บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 151 พูดดี ๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ

เวินหนิงหน้าแดงราวกับมะเขือเทศที่สุกงอมในทันที เมื่อเห็นเธอเขินอาย นางพยาบาลก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อเก็บของเสร็จแล้วจึงเดินออกไป

เวินหนิงถึงได้ก้มหน้าเปิดเสื้อดู

มิน่าคุณน้าพยาบาลคนเมื่อกี้ถึงได้พูดแบบนั้น!

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เวินหนิงนึกว่านางพยาบาลกลับมาอีกครั้ง จึงรีบดึงผ้าห่มปกคลุมร่างกายตัวเองไว้ “เข้ามาได้”

เพียงแต่ว่าคนที่เข้ามากลับไม่ใช่นางพยาบาลตามที่เธอคิดไว้ แต่เป็น…มู่เยียนหราน

มู่เยียนหรานฝืนปั้นหน้าเย่อหยิ่งเดินเข้ามา เมื่อคืนเธอตามลู่จิ้นยวนไปถึงโรงแรมแห่งนั้น แต่เป็นเพราะกลัวโดนจับได้ จึงทำได้แค่นั่งอยู่ในรถเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของทางนี้

จากนั้นเธอรออยู่ทั้งคืนก็ไม่เห็นลู่จิ้นยวนออกมา เมื่อคืนอากาศหนาวมาก แต่ถึงจะหนาวขนาดไหนก็เทียบไม่ได้กับความหนาวเหน็บแบบนั้นในหัวใจของเธอ!

ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ในโรงแรมด้วยกันสองต่อสองจะทำอะไรได้ เธอไม่ต้องคิดเยอะก็สามารถเข้าใจได้

เพียงแต่เธอปล่อยวางไม่ได้ มู่เยียนหรานเฝ้าอยู่ข้างนอกทั้งคืน เธอจินตนาการภาพต่าง ๆ เพื่อปลอบใจตัวเอง ว่าไม่แน่ลู่จิ้นยวนอาจจะแค่นอนหลับไป ไม่แน่เวินหนิงอาจจะไม่สบาย หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น

แต่ข้ออ้างทั้งหมดกลับถูกทำลายจนย่อยยับในตอนที่มู่เยียนหรานเห็นลู่จิ้นยวนอุ้มเวินหนิงออกมาด้วยตาของตัวเอง

เธอเห็นลู่จิ้นยวนอุ้มผู้หญิงคนนั้นไว้ในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน ราวกับกำลังอุ้มของรักของสำคัญไว้อยู่ เขาอุ้มเธอขึ้นรถอย่างระมัดระวัง

เธอเห็นแม้กระทั่งหน้าอกที่ถูกเผยออกของลู่จิ้นยวน บนนั้นมีรอยขีดขวดที่คลุมเคลืออยู่สองสามรอย

เกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดก็เป็นที่เข้าใจกัน

ในตอนนั้นมู่เยียนหรานแทบอยากจะพุ่งออกไปถามทุกอย่างให้ชัดเจน แต่เธอลดทิฐิลงไม่ได้ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงรอจนกระทั่งลู่จิ้นยวนจากไปด้วยความโกรธทั้งตัว รอโอกาสที่จะสามารถพบเจอกับเวินหนิงตามลำพัง

“เธอ…มาได้ยังไง?”

เวินหนิงเมื่อเห็นมู่เยียนหราน ก็ถอยหลังสองก้าวด้วยจิตใต้สำนึก สำหรับผู้หญิงคนนี้เธอมีความรู้สึกต่อต้านโดยสัญชาตญาณ

คนแบบนี้ไม่ได้มาเพราะสนใจความเป็นอยู่คนแปลกหน้าแบบเธอแน่นอน

มู่เยียนหรานไม่ได้พูดอะไร ดวงตาแดงเข้มจากการที่ไม่ได้นอนหลับทั้งคืนคู่นั้นของมู่เยียนหรานจ้องเขม่นไปที่ร่างกายที่ถูกปลกคลุมอยู่ของเวินหนิง สายตาแบบนั้นเหมือนราวกับงู ทำให้เวินหนิงขนลุกไปทั้งตัว

“เมื่อคืนเธอกับจิ้นยวนมีอะไรกันแล้วเหรอ?”

มู่เยียนหรานจ้องเขม่นเวินหนิง สายตาที่แหลมคมดูเหมือนจะแทงร่างของเธอให้เป็นรูโหว่

เมื่อถูกถามตรง ๆ แบบนี้ เวินหนิงรู้สึกขายหน้านิดหน่อย “ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามแบบนี้กับเธอไหม?”

มู่เยียนหรานกลับถูกท่าทางแบบนี้ของเวินหนิงยั่วโมโห โดยเฉพาะเมื่อเห็นหน้าของเธอแดงระเรื่อราวกับกำลังโออ้วดความรักเมื่อคืนที่ลู่จิ้นยวนมีต่อเธอ

อารมณ์ชั่ววูบมากเกินกว่าสติ มู่เยียนหรานเดินเข้ามา ตอนนี้เธอไม่สนใจความเป็นลูกสาวผู้ดีผู้มีความสำรวมได้อีกต่อไป เธอดึงผ้าห่มที่ปกคลุมร่างกายของเวินหนิงอย่างแน่นหนาออกราวกับนางร้าย

ชุดคนไข้ที่ใหญ่หลวมไม่สามารถปกปิดลำคอและไหปลาร้าของเวินหนิงไว้ได้ ร่องรอยพวกนั้นปรากฏอยู่ในดวงตาของมู่เยียนหรานโดยที่ไม่มีอะไรปกปิด ทำให้สติปัญญาของเธอพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

“แกทำไม…ทำไมถึงได้หน้าด้านขนาดนี้ ฉันเคยพูดไว้แล้วว่าเขาเป็นของฉัน เขาเป็นของฉัน!”

มู่เยียนหรานยื่นมือออกไปดึงคอเสื้อของเวินหนิง เมื่อคืนไม่ได้นอนหลับสักนิดบวกกับแรงกระตุ้นข้างหน้าในตอนนี้ ทำให้เธอบ้าคลั่ง

เวินหนิงตกใจกับท่าทางบ้าคลั่งแบบนี้ของเธอ “เธอทำอะไรหนะ ปล่อยนะ!”

มู่เยียนหรานที่ดูถูกเธอมาโดยตลอด เวินหนิงคิดไม่ถึงว่าคนแบบเธอที่ชอบแสดงถึงความเป็นสุภาพสตรีจะมีท่าทีแบบนี้ได้

โดยเฉพาะมู่เยียนหรานในตอนนี้ออกแรงอย่างไม่รู้หนักเบา จนเวินหนิงสามารถรู้สึกได้ถึงเล็บมือที่ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจทำมาอย่างสวยงามข่วนโดนเนื้อของเธอ เธอรู้สึกเจ็บมาก

เวินหนิงไม่ได้สนใจความเจ็บปวดของร่างกาย เธอพยายามที่จะขัดขืน มู่เยียนหรานเหมือนกับคนบ้าไปแล้ว เธอไม่สามารถทำอะไรได้ชั่วขณะนอกจากปกป้องใบหน้าและหน้าท้องของเธอ

ผู้หญิงสองคนซัดกันนัว สถานการณ์ยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก

ในตอนนั้นเองชายคนหนึ่งพุ่งตรงเข้ามา รีบแยกผู้หญิงสองคนที่พัวพันกันจนไม่เหลือสภาพออก

“เยียนหราน สงบสติหน่อย!”

ไป๋ซินอวี๋เมื่อรู้ว่าเมื่อคืนมู่เยียนหรานไม่ได้กลับบ้าน ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา วันนี้เพิ่งรู้ว่าเธอมาที่โรงพยาบาลจึงรีบตามมา ถึงได้พบว่าเธอมาหาเวินหนิงที่นี่ แถมยังตบตีกับเธออีก

เวินหนิงเห็นไป๋ซินอวี๋เข้ามา จึงรีบดึงผ้าห่มกลับมา เมื่อกี้เสื้อผ้าของเธอถูกมู่เยียนหรานดึงออก เผยให้เห็นเรือนร่างของเธอ

เมื่อครู่ไป๋ซินอวี้บังเอิญเห็นร่องรอยเหล่านั้นบนร่างกายของเวินหนิง แล้วก็เห็นอารมณ์บ้าคลั่งแบบนี้ของมู่เยียนหราน ทำไมเขาถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?

ดังนั้นเวินหนิงยังไม่ยอมปล่อยลู่จิ้นยวน ยังคงเป็นคางคกที่อยากกินเนื้อหงส์?

เมื่อควบคุมมู่เยียนหรานได้ ไป๋ซินอวี๋ลูบหลังบรรเทาอารมณ์ของเธออย่างอ่อนโยน ขณะเดียวกันก็มองไปที่เวินหนิง “คำพูดครั้งที่แล้วของฉัน เธอทำหูทวนลม?”

เวินหนิงโมโหจนหัวเราะเยาะ

ไป๋ซินอวี๋นึกว่าตัวเองเป็นใคร? อัศวินผู้พิทักษ์ของมู่เยียนหราน เขาบอกจะให้เงินกับเธอ ให้เธอแยกจากลู่จิ้นยวน เธอก็ต้องเชื่อฟังเหรอ?

“ดูเหมือนว่าฉันไม่เคยรับปากกับคำพูดของนาย ตั้งแต่หัวถึงท้ายมีแต่นายคิดเอาเองฝ่ายเดียวเท่านั้นแหละ”

เวินหนิงก็หัวแข็ง เห็นไป๋ซินอวี๋แข็งกร้าวแบบนี้ ก็ตอบกลับอย่างแข็งชนแข็ง

ไป๋ซินอวี๋สายอึ้ง ราวกับคิดไม่ถึงว่าเวินหนิงที่ดูอ่อนแอบอบบางจะกล้าหยามเขาแบบนี้

ในเมื่อพูดดี ๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ

“ดังนั้นเธอตั้งใจยั่วจิ้นยวน จากนั้นก็ให้เยียนหรานเห็นอุบายสุนัขจิ้งจอกแบบเธอ เธออยากที่จะกระตุ้นหล่อน?”

เวินหนิงหัวเราะโดยไม่โกรธ คำพูดกลับด้านของไป๋ซินอวี๋ ทำให้เธอรู้สึกตลกเป็นอย่างมาก

“ทั้ง ๆ ที่สุดที่รักมู่เยียนหรานของนายเป็นฝ่ายรุกมาหาฉัน ฉันนอนอยู่ในโรงพยาบาลอย่างสงบเสงี่ยม ทำไม? หรือว่าฉันเป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าโออ้วดอะไร? มาหาความไม่สบายใจเอง ยังจะปัดความผิดให้คนอื่น ในการพูดย้อนกลับสิ่งที่ถูกและผิดฉันด้อยกว่านายเยอะเลย!”

เวินหนิงตอกกลับอย่างไม่ถ่อมตัวและไม่โอหัง

สีหน้าของไป๋ซินอวี๋แย่มาก แต่ท้ายสุดเวินหนิงพูดเรื่องจริงทั้งนั้น เรื่องนี้มู่เยียนหรานเป็นฝ่ายผิดจริง ๆ ถ้าหากถูกลู่จิ้นยวนรู้เข้า เกรงว่าจะต้องเข้าข้างเวินหนิง “ผู้ถูกกระทำ” มากขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วมู่เยียนหรานก็จะยิ่งถูกกระทำมากกว่าเดิม

เมื่อคิดได้แบบนี้ ไป๋ซินอวี๋ทำได้เพียงข่มความโกรธไว้ในใจ “คิดไม่ถึงว่าเธอจะปากคอเราะร้าย เธอคิดว่าจิ้นยวนจะต่อต้านพวกเรา ต่อต้านตระกูลลู่เพื่อเธอเหรอ?”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset