บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 329 ร่วมฝึก

ตอนที่ 329

ร่วมฝึก

เปรี้ยง!! ร่างของชายคนหนึ่งร่วงลงกับพื้นพร้อมแรงกระแทกที่มาจากกระบี่ไม้ในมือของคู่ต่อสู้ แต่ถึงจะล้มได้สวยงามเช่นไร คนรอบข้างก็ไม่ได้หันไปให้ความสนใจชายคนนั้นเสียเท่าไหร่เพราะเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นประจำในสำนักอยู่แล้ว

“ไหวหรือเปล่า”ชายที่พึ่งโจมตีคู่ต่อสู้ของตนจนล้มลงไปกับพื้นถามพลางเอื้อมมือมาให้ชายคนนั้นจับเอาไว้

“ไม่เป็นไร”ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มออกมาจางๆ ช่วงนี้อาจารย์ของพวกมันไม่ทราบเป็นอะไรตั้งใจฝึกฝนศิษย์มากขึ้นหลายเท่า หรือเพราะมีการเปลี่ยนองค์จักรพรรดิกันแน่ท่านถึงคึกอยากพัฒนาสำนักของตนเอง

“ได้ข่าวว่ายอดฝีมือของสำนักกระบี่ทะเลทรายพึ่งตายไปในสงคราม อาจารย์คงอยากจะดันให้สำนักเราเลื่อนอันดับขึ้นกระมัง”ชายคนหนึ่งพูดพลางร่ายกระบี่ในมืออย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ตำราจัดอันดับจอมยุทธของไช่จินวางจำหน่าย ไม่นานก็มีตารางจัดอันดับสำนักต่างๆเช่นกัน แน่นอนว่ามีการแยกสำนักของแต่ละอาณาจักรด้วยเช่นกัน ทำให้อันดับในตำรามีผลอย่างมากในการรับสมัครศิษย์ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครมานั่งหาข่าวกันแล้ว เพียงเปิดตำราจัดอันดับแล้วเลือกสำนักอันดับแรกๆแล้วเดินทางไปสมัครเอากันหมด

“ได้ข่าวว่าสงครามครั้งนี้อาณาจักรเราเสียยอดฝีมือไปเกือบหมด ตารางอันดับได้วุ่นวายพอดี”ชายอีกคนถอนหายใจพลางนั่งพักอย่างเหนื่อยอ่อน สำนักของพวกมันอยู่ในลำดับต้นๆมีทั้งสุดยอดวิชาฝึกตนและสุดยอดวิชากระบี่ หากแต่ไม่มียอดฝีมือทำให้อันดับของสำนักอยู่ค่อนข้างต่ำทีเดียว

“ถ้าอันดับขึ้นก็ดี พวกเราจะได้มีศิษย์ใหม่บ้าง”ชายอีกคนถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเหนื่อยใจ พออันดับสำนักตก แม้แต่คนในเมืองยังไปสมัครสำนักที่เมืองอื่น แต่ละปีไม่มีศิษย์ใหม่เข้ามาเลย ทำให้กำลังคนมีน้อยอันดับก็ยิ่งตกลงไปอีก

“ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากได้ศิษย์น้องน่ารักๆสักคนนะ”ชายอีกคนหัวเราะพลางเสนอความคิด สำนักกระบี่สี่ทิศของพวกมันมีแต่ชายออกจะเหี้ยวแห้งไปสักหน่อย ถ้ามีศิษย์น้องหญิงมาสักคนคงสร้างความกระตือรือร้นได้ไม่น้อย

“เข้าแถว”อยู่ๆเสียงของอาจารย์ท่านหนึ่งก็ดังขึ้น ทำเอาเหล่าศิษย์ต่างหยุดมือแล้วตรงไปตั้งแถวที่กลางลานทันที แต่เมื่อเห็นว่าที่ข้างกายของอาจารย์มีเด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่ คำว่าศิษย์น้องหญิงก็แล่นเข้ามาในหัวทุกคนทันที

“อง….เด็กคนนี้จะมาดูพวกเจ้าฝึกซ้อมกัน อย่าทำให้นางตกใจล่ะ”อาจารย์พูดจบก็ฝากเด็กสาวตัวน้อยให้เหล่าศิษย์ช่วยกันดูแล เหตุการณ์เช่นนี้เหมือนตอนรับศิษย์ใหม่ไม่มีผิด อาจารย์จะให้เด็กที่จะตัดสินใจเข้าสำนักหรือไม่มาดูการฝึกซ้อมก่อน หากพวกทันตกลงก็จะเข้าร่วมสำนักและมาอยู่ในหอพักของสำนักทันที

“ศิษย์พี่ ปากท่านศักดิ์สิทธิ์ดีจริงๆ แต่ท่านควรจะพูดเรื่องอายุนางให้ละเอียดด้วยนะ”ชายคนหนึ่งท้วงพลางมองไปทางศิษย์พี่ที่พูดเรื่องอยากได้ศิษย์น้องหญิงขึ้นมา ไม่ว่าจะดูอย่างไรศิษย์ใหม่คราวนี้ก็อายุไม่ถึง 10 ปีเสียด้วยซ้ำ ถึงจะน่ารักน่าเอ็นดูแต่ก็อายุห่างกับพวกมันเกินไป

“หนูน้อย เจ้าอยากดูพวกเราฝึกงั้นหรือ”ศิษย์คนหนึ่งถามพลางมองไปทางเด็กสาว

“เจ้าค่ะ”เด็กสาวตอบพลางพยักหน้าอย่างดีใจ ท่าทางนางจะสนใจเรื่องฝึกฝนวิชาไม่น้อย แต่พอสัมผัสพลังของนางดูแล้วกลับพบว่าแม้นางจะยังเด็กแต่พลังในตัวของนางไม่ใช่ธรรมดาเลย หรืออาจารย์ของพวกมันไปค้นพบเพชรน้ำงามเข้าแล้ส

“มาสิ ข้าจะสอนเจ้าทีละกระบวนท่า”ศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดพูดพลางเดินเข้าไปหาเด็กสาว นางยิ้มพลางเดินตามมันไปอย่างว่าง่าย แม้จะยังเด็กแต่ต้องยอมรับเลยว่านางงดงามจริงๆ อีก 10 ปีนางต้องเป็นสาวงามแน่ๆ

“ลองดูนะ นี่เป็นกระบวนท่าแรกของสำนักเรา”ศิษย์คนเล็กว่าพลางเริ่มร่ายกระบวนท่าง่ายๆที่เป็นกระบวนท่าพื้นฐานของสำนักให้เด็กสาวดู กระบวนท่าพื้นฐานพวกนี้ไม่ใช่ความลับอะไรให้เด็กที่ยังไม่ทราบจะเข้าสำนักหรือไม่ได้เห็นก็ไม่มีปัญหาอะไร

“เป็นไง เจ้าจำได้หรือเปล่า”หลังแสดงกระบวนท่าให้ดูเสร็จ ศิษย์คนนั้นก็ถามออกมาด้วยท่าทีใจดี

“จำได้เจ้าค่ะ”เด็กสาวตอบพลางพยักหน้าช้าๆ

“งั้นหรือ เจ้าอยากลองไหม”ชายหนุ่มถามด้วยท่าทางใจดี มันยื่นกระบี่ไม้ให้เด็กสาวพลางยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน เห็นเด็กสาวรับกระบี่ไปด้วยท่าทางยินดี พวกศิษย์ในลานฝึกก็พากันยิ้มอย่างอารมณ์ดี

ฟุบ… เด็กสาววาดกระบวนท่าออกมาอย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน แถวกำลังแขนของนางก็ดีอีกต่างหากทำเอาเหล่าศิษย์ในสำนักอดชื่นชมไม่ได้ สมแล้วที่นางมีพลังวิญญาณมาตั้งแต่เด็กท่าทางการฝึกวิชาก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับนางกระมัง

“งั้นท่าต่อไป”ศิษย์คนที่สอนท่าแรกให้เด็กสาวยิ้มพลางเริ่มสอนท่าที่ 2 3 และ 4 ให้เด็กสาว แต่ไม่ว่าจะสอนไปกี่ท่าทางจะทำตามได้หมดแถมให้นางทวนกระบวนท่านางก็ยังทำได้อย่างง่ายดาย

“บอดเลย เจ้าจำได้เร็วจริงๆ”เหล่าลูกศิษย์ของสำนักกระบี่สี่ทิศเริ่มฮือฮาเมื่อเด็กสาวเริ่มจดจำกระบวนท่ากระบี่ของพวกมันได้เรื่อยๆ ไม่นานกระบวนท่าพื้นฐานก็สอนให้นางจนหมด ทำเอาพวกมันเกิดความสลดเล็กน้อย พวกมันต้องจำกระบวนท่าพื้นฐานมากี่ปีถึงทำได้แบบนาง นี่นางมองครั้งเดียวก็จำได้หมด แถมยังวาดกระบวนท่าซ้ำได้ทั้งหมดอีกต่างหาก

“เช่นนั้นก็มาเริ่มการใช้จริงเถอะ เจ้าจำท่าพื้นฐานได้หมดแล้วมิใช่หรือ”ศิษย์อีกคนว่าพลางเดินออกมายืนต่อหน้าเด็กสาว

“เจ้าค่ะ ข้าจะพยายาม”เด็กสาวตอบพลางยิ้มกว้าง นางประสานมือคารวะชายตรงหน้าตามมารยาท ก่อนที่ชายคนนั้นจะคารวะนางกลับเช่นกัน

เปรี้ยง!! กระบี่ของเด็กสาวไวมาก แม้จะเป็นกระบวนท่าเดียวกัน แต่กลับหนักแน่นว่องไว หากที่นี่มีอาจารย์ของสำนักอยู่ด้วยมันย่อมมองเห็นแน่ๆว่าในท่วงท่าของเด็กสาวมีจิตกระบี่แฝงเอาไว้ด้วย ระดับฝีมือของนางไม่เหมือนเด็กดั่งรูปลักษณ์ภายนอกเลย

ผั๊วๆๆ… กระบี่ไม้ทั้งสองกระแทกกันอย่างดุดัน ทำเอาเหล่าศิษย์ต่างมองกันอย่างตกตะลึง การทดสอบใช้กระบวนท่าพื้นฐานผู้ทดสอบก็ต้องใช้แต่ท่าพื้นฐานเช่นกัน แต่ผู้ทดสอบยามนี้เหมือนกำลังเข้ารับการทดสอบเสียเอง เหล่าศิษย์ที่มีฝีมือหน่อยต่างเห็นได้ชัดเจนว่ากระบวนท่าของใครหนักแน่นกว่า และใช้ออกมาได้ตรงจังหวะมากกว่า

เปรี้ยง!! ร่างของศิษย์คนที่ตั้งใจจะทดสอบเด็กสาวถอยออกไปหลายก้าวหลังจากโดนกระบี่ของเด็กสาวแทงเข้าใส่อก เพราะไม่ได้ใช้พลังวิญญาณมันเลยไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่การเสียท่าให้เด็กตัวเท่านนี้ทำเอามันอับอายไม่น้อย

“พอเท่านั้น”เสียงของอาจารย์คนเมื่อครู่ดังขึ้นทำเอาเหล่าศิษย์ต่างหันไปมองอาจารย์ของพวกมันเป็นตาเดียว พวกมันอยากจะถามเหลือเกินว่าอาจารย์ไปหาเด็กคนนี่มาจากไหนกัน

“องค์หญิง พวกมันเสียมารยาทหรือไม่”อาจารย์คนนั้นถามพลางประสานมือคารวะมาทางเด็กสาว

“ไม่เลยเจ้าค่ะ พวกพี่ๆสอนข้าหลายอย่างเลย สนุกมากๆเลย”เด็กสาวตอบพลางยิ้มกว้าง แม้วิชาที่สอนจะง่ายไปหน่อย แต่นางก็ได้ความรู้มากทีเดียว

“หลินเอ๋อ เจ้าไปรบกวนพวกพี่ๆเขาหรือเปล่า”อยู่ๆที่หน้าประตูของลานฝึกซ้อม ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย ทำเอาเหล่าศิษย์ที่อยู่บนลานฝึกได้แต่มองตาค้าง พวกมันเห็นเด็กสาวก็พากันจินตนาการไปต่างๆนาๆว่าหากนางโตขึ้นจะงดงามเพียงไร ยามนี้พวกมันได้คำตอบแล้ว

“ถวายบังคมพระมเหสี”อาจารย์ของสำนักกระบี่สี่ทิศก้มลงถวายบังคมให้เหม่ยหลินทันทีที่นางเดินเข้ามา ทำเอาเหล่าศิษย์รีบทิ้งกระบี่ก้มลงคารวะทันที พวกมันได้ข่าวอยู่หรอกว่าองค์จักรพรรดิและองค์มเหสีกำลังเดินทางเยี่ยมชมเมืองต่างๆ แต่ไม่คิดว่าพระองค์จะเดินทางมาที่สำนักของพวกมันเลย

“ท่านแม่ ข้าไม่ได้กวนพี่ๆเลยนะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินกลับเข้าไปหามารดาของนาง

“แน่นะ”เหม่ยหลินถามพลางมองไปทางเหล่าลูกศิษย์ของสำนักกระบี่สี่ทิศ

“นะ แน่นอนขอรับ องค์หญิงเฉลียวฉลาดจดจำกระบวนท่าของพวกเราได้ในทันที พวกเราอดชื่นชมองค์หญิงไม่ได้เลยขอรับ”ศิษย์คนหนึ่งตอบออกมาหลังจากเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว เด็กสาวคนนั้นเรียกพระมเหสีว่าท่านแม่ นางย่อมเป็นองค์หญิงไม่ใช่หรืออย่างไร

“ขอบคุณที่ช่วยดูแลบุตรสาวของข้านะเจ้าคะท่านอาจารย์ ยังไงก็ฝากเรื่องที่ข้าขอร้องด้วยนะเจ้าคะ”เหม่ยหลินว่าพลางยิ้มบางๆให้อาจารย์ของสำนัก

“ขอรับ ข้าจะทำอย่างเต็มที่”อาจารย์ของสำนักกระบี่สี่ทิศตอบรับพลางประสานมือให้กับเหม่ยหลิน ไม่นานพวกมันก็แยกย้ายกันออกไปเหลือแต่เหล่ลูกศิษย์และอาจารย์ของพวกมันเท่านั้น

“อาจารย์ เกิดอะไรขึ้น ทำไมพระมเหสีถึงมาที่นี่ แล้วยังองค์หญิงอีก”ศิษย์คนหนึ่งถามด้วยท่าทีแตกตื่น เรื่องเมื่อครู่นับเป็นเรื่องใหญ่เลยไม่ใช่หรือ นี่พวกมันสอนวิชาให้องค์หญิงองค์ใหม่ไปแล้วงั้นหรือ

“พระองค์มีเรื่องอยากจอขอร้องสำนักของเรา”อาจารย์ของสำนักกระบี่สี่ทิศว่าพลางยิ้มออกมา

“ขอร้อง?”เหล่าศิษย์ทำหน้างงกันเป็นแถว

“ใช่ หลังจากนี้พวกเราต้องเดินทางไกลกันทีเดียว เตรียมตัวกันให้ดีด้วยล่ะ”อาจารย์ของสำนักว่าพลางยิ้มออกมา แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องขอร้อง แต่พวกมันเองก็ได้ประโยชน์ไม่น้อยเลย

“เดินทาง พวกเราจะไปไหนกันหรือ”ศิษย์คนนั้นถามพลางเลิกคิ้วสงสัย

“ไปอาณาจักรไป๋ทางเหนือ”ได้ยินเช่นนั้นเหล่าศิษย์ต่างก็มีสีหน้างุนงงทันที แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้พวกมันนับว่าอยู่ในอาณาจักรไป๋ทางใต้ก็นึกอ๋อออกมาทันที

“องค์มเหสีมาขอร้องให้พวกเราย้ายสำนักไปที่ทางเหนือ ที่นั่นไม่มีสำนักฝึกวิชายุทธ องค์จักรพรรดิเลยอยากจะให้สำนักต่างๆไปทางเหนือเพื่อเปิดรับคนเข้ามาฝึกฝน”พูดจบอาจารย์ของสำนักก็มองไปยังป้ายสำนักด้วยท่าทียินดี แม้จะต้องย้ายสำนัก แต่ทางเหนือมีสำนักน้อย พวกมันย่อมสามารถรับสมัครศิษย์จำนวนมากได้ บางทีอาจจะได้อัจฉริยะอย่างองค์หญิงมาร่วมสำนักก็เป็นได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset