บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 105 การตัดสินใจของลู่จิ้นยวน

เวินหนิงสะดุ้งตื่นเพราะหนาว เธอถูกลักพาตัวมา ก็โดนโยนลงพื้นเลย

ตอนนี้อากาศหนาวขนาดนี้ ก็มีลมหนาวพัดมาหาเธอ ความหนาวเย็นนี้ทำให้เธอลืมตาลำบาก

สิ่งที่เห็น เป็นโรงงานร้าง ผนักรอบข้างก็ผุพัง ลมก็พัดเข้ามาทุกทิศทาง ในอากาศก็มีกลิ่นเหม็นเน่าลอยมาด้วย

เวินหนิงทนรับไม่ได้จนต้องขดตัว แล้วเริ่มอาเจียน

พอได้ยินเสียง คนที่เฝ้าก็เดินมา เมื่อเห็นว่าเธอตื่นแล้ว ก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น “ผู้หญิงของลู่จิ้นยวนนี่สำออยจริงๆ แค่นี้ก็ทนไม่ได้ล่ะ?”

เวินหนิงอาเจียนไปสักพัก วันนี้เธอไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้ก็มีแค่น้ำลายเท่านั้น

เมื่อได้ยินเสียง เธอก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่คนคนนั้น แล้วมองไปที่หลิวเมิ่งเซวี่ยที่อยู่ข้างๆ

พวกเขา จะจับคนไปขู่ลู่จิ้นยวน?

พอเวินหนิงรู้ถึงสถานการณ์ตัวเอง ก็พยายามสงบสติอารมณ์

“มองอะไร?” หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่ชอบเวินหนิงอยู่แล้ว ตะคอกใส่เธอ แล้วก็หันไปทางเฮียหลง “เฮียหลง จับตัวผู้หญิงของลู่จินยวนได้แล้ว ฉันไปได้แล้วใช่ไหม?”

“ไป? แกคิดว่าที่นี่เป็นโรงแรมหรอ อยากมาก็มา อยากไปก็ไป”

เฮียหลงยิ้มอย่างเยือกเย็น “ในเมื่อมีพวกแกสองคน ถ้างั้น เดี๋ยวเราก็ให้ลู่จิ้นยวนเลือก ว่าจะเลือกใคร?”

พูดจบ ก็มัดตัวหลิวเมิ่งเซวี่ย แล้วโยนไปด้านข้างเวินหนิง

เวินหนิงค่อยเข้าใจ ทีแรกหลิวเมิ่งเซวี่ยถูกจับตัวก่อน แล้วเพื่อเอาตัวรอด ก็เลยเอ่ยพูดถึงเธอ

“เฮียหลง ทำไมเฮียไม่รักษาคำพูด! เฮียปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

“ใช่ เธอเป็นผู้หญิงของลู่จิ้นยวน อย่าปล่อยเธอไปเด็ดขาด” เมื่อเวินหนิงสงบสติอารมณ์ได้ ก็ได้ยินหลิวเมิ่งเซวี่ยตะโกนโวยวาย แล้วดึงเธอลงมาด้วยอย่างไม่เกรงใจ

หลิวเมิ่งเซวี่ยก็จ้องไปที่เธอ แต่ถูกอุดปากไว้ ก็เลยพูดอะไรไม่ได้

เมื่อผู้ชายที่ถูกเรียกว่าเฮียหลงเห็นเวินหนิงไม่ตะโกนร้องอะไรแถมยังควบคุมสติไว้ได้ ก็เลยมองไปที่เธอ “ทำไม แกไม่กลัว?”

กลัว? ต้องกลัวแน่นอน แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ แค่กลัวทำอะไรไม่ได้ ยิ่งจะทำให้วุ่นวาย ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“กลัวสิ แต่ว่า ที่ฉันจะพูด เฮียถูกเธอหลอกแล้ว”

เวินหนิงเอ่ยอย่างนิ่งเฉย “ในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของลู่จิ้นยวน พวกเฮียจับตัวฉันมา ไม่มีประโยชน์”

“แกคิดว่าแกพูดไม่กี่คำฉันก็จะเชื่อ?”

“ถ้าไม่เชื่อ เฮียก็ไปเช็คดูได้ว่าฉันเป็นใคร ฉันชื่อเวินหนิง ตอนนั้นที่ลู่จิ้นยวนเกิดอุบัติเหตุ คนที่ขับรถชนเขาก็เป็นฉัน เขาก็ต้องเกลียดฉันสิ จะมาช่วยได้ยังไง?”

“แต่ว่าทำไมเธอถึงต้องกล่าวหาฉัน สิ่งที่เป็นไปได้ ก็เพราะแต่ก่อนเรามีความแค้นกัน ก็เลย เธออยากจะยืมมือพวกเฮียมาจัดการฉัน”

เฮียหลงลังเลไป แล้วเรียกคนไปเช็คสิ่งที่เวินหนิงพูด

เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะเกี่ยวข้องกับคนอย่างลู่จิ้นยวน ก็เลยเจอได้ไม่ยาก

“เชี้ย เป็นความจริง”

เฮียหลงก็เจอข่าวเรื่องนั้นอย่างรวดเร็ว ยังเห็นรูปถ่ายของเวินหนิงด้วย

“เพราะฉะนั้น พวกเฮียจับตัวฉันมามีประโยชน์อะไร? ลู่จิ้นยวนอาจจะมาช่วยก็คงเพราะคุณหนูหลิวคนนี้ แต่พอเห็นศัตรูอย่างฉัน เขายังจะมาหรอ? เฮียคิดว่าเขาจะใจดีขนาดนั้น?”

เวินหนิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง แต่ความจริง เหงื่อเธอไหลเต็มมือ

ในขณะที่คนตรงหน้ากำลังสบตากัน ทันใดนั้น ก็มีคนวิ่งเข้ามา “แย่แล้ว ลู่จิ้นยวนมาแล้ว รถของเขาอีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะมาถึงแล้ว”

“ทำไมถึงเร็วขนาดนี้?” เฮียหลงก็ตกใจด้วย คิดไปคิดมา ก็เตะหลิวเมิ่งเซวี่ย ต้องเป็นผู้หญิงคนนี้เรียกมาแน่นอน

หลิวเมิ่งเซวี่ยส่ายหน้าสุดชีวิต แล้วมองไปที่เวินหนิงอย่างเกลียดแค้น เธอพูดอย่างนี้ กำลังจะทำให้เธอซวยชัดๆ

เวินหนิงรู้สึกถึงความเกลียดแค้นในสายตาเธอ แต่ในใจก็ไม่รู้สึกผิดเลย ถ้าไม่ใช่หลิวเมิ่งเซวี่ยออกไปโอ้อวด แล้วดึงตัวเองมาด้วย เธอก็คงไม่ตกอยู่ในอันตรายแบบนี้

แบบนี้เรียกว่ากรรมตามสนอง

“เราขึ้นไปชั้นบน ถ้าจะตาย ก็ต้องเอาผู้หญิงของลู่จิ้นยวนไปด้วย”

……

ขบวนรถของลู่จิ้นยวน มาถึงที่โรงงานร้างอย่างรวดเร็ว ที่ที่ขังคนไว้เมื่อกี้ก็ว่างเปล่าแล้ว

เสียงของพวกเขาลอยมาจากชั้นบน ลู่จิ้นยวนค่อยเห็นว่าลักพาตัวผู้หญิงมาสองคน

ผมหลิวเมิ่งเซวี่ยยุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา ทุลักทุเลมาก พอมองเห็นเขาก็เอาแต่ดิ้นรน แล้วยังโดนคนตบหน้าอีก

เวินหนิงที่อยู่ข้างๆ สีหน้าเธอดูนิ่งกว่าไม่น้อย แต่สายตาของลู่จิ้นยวนกลับตกอยู่บนตัวเธอ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ ความเป็นห่วงในใจค่อยโล่งไปที

“เฮียหลง เรื่องธุรกิจ มีแพ้มีชนะ ไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องยุ่งยากขนาดนี้หรอกมั้งครับ?”

ลู่จิ้นยวนมองไปที่หัวหน้าโจร แล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง

“มึงรู้หรอว่าสำหรับกูบริษัทสำคัญแค่ไหน? นั่นเป็นสิ่งที่กูลำบากมาทั้งชีวิต แต่ก็โดนหน้าอ่อนอย่างมึงแย่งไป?”

“แต่ว่า ในเมื่อคุณชายลู่ยังมีอารมณ์มาสั่งสอนผม งั้นผมก็อยากรู้ ผู้หญิงสองคนนี้ ถ้าช่วยได้แค่คนเดียว คุณชายจะช่วยคนไหน? จำไว้ ช่วยได้แค่คนเดียว อีกคนจะถูกเราผลักลงไปจากที่นี่”

เฮียหลงยิ้มอย่างมีเลศนัย ตอนนี้ เขาไม่คิดว่าตัวเองสามารถถอยได้แล้ว ถ้าอย่างนั้น เขาก็ต้องทำให้ลู่จิ้นยวนชดใช้แน่นอน

พูดจบ เขาก็เอาของที่ยัดปากหลิวเมิ่งเซวี่ยไว้ออก

“มาสิ มาพูดกับเขา ดูว่าเขาจะช่วยใคร?”

สีหน้าเวินหนิงนิ่งมาก เธอไม่แน่ใจเลยว่าลู่จิ้นยวนจะเลือกใคร “ฉันบอกแล้วไง เขาไม่มีทางช่วยฉันแน่นอน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันไม่รู้เรื่อง”

น่าเสียดาย ไม่มีใครสนใจคำพูดเวินหนิง ตอนนี้ พวกเขาถูกบีบจนจมมุมแล้ว ไม่สนหรอกว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว

“ลู่จิ้นยวน ช่วยฉัน ดูจากที่ฉันเคยช่วยคุณ!”

เวินหนิงก็อยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ถ้าเธอพูดความจริงเรื่องวันนั้น รับประกันยากว่าคนพวกนั่นได้ยินแล้วจะไม่โมโหแล้วฆ่าเธอ

ขณะนั้น เวินหนิงเลยไม่มีอะไรจะพูด

สีหน้าลู่จิ้นยวนนิ่งลง สมองของเขากำลังแล่นอย่างรวดเร็ว

สองคนนี้ เขาติดค้างหลิวเมิ่งเซวี่ย แต่เวินหนิง……

ลู่จิ้นยวนไม่รู้ว่ารู้สึกกับเธอยังไง แต่เขารู้ ห้ามใครเป็นอะไรต่อหน้าเขาเด็ดขาด

“บอส นี้อาจจะเป็นแผน” อันเฉินเอ่ยเสียงเบาข้างหูลู่จิ้นยวน

“เราซุ่มเตรียมตัวแล้ว ถึงจะตกลงไป ก็คงไม่เป็นอะไรมาก”

ฟังคำพูดของอันเฉิน ลู่จิ้นยวนก็ไม่ลังเลอีก ยื่นมือออกมา ชี้ไปทางหลิวเมิ่งเซวี่ยที่เอาแต่ร้องไห้ “ผมช่วยเธอ”

เมื่อได้ยินการตัดสินใจของเขา สายตาเวินหนิงก็หม่นหมอง ตัวก็สั่น แล้วหลับตาลง

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset