บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 503 ชดเชย

ตอนที่ 503

ชดเชย

“หมดกัน”ยี่เจินทรุดลงกับพื้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่า การเดินทางตลอดเส้นทางเป็นไปได้ด้วยดีแท้ๆ แต่กลับต้องมาเจออสูรต่อสู้กันกลางทะเลซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก แถมยังเป็นอสูรระดับบรรพกาลต่อสู้กันอีกต่างหาก เรียกได้ว่าโอกาสที่อสูรระดับนี้จะออกจากเขตอสูรของตนเองมาสู้กันนั้นมีน้อยมาก หากไม่นับเป็นโอกาสหนึ่งในล้านจะเรียกว่าอะไรได้

น่าเสียดายเรือที่ยี่เจินเดินทางมาด้วยเป็นเพียงเรือขนาดกลางราคาถูก ทำให้เจ้าของเรือไม่มีประกันอะไรให้ผู้เดินทางทั้งสิ้น ทำให้เหล่าพ่อค้าที่เสียสินค้าของตนเองไปได้แต่ทำใจ แต่พวกมันก็คงจะไม่ได้เจ็บหนักเหมือนยี่เจินที่ทุ่มเงินทั้งหมดที่ตัวเองมีกับการเดินเรือครั้งนี้

“เจ้านายท่าทางจะไม่ไหวแล้วแฮะ”ลูกน้องของยี่เจินพูดขณะมองยี่เจินที่นั่งเหม่ออยู่ในเรือขณะเดินทางต่อไปยังอาณาจักรไชน์

“มัวแต่ไปเป็นห่วงคนอื่น แล้วพวกเราเล่าจะเอาอย่างไรต่อ”ชายอีกคนถามพลางมองไปรอบๆ สินค้าทั้งหมดหายไปแล้ว งานของพวกมันก็เป็นอันจบ ตอนนี้แค่เงินเดือนยังไม่ทราบเลยว่ายี่เจินจะมีปัญญาจ่ายหรือเปล่า

.

.

“อย่างที่พวกเจ้าเห็น สินค้าของข้าจมหายไปหมดแล้ว”หลังจากมาถึงเมืองท่าของอาณาจักรไชน์ ยี่เจินก็เรียกคนงานของตนมารวมตัวกัน ซึ่งทุกคนก็เหมือนจะรู้ชะตากันอยู่แล้วเสียด้วย

“ข้าขอโทษด้วย แต่งานหลังจากนี้ข้าคงไม่มีให้พวกเจ้าทำแล้ว”ยี่เจินพูดออกมาเช่นนี้ก็เท่ากับเป็นการไล่ทุกคนออกนั่นเอง แต่จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ ทุกคนก็เห็นกันกับตาว่าสินค้าทั้งหมดจมหายไปในทะเล ยี่เจินยามนี้มีแค่ของติดตัวไม่กี่ชิ้นเท่านั้นไม่มีปัญญามาจ้างใครได้หรอก

“นี่เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่ พวกเจ้าเอาไปเป็นค่าเรือกลับอาณาจักรอู๋เถอะนะ ส่วนที่เหลือก็นับว่าเป็นค่าเสียเวลาก็แล้วกัน”ยี่เจินพูดพลางนำถุงเงินออกมา เมื่อแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆแล้วก็มากพอจะให้ทุกคนกลับไปยังอาณาจักรอู๋และเศษๆอีกนิดหน่อย

“แล้วท่านล่ะหัวหน้า”ไป๋จูล่งถามพลางมองไปทางยี่เจิน เงินที่ยี่เจินมีติดตัวไม่เหลืออีกแล้ว ที่เอาออกมาเมื่อครู่คือทั้งหมดจริงๆ ไม่เหลือให้ตัวมันเองแม้แต่เหรียญเดียว

“ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะมาเสี่ยงดวงเอาที่นี่”ยี่เจินตอบพลางยิ้มเศร้าๆออกมา คนงานส่วนใหญ่พอเห็นแบบนั้นก็รับเงินไปด้วยท่าทีเงียบๆกันทั้งนั้น พวกมันส่วนใหญ่ไม่รู้ภาษาไชน์ หากไม่ได้ทำงานก็ต้องกลับอาณาจักรอู๋อย่างเดียวเท่านั้น

“หัวหน้า อย่าว่างั้นงี้เลยนะ แต่ท่านทำพวกเราเสียเวลา อย่างไรก็ต้องมีค่าชดเชยบ้างสิ”อยู่ๆลูกน้องคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีไม่พอใจ

“ขอโทษด้วยก็แล้วกัน ข้าไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว”ยี่เจินว่าพลางแบมือทั้งสองข้างออก

“ท่านยังมีเจ้านั่นไง”ลูกน้องคนนั้นชี้มาที่สร้อยคอของยี่เจิน มันเป็นสร้อยคอที่เหมือนเครื่องประดับของผู้หญิง การที่ชายวัยกลางคนอย่างยี่เจินสวมเอาไว้เลยดูค่อนข้างแปลก แต่ยี่เจินก็ยังสวมอยู่แม้มันจะไม่ได้มีราคาแพงอะไรมากมายก็ตาม แต่หากเอาไปขายก็คงได้เงินมาสักหน่อยก็เถอะ

“ไม่ได้”ยี่เจินส่ายหน้าพลางกุมสร้อยคอเอาไว้ ท่าทางจะเป็นของสำคัญของเจ้าตัวกระมัง

“ท่านอยากได้ค่าชดเชยงั้นหรือ”อยู่ๆไป๋จูล่งก็เดินเข้ามาขวางระหว่างลูกน้องกับยี่เจิน เพราะหากมันไม่เข้ามาลูกน้องคนนั้นจะเข้ามาดึงสร้อยของยี่เจินจนขาดนั่นเอง

“เอานี่ไป”จูล่งพูดจบก็โยนถุงเงินส่วนของตนเองให้กับชายคนนั้น มันอยากได้ค่าชดเชยนัก เงินสำหรับค่าเรือของจูล่งคงมากพอจะทำให้ชายคนนั้นหุบปากได้

“เจ้าหนุ่ม แล้วค่าเรือเจ้าล่ะ”ยี่เจินถามพลางมองจูล่งด้วยท่าทีตกใจ

“ข้าอยากลองเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่สักพักขอรับ”จูล่งตอบพลางหัวเราะออกมา เงินจำนวนเท่านั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรกับจูล่งอยู่แล้ว อย่าว่าแต่จะกลับอาณาจักรอู๋หรือกลับเขตอสูรมันแค่หาอสูรบินแถวนี้ให้ช่วยไปส่งหรือวิ่งกลับผ่านทะเลก็ยังได้

“ก็ได้ ข้าจะรับเอาไว้”ชายคนนั้นว่าพลางเก็บถุงเงินเข้ากระเป๋า ก่อนจะเดินออกไปจากวงสนทนาทันที เพียงแต่มันเดินยังไม่ทันถึงเรือก็โดนหญิงสาว 4 คนดักเอาไว้ก่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของยี่เจินแต่อย่างไร

“หัวหน้า ข้าเอาแค่ค่าเรือก็พอ”ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดพลางนำเหรียญเงินที่เหลือเศษมาให้ยี่เจิน มันโบกมือลา ก่อนจะเดินจากไปเช่นกัน

“หัวหน้า ข้าจะกลับไปหางานที่อาณาจักรอู๋ ท่านก็อย่าพึ่งหมดหวังล่ะ”ลูกน้องอีกคนพูดพลางยื่นเหรียญเงินให้ยี่เจินเช่นกัน ไม่นานเหรียญเงินที่เหลือก็ถูกมาวางเอาไว้ตรงหน้ายี่เจินจนหมด แม้จะไม่พอค่าเรือขากลับก็ตาม

“เจ้าหนุ่ม เงินพวกนี้”ยี่เจินพูดพลางรวบรวมเงินที่ได้มาหมายจะยกให้จูล่ง

“ไม่ขอรับ”จูล่งว่าพลางส่ายหน้าช้าๆ เงินจำนวนนั้นสำคัญกับยี่เจินมากกว่ามันมาก จะให้มันเอามาได้อย่างไร

“แต่เจ้ายังไม่ได้ค่าจ้างเลยไม่ใช่หรือไง เจ้ามาทำงานหาเงินนะ”ยี่เจินถามพลางมองจูล่งด้วยท่าทีลำบากใจ

“เอาไว้ท่านจ่ายให้ข้าหลังจากทำงานแล้วก็แล้วกัน”จูล่งว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆ

“งานอะไรกัน ข้ายังเอาตัวไม่รอดเลย”ยี่เจินส่ายหน้าพลางเก็บเงินเข้ากระเป๋าอย่างช่วยไม่ได้ ท่าทางจูล่งจะไม่ยอมรับเงินของมันจริงๆ

“ท่านเป็นพ่อค้าไม่ใช่หรือขอรับ ถึงเงินทุนจะน้อยไปหน่อยแต่ท่านก็ยังค้าขายได้นี่นา”จูล่งตอบด้วยท่าทีอ่อนโยน มันประทับใจสิ่งที่ยี่เจินทำให้ลูกน้องคนอื่นๆมาก มันเลยตัดสินใจจะช่วยเหลือยี่เจินสักพัก

“ก็ใช่….”ยี่เจินว่าพลางกุมไปที่กระเป๋าของตนเอง เงินจำนวนนี้แม้จะไม่มาก แต่หากจะงอกมันเพิ่มก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาและความอดทน รวมทั้งโชคช่วยอีกด้วย

“งั้น ข้าจะช่วยเจ้านายต่อ แล้วค่อยรับข้าแรง”จูล่งตอบด้วยท่าทีจริงใจอย่างมาก ทำให้ยี่เจินได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ ในเมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจจะลำบากกับตนเอง มันก็คงห้ามไม่ได้

.

.

“เจ้านาย ท่านอยากจะทำอะไรงั้นหรือ”หลังจากตัดสินใจจะอยู่ที่อาณาจักรไชน์ต่อ ยี่เจินและจูล่งก็ต้องหาทางทำเงินที่มีอยู่ แต่เดิมยี่เจินจะนำสินค้าจากอาณาจักรอู๋มาขาย เพราะสินค้าจากอาณาจักรอู๋สามารถหาซื้อมาได้ด้วยราคาถูก พอเอามาขายที่นี่ราคาก็จะขึ้นไปสองเท่าหรือสามเท่าตัวได้สบาย แต่หากจะไปซื้อของจากอาณาจักรอู่มาจากพ่อค้าที่ลงมาจากเรือ ก็คงได้ราคาสองสามเท่าที่ว่าแล้วเอามาขายต่อไม่ได้กำไรเสียด้วย

“จ้าคงต้องเดินสำรวจตลาดสักพัก เจ้าจะมาด้วยกันไหม”ยี่เจินถามพลางมองไปทางจูล่งที่อยู่ข้างๆ

“เจ้านาย หากมีคนสามารถมาช่วยงานท่านได้โดยไม่ต้องเสียเงินจ้าง ท่านจะรับหรือไม่”ไป๋จูล่งถามพลางมองไปทางนอกเมือง

“ฮ้าๆ ถ้ามีคนแบบนั้นก็ต้องรับอยู่แล้ว ใครมันจะบ้ามาทำงานให้ข้าฟรีๆกัน”ยี่เจินหัวเราะพลางส่ายหน้าช้าๆ มีคนช่วยเพิ่มมันก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว

“ไม่หรอกขอรับ มีผู้ติดหนี้สินเจ้านายอยู่พอดี”ไป๋จูล่งว่าพลางยิ้มออกมาช้าๆ

“หนี้สิน เจ้าพูดเรื่องอะไรกันข้าไม่เห็นเข้าใจเลย”ยี่เจินเริ่มงงกับสิ่งที่จูล่งพูดออกมา ที่นี่คืออาณาจักรไชน์ นอกจากจูล่งกับพวกลูกน้องเก่าของมันแล้วมันก็แทบไม่รู้จักใครเลย จะไปมีคนมีหนี้สินกับมันจนต้องมาทำงานชดใช้ได้อย่างไร

“มีสิขอรับ ข้าจะขอตัวไปตามตัวพวกมันสักครู่นะขอรับ”จูล่งตอบพลางขอตัวออกไปก่อนโดยปล่อยให้ยี่เจินสำรวจตลาดไปคนเดียวก่อน

.

.

วูบ…ร่างของจูล่งทะยานออกไปที่นอกเมืองอย่างรวดเร็วหลังจากพ้นสายตาของยี่เจินแล้ว หากถามว่ายามนี้ใครติดหนี้ยี่เจินอยู่ก็ต้องบอกว่าเป็นผู้ทำให้สินค้าของยี่เจินเสียหาย หรือก็คือเจ้าอสูร 2 ตนที่สู้กันก่อนหน้านี้นั่นเอง และ 1 ในนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากเมืองท่าเสียเท่าไหร่ อาจจะเพราะโดนต้าเฉียนโจมตีจนบาดเจ็บก็เป็นได้

เปรี้ยง!! ร่างของจูล่งกระแทกลงกับพื้นเบื้องหน้ามังกรที่เป็นผู้ทำให้ท้องเรือเสียหายทันที เจ้านี่ท่าทางจะกำลังพักเพื่อรักษาตัวเองอยู่ก็เลยไปไหนได้ไม่ไกล

“เจ้าเป็นใคร บังอาจมารบกวนข้า”อสูรมังกรที่มีปีกขนาดใหญ่สีเขียวเข้มลืมตาขึ้นมาพลางปล่อยพลังอสูรออกไปรอบๆเพื่อข่มผู้มารบกวน

“……….”แต่เมื่อดวงตาสีเหลืองทองของมันสบเข้ากับผู้มาเยือน ร่างกายสีเขียวเข้มของมันก็เหมือนจะซีดลงเล็กน้อย มันจำได้เจ้าหนุ่มนี่คือผู้ปลดปล่อยพลังอสูรที่น่าสยดสยองนั่นออกมา ถึงกับทำให้มันต้องรีบหนีออกมาเลย

“ท่านจำเรื่องที่ท่านชนเรือของพวกเราก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ขอรับ”จูล่งถามพลางยิ้มกว้างออกมา

“ดะ ได้ขอรับ ข้าจำได้”มังกรเขียวพูดพลางก้มหน้าลง ไม่ทราบเพราะพลังดึงดูดอสูรของจูล่งทำงานแล้วหรือเพราะมันกลัวจูล่งกันแน่

“เพราะท่านชนเรือของพวกข้าเข้า สินค้าของเจ้านายข้าเลยจมลงทะเลหมดจูล่งพูดพลางยิ้มออกมาตามปกติ แต่ยามนี้มังกรเขียวกลับมองเห็นรอยยิ้มของจูล่งน่าสยดสยองเสียเหลือเกิน เจ้ามังกรเขียวยังจำความรู้สึกเมื่อวานได้ดี ความรู้สึกราวกับตนเองกำลังอยู่ต่อหน้าความตาย พริบตาเดียวที่จูล่งปล่อยพลังอสูรออกมามังกรเขียวก็รู้สึกราวกับอยู่ในกำมือของจูล่งไปเสียแล้ว

“เพราะแบบนั้น ข้าก็เลยอยากจะให้ท่านชดใช้ความผิด…”พูดได้เท่านั้นมังกรเขียวก็ใจหายวาบทิ้งตัวล้มลงกับพื้น ราวกับจะทำท่าหมอบกราบไม่มีผิด

“ขะ ขอร้องล่ะขอรับ ขอแค่ชีวิต ไม่ว่าท่านจะลงโทษข้าอย่างไรก็ยอมทั้งนั้น”มังกรเขียวว่าพลางก้มหัวชนหมดสภาพ พลังระดับจูล่ง หากสั่งให้ตายมันจะกล้ามีชีวิตรอดได้หรือ

“ท่านพูดอะไรกัน ข้าแค่จะขอให้ท่านไปช่วยงานเท่านั้นเอง”จูล่งตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆ

“ได้ขอรับ ไม่ว่านายท่านจะสั่งอะไร ข้าก็ยินดี”มังกรเขียวว่าพลางก้มลงคารวะจูล่งอย่างดงามจนน่าตกใจเลยทีเดียว

“งั้นก็ดีเลยขอรับ”จูล่งยิ้มกว้างอย่างดีใจ โชคดีจริงๆที่มังกรเขียวคุยรู้เรื่อง

“นะ นายท่าน….”อยู่ๆมังกรเขียวก็เงยหน้าขึ้นมาพลางจ้องมองไป๋จูล่งด้วยท่าทีหวาดๆ

“นอกจากข้าแล้วยังมีอสูรอีกตนที่ทำให้เรือของท่านได้รับความเสียหายนะขอรับ”มังกรเขียวรายงาน มันโดนจูล่งตามตัวเพราะทำเรือเสียหาย แต่อสูรอีกตัวก็ทำเรือเสียหายเช่นกันไม่ใช่หรือ

“แน่นอน ข้าต้องเรียกร้องสิ่งชดเชยอยู่แล้ว แต่ข้าไม่รู้ว่าอสูรตนนั้นไปที่ไหนนี่สิ”จูล่งตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ โชคร้ายของอสูรมังกรเขียวจริงๆที่ไม่ไปพักไกลๆ ไม่อย่างนั้นจูล่งคงตามตัวไม่เจอ

“นายท่าน ข้าทราบขอรับว่านางอยู่ที่ไหน”มังกรเขียวยิ้มออกมาด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ไม่มีทาง มันไม่ยอมรับโทษคนเดียวแน่ๆ อย่างน้อยเจ้านกนั่นก็ต้องมารับโทษกับมันด้วย

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing
บุตรอสูรบรรพกาล ไป๋จูเหวิน เด็กหนุ่มผู้ถูกเลี้ยงดูโดย อสูรแมงมุม ที่มีอายุมายาวนานนับหมื่นๆปี มันดูแลเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ที่ไม่ทราบมาจากที่ใดดั่งบุตรของตนเอง แต่เด็กมนุษย์เพียงคนเดียวไม่อาจอยู่ในแดนอสูรที่มีแต่อสูรได้ มันจึงเดินทางมายังแดนมนุษย์อีกครั้ง ระดับของอสูร -ทองแดง -เงิน -ทอง -หยก -หยกขาว -ตำนาน -มายา -บรรพกาล ระดับของมนุษย์ (มีเพิ่มภายหลัง) -มนุษย์ -ก่อกำเนิด -ผลึกวิญญาณ -หลอมรวมปฐพี -หลอมรวมนภา -หลอมรวมวิญญาณ -ชำระกล้ามเนื้อ -ชำระกระดูก -ชำระเส้นเอ็น -ชำระวิญญาณ -ก่อกำเนิดพลังเซียน -เหรินเซียน -ตี้เซียน -เสินเซียน -เทียนเซียน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset