูกมัดหรือไม่ ชีวิตชาติที่แล้วยิ่งห่างไกลจากนางมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
นางกำหนดสภาพจิตใจลงมา เรียกหมันเอ๋อไปห้องคลังตัดกระดาษให้นาง จากนั้นเริ่มวาดภาพ
ภาพแห่งความทรงจำยังคงชัดเจนมาก ดังนั้นจึงวาดภาพได้ค่อนข้างราบรื่น แม้ว่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องสิ่งของเครื่องกลของอาวุธมากนัก แต่หลักการโครงสร้าง ยังคงมีแนวความคิดอยู่ เพียงแค่ แบบแปลนเป็นแผนภาพพื้นราบ แม้ว่าจะมีแบบแปลนแล้ว ไม่มีคนที่แคว้นต้าโจวส่งมา การหล่อหลอมยังคงมีความลำบากเป็นอย่างมาก
หยู่เหวินเห้าคิดว่านางหลบอยู่ด้านในห้องหนังสือ เขาก็กำลังรออ๋องฉีเอาแผนที่ทางการทหารกลับมาพอดี ดังนั้นก็ไม่ได้รบกวนนาง

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset