บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 528 ด่านตรวจ

ตอนที่ 528

ด่านตรวจ

การเดินทางมาอาณาจักรไป๋นั้นขอเพียงขึ้นรถไฟแล้วก็สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่าผิงกั่วและหลานฮวาเองก็สามารถเดินทางมาได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีเรื่องร้ายอะไรอีกนับว่าน่ายินดีมาก เพียงแต่หลานฮวาที่เป็นผู้นำทางหลังจากนี้ก็ไม่ต่างจากผู้มาครั้งแรกเท่าไหร่ เพราะหลานฮวาเองก็พึ่งออกเดินทางมาได้ไม่กี่ปี แม้จะทราบทางมาอาณาจักรไป๋อยู่ แต่ก็ไม่เคยเดินทางมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้การมาอาณาจักรไป๋กับผิงกั่วครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกของนางด้วยเช่นกัน

“หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกนะ”หลานฮวาว่าพลางเดินตามผิงกั่วเข้ามาในสถานีรถไฟของอาณาจักรไป๋

“แต่หลังจากพวกนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วนี่เจ้าคะ คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก”ผิงกั่วตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แม้ตอนแรกจะโดนผู้ไม่หวังดีดักชิงขโมยของ แต่หลังจากนั้นผิงกั่วกับหลานฮวาก็เดินทางต่อได้โดยราบรื่นไม่มีอะไรติดขัดเลยแม้แต่น้อยทำให้ทั้งสองคนและอีกหนึ่งตนมาถึงอาณาจักรไป๋ก่อนเวลาเสียอีก

“พี่หลานฮวา พี่แน่ใจนะว่าจะไปกับข้าด้วย”ผิงกั่วถามพลางมองไปทางหลานฮวาด้วยท่าทีสงสัย อยู่ๆตอนกลางทางหลานฮวาก็บอกว่าจะไปกับผิงกั่วด้วยจนกว่าผิงกั่วจะเจอกับคนที่มาหา แน่นอนว่าผิงกั่วเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธหรือไล่หลานฮวาไปหรอกเพียงแต่นางเกรงใจนิดหน่อยเท่านั้น

“งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่เจ้ามาหาอยู่ที่ไหนของอาณาจักรไป๋”หลานฮวาถามพลางเท้าเอวด้วยท่าทีจริงจัง

“กะ ก็…เดี๋ยวตามหาไปเรื่อยๆก็คงเจอเองเจ้าค่ะ”ผิงกั่วตอบพลางยิ้มกลบเกลื่อนออกมาเสียอย่างนั้น ทำเอาหลานฮวาอยากเข้าไปหยิกแก้มแดงๆของนางเสียจริงๆ นางคิดว่าอาณาจักรไป๋มีพื้นที่กว้างใหญ่แค่ไหนกันถึงคิดจะเดินถามเอาข้าทางได้

“ก็นั่นล่ะ ข้าจะช่วยเจ้าจนกว่าเจ้าจะเจอคนๆนั้นก็แล้วกัน”หลานฮวาพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจังมาก นางไม่อาจปล่อยนายจ้างตัวน้อยเดินไปไหนมาไหนคนเดียวในเมืองใหญ่แบบนี้ได้หรอก

“ขอบคุณเจ้าค่ะพี่หลานฮวา”ผิงกั่วยิ้มหวานพลางกอดแขนของหลานฮวาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มการเดินทางกับหลานฮวามาตลอดทางทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้นหลายเท่า ยามนี้แทบจะเรียกหากันเป็นพี่สาวน้องสาวเสียแล้ว

“เจ้านี่นะ เหมือนเด็กจริงๆ”หลานฮวาว่าพลางมองผิงกั่วด้วยสายตาเอ็นดู พอสนิทกับผิงกั่วเข้านางก็เริ่มจะระแวงเจ้าผู้ชายที่ผิงกั่วมาหาเสียแล้ว

“หยุดก่อน…”ยังไม่ทันเดินออกไปพ้นสถานีรถไฟ อยู่ๆชายคนหนึ่งก็เข้ามาห้ามผิงกั่วกับหลานฮวาเอาไว้เสียก่อน ทำเอาทั้งสองได้แต่มองหน้ากันไปมาด้วยท่าทีประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะคนที่เข้ามาหยุดพวกตนเอาไว้ใส่เครื่องแบบของสถานีรถไฟ นั่นหมายความว่ามันเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานีนั่นเอง

“คุณหนู มากับเราทางนี้ขอรับ”ชายคนนั้นว่าพลางเรียกให้ผิงกั่วเดินตามตนเองมา พอเห็นเช่นนั้นหลานฮวาก็พลันรีบติดตามผิงกั่วไปทันที

“หัวหน้า พามาแล้วขอรับ”หลังจากเดินตามเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟมาได้พักหนึ่ง อยู่ๆเจ้าหน้าที่คนนั้นก็พาผิงกั่วเข้าไปหาชายคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบที่ดูจะมีตำแหน่งสูงกว่าพร้อมผายมือมาทางผิงกั่วทันที

“คุณหนู ขอโทษนะขอรับ ไม่ทราบว่าคุณหนูมีตรารับรองหรือไม่ขอรับ”ชายคนนั้นถามพลางก้มมองผิงกั่วจากความสูงกว่า 250 เมตร ดูจากภายนอกที่รูปร่างหน้าตาไม่เหมือนมนุษย์เท่าไหร่เกรงว่าอีกฝ่ายจะเป็นอสูรกระมัง การได้เห็นอสูรเข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์ แถมยังเป็นหัวหน้างานด้วยแล้วทำเอาผิงกั่วและหลานฮวาอดรู้สึกแปลกใจขึ้นมาไม่ได้จริงๆ

“ตรารับรอง?”ผิงกั่วเอียงคอด้วยท่าทีสงสัย ถ้าตราสำหรับแสดงตัวตนนางก็มีอยู่หรอกเพราะเมืองก่อนๆนางต้องให้พี่หลานฮวาไปทำให้เพื่อจะเข้าเมืองต่างๆ

“ขอรับของอสูรบนไหล่คุณหนูขอรับ พวกเราไม่อาจปล่อยอสูรระดับนั้นให้เข้าไปได้โดยไม่มีตรารับรองขอรับ”ชายคนนั้นตอบด้วยท่าทีลำบากใจ หากที่นี่เป็นเขตอสูร เสี่ยวปิงที่อยู่ระดับบรรพกาลสมควรมีอำนาจเหนืออสูรตรงหน้า แต่เพราะที่นี่คืออาณาจักรไป๋ ยามนี้อสูรต่ำชั้นกว่าเป็นหัวหน้านายตรวจที่สถานีรถไฟ แม้อีกฝ่ายจะพลังเหนือกว่าก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้

“ตรารับรอง? นี่ข้าต้องใช้ด้วยงั้นหรือ”เสี่ยวปิงพูดด้วยท่าทีตกใจ หลายเมืองก่อนหน้านี้แทบไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่านางเป็นอสูร แต่พอเข้ามาในอาณาจักรไป๋แล้วอสูรก็มีความจำเป็นต้องมีตรารับรองเช่นกัน

“ต้องใช้สิขอรับ ยิ่งเป็นอสูรระดับท่านด้วยแล้ว”นายตรวจตอบด้วยสีหน้าลำบากใจ อสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 เทียบเท่าระดับขุนพลของอาณาจักรไป๋เขียวนะ ขืนให้เข้าออกได้โดยง่ายมีหวังมันโดนหัวหน้าไล่ออกแน่ๆ

“แต่ข้าไม่มีนี่นา มีทางที่จะได้มันมาหรือเปล่า”เสี่ยวปิงถามพลางเท้าเอวในร่างตุ๊กตาหิมะทำเอาดูน่ารักน่าชังเสียอย่างนั้น แต่ความน่ารักที่ออกมากลับไม่ทำให้อีกฝ่ายลดท่าทีประหม่าเลย

“มีขอรับ แต่ทางเราต้องควบคุมตัวท่านไปที่กลุ่มนักล่าอสูรเพื่อขอออกหนังสือรับรองจากหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร…”นายตรวจตอบพลางก้มตัวลงเล็กน้อย

“ก็ได้ ถ้าทำให้ข้าเข้าเมืองได้ก็ไม่มีปัญหา คุณหนูอาจจะต้องเสียเวลานิดหน่อย แต่เข้าเมืองคนอื่นก็ต้องทำตามกฎของเมืองนั้นๆนะเจ้าคะ”เสี่ยวปิงว่าพลางใช้มือที่ทำจากหิมะของนางแตะไปที่แก้มของผิงกั่วเบาๆ

“เจ้าค่ะ ข้าเข้าใจ งั้นเราไปที่กลุ่มนักล่าอสูรกันเลยก็ได้ พวกเราจะได้เข้าเมืองกันเสียที”ผิงกั่วตอบพลางเดินตามเจ้าหน้าที่ที่นายตรวจเรียกมารับพวกผิงกั่วไปอย่างว่าง่าย พวกมันพาผิงกั่ว หลานฮวา และ เสี่ยวปิงขึ้นรถม้าแล้วเดินทางไปยังตึกของกลุ่มนักล่าอสูรในทันที

“….สมกับข่าวลือ อาณาจักรไป๋นี่ทั้งมนุษย์ทั้งอสูรอยู่ร่วมกันจริงๆ”เสี่ยวปิงพูดขณะรถม้ากำลังแล่นผ่านเมืองไปอย่างช้าๆ นางที่สัมผัสพลังอสูรได้สามารถบอกได้เลยว่าในกลุ่มคนที่เดินอยู่ข้างทางมีอสูรและมนุษย์ปะปนกันมากมายแค่ไหน หากเป็นที่เมืองข้างๆเขตอสูรผลึกฟ้าละก็หากมีอสูรเข้าไปให้เห็นก็คงแตกตื่นกันแน่ๆ

“นั่นสิเจ้าคะ”ผิงกั่วเองพอเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มออกมา นางเคยโดนจับตัวไปเพราะเป็นคนเดียวที่สนิทสนมกับอสูรในเขตอสูรผลึกฟ้า แต่หากเป็นที่นี่ตัวนางที่สนิทสนมกับอสูรกลับไม่ใช่เรื่องแปกลประหราดเลย ทำให้ผิงกั่วรู้สึกอุ่นใจกับเมืองของอาณาจักรไป๋มากกว่าเมืองอื่นๆที่ผ่านมาเสียอีก

“คุณหนู ถึงแล้วขอรับ”เดินทางมาได้ไม่กี่นาที รถม้าก็มาหยุดลงที่หน้าตึกสีดำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งอันเป็นที่ตั้งของกลุ่มนักล่าอสูรแห่งอาณาจักรไป๋ ที่มันอยู่ใกล้เช่นนี้ก็เพราะมีอสูรจำนวนมากเดินทางมาจากเมืองอื่นเพื่อเข้ามาในอาณาจักรไป๋ แม้พวกมันจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเสี่ยวปิง แต่การเข้าเมืองก็ต้องมีการรับรอง ทำให้กลุ่มนักล่าอสูรต้องมาตั้งสาขาเพิ่มใกล้ๆกับสถานีรถไฟเพื่อทำการตรวจสอบอสูรที่จะเข้าเมืองอีกที

“ที่นี่งั้นหรือ”เสี่ยวปิงว่าพลางตรวจสอบพลังอสูรที่อยู่ในตึกแห่งนี้ ส่วนใหญ่ก็มีแต่อสูรระดับธรรมดา มีเพียงตนเดียวเท่านั้นที่อยู่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 เหมือนๆกับนาง

“เชิญขอรับ กรณีของคุณหนูเราคงต้องให้หัวหน้ากลุ่มลงมาดูด้วยตนเอง คงใช้เวลาไม่นาน”ชายหนุ่มที่พาผิงกั่วเข้ามาในตึกของกลุ่มนักล่าอสูรพูดพลางเดินไปที่ประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ตรงเค้าเตอร์ที่ทางเข้า พวกมันคุยอะไรกันครู่หนึ่งก่อนที่พนักงานประชาสัมพันธ์สาวจะหันมามองทางผิงกั่วด้วยท่าทีตกใจ

“แต่ หัวหน้าไม่อยู่นะเจ้าคะ”เสียงของประชาสัมพันธ์แว่วเข้าหูของผิงกั่วมาเล็กน้อย พวกประชาสัมพันธ์เหมือนจะมีท่าทีตกใจและลนๆกันอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกระมัง

“ไม่มีใครมีอำนาจพอเลยหรือยังไง”ชายที่พาผิงกั่วมาถามด้วยท่าทีลำบากใจ ท่าทางหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรจะไม่อยู่กระมัง

“ก็มีเจ้าค่ะ แต่ท่านเป็นหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชินที่มาเยี่ยมหัวหน้ากลุ่มของเราเท่านั้น ข้ากลัวท่าท่านจะไม่ยอมรับทำงานให้”หญิงสาวตอบพลางขมวดคิ้วด้วยท่าทีลำบากใจ

“หัวหน้าของกลุ่มนักล่าอสูรสาขาอาณาจักรชินงั้นเหรอ”ชายหนุ่มที่พาผิงกั่วมาตอบด้วยท่าทีกังวลกว่าเดิมเสียอีก เพราะหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชินขึ้นชื่อเรื่องการเจรจาได้ยากมาก คนที่นางปล่อยผ่านให้ตรารับรองมามีน้อยเหลือเกิน

“พี่ชาย มีอะไรงั้นเหรอ”เสี่ยวปิงเห็นท่าทางพวกนั้นกังวลก็เลยเดินกระโดดลงจากไหล่ของผิงกั่วก่อนจะเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“ตอนนี้หัวหน้ากลุ่มของอาณาจักรไป๋ไม่อยู่ขอรับ แต่มีหัวหน้ากลุ่มของสาขาอื่นอยู่ แต่นางคุยด้วยยากข้ากลัวว่านางจะไม่ยอมให้ท่านผ่านเข้าเมือง”ชายหนุ่มพลางหันไปมองผิงกั่วกับหลานฮวา หากต้องรอหัวหน้ากลุ่มของอาณาจักรไป๋กลับมาก็อาจจะต้องใช้เวลานาน แต่หากโดนหัวหน้ากลุ่มของอาณาจักรชินปัดตกย่อมเสียเวลามากกว่าเป็นไหนๆ

“ไม่ต้องกังวล ให้ข้าพบหัวหน้ากลุ่มของเจ้าเถอะ”เสี่ยวปิงว่าพลางยืดอกด้วยท่าทีมั่นใจ

“ขอรับ….”ชายหนุ่มเห็นเสี่ยวปิงตัดสินใจเช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้ มันหันไปบอกประชาสัมพันธ์ให้ติดต่อหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชินและจะขอเข้าพบทันที

.

.

.

“เชิญเจ้าค่ะ”ในที่สุดหัวหน้ากลุ่มของอาณาจักรชินก็ยอมให้พวกผิงกั่วเข้าพบ ทันทีที่เข้ามาในห้องของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร หลานฮวาก็พบว่าอากาศภายในห้องเย็นกว่าข้างนอกมาก เล่นเอานางขนลุกขึ้นมาเลย

“โอ้ เจ้าคือหัวหน้าของกลุ่มนักล่าอสูรงั้นหรือ”เสี่ยวปิงว่าพลางเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ในห้อง นางมีสีหน้านิ่งเฉยแถมไม่ได้ตอบอะไรเสี่ยวปิงกลับมาด้วย

“………”หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาหาเสี่ยวปิงและผิงกั่วช้าๆพลางใช้ดวงตาของนางมองผิงกั่วด้วยความสนใจแทนที่จะมองไปทางเสี่ยวปิงเสียอย่างนั้น

หมับ….อยู่ๆหัวหน้ากลุ่มของอาณาจักรชินก็กอดร่างของผิงกั่วเอาไว้ ขนาดตัวที่ไม่ต่างกันนักของพวกนางทำเอาเหมือนเด็กกำลังกอดกันไม่มีผิด

“……….”หัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชินหันไปมองพนักงานประชาสัมพันธ์พลางหยักหน้าช้าๆ

“อะไรนะคะ ให้นางผ่านได้เลย”พนักงานประชาสัมพันธ์กะพริบตาด้วยท่าทีตกใจ แค่ท่านปิงปิงเข้าไปกอดผิงกั่วก็ทำเอานางตกใจแล้ว แถมนางยังให้เสี่ยวปิงผ่านง่ายๆอีกต่างหาก เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย

“อสูรธาตุน้ำแข็งยังไงก็ชอบไอเย็นของคุณหนูสินะ”เสี่ยวปิงว่าพลางพยักหน้าช้าๆ ตัวผิงกั่วปล่อยไอเย็นออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจอยู่ตลอด แถมเพราะนางเป็นผู้มีพลังธาตุน้ำแข็งเข้มข้นมากทำให้อสูรธาตุน้ำแข็งชอบจะมาอยู่ใกล้ๆผิงกั่วมาก บางทีอาจจะมีผลไม่ต่างจากพลังดึงดูดอสูรของคนตระกูลไป๋เลยก็ได้ เพียงแต่ใช้ได้กับอสูรธาตุน้ำแข็งเท่านั้น

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing
บุตรอสูรบรรพกาล ไป๋จูเหวิน เด็กหนุ่มผู้ถูกเลี้ยงดูโดย อสูรแมงมุม ที่มีอายุมายาวนานนับหมื่นๆปี มันดูแลเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ที่ไม่ทราบมาจากที่ใดดั่งบุตรของตนเอง แต่เด็กมนุษย์เพียงคนเดียวไม่อาจอยู่ในแดนอสูรที่มีแต่อสูรได้ มันจึงเดินทางมายังแดนมนุษย์อีกครั้ง ระดับของอสูร -ทองแดง -เงิน -ทอง -หยก -หยกขาว -ตำนาน -มายา -บรรพกาล ระดับของมนุษย์ (มีเพิ่มภายหลัง) -มนุษย์ -ก่อกำเนิด -ผลึกวิญญาณ -หลอมรวมปฐพี -หลอมรวมนภา -หลอมรวมวิญญาณ -ชำระกล้ามเนื้อ -ชำระกระดูก -ชำระเส้นเอ็น -ชำระวิญญาณ -ก่อกำเนิดพลังเซียน -เหรินเซียน -ตี้เซียน -เสินเซียน -เทียนเซียน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset