บ่วงแค้นแสนรัก – ขทที่ 125 กำลังพูดหลอกเธออยู่

“ปล่อย นายปล่อยมือเดี๋ยวนี้เลยนะ!”เวินหนิงพยายามสะบัดมือออก ในใจก็กร่นด่าหวี๋เฟยหมิงไปด้วย

เป็นผู้ชายขึ้ขลาดเสียจริง ต่อหน้าลู่จิ้นยวนแม้แต่ลมตดก็ไม่กล้าปล่อย พูดใส่สีตีไข่นี้เก่งจัง

ลู่จิ้นยวนเหล่ตามองเธอ ไม่สนใจเวินหนิงที่กำลังขัดขืนแม้แต่น้อย

ลู่จิ้นยวนก้าวขาใหญ่มาก เดิมทีเขานั้นก็สูงกว่าเวินหนิงมากอยู่แล้ว อีกอย่าง ตัวสูงขายาวแบบนี้ ก้าวไม่กี่ก้าว เวินหนิงที่อยากเดินตามให้ทันก็ต้องวิ่งเหยาะๆ ไม่อย่างนั้นเธอล้มลงกับพื้นแน่ๆ

มองลู่จิ้นยวนที่ลากเธอไปที่รถ พอขึ้นรถแล้วก็ล็อกประตูรถทันที แบบนี้เธอยิ่งหนีไปไหนไม่ได้แล้ว

ในใจของเวินหนิงยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ ไม่ห่วงแล้วหล่ะภาพลักษณ์อะไรนั่น ตะโกนขึ้นมาทันที“ช่วยด้วย! มีคนลักพาตัวจะเอาไปฆ่าค่ะ! ช่วยด้วย!”

เธอคิด ลู่จิ้นยวนที่เป็นคนมีหน้ามีตาในเมืองเจียงเฉิง การกระทำเแต่ละอย่างต้องเหมาะกับภาพลักษณ์ที่เขามี บางทีการตะโกนเรียกร้องความสนใจจากผู้คนแบบนี้ ก็จะทำให้เขาโกรธแล้วเขาจะปล่อยเธอเองก็ได้

“เธอคิดว่าคนอื่นเขาจะเชื่อมั้ยว่าฉันลักพาตัวเธอ?”ลู่จิ้นยวนไม่พูดอะไรไร้สาระอีก ก้าวเดินไปถึงที่รถ เปิดประตูออกมา

เวินหนิงยังคงอยากขัดขืน แต่คนรอบข้างแค่มองมาก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว

เห็นรถที่ลู่จิ้นยวนขับ แล้วดูไปที่ป้ายทะเบียนรถที่ไม่เหมือนใครในเมืองเจียงเฉิง ดูก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนรวยก็เป็นเศรษฐี คนธรรมดาไม่กล้าที่จะมีเรื่องด้วยหรอก จะมาออกหน้าให้ผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนหนึ่งทำไมกัน

เวินหนิงถูกยัดเข้าไปในรถ พร้อมด้วยลู่จิ้นยวนก็ขึ้นนั่ง ล็อกประตูรถ จากนั้นค่อยคลายเนคไทอเกอย่างช้าๆ

ท่าทางของผู้ชายคนนี้ใจเย็นมาก อย่างน้อยในท่าทีของเขาก็ดูไม่ออกเลยว่าเมื่อสักครู่เขานั้นโกรธเป็นฝืนเป็นไฟขนาดไหน

แต่เวินหนิงที่รู้สึกถึงกลิ่นอายของพายุฝนนั้น ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่

“ทำไม แค่นี้ก็หักห้ามใจตัวเองไม่ไหวแล้วหรือไง พึ่งจะออกมาจากบริษัทก็ไปหาผู้ชายตนอื่นสะแล้วหรอ? เวินหนิง ฉันดูถูกเธอเกินไปจริงๆ”

พอคิดถึงตอนที่เวินหนิงกำลังจะจูบผู้ชายคนนั้น ลู่จิ้นยวนก็ระงับความโกรธไม่ได้เลย

“ฉันจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย นาย……”

ลู่จิ้นยวนที่เป็นคนโกรธง่ายอยู่แล้วก็ถูกกระตุ้นความโกรธโดยสิ้นเชิง จู่ๆเขาก็ยืนมือมาบีบคางเธอไว้แน่น แรงบีบที่ไม่ได้น้อยๆนั้นทำให้เธอหรี่ตาด้วยความเจ็บปวด

ไม่ต้องสงสัย ผิวของเธอโดนบีบจนขึ้นรอยแดงแน่ๆ

“เจ็บนะ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”

ลู่จิ้นยวนทำเป็นหูทวนลม จู่ๆก็ยกคางเธอขึ้นแล้วกดจูบลงไปด้วยความเอาแต่ใจ ป่าเถื่อน และรุกเร้า

รสจูบเต็มไปด้วยการลงโทษ ไม่มีการถนอมเธอเลยสักนิด

เวินหนิงดิ้นขัดขืน แต่ทำยังไงก็หลุดจากการบงการของเขาไม่ได้

รู้สึกว่าอากาศในอกนั้นถูกขโมยไปอย่างรุนแรง หน้าของเธอขึ้นสีแรงระเรื่อ ความโกรธและความเสียใจของเธอนั้นไม่ลดกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ชานคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ทำไมคิดจะจูบก็จูบ? แล้วมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษเธอ?

ทั้งๆที่เขากับมู่เยียนหรานเป็นคู่ฟ้าดินประทาน เธอไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะถอยเลยหรือไง?

ยิ่งเธอคิดถึงตอนที่มู่เยียนหรานที่ทำตัวเหมือนเธอสูงส่งนั้นก็ยิ่งโกรธ ใช้แรงทั้งหมดผลักลู่จิ้นยวนออก “นี่นายทำอะไร?เป็นบ้าหรือไง? ”

“เธอไม่ใช่ว่าใครก็เอาได้ไม่ใช่หรอ? ผู้ชายที่เป็นคู่มั้นของน้องก็ไม่เว้น ทำไมมาถึงที่ฉันแล้วทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวขึ้นมาล่ะ?เล่นตัวหรือไง?”

เสียงของลู่จิ้นยวนออกแนวแหบๆที่มีความเซ็กซี่ ดวงตาสีเข้มของเขาในตอนนี้เหมือนดั่งเหวลึก ทุกคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

คำพูดที่ประชดประชันนี่ทำให้หน้าของเวินหนิงที่แดงก่ำอยู่แล้วยิ่งร้ายแรงขึ้นกว่าเก่า

“ฉันอยากจะทำอะไรมันก็คืออิสระของฉัน เราหย่ากันแล้ว ตอนนี้เราไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันทั้งสิ้น”

ไม่มีความเกี่ยวข้องกันงั้นหรอ?

ดวงตาของลู่จิ้นยวนดำลึกเข้าไปอีก เขายืนมือไปดึงเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งบนตัวของเวินหนิงลง“แล้วตอนนี้ มันยังมีความเกี่ยวข้องกันอยู่มั้ย?”

เวินหนิงตกใจมาก ตอนนี้เขาอยู่บนถนนใหญ่ รถของลู่จิ้นยวนจอดอยู่ริมถนน ข้างนอกเดินพล่านไปด้วยผู้คน หรือเขาคิดจะ……

พอภาพนั้นโพล่งขึ้นมาบนหัว เธอทั้งอายทั้งโกรธ“นายมันหน้าไม่อาย”

ลู่จิ้นยวนไม่มีความกระทบกระเทือนเลยสักนิด

เวินหนิงกัดปากตัวเองแน่น ใช้ความเจ็บปวดในการให้

ตัวเองนั้นตั้งสติ ให้ตัวเองใจเย็นลง“ลู่จิ้นยวน ในเมื่อนายมีคนที่ชอบอยู่แล้วก็ไม่ควรที่จะทำเรื่องแบบนี้อีก นายไม่กลัวมู่เยียนหรานหึงหรือยังไง?”

พอได้ยินที่เวินหนิงพูด มือของลู่จิ้นยวนนั้นก็คลายออก เวินหนิงถอนหายใจอย่างโล่งอก ตามด้วยในใจของเธอนั้นก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา

เขายังคงสนใจผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ทั้งๆที่เมื่อกี้เธอนั้นขัดขืนนานขนาดนั้นลู่จิ้นยวนไม่คิดที่จะหยุดเลย แต่พอเธอพูดชื่อของมู่เยียนหรานขึ้นมาเขาหยุดการกระทำทุกอย่างทันที

ลู่จิ้นยวนมองไปยังตาที่น้ำตารื้นขึ้นมาของเธอ ความโกรธนั้นก็ลดลงไปบ้าง ทันทีที่คิดได้ว่าที่เขามาหาเธอครั้งนี้เพื่อเป็นการบอกเรื่องของมู่เยียนหรานให้เธออย่างชัดเจน

แต่ภาพที่เห็นเมื่อสักครู่มันร้ายแรงเกินไป เขาเสียสติไปโดยไม่รู้ตัว คิดแต่ว่าอยากให้ผู้หญิงตรงหน้าที่แสนจะกล้าคนนี้ให้เธอได้รู้ว่าเธอนั้นเป็นของใคร

“มู่เยียนหรานมาหาเธอหรอ?”

ลู่จิ้นยวนกลับไปนั่งตำแหน่งของตัวเอง เวินหนิงที่รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิร่างกายของผู้ชายคนนั้นห่างไปแล้วถึงจะกล้าสูดหายใจเข้าลึกๆ

“ใช่ เธอบอกกับฉันว่าอย่าหลงตัวเอง อยู่กับนายไม่ช้าก็เร็วฉันต้องเจ็บปวดแน่นอน ฉันเองก็คิดว่าที่เธอพูดนั้นก็มีเหตุผล ดังนั้นฉันเลยเดินออกมา”

เวินหนิงพูดไปด้วยจัดเสื้อที่ยับเยินของเธอไปด้วย เธอถึงจะรู้ว่าแรงของลู่จิ้นยวนเยอะแค่ไหน คอเสื้อของเธอถึงกับเสียไปเลย

ความหวาดกลัวหลังเกิดเรื่องก่อตัวขึ้นมาทันที

สีหน้าของลู่จิ้นยวนที่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็ตึงทันที“เขาบอกให้เธอไป เธอก็ไป ปกติที่ฉันพูดก็ไม่เห็นเธอจะเชื่อฟังขนาดนี้”

เวินหนิงที่เห็นลู่จิ้นยวนหยุดความคิดที่ชั่วร้ายนั่น และดูไม่โกรธเหมือนเมื่อสักครู่แล้วก็ใจกล้าขึ้นมา“เธอนั้นให้ฉันรู้ในเหตุผล ใช้ความรู้สึกมาให้ฉันเห็นใจ และพูดด้วยความจริงใจขนาดนั้น แล้วฉันยังคงแทรกกลางระหว่างนายกับเธออีก ฉันคงสมองเสียไปแล้วจริงๆ”

ตัวเธอเองก็แค่อยากใช้ชีวิตที่มั่นคง ส่วนลู่จิ้นยวน ถึงเขาจะเป็นพ่อของเด็กในท้อง แต่เป็นคนที่เธอไม่กล้าที่จะหวัง ถอยออกไปนั่นแหละดีที่สุดแล้ว

“ฉันเคยบอกแล้วว่ากับมู่เยียนหรานเราจบกันไปแล้ว หลังจากนี้เธอนั้นจะไม่มาหาเรื่องของเธออย่างแน่นอน เรื่องนี้ฉันรับประกัน”

“……”เวินหนิงไม่ได้พูด เธอมองใบหน้าของลู่จิ้นยวน เหมือนว่าคำพูดที่เขาพูดออกมาเมื่อสักครู่ทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์

ลู่จิ้นยวนกำลังโกหกเธออยู่หรือเปล่า? แต่สายตาของเขาดูนิ่งหงันและจริงใจ เวินหนิงดูไม่ออกว่าเขานั้นจะพูดโกหก อีกอย่าง เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะมาหลอกลวงเธอ

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset