บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 135 กำลังโกหก

เวินหนิงมองไปที่คนในที่มืด เขาก็มองมาที่เธอด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

คือไป๋ซินอวี๋

เวินหนิงรู้สึกมาโดยตลอดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นมิตรกับเธอมาก ในใจก็รู้สึกลังเล จึงถอยหลังไปสองก้าว “มีเรื่องอะไรหรอ?”

ไป๋ซินอวี๋มองเห็นใบหน้าที่ตกใจเล็กน้อยของเธอ ริมฝีปากที่เสียดสีก็ยิ้มกว้างไปกว่าเดิม เสแสร้งได้น่าสงสารมาก ดูไม่เหมือนผู้หญิงที่เคยเข้าคุกเลย แต่กลับดูเหมือนกระต่ายน้อยในกรง

แต่ว่า ท่าทางของเธอหลอกลู่จิ้นยวนได้ แต่หลอกเขาไม่ได้

“เธอมาดูแลจิ้นยวนที่นี่?”

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

เวินหนิงไม่อยากยืดยื้อกับเขาก็เลยเอ่ยตอบไป กำลังจะเดินอ้อมไป๋ซินอวี๋ ก็ถูกผู้ชายคนนั้นขวางทางไว้อีกครั้ง

“ในเมื่อมาแล้ว ก็จะไม่พูดอ้อมค้อมกับเธออีก ประวัติของเธอ ผมเช็คมาแล้ว ผมรู้ว่าเธอเป็นคนยังไง คนอย่างเธอ ไม่ใช่คนโลกเดียวกันกับจิ้นยวน เพราะฉะนั้น ผมหวังว่าเธอจะไม่ทำตัวดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์อีก จะยิ่งทำให้น่าเกลียด”

คำพูดของไป๋ซินอวี๋ เวินหนิงฟังแล้วรู้สึกแสบหูมาก น้ำเสียงที่ดูดี สูงส่งแบบนั้น เหมือนว่าเธอเป็นหมาที่กำลังมองเครื่องบิน

หรือว่า สังคมผู้ดีของพวกเขา เธอก็เป็นได้แค่คนที่ต่ำต้อย

ณ เวลานั้น เวินหนิงก็ไม่อยากถูกคนอื่นเหยียดหยาม “ขอโทษนะคะ ฉันไม่อยากคุยเรื่องอะไรแบบนี้กับคุณ”

พูดไปด้วย เธอก็ถือกล่องอาหารในมืออ้อมไป๋ซินอวี๋ไป แต่ไป๋ซินอวี๋ก็ยื่นมือออกมาขวางเธอไว้

ถ้าเทียบกับเวินหนิง เขาสูงกว่าเป็นเท่าตัว ตัวสูงขายาว ถ้าอยากจะขวางผู้หญิงคนนึงก็คงไม่ยาก

“ผมพูดละเอียดขนาดนี้แล้ว เธอยังจะเสแสร้งอีก? เอาอย่างนี้ เธอบอกตัวเลขมา ผมจะไม่ต่อรอง ถ้าเธอได้ไปแล้วก็หายไปจากชีวิตจิ้นยวนซะ”

เวินหนิงเงยหน้ามองไปที่เขา เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร?

ก็แค่เพื่อนของลู่จิ้นยวน ก็แค่คนนอก ยังจะเอาเงินมาฟาดเธออีก?

เวินหนิงขมวดคิ้วแน่น ไป๋ซินอวี๋คิดว่าเธอลังเล ในใจก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น ที่แท้ ผู้หญิงคนนี้เข้าใกล้ลู่จิ้นยวนก็เพื่อเงินกับผลประโยชน์

เวินหนิงคิดไปคิดมา ไป๋ซินอวี๋มาหาเธอแบบนี้ แค่จะทำเพื่อลู่จิ้นยวนงั้นเหรอ ไม่อยากให้เพื่อนของเขาเกี่ยวข้องกับคนที่เขาดูถูก?

แต่ว่า นี่เห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า ถ้าจะพูดตามตรง เวินหนิงก็คงคิดว่าผู้ชายคนนี้จะชอบเพศเดียวกัน เพื่อที่จะรั้งคนรักของตัวเองไว้ก็เลยไม่หวงหน้าแล้วมาหาเรื่องผู้หญิงแบบนี้

พอคิดไปด้วย เวินหนิงก็เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง

“คุณทำเพื่อมู่เยียนหราน?”

เวินหนิงก็นึกถึงภาพเหตุการณ์วันนั้นที่ไป๋ซินอวี๋พามู่เยียนหรานมาบริษัท……

หรือว่า ไป๋ซินอวี๋คิดแบบนั้นกับมู่เยียนหราน?

“เธอกำลังพูดบ้าอะไร?” ไป๋ซินอวี๋ไม่คิดเลยว่าเวินหนิงจะพูดแบบนี้ สีหน้าก็อึ้งไป เวินหนิงก็สังเกตเห็นสีหน้าเขาด้วย

เธอก็เข้าใจทันที ในใจก็รู้สึกสงสารผู้ชายคนนี้เล็กน้อย

ทั้งๆที่ตัวเองชอบมู่เยียนหราน ยังมาทำอะไรแบบนี้เพื่อที่จะให้พวกเขาสมหวัง จะพูดว่าเถอะเขาคลั่งรัก หรือโง่ดี?

ไป๋ซินอวี๋ถูกสายตาแบบนั้นของเวินหนิงมองจนรู้สึกหงุดหงิด เธอเป็นแค่ผู้หญิงต่ำต้อย มีสิทธิ์อะไรมามองเขาแบบนี้?

แล้วอีกอย่าง เธอยังเดาเรื่องที่เขาปิดบังไว้ในใจออก จนทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดไปกว่าเดิม “ฉันให้เวลาเธอสามวันในการคิด ฉันพูดแค่นี้แหละ ถ้ายังอยากอยู่ข้างกายลู่จิ้นยวนอีก งั้นฉันจะทำให้เธอเห็นดีแน่”

พูดจบ ไป๋ซินอวี๋ก็สะบัดตัวเวินหนิงทิ้ง แล้วเดินออกไปจากที่นั่น

เวินหนิงหลบไม่ทัน ก็ถูกผู้ชายคนนี้ผลักจนถอยหลังไป ไม่ทันระวังของในมือ น้ำซุปสาดออกมา แล้วโดยเสื้อผ้า ความร้อนของน้ำซุปก็ทำให้เวินหนิงรู้สึกแสบร้อน

ไป๋ซินอวี๋บ้าไปแล้วหรอ?

เวินหนิงไม่เคยเห็นคุณชายตระกูลไหนผลักผู้หญิงแบบนี้ มองเห็นแผ่นหลังของเขา ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดไปด้วย

แต่ว่า พอคิดได้ว่าลู่จิ้นยวนคงรออยู่ที่ห้องนานแล้ว เวินหนิงก็เลยไม่ได้ไปหาเรื่องผู้ชายคนนั้น ก็ถือว่าตัวเองดวงซวย จากนั้นก็เดินกลับไปในร้านอาหารแล้วตักอาหารใหม่

กลัวว่าลู่จิ้นยวนจะมองเห็นอะไรผิดปกติ เวินหนิงก็รีบหาทิชชู่แล้วเช็ดสิ่งสกปรกบนเสื้อให้สะอาด แต่ว่าสีของน้ำซุปก็เข้มอยู่แล้ว ถึงแม้จะเช็ดอย่างระมัดระวังแล้วแต่ก็ยังมีคราบอยู่

เวินหนิงมองเสื้อผ้าของตัวเอง ในใจก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ อยู่ดีๆก็โดนทำให้เสื้อสกปรก ซวยชะมัด

……

พอเวินหนิงกลับไปถึงในห้อง ก็เห็นลู่จิ้นยวนหยิบเอกสารขึ้นมาดูอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเริ่มหงุดหงิดแล้ว

เวินหนิงพยายามบังคราบบนร่างกายตัวเองไว้ แล้วเดินไปหยิบโต๊ะเล็กมา “อย่าดูแล้ว มากินอะไรก่อนเถอะ”

ลู่จิ้นยวนพยักหน้า แล้ววางของในมือลง “ทำไมถึงไปนานขนาดนี้?”

ตามหลักแล้ว ร้านอาหารใกล้ที่นี่มาก ความต้องการของห้องวีไอพีต้องมาเป็นอันดับแรก ไม่ควรจะเสียเวลานานขนาดนี้สิถึงจะถูก

“อือ ที่ห้องครัว ค่อนข้างยุ่ง”

เวินหนิงหาข้ออ้างกลบเกลื่อนไป แต่ลู่จิ้นยวนกลับขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเธอมีอะไรกำลังปิดบังเขาอยู่

ขณะนี้ สายตาของผู้ชายก็มองเห็นคราบน้ำบนเสื้อผ้า ถึงเวินหนิงจะใช้แขนบังไว้ แต่ก็ยังเห็นได้ชัดเจน

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมบนตัวถึงเปียก?”

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วแน่นไปกว่าเดิม

“ไม่มีอะไร ตอนฉันไปหยิบอาหาร ไม่ระวังแล้วล้ม ก็เลยทำน้ำซุปหกมาบนตัว” เวินหนิงยิ้มอ่อน แล้วตอบคำถามของลู่จิ้นยวน

แต่ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด

“มานี่” ลู่จิ้นยวนเอ่ยเสียงเข้ม สายตาก็มองไปที่เวินหนิง จนทำให้คนอื่นไม่กล้าปฏิเสธ

เวินหนิงสบตากับความไม่สบอารมณ์ของลู่จิ้นยวน ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดแล้วก็ร้อนรนด้วย

“บอกแล้วไง ฉันไม่ระวัง……”

“มานี่”

เสียงของลู่จิ้นยวนก็เข้มไปกว่าเดิม ดูเหมือนจะเป็นความสงบก่อนที่ซึนามิจะเข้า

เวินหนิงถอนหายใจ แล้ววางของในมือลง จากนั้นก็เดินไปหา ลู่จิ้นยวนก็จับไหล่เธอไว้ แล้วดึงตัวเธอมาข้างหน้า พร้อมมองสำรวจคราบบนเสื้อผ้าเธออย่างละเอียด

คนอะไรกันจะไม่ระวังแล้วล้ม จนสาดน้ำซุปที่ร้อนขนาดนี้บนตัวของตัวเอง?

เวินหนิงกำลังโกหกแน่นอน

เมื่อสังเกตเห็น สีหน้าลู่จิ้นยวนก็เยือกเย็นไปกว่าเดิม

“ใครทำ?”

แค่คิดก็รู้ ต้องมีอีกใครสักคนผลักเธอ ถึงจะเป็นอย่างที่เห็น

เวินหนิงไม่คิดเลยว่าลู่จิ้นยวนจะมองออกว่ามีคนผลักเธอ แต่ว่า ความสัมพันธ์ของเขากับไป๋ซินอวี๋ ในใจก็ลังเล “ก็แค่โดนชนอย่างไม่ระวัง ไม่อยากให้นายเป็นห่วงก็เลยไม่พูด”

พูดไปด้วย ก็หักห้างความน้อยใจของตัวเองด้วย แล้วแกล้งทำเป็นไม่เป็นอะไร “ก็แค่อุบัติเหตุ เรื่องนี้นายก็จะต่อว่าหรอ งั้นทั้งวันนายก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะ เอาแต่ฟังเรื่องแย่ๆของฉันก็พอ”

“……” ลู่จิ้นยวนมองเห็นท่าทางที่เวินหนิงพูด ในใจก็รู้ว่าเธอไม่ยอมพูดแน่นอน ก็เลยไม่เอ่ยถามต่อ พร้อมมองไปที่คราบบนเสื้อผ้าเธอ “ได้แผลหรือเปล่า?”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset