บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 469 ลืมไป

ตอนที่ 469

ลืมไป

“อาจารย์….”หลังจากพาไปเยี่ยมสหายของอาจารย์ หลี่เย่และอาจารย์ของนางก็เดินทางกลับมายังอาณาจักรอู๋ตามเดิม เพียงแต่ผ่านไปไม่กี่วัน อยู่ๆอาจารย์ของหลี่เย่ก็หายไปจากบ้านเสียอย่างนั้นทำเอาหลี่เย่รู้สึกประหลาดใจมากเพราะนอกจากไปเยี่ยมสหายของนางแล้วอาจารย์ก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย ทั้งสมุนไพรหรืออุปกรณ์การแพทย์ก็ให้นางไปซื้อมาทั้งนั้น การที่อาจารย์ของนางหายไปในเช้าวันที่พึ่งกลับมาจากไปเยี่ยมสหายได้ไม่กี่วันนั้นนับว่าแปลกประหลาดอย่างมาก

“….”หลี่เย่มองไปรอบๆก่อนจะพบว่ามีจดหมายฉบับหนึ่งทิ้งเอาไว้บนโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางบ้าน เมื่อเห็นเช่นนั้นหลี่เย่ก็รู้สึกโล่งใจท่าทางอาจารย์คงจะมีธุระเลยออกเดินทางไปโดยไม่ได้บอกอะไรนาง เพียงแต่พอเปิดจดหมายออกอ่านหลี่เย่ก็สะท้านวาบเพราะธุระของอาจารย์นั้นคือการบุกเขตอสูรผาไร้ก้นตามลำพังนั่นเอง แถมนางยังเขียนเอาไว้ว่าหากนางไม่ได้กลับมาขอให้หลี่เย่หาวิธีรักษาสหายของนางต่อไปด้วยอีกต่างหาก ทำเอาหลี่เย่ใจเสียจนแทบจะร้องไห้ วินาทีนั้นนางไม่คิดอะไรให้มากความนางวิ่งออกไปจากบ้านด้วยความเร็วที่มากที่สุดที่ตนมี ก่อนจะขอยืมอสูรบินสำหรับโดยสารมาจากคนที่นางเคยรักษาเพื่อจะตามไปหาอาจารย์ก่อนที่นางจะทำอะไรบ้าๆลงไป

.

.

“อาจารย์”หลี่เย่ที่ตามเหล่าเซียงมาด้วยความเร็วของอสูรบินนั้นใช้เวลาไม่นานก็มาถึงขอบหน้าผาของเขตอสูรผาไร้ก้น โชคดีจริงๆที่ยังตามมาทันเพราะตอนที่หลี่เย่มาถึง เหล่าเซียงก็กำลังจะกระโดดลงไปเสียแล้ว

“อาจารย์ ท่านอย่าทำแบบนั้นนะเจ้าคะ”หลี่เย่ว่าพลางกระโดดลงจากหลังอสูรบินเพื่อเข้าไปห้ามเหล่าเซียงเอาไว้

“ปล่อยข้า”เหล่าเซียงที่โดนหลี่เย่ดึงตัวเอาไว้พูดก่อนจะดึงแขนของตนออกจากมือของหลี่เย่

“ไม่ได้นะเจ้าคะอาจารย์ หากท่านเข้าไปท่านต้องตายแน่ๆ”หลี่เย่พูดก่อนจะเริ่มหลั่งน้ำตาออกมา นางเคยเห็นว่าในเขตอสูรผาไร้ก้นเป็นเช่นไร แม้จะดีกับผู้เป็นมิตร แต่หากลักลอบเข้าไปก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น อสูรในนั้นไม่ต้องถึงมือเหล่าราชาเพียงอสูรระดับธรรมดาๆก็น่าจะฆ่าทั้งนางทั้งอาจารย์ได้ไม่ยาก

“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร เข้าไปดีๆก็ไม่ได้ สมุนไพรก็ต้องใช้ มันก็มีแต่ต้องแอบเข้าไปไม่ใช่หรือไง”เหล่าเซียงว่าพลางกำหมัดแน่น นางใช้เวลาหลายสิบปีพยายามหาทางเข้าเขตอสูรผาไร้ก้นอย่างถูกต้อง แต่ทุกคนที่มีสิทธิ์ทำได้ก็หวงแหนการเข้าถึงเสียเหลือเกิน วันก่อนตอนที่องค์จักรพรรดิปฏิเสธนาง นั่นก็เท่ากับว่ามันได้ตัดหนทางไม่กี่ทางของนางไปแล้ว ยามนี้หนทางเดียวที่นางคิดออกก็คือลอบเข้าไปมันเสียเลยเท่านั้น

“อีกแค่นิดเดียว….อีกแค่นิดเดียวก็จะสำเร็จอยู่แล้ว”เหล่าเซียงว่าพลางกำหมัดแน่น หากได้น้ำจากสระชีพจรวารีและสมุนไพรอีกเพียงชนิดเดียวเท่านั้นยาที่นางกำลังพยายามปรุงขึ้นมาก็ควรจะสำเร็จแล้ว แต่ปัญหาคือนางไม่อาจเข้าไปเอาได้ และความเสี่ยงมันก็มากเสียด้วย

“เจ้าจะให้ข้ายอมแพ้เพราะไม่อาจเข้าไปเอาวัตถุดิบได้หรือไง ข้าไม่มีทางยอมหยุดแค่นี้แน่ๆ”เหล่าเซียงว่าพลางเตรียมจะกระโดดลงไปข้างล่าง เพียงแต่หลี่เย่ก็ยังไม่ยอมให้นางไปอยู่ดี

“อาจารย์….ข้าจะไปเองเจ้าค่ะ”หลี่เย่พูดพลางก้มหัวลงด้วยท่าทีกดดัน นางทราบความน่ากลัวของเขตอสูรผาไร้ก้นดี และคราวนี้นางกำลังจะเข้าไปในฐานะผู้บุกรุกไม่ได้เข้าไปในฐานะแขกเหมือนคราวนี้แล้วอีกด้วย

“ถ้าข้าตีสนิทคนตระกูลไป๋ได้ท่านคงได้สมุนไพรตามที่ต้องการมาแล้วแท้ๆ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเองเจ้าค่ะ”หลี่เย่พูดพลางมองไปทางอาจารย์ด้วยท่าทีจริงจัง หากเข้าไปแล้วต้องเสียงเอาชีวิตรอดไม่ได้ นางก็อยากจะเสี่ยงแทนอาจารย์มากกว่า

ฟุบ! ร่างของหลี่เย่ทะยานลงไปในเขตอสูรผาไร้ก้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยโอกาสให้เหล่าเซียงได้โต้เถียงอะไรอีก แม้จะไม่ถึงระดับยอดฝีมือ แต่หากใช้ความสามารถดวงตาสีเขียวและวิชาตัวเบาดีๆก็อาจจะพอแทรกเข้าไปได้ก็ได้….

“……….”หลี่เย่ที่กำลังลอยอยู่บนอากาศใจหายวาบเมื่อเห็นว่าเบื้องล่างที่ตนกระโดดลงมามีอะไร ส่วนที่นางกระโดดลงมาเป็นพื้นที่ของป่าเมฆาอัสนีถูกต้องแน่นอน แล้วทำไมท่านจิ้งจอกเหมันต์ถึงมายืนรอนางอยู่ตรงนั้นได้กัน…..

ตุบ…..หลี่เย่มาถึงพื้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าจิ้งจอกเหมันต์พอดี อย่าว่าแต่ลักลอบเข้าไปในเขตป่าวัฒนะเลย แค่ยังไม่ทันลงพื้นนางก็ถูกจับได้เสียแล้ว

“ทะ ท่าน….”หลี่เย่จิตใจกระเจิดกระเจิงไปจนหมดเมื่อเห็นว่าจิ้งจอกเหมันต์กำลังยืนกอดอกมองตนเองอยู่

“เจ้าน่าจะรู้นะว่าพวกข้ามีอสูรปักษาอยู่ในเขตอสูรด้วย”จิ้งจอกเหมันต์ถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเหนื่อยใจ ทั้งเหล่าเซียงทั้งหลี่เย่ที่ขี่อสูรบินมาโดนอสูรของเขตอสูรผาไร้ก้นจับได้ตั้งนานแล้ว ข่าวเรื่องพวกนางมายืนทำท่าทีลับๆล่อๆไปถึงหูพวกจิ้งจอกเหมันต์ตั้งแต่ก่อนหลี่เย่กระโดดเสียอีก

“จะ เจ้าค่ะ…”หลี่เย่เหงื่อแตกพลั่กทันที นอกจากจะโดนจับได้แล้วคนที่จับนางได้ยังเป็นท่านจิ้งจอกเหมันต์อีกต่างหาก

“เอาเถอะ ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าอย่ามาให้เห็นอีก”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางเรียกเอาลิ่มน้ำแข็งออกมาจากอากาศรอบๆ ก่อนจะปล่อยให้มันชี้เข้าใส่หลี่เย่ชนิดว่าหากขยับเพียงนิดเดียวก็คงโดนลิ่มน้ำแข็งรอบๆพุ่งมาโจมตีแน่ๆ

“เจ้าค่ะ เรื่องนั้นข้าทำใจไว้แล้ว…”หลี่เย่ตอบพลางกุมมือตนเองที่สั่นระริกเอาไว้แน่น ตั้งแต่กระโดดลงมาหลี่เย่ก็ทำใจไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากตนเองโดนจับได้

“ทำไมเจ้าไม่บอกข้าล่ะ ว่าคนที่ฉีดยาเสน่ห์คืออาจารย์ของเจ้า”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางมองขึ้นไปข้างบน หลังจากนางขู่หลี่เย่ไป จูล่งก็เข้ามาพูดกับนางด้วยท่าทีกังวล ทำให้จิ้งจอกเหมันต์ได้ทราบว่าจริงๆแล้วคนที่ขอให้จูล่งไปเดินเที่ยวชมตลาดกับหลี่เย่ก็คือเหล่าเซียงอาจารย์ของนางนั่นเอง ทำให้จิ้งจอกเหมันต์พอจะเดาเรื่องราวได้นิดหน่อย

“มะ ไม่ใช่นะเจ้าคะ เรื่องนี้อาจารย์ไม่เกี่ยว”หลี่เย่สะท้านวาบ ท่านจิ้งจอกเหมันต์ทราบแต่แรกแล้วว่านางมาอยู่ที่ขอบหน้าผา นั่นหมายความว่าท่านก็ทราบเช่นกันว่าอาจารย์ของนางอยู่ที่นี่ หากท่านจิ้งจอกเหมันต์เกิดคิดจะจัดการอาจารย์ของนางขึ้นมาละก็คงแย่แน่ๆ

“ถ้าเจ้ายังไม่พูดความจริงอีก ข้าจะไม่ปล่อยให้อาจารย์ของเจ้ากลับไปนะ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางเปลี่ยนทิศทางของลิ่มน้ำแข็งให้ชี้ขึ้นไปข้างบนแทน

“ไม่ได้นะเจ้าคะ ได้โปรดอย่าทำอะไรอาจารย์ของข้าเลย”หลี่เย่สะท้านวาบพลางก้มหัวลงกับพื้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ได้ แต่อย่าทำอะไรอาจารย์ของนางเลย

“งั้นเจ้าก็จงเล่าความจริงมาซะ ถ้าเล่าข้าจะปล่อยให้นางรอดไปก่อน”จิ้งจอกเหมันต์พูดพลางจ้องมองหลี่เย่ด้วยท่าทีเอาจริงเอาจัง ทำเอาหลี่เย่ได้แต่มองกลับมาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลออยู่จนเกือบจะไหลออกมา ท่าทางเรื่องของอาจารย์จะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลี่เย่จริงๆ

“เจ้าค่ะ…”หลี่เย่ตอบพลางเริ่มเล่าเรื่องของอาจารย์ช้าๆ ทั้งเรื่องที่นางพยายามหาวิธีสร้างยาเพื่อรักษาสหายของนาง เรื่องที่นางโดนอาจารย์บอกให้มาหลอกจูล่งและตีสนิทคนของตระกูลไป๋ รวมทั้งเรื่องที่ใช้ยาเสน่ห์ใส่หลี่เย่เองด้วย

“แล้วเจ้าล่ะ”จิ้งจอกเหมันต์ถามหลังจากฟังเรื่องทั้งหมดจบแล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามที่นางคาดการณ์เอาไว้ เพราะนางก็เห็นอยู่ว่าหลี่เย่ไม่มีท่าทีเชิงชู้สาวกับจูล่งเลย

“ใจเจ้าคิดจะหลอกจูล่งหรือไม่”จิ้งจอกเหมันต์ถามออกไปพลางปล่อยให้หลี่เย่ได้ครุ่นคิดหาคำตอบ

“ไม่เจ้าค่ะ”หลี่เย่แทบไม่ได้ใช้เวลาคิดนานเลย นางตอบออกมาตามตรงเท่านั้น

“น้องจูล่งเป็นเด็กดีเจ้าค่ะ ข้าทำใจหลอกไม่ลงจริงๆ หากตอนนั้นไม่เกิดเรื่องเสียก่อนข้าก็จะขอแยกตัวจากน้องจูล่งไปแล้วเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบพลางยิ้มบางๆออกมา พอนึกถึงท่าทีใสซื่อของจูล่งหลี่เย่ก็อดอมยิ้มออกมาไม่ได้ มันเหมือนน้องชายที่น่ารักคนหนึ่งเลย

“ข้าล่ะเหนื่อยใจกับอาจารย์เจ้าจริงๆ”จิ้งจอกเหมันต์ถอนหายใจออกมา แต่ก็ไม่ใช่ว่านางจะไม่เข้าใจความรักที่หญิงคนหนึ่งจะมีให้กับชายสักคน อย่างแม่ของหยงเวยเองก็เป็นเช่นนั้น นางยอมผิดใจกับพี่น้องและขัดคำสั่งของนางเพื่อไปอยู่กับพ่อของหยงเวย การที่นางพยายามขนาดนี้เพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนัก

“เอาเถอะ ข้าจะช่วยเจ้าสักครั้ง”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางเปลี่ยนร่างเป็นจิ้งจอกอีกครั้ง

“ท่านว่าอะไรนะเจ้าคะ”หลี่เย่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ นางคิดว่าคราวนี้นางจะต้องตายแล้วแน่ๆเสียอีก

“ข้าบอกข้าจะช่วยเจ้าไง พวกข้าห้าไม่ให้คนนอกเข้ามาเพราะป้องกันพวกโลภมาก แต่เรื่องรักษาคนไม่ใช่เรื่องที่พวกข้าจะรับกันไม่ได้หรอกนะ”จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางบอกให้หลี่เย่ขึ้นหลังนางมา ถึงแม้จะใช้วิธีผิดไปหน่อย แต่สุดท้ายแล้วเหล่าเซียงก็เพียงต้องการสมุนไพรไปรักษาคนเท่านั้น แบ่งสมุนไพรที่พวกตนมีกันอยู่มากมายเหลือเฟือให้สักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร

“จะ จริงหรือเจ้าคะ”หลี่เย่เบิกตากว้างด้วยท่าทีตกใจ ไม่นึกว่าจิ้งจอกเหมันต์จะตกลงช่วยนางแบบนี้

“พวกเจ้านี่คิดอะไรซับซ้อนกันเกินไปแล้ว ถ้าเจ้าเล่าให้พวกข้าฟังตั้งแต่รอบแรกที่มา หรือบอกล่งเอ๋อไปตรงๆตั้งแต่ในตลาด ตอนนี้เผลอๆพ่อของล่งเอ๋อจะออกไปช่วยเจ้ารักษาด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ”จิ้งจอกเหมันต์หัวเราะออกมาพลางกระโจนไปบนก้อนหินอย่างรวดเร็ว

“เรื่องนั้นคนธรรมดาอย่างพวกข้าไม่กล้าทำหรอกเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบ พอได้ลองหาวิธีเข้าไปในเขตอสูรผาไร้ก้นหลี่เย่ก็ได้ทราบว่ามันยากแค่ไหน ขืนคนธรรมดาบอกว่าจะเดินไปหาไป๋จูเหวินแล้วขอให้ช่วยรักษาคนให้หน่อยคงมีแต่คนหัวเราะแน่ๆ

“เห็นแบบนี้พ่อของล่งเอ๋อก็ไม่ต่างจากเจ้านักหรอก แค่บอกว่ามีคนบาดเจ็บก็คงไปช่วยทันทีเหมือนกัน”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางเหลือบไปมองหลี่เย่นิดหน่อย อย่างไรเรื่องที่นางออกไปช่วยเหลือคนก็เป็นเรื่องจริงอยู่ดี

“จะ เจ้าค่ะ…”หลี่เย่พูดพลางยิ้มน้อยๆออกมา แบบนี้อาจารย์ของนางก็ได้ทำยาไปรักษาสหายของนางเสียที เท่านี้นางก็จะสมหวังและกลับมาเป็นคนเดิมเสียที

“……ท่านจิ้งจอกเหมันต์”ขณะกำลังวิ่งเข้าไปในเมืองจำลองที่อยู่ส่วนกลางของผาไร้ก้น อยู่ๆหลี่เย่ก็เรียกจิ้งจอกเหมันต์เอาไว้ทันที

“มีอะไร”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางชะลอฝีเท้าลงช้าๆ มาจะถึงอยู่แล้วนางลังเลอะไรงั้นหรือ

“ข้า….ลืมถามอาจารย์เจ้าค่ะว่าสมุนไพรที่ต้องใช้คืออะไร”หลี่เย่กะพริบตาปริบๆพลางเอามือมาทาบอกทันที

“หา เจ้าลืมได้ยังไง”จิ้งจอกเหมันต์ชะงักเท้าทันที ทำเอาหลี่เย่แทบจะปลิวตกลงไปนี่นางกระโดดลงมาโดยไม่ได้เตรียมมาก่อนงั้นหรือว่าจะต้องใช้อะไร

“กะ ก็….ข้านึกว่าข้าคงไม่รอดกลับไปแล้วนี่เจ้าคะ”หลี่เย่ตอบพลางก้มหน้าสำนึกผิด

“เจ้า….”จิ้งจอกเหมันต์ไม่ทราบจะด่านางว่าอะไรดี แต่เอาเถอะนางวิ่งครู่เดียวก็กลับไปถึงแล้ว เช่นนั้นก็พาอาจารย์ของนางมาด้วยเลยก็แล้วกัน

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing
บุตรอสูรบรรพกาล ไป๋จูเหวิน เด็กหนุ่มผู้ถูกเลี้ยงดูโดย อสูรแมงมุม ที่มีอายุมายาวนานนับหมื่นๆปี มันดูแลเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ที่ไม่ทราบมาจากที่ใดดั่งบุตรของตนเอง แต่เด็กมนุษย์เพียงคนเดียวไม่อาจอยู่ในแดนอสูรที่มีแต่อสูรได้ มันจึงเดินทางมายังแดนมนุษย์อีกครั้ง ระดับของอสูร -ทองแดง -เงิน -ทอง -หยก -หยกขาว -ตำนาน -มายา -บรรพกาล ระดับของมนุษย์ (มีเพิ่มภายหลัง) -มนุษย์ -ก่อกำเนิด -ผลึกวิญญาณ -หลอมรวมปฐพี -หลอมรวมนภา -หลอมรวมวิญญาณ -ชำระกล้ามเนื้อ -ชำระกระดูก -ชำระเส้นเอ็น -ชำระวิญญาณ -ก่อกำเนิดพลังเซียน -เหรินเซียน -ตี้เซียน -เสินเซียน -เทียนเซียน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset